ความคิดเห็นที่ 1 ขอเสวนาบางส่วน จากกระทู้ที่แล้ว ขอรับ คุณเงาน้ำค้าง (๙๒) โคลงรกโท บ้านนี้ไร้ทุกข์ไร้                        เศร้านา น้องพี่ป้าน้าอา                         เพื่อนพ้อง แย้มยิ้มยั่วเย้ามา                      ล้อหลอก แม้นสักครั้งได้ข้อง                  ร่วมต้องติดใจ มีข้อสังเกตคือ - การใช้คำวรรคสอง ในบาทแรก ลักษณะเหมือนสร้อยโคลง ทำให้ความด้อยไปครับ - คำว่า ติด ในวรรคสุดท้าย บาทจบ ถ้าเป็นโคลงรกโท ต้องใช้คำโทครับ (คือต้องมีคำโท สิบเก้าที่) แต่ถ้าพูดถึงความโดยรวม ความยังน้อยไปหน่อยครับ ดูในแต่ละบาท บาทแรก ไร้ทุกข์ไร้เศร้า บาทสอง น้องพี่ป้าน้าอาเพื่อนพ้อง บาทสาม แย้มยิ้มยั่วเย้าล้อหลอก จะเห็นว่าความในแต่ละบาทไม่เดิน ทำให้รสความทั้งบทไม่เดิน จอมยุทธฯลองเก็บความ สามบาทเป็นบาทเดียว ลองดูนะครับ (โดยไม่คิดถึงคำโท) " บ้านสุขเพราะเพื่อนพ้อง.............ยั่วหลอก " แม้จะไม่ดีนัก แต่จะเห็นว่าสามารถเก็บความสามบาทได้แค่บาทเดียว ลองพิจารณาดูนะขอรับ   ซือม่วยไร้นาม (๙๓) โคลงเอกโทษ-โทโทษ ศรัทธาที่เฟ่าเฉื้อ                     งมงาย รู้ซิ่นเพียงนอกกาย                 ท่วนถั้ว กิเลศหลอกใฮ่ภาพพราย          ลวงแซร่ง ก่อซร่างวางไฟฉั้ว                  ไม่เข้าปัญญา คำ ก่อสร้าง ฟังเหมือนการสร้างสิ่งก่อสร้าง (ตึก , สถานที่) อะไรบางอย่าง ความจริงจอมยุทธฯ มองว่าแค่ใช้คำ สร้าง คำเดียว เช่น เพียรสร้าง , เพลินสร้าง ,แค่สร้าง เป็นต้น จะเก็บความได้ดีกว่า สำหรับ คำว่า กิเลศ ที่ถูกน่าจะเป็น กิเลส จ้า คุณนิ่มนวล (๙๖) ลองเปลี่ยนเป็น มาดเค่มตีหน้าสื้อ              พู่ฉั่วกามฉาว ไม่รู้จะถูกใจหรือเปล่า ขอรับ ส่วนวันงาน จอมยุทธฯไปแน่ ขอรับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 45 21:29:22 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 45 20:23:38 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 45 20:21:16 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 23 ก.ย. 45 20:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น้ำ...เหนือไหลบากโอ้-......................อนิจจา ท่วม..ฝั่งสองข้างมา.........................หลั่งล้น น้ำ...นี้ท่วมบ้านประชา.......................นองเจื่อง ใจ...ส่งช่วยภัยพ้น..........................หมดสิ้นกรรมสนอง จากคุณ : รสา รสา - [ 23 ก.ย. 45 20:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ครืนครืนผืนแผ่นฟ้า.....................ดินระงม จักจักฝนหนักพรม.......................พร่างโพ้น หวิวหวิวลิ่วลอยลม......................โบกสะบัด ท่วมท่วมอ่วมใจโจ้น....................นั่นโน้นโค่นแสยง. ๑๒ ชลหลากวิบากยวด.......................อุระรวดและปวดแด พิศจึงตะลึงแล.............................ทมแผ่กระแสสาย วิปริตประสิทธิ์สม.........................ผิวชมระทมกราย พนเหตุเทวษหมาย.......................ลุทลายสลายสูญ เพราะละโมบและโลภผล...............นรดลผจญมูล จะวิบัติสะพัดพูน..........................มหิคูณและทูนทม สิพินิจ ฤ คิดรอบ.........................ณ ระบอบประกอบกรม จะกระทำระกำถม........................มินิยมประสมสาง. สวัสดีครับผม...ขอน้ำท่วมอย่างเดียวก่อนนะครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 45 21:10:03 จากคุณ : " . " - [ 23 ก.ย. 45 21:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4                                นัดวันพบมิตร .....นัด.....แนะนำน้องนุ่ง..........................หนอนัด  นวลหนอ นัด.....นอบนบนุตณัฐ...............................นี่นี้ นัด.....เนืองแน่นนาทนัจ............................นันท์เนิ่น-  นานนา นัด.....แน่แน่วหนีหนี้................................หน่วงโน้มนัวเนีย ฯ .....วัน.....วารเวียนว้าเหว่...........................วิงวอน วัน.....วัตรว่างวิวรณ์..................................ว่าไว้ วัน.....วาววับวามวอน.................................วิเวก  เวศม์เหวย วัน.....วิวรรธน์วัจน์ไหว้................................วิชญ์เว้าหวานแหวว ฯ .....พบ.....พานพลันพรั่งพร้อม.....................พุงพี  เพียบพ่อ พบ.....พรรคพวกผองพี่..............................เพื่อนพ้อง พบ.....ภักดิ์พากย์เพียงพีร์...........................พิชญ์พร่ำ พบ.....พักตร์เพลิดเพลินพร้อง......................พรอดเพรี้ยมแพรวพราว ฯ .....มิตร.....มั่งมีมื่นแม้น..............................มาตรหมาย มิตร.....มุ่งเมตต์มากมาย.............................ม่วนหมื้อ* มิตร.....มองมั่นเมียงหมาย...........................มอบโมทน์ มิตร.....ม่อยหมอบเมามื้อ*..........................มุดมั้งหมุบหมิบ  เมามาย ฯ ...ขออภัยขอรับ...คำว่า...หมื้อ...ไม่มีดอกครับ...แต่จนใจหาคำมาใส่มิได้...เลยไช้สำเนียงอีสาน...หมื้อ...( มื่อ )ครับ.... ...อันเนื่องมาจากกระทู้เก่าขอรับ...นัดวันพบมิตร... ...เลยร่ายเรียงเสียงผสานมาส้รางรอยยิ้มครับผม... ...แต่เสียดายจัง...กระผมมิอาจย่างกรายไปได้ขอรับ... ...ได้แต่นั่งมองตาปริบปริบ...เลยได้แต่ส่งใจไปด้วยคนครับผม... ...มีภาระกิจอันต้องปฏิบัติขอรับ... ...ขอให้มีความสนุกสนานสุขสันต์ทุกท่านนะครับ...อะแฮ่ม...ทานเผื้อด้วยน๊า... จากคุณ : the kop พเนจร - [ 23 ก.ย. 45 21:56:50 A:203.107.140.106 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ครืนครืนคคนะคล้าย..........................เคืองเคือง แปลบแปลบแลบแฉลบเรือง...............ระดะรุ้ง อึงอลฟากฝนเนือง...........................ชลท่วม ท้นเอย ลมลิ่วกระจายฟุ้งฟุ้ง.........................ระลอกน้ำตาสาย ธรรมชาติขาดรักแล้ว.........................รอยธรรม หายฤๅ จึงก่อโศกวิโยคกรรม..........................ก่อไห้ ข้าทำทุกข์ข้าจำ..................................รับชอบ ใช่ทุกข์ข้าสิ้นไร้.................................สละให้สนองธรรม สวัสดี ท่านจอมยุทธเมรัย ครับผมเพลอประเดี๋ยวเดียว มีกระทู้ใหม่เสียแล้ว ... ฝากสวัสดี คุณ "." และ คุณ รสา รสา ด้วยครับ มากันเร็วดีจัง ผมไปนอนก่อนล่ะครับ ไม่ค่อยสบายเสียแล้ว... เอ่อ ความไม่ค่อยจะตรงประเด็นสักเท่าไหร่ ขออภัยด้วยนะครับ คิดไม่ค่อยออกแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 45 22:50:43 จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 23 ก.ย. 45 22:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทั่นจอมยุทธเมรัย  ขอบพระคุณค่ะ เงาน้ำค้างยังสอบไม่ผ่านเรื่องความเลย  :) ทั่นพี่มหัพภาค  เป็นโคลงสี่ กับร้อยกรองประเภทใดคะ  อ่านแล้วเพราะจัง :):):) สวัสดีคุณรสา รสา  และ คุณ kop พเนจร ค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 45 23:28:57 จากคุณ : เงาน้ำค้าง (เงาน้ำค้าง) - [ 23 ก.ย. 45 23:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 น้ำท่วมน้ำใจ ... พวกเราจะทำอะไรมากกว่าไปมิตติ้งไหมปู่ .. บอกด้วยนะ จากคุณ : จังงัง - [ 23 ก.ย. 45 23:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น้ำ    เหนือบ่าท่วมพื้น         พารา       ท่วม ทั่วปวงประชา            เดือดร้อน น้ำ    ตาปริ่มโหยหา            ที่พึ่ง         ใจ    จากทุกทิศช้อน            ช่วยกู้สมานฝัน   น้ำเหนือบ่าท่วมพื้น          ทุกข์ขมขื่นระโหยหา น้ำใจได้พึ่งพา                    เข้าช่วยกู้สถานการณ์ จากคุณ : อกนิษฐ์ - [ 24 ก.ย. 45 00:09:56 A:203.113.36.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำ หลากฝากทุกข์ท้น............ทับทวี ท่วม ทรัพย์จับฉวยหนี............มิได้ น้ำ หลั่งดั่งนัยน์นที................เทวษราษฎร์ ใจ โศกโลกผู้ไร้....................ยิ่งร้าวด่าวแด น้ำ ทิพย์หยิบออกเกื้อ............กูลกัน ท่วม ทดลดโศกศัลย์.............ส่งให้ น้ำ จิตสนิทครัน...................คลุมคลุ่ม ภัยเฮย ใจ นำสยามใกล้...................กระชิดฉ้วยทวยสนอง จากคุณ : Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) - [ 24 ก.ย. 45 00:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอทักทายสวัสดีคุณดุกเผาฯ คุณเงาน้ำค้างและทุก ๆ ท่านค่ะ แวะทักทายเพื่อนพ้อง.......................อาศรม งานพบปะคารม............................ศกนี้ ใครใคร่ดื่มเชยชม..........................เชิญบอก แจ้งที่ศาลาฯ จี้............................เทียบชี้ส่งถึง คุณ Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) นอนดึกอีกแล้วนะคะ ว่าแต่โคลงการบ้านเขียนเสร็จแล้วน่าจะเอามาวางดูนะคะ เขียนแล้วอย่าทำเมิน........................ไม่วาง เขียนยำหนาหรือบาง.........................จำโก้ เห็นมีตำรวจทาง............................ตรวจคำ กระชับนา อยากอำหลังอ่านโต้..........................ขำแท้เทียวหรือ จากคุณ : รสา รสา - [ 24 ก.ย. 45 01:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอ่อ...พี่รสาครับแบบว่ามันเป็นโคลงเคลงน่ะครับ แล้วก็อาจมีการพาดพิงด้วย... ผมยังอยากใช้ชีวิตอยู่อีกนานๆท่าจะดีกว่าเนาะ... ดังนั้นขอแต่งโคลงการบ้านใหม่ก็แล้วกันครับ... เหอะ เหอะ จากคุณ : Noppy B. Good - [ 24 ก.ย. 45 02:11:28 A:203.144.151.242 X:203.144.148.215 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณเงาน้ำค้างครับ - กมลฉันท์ ๑๒ ครับ                 จากคุณ : " . " - [ 24 ก.ย. 45 04:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณศิษย์พี่จอมยุทธเจ้าค่ะ _/|\_ แก้ๆๆๆ ๏ ศรัทธาที่เฟ่าเฉื้อ                    งมงาย                        (เฝ้า, เชื่อ) รู้ซิ่นเพียงนอกกาย                    ท่วนถั้ว                      (สิ้น, ถ้วน, ทั่ว) กิเลสหลอกไฮ่ภาพพราย          ลวงแซร่ง                   (ให้, แสร้ง) สุมซร่างวางไฟฉั้ว                      ไม่ข้าปัญญา ๚        (สร้าง, ชั่ว, ไหม้, ฆ่า) คัดๆๆๆ กิเลส กิเลส กิเลส กิเลส กิเลส กิเลส กิเลส กิเลส กิเลส กิเลส จากคุณ : ไร้นาม - [ 24 ก.ย. 45 07:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปราย  กันยาผ่านใกล้..............ล่วงเลย ฝน   พรั่งพรูระเหย...................ไม่แล้ว ต้น   หนาวผ่านมาเปรย........ตอบหน่อย หนาว เนื้อบ่อุ่นแคล้ว............ถ้าไร้ทินกร จากคุณ : idaho (idaho) - [ 24 ก.ย. 45 10:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีท่านจอมยุทธฯ และมิตรอาศรมฯ ทุกท่านครับ เห็นหัวข้อกระทู้แล้ว นึกถึงเพลงนี้ ครับ น้ำท่วม-น้ำใจ โดย FESH & SKIN (เนื้อกับหนัง) ๑. เมื่อสายน้ำผ่านไป จักขุเริ่มสดใส ด้วยรักจากคนไทย ฝากไว้ให้แก่กัน ๒. บอกฉันบอกกับเธอ บอกเสมอรักเรามั่น อยู่ไหนไม่สำคัญ ผูกพันสัมพันธ์ใจ ๓. เก็บความซาบซึ้งในใจ ส่งความห่วงหาอาลัย ของคนไทย ด้วยน้ำใจ ๔. ท่วมฟ้าท่วมธานี สุดที่จะเทียบได้ มหาสมุทรในจิตใจ...เอย ที่ไทยมีให้กัน ซ้ำ ๓ ๕. ท่วมฟ้าท่วมธานี สุดที่จะเทียบได้ มหาสมุทรสุดหัวใจ...เอย ผองไทยไม่ทิ้งกัน               จากคุณ : พิราบเงิน - [ 24 ก.ย. 45 10:42:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 วันนี้ไม่มีบทกวีครับ ช่วงนี้งานตรึม กระทู้นี้ เข้ากับลักษณะงานที่กระทำอยู่ในช่วงนี้พอดีเยย แหะ ๆๆ เลยเอาภาพน้ำที่กำลังจะล้นตลิ่ง ของคลองบางกอกน้อย มาให้ชมกัน ช่วงนี้ ออกพื้นที่บ่อย เหนื่อยมาก.....แต่ยังไง วันที่ 28 ไม่พลาดแน่ 5555 จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน (นัวเนียร์แสนซน) - [ 24 ก.ย. 45 12:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 .....น้ำ.....บ่านาล่มแล้ว............................เรียมเอย ท่วม.....ทุ่งสูงลิบเลย...............................ดอกหญ้า น้ำ.....หลากหากเปรียบเปรย.....................จิตพี่ ใจ.....หม่นจนอ่อนล้า...............................กว่าข้าวรวงเขียว ฯ .....น้ำ.....ไหลใจสั่นซ้ำ.............................โศกทรวง ท่วม.....ทั่วกลัวทิวรวง................................ร่วงร้าง น้ำ.....พัดพรากยากทวง..............................ถามไถ่-  คืนนอ ใจ.....ร่ำไรไยคว้าง....................................อย่างน้ำคำครวญ ฯ .....น้ำ.....นองมองแผ่นฟ้า...........................คราวสันต์  แม่เอย ท่วม.....เท่าราวลงทัณฑ์..............................มั่นแท้ น้ำ.....ชลเชี่ยวโมหันธ์.................................หยันเหยียด  เราฤา ใจ.....คร่ำครวญป่วนแล้..............................สั่งฟ้าแลฝน ฯ .....น้ำ.....เอยเคยมากด้วย..........................คุณอนันต์ ท่วม.....ทบทวีมหันต์..................................ล่อเลี้ยง น้ำ.....คลั่งดังโกรธกัน.................................กาลก่อน  แลฤา ใจ.....มั่นผสานเพี้ยง..................................เขื่อนกั้นธารคนอง ฯ จากคุณ : the kop พเนจร - [ 24 ก.ย. 45 12:55:45 A:203.107.140.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ...กิ...กิ...มานั่งอ่านอีกครั้ง...รีบไปหน่อยไม่ทันแก้ขอรับ... ...ดีน๊า...ไม่มีใครมาอ่านก่อนเนี่ย... ...บทที่  สี่  แก้เป็น... .....น้ำ.....เอยเคยมากด้วย...................คุณอนันต์ ท่วม.....ทบทวีมหันต์...........................หล่อเลี้ยง น้ำ.....ขังคลั่งโกรธกัน..........................กาลก่อน  แลฤา ใจ.....มั่นผสานเพี้ยง............................เขื่อนกั้นธารคนอง ฯ จากคุณ : the kop พเนจร - [ 24 ก.ย. 45 17:04:44 A:203.107.139.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีสหายทุกๆท่าน ขอรับ พอดีเห็นคุณอกนิษฐ์ แต่ง โคลงกลอน-กลอนโคลง ไว้ในกระทู้ที่แล้ว จอมยุทธฯเลยลองมั่วมาได้ ๒ บท แต่ก็ยังโคลงเคลงทั้งโคลงและกลอนอยู่ แหะ แหะ โคลงกลอน ๏ สร้อยภาษาเสกสร้าง.............ส่งผล ศิลป์ก่อบทยินจน....................จบแคว้น ภพสามรับรู้ยล.......................รสฉ่ำ คำแล ความแค่งดงามแม้น................หนึ่งนั้นพึงใจ ๚ ๏ ผ่านสมัยคงแบบไว้.............จำเรียง สานเสกต่อกานท์เพียง.............พจน์ถ้อย สดใสเพราะศัพท์เสียง..............เสนาะ ยิ่งแล วิไลสืบทางไทยร้อย..................รักษ์พร้อมหลักเดิม ๚ กลอนโคลง ๏ สร้อยภาษาเสกสร้างส่งผลศิลป์ ก่อบทยินจนจบแคว้นภพสาม รับรู้ยลรสฉ่ำคำแลความ แค่งดงามแม้นหนึ่งนั้นพึงใจ ผ่านสมัยคงแบบไว้จำเรียงสาน เสกต่อกานท์เพียงพจน์ถ้อยสดใส เพราะศัพท์เสียงเสนาะยิ่งแลวิไล สืบทางไทยร้อยรักษ์พร้อมหลักเดิม ๚ ปล.ถึงหลานลิง (จังงัง/๗) ก็แค่ร่วมส่งใจ หรืออาจบริจาคเงินหรือสิ่งของเล็กๆน้อยๆผ่านหน่วยงานต่างๆ ก็โอเคแล้ว แต่ที่แน่ๆอาทิตย์หน้า ปู่ต้องเดินทางไปราชการที่ จ.เลยพร้อมคณะอีกหลายคนเพื่อตรวจซ่อม เครื่องจักรอุปกรณ์ ที่เสียหายจากน้ำท่วม ภายในสถานศึกษาที่สังกัดหน่วยงานต้นสังกัดปู่ คงไปอยู่หลายวันเหมือนกัน สำหรับหนังสือโคลงนิราศนรินทร์ ปู่จะเก็บไว้ให้แล้วกันนะ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 45 21:12:36 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 24 ก.ย. 45 21:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ....free  as  a  birds  ก้อง................เพลงครวญ say  anything  ชวน.........................ร่ายร้อง you  are  my  life  ควร...................จำจด  แม่เอย I don't like to sleep อโล้น ...............ห่างเจ้านอนแห้งตะกายฯ มีขวด กระดาษ เศษเหล็ก หนังสือพิมพ์ ที่นอนฟูก เก่าๆขายมั๊ยคร๊าบบบบบบ แว๊บล่ะ เดี๋ยวจะโดนดุ ... เป็นห่วงนายจันทรคราสจัง บางกอกน้อยน้ำปริ่มขนาดนั้นด้วย ... เฮ้อ ... เป็นห่วงตัวเองจัง กลัวหางลิงจะเปื่อยเพราะแช่น้ำอ่ะ  ..กิ...กิ.. ปล.มาป่วนปู่เมรัยนิดหน่อย นอนแล้วสบายใจ .... จากคุณ : จังงัง - [ 24 ก.ย. 45 23:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เพลินพินิจพิศถ้อยรอยจารเขียน ทบสบเวียนทานต่อข้อคำหวาม หวั่นแหลกลาญผลาญหมดคดฤๅงาม แน่แลลามท้อบ่นท้นออกตา. เพลินพินิจพิศถ้อย..............รอยจาร เขียนทบสบเวียนทาน.........ต่อข้อ คำหวามหวั่นแหลกลาญ.....ผลาญหมด.....คดฤๅ งามแน่แลลามท้อ...............บ่นท้นออกตา. จากคุณ : " . " - [ 25 ก.ย. 45 17:20:47 A:202.133.163.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 แวะเข้ามาบอกขอรับ แหะ แหะ ข้าพเจ้าจะรออยู่ที่ร้าน “ยกจอกเย้ยจันทร์” เตรียมพร้อมตั้งแต่คืนวันศุกร์ เพื่อรอรับเพื่อนพ้องน้องพี่ สหายชาวอาศรมฯ ตามกำหนดการนัดพบ เสาร์ ๒๘ ก.ย.๔๕ เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป ขอรับ ปล. ๑  เข้าซอยรัตนาธิเบศร์ 17 นิดเดียว ก็ถึงทางบังคับเลี้ยวขวา ร้านอยู่ซ้ายมือ ขอรับ ถ้าไม่ได้ขับรถมา เดินเข้าได้ ไม่ไกลมาก หรือไม่ก็ใช้มอเตอร์ไซค์ปากซอย ก็ได้ขอรับ จุดสังเกต จากถนนใหญ่ นอกจาก คาร์ฟูล และ บ.ไทยประกันชีวิต แล้ว ตรงทางเข้า ปากซอยรัตนาธิเบศร์ 17 จะมีร้าน “ดาราทอง” อยู่ เห็นร้าน ก็เลี้ยวเข้าซอยได้ขอรับ ปล.๒ หนูศ. โซดาซ่า แม่งานหายไปไหนหว่า สงสัยว่า งานคงรุมอยู่ แหะ แหะ จากคุณ : นายทิวา (นายทิวา) - [ 25 ก.ย. 45 17:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คืนหนาวดาวพร่างฟ้า.....แวววาว ระยิบระยับราว........เพชรล้ำ แต่ใจช่างเหน็บหนาว.....เปลี่ยวเปล่า จริงแฮ ไร้คู่เคียงจึ่งช้ำ........ชอกห้วงอารมณ์ หากมีนงนุชน้อง.......แนบเคียง เป็นห่วงเป็นใยเพียง.....เล็กน้อย คอยขับกล่อมด้วยเสียง....หวานชื่น ห้วงแห่งอารมณ์คล้อย....อิ่มล้น ณ ทรวง จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 25 ก.ย. 45 18:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 หัดฝึกกระบวนท่า โคลงกลอน-กลอนโคลง(เคลง) มั่ง น้ำ     ฝนหลั่งดั่งฟ้า                โปรดดิน ท่วม  หลากล้นรวมริน           รดหล้า น้ำ     ใสเกลือกมลทิน            เพราะชะ-  ล้างนา ใจ      กลับโทษใส่ฟ้า              อีกทั้งชังพิรุณ น้ำฝนหลั่งดั่งฟ้าโปรดดินท่วม หลากล้นรวมรินรดหล้าน้ำใส เกลือกมลทินเพราะชะล้างนาใจ กลับโทษใส่ฟ้าอีกทั้งชังพิรุณ ...ยากจัง ^^' จากคุณ : ไร้นาม - [ 26 ก.ย. 45 01:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 รีบเข้ามาตอบ พี่ทิวา อย่างร้อนตัวว่า  ไม่ได้หายไปไหนนะเจ้าค่ะ  งานยุ่งจริงๆ แงๆ พี่ทิวาเล่นไปรออยู่ที่ร้าน   อุตส่าห์แอบวางแผนอยู่ในใจจะขอตามติดต้อยไปด้วย อดเลยเรา ต้องขอโทษ พี่จอมยุทธ ความไม่สบอารมณ์ของตัวเอง  เลยได้โคลงชื่อกระทู้ดังนี้แล ๏ น้ำ คำส่องลึกบึ้ง            ถึงสัน   ดานแฮ ท่วม ทบนรกสวรรค์           อกร้าว น้ำ จิตคิดแหนงหยัน          หน่ายหนัก ใจ  จรดอักษรกร้าว           เสื่อมสิ้นไมตรี  ๚ะ ๏ น้ำ ทิพย์ทวีค่าล้น          หลั่งริน ท่วม ทุ่งดีกว่ายิน             อริร้าย     น้ำ มิตรมอบจากจินต์         ใสซื่อ  สะอาดเฮย ใจ หักหาญตอบคล้าย        ผิดเพี้ยนแผกพงศ์  ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 26 ก.ย. 45 08:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ช่วงนี้งานรุมสุมหัวจริงๆ น้ำ ทิพย์แห่งรสถ้อย.............คือสวรรค์ ท่วม ชุ่มอาศรมฝัน..............ซุ่มซ้อม น้ำ มิตรยิ่งมณีอัน...............เกินบ่ง ค่าแฮ ใจ เสพสุนทรียพร้อม...........ยกแก้วเย้ยจันทร์ น้องศาลาไทย ตามสบายเลยขอรับ เจอกันวันงานนะขอรับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 26 ก.ย. 45 09:42:06 A:203.113.37.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 น้ำ เหนือล้นหลากแล้ง............ใจเหลือ ท่วม ทั่วทุกทิศเจือ.................จิตให้ น้ำ แรงจับหางเรือ..................คงมั่น ใจ ส่งน้ำใจไว้.......................ช่วยร้ายคลายหาย สวัสดีท่านจอมยุทธครับ... จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 26 ก.ย. 45 10:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุญาตครับ น้ำ ฝนบนฟากฟ้า .............. ถล่มทลาย ท่วม ทุ่งฟุ้งกระจาย ............ คุยโม้ น้ำ จัณฑ์กลั่นไว้ขาย .......... อายนรก ใจ ครุ่นคิดโยกโย้ .............. แน่แท้รวนเร ... จากคุณ : หญ้า.. - [ 26 ก.ย. 45 11:29:08 A:202.133.156.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 น้ำ  จากฟ้าหลั่งไหลทั่วทั้ง............ผืนดิน ท่วม  ท้นดุจหนึ่งน้ำใจคน............ลึกล้ำ น้ำ  ตาพร่าไหลสะอึกสะอื้น........จากห้วง  ดวงมาลย์ ใจ  สุขล้นเต็มเปี่ยมล้นไซร้............เมื่อเติม  รักเต็ม จากคุณ : ยัยไหม - [ 26 ก.ย. 45 16:03:28 A:202.129.18.167 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 แก้ไขค่ะ... น้ำ  จากฟ้าหลั่งไหลทั่วทั้ง............ผืนดิน ท่วม  ท้นดุจหนึ่งน้ำใจคน............ลึกล้ำ น้ำ  ตาพร่าไหลสะอึกสะอื้น........จากห้วง  ดวงมาลย์ ใจ  สุขล้นเต็มเปี่ยมไซร้............เมื่อเติม  รักเต็ม จากคุณ : ยัยไหม - [ 26 ก.ย. 45 16:07:03 A:202.129.18.167 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ...สวัสดีครับทุกท่าน ...เห็นหลายท่านร่วมบรรเลงโคลงกลอนแล้วก็ดีใจ (หลงกลเรา ฮิฮิ) ..มิตรโคลงกลอนแต่งแล้ว.........หลายบท ถ้วนครบความล้วนพจน์.............เพริศพร้อม เลิศหนอสั่งเบียร์สด..................รสรื่น  ชื่นฤา พอพบจะขอน้อม......................เนื่องฟุ้งเฟื่องไป ...น้ำ..คำพร่ำบ่นบ้า....................บ่นาน ท่วม..ทุ่งบุ้งร่วมบาน...................ฉ่ำด้วย น้ำ.....ใสไม่นำศานติ์..................เสมอสิ่ง...จริงฤๅ ใจ.....มั่นมิตรไม่ม้วย..................แม่นแม้นสมัครสมาน ...มิตรโคลงกลอน แต่งแล้ว หลายบทถ้วน ครบความล้วน พจน์เพริศ พร้อมเลิศหนอ สั่งเบียร์สด รสรื่น ชื่นฤาพอ พบจะขอ น้อมเนื่อง ฟุ้งเฟื่องไป ...น้ำคำพร่ำ บ่นบ้า บ่นานท่วม ทุ่งบุ้งร่วม บานฉ่ำ ด้วยน้ำใส ไม่นำศานติ์ เสมอสิ่ง จริงฤๅใจ มั่นมิตรไม่ ม้วยแม่น แม้นสมัครสมาน จากคุณ : อกนิษฐ์ - [ 26 ก.ย. 45 17:42:12 A:203.113.37.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ ในอาศรมทั้งหลาย ใกล้ถึงวันสังสรรค์เสวนาแล้วซิครับ อดใจไม่ไหวที่จะได้พบปะศิษย์พี่ที่มากวรยุทธทุกท่าน อยากให้วันเสาร์มาถึงเร็วๆ จังเล้ยยย... พอดีว่าได้เข้าไปอ่านเรื่องสั้นเชิงสัญลักษณ์ของ"คุณไร้นาม" ซึ่งเปิดกระทู้เหนืออาศรมภาคนี้ไปหน่อยน่ะครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1776173/W1776173.html ซึ่งในเรื่องได้มีการหยิบยกเรื่อง"ขันธ์ห้า"มากล่าวไว้ด้วยก็ได้ไปแจมโคลงไว้นิดหน่อย ผมขออนุญาตนำมาแปะให้ศิษย์พี่ในอาศรมฯ ได้พิจารณา แนะนำด้วยครับ... ขันธ์รวมกายจิตนี้.........ห้ากอง ขันธ์หนึ่งคือที่ของ............รูปนั้น สองเวทนาขันธ์จอง..........สามซึ่ง สัญญา อันสี่สังขารหมั้น..............ที่ห้าวิญญาณ "รูป"ขันธ์มั่นอยู่ด้วย.........สี่ธาตุ ดินน้ำไฟลมมาด..............แม่นได้ ประชุมกลุ่มประกาศ..........กายก่อ เกิดแฮ รวมจึ่งพึงเรียกไว้..............ว่าด้วยรูปขันธ์ "เวทนา"คือรู้ซึ่ง...............อารมณ์ สบายจิตสบายกายสม........ส่วนอ้าง ไม่สบายจิตแลกายตรม.......ก็ก่อ เกิดเอย เฉยก็นับจับสร้าง................ซึ่งเชื้อเวทนา "สัญญา"คือจำได้.............ใจหมาย รูปรสกลิ่นเสียงกราย..........ตระหนักรู้ โผฏฐัพพะจะฉาย..............สะท้อนจิต สิ่งก่อจ่อใจจู้....................จึ่งหว้าสัญญา "สังขาร"ท่านแบ่งไว้...........ว่าสาม เจตสิกกุศลงาม.................ก่อเกื้อ อกุศลส่วนชั่วทราม.............เกาะเกี่ยว อัพยากฤตคิดกลางเอื้อ........เอ่ยอ้างสังขาร "วิญญาณ"อย่าคิดหว้า.........วายปราณ จงจำคำเรียกขาน...............สิ่งตั้ง กระทบสบผัสสะพาน...........พึงบ่ง รู้นา จึงว่าอารมณ์ฉั้ง..................หยั่งด้วยวิญญาณ "นามรูป"เราย่อให้...........ห้าขันธ์ เป็นอนิจลักษณ์อัน..........ไม่เถี้ยง โปรดพิศคิดครวญกัน........ก่อประโยชน์ สรรพสิ่งใดใดเพี้ยง..........เกิดแล้วดับไป แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 45 04:08:12 จากคุณ : Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) - [ 26 ก.ย. 45 18:01:55 ]

ความคิดเห็นที่ 33 งานนัดพบปะหน้า..... นี้หนี ด้วยเหตุเวลามี...........ไม่ได้ ติดสอบต่อเนื่องที.......แทบแย่ แล้วเอย จึงกล่าวบอกเอาไว้......ว่างเว้นหนึ่งงาน ไปไม่ได้แน่แล้วครับ เพราะสอบ ประกอบ กับท่าจะดูหนังสือไม่ทันถ้าไป ไว้โอกาสหน้่าแล้วกันครับ จากคุณ : คนชอบเขียน - [ 26 ก.ย. 45 18:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แด่.....ข้าทาสนักการเมือง ๏ สัญชาติสุนัขซึ้ง               สอพลอ เพียงเศษเนื้อยื่นรอ              ระริกระรี้ กระดิกหางกระดกคอ            มิกระดาก กระใดเลย ลิ้นตวัดเลียแม้ขี้                  สะอาดเกลี้ยงทวารนาย ๚ ๏ ทาสการเมืองชัดชี้             เช่นสุนัข เอาตำแหน่งยศศักดิ์              ล่อเข้า ละสัตย์โดดสู่ปลัก                 สกปรก ลดเกียรติยอมสยบเฝ้า           แสยะหน้าเห่าหอน ๚ ๏ เหยียบศพเพื่อนพี่น้อง        ปองสูง สวมปลอกคอเขาจูง              กร่างโก้ ชมรมร่วมรวมฝูง                  สรรแบ่ง กระดูกเวย อ้างชาติชนบทโอ้                 สดับอึ้งสะเอียนเหียน ๚ ๏ ใดใดโอ่โอษฐ์อ้าง             ตนดี (นิราศนรินทร์) บ้านนอกอยู่มิกี่ปี                   รีบย้าย อุดมการณ์กลับมากมี             เต็มปาก ลมพ่นจากบั้นท้าย                 เทียบคลุ้งความเหม็น ๚ะ๛ จากคุณ : โมโน - [ 26 ก.ย. 45 18:46:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นเพื่อนๆหลายท่าน สนใจแต่ง โคลงกลอน จอมยุทธฯ จึงขอคัดกลเม็ดเคล็ดลับบางส่วนของครูใหญ่ (ครูหนอนสุรา) มาแปะไว้ให้ศึกษาครับ อาศัยตัดแปะอีกแล้ว โคลงกลอน                                     สวัสดีต้ะหมีเซอะ กระทู้นี้ดีจังจ้ะ แต่พี่เล็กตั้งตัวไม่ทัน ก็ขอแปะโป้งไว้ก่อน ด้วยการนำกระทู้ “โคลงกลอน” ของครูหนอนฯ ซึ่งเคยเล่นกันมา มาให้อ่านกันทั้งทฤษฎีและภาคปฏิบัติของชาวถนนฯ นี้จ้ะ โคลงกลอนของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จากชักม้าชมเมือง มีทั้งหมด 4 บท พี่เล็กเคยเอามา post ครบแล้ว แต่ผมจะเลือกมาอธิบาย 1 บท ให้เห็นกลเม็ดเคล็ดลับในการแต่ง ว่าพี่เนาว์ท่านทำยังไง ถึงออกมาเป็นโคลงและกลอนเสียงดี อ่านเป็นโคลง ใช่ชีพนี้ชี้เช่น.................เป็นแบบ บทประจงจดแนบ..........เนื่องร้อย เรื่องไขหลากข้อแยบ......ยลคิด จิตฤา ใจจักสอดใส่สร้อย..........สว่างไว้ทางกวีฯ อ่านเป็นกลอน ใช่ชีพนี้ชี้เช่นเป็นแบบบท ประจงจดแนบเนื่องร้อยเรื่องไข หลากข้อแยบยลคิดจิตฤาใจ จักสอดใส่สร้อยสว่างไว้ทางกวีฯ ที่ผมเลือกเอาบทสุดท้ายมาอธิบายเพียงบทเดียว เพราะบทนี้อธิบายง่ายที่สุด แต่ขนาดอธิบายง่ายที่สุดก็ยังยาก เพราะเสียงโคลงกับเสียงกลอนมันขัดกัน ถ้าไม่ใช่ระดับพี่เนาว์ที่เก่งทั้งโคลงและกลอน ยากยิ่งที่จะเขียนออกมาได้ดี แม้พี่เนาว์เองก็เถอะ วรรคสามของโคลงก็ต้องใช้จังหวะการอ่านช่วย เหมือนกับกลอนวรรคสอง ลองอ่านดูนะครับจะได้ยินว่าเสียงมันสะดุดอยู่นิดๆ แต่นิดเดียวครับ ผมมิบังอาจตำหนิท่าน เพราะแต่งได้ขนาดนี้ถือว่าสุดยอดแล้ว จุดประสงค์คืออยากให้เห็นว่าเสียงโคลงกับเสียงกลอนมันขัดกันเป็นธรรมชาติครับ วิธีแต่งให้ถอดออกเป็นทั้งโคลงและกลอนที่พอใช้ได้ จะต้องมองทั้ง 2 อันไปพร้อมๆกัน หรือเขียนลงกระดาษหน้าคู่ อันนึงเป็นโคลงอันนึงเป็นกลอน แต่ในหน้าจอผมทำไม่เป็น เอาเป็นว่าใช้วงเล็บแทนกลอนแล้วกัน ใช่ชีพนี้ชี้เช่น.................เป็นแบบ (บท) วรรคแรกนี้มองเป็นกลอนง่าย เพราะคำสุดท้ายของกลอนวรรคนี้ใช้เสียงอะไรก็ได้ แค่ให้คิดถึงคำที่จะมาสัมผัส อย่าใช้คำสระยากมากนัก แต่เรื่องสัมผัสในนั้นก็สำคัญ กับกลอนแบบเนาวรัตน์ ซึ่งคือแบบสุนทรภู่นั่นเอง จะอธิบายควบคู่ไปด้วยเลย คำที่3 กับ 4 ต้องสัมผัสกัน จะใช้สัมผัสสระหรืออักษรก็ได้ เช่นเดียวกับคำที่ 5 ต้องไปสัมผัสคำที่ 6 อันนี้ถ้าได้สัมผัสสระเวลาถอดเป็นกลอนฟังดีกว่า ใช้สัมผัสอักษร เพราะแต่งวรรคต่อมาให้ดีง่ายกว่า บทประจงจดแนบ..........เนื่องร้อย (เรื่องไข) วรรคสองเริ่มยาก เมื่อเราเขียนวรรคแรกเราได้คำว่าบทมาแล้ว คำที่คิดต่อต้องคิดหลายชั้น เอาคำที่ 3 (จด) รับสัมผัสกลอน คำที่ 4 (แนบ) รับโคลง สัมผัสใน 4 ไป 5 ให้ใช้สัมผัสอักษร จะฟังเพราะกว่า คำเอกโทของโคลงก็ยากเย็น คำต่อมาคือคำที่เท่าไหร่ ชักไล่ไม่ถูกแล้วคือคำว่าไข คำนี้ห้ามเสียงสามัญกับเสียงตรี เพราะจะทำให้ถอดเป็นกลอนแล้วเสียงเพี้ยน ถ้าให้ง่าย ใช้เสียงจัตวาเอาไว้ก่อน แต่อย่าลืมว่าคำนี้ส่งสัมผัสไปกลอนวรรคต่อมาด้วย เพราะฉะนั้นอย่าใช้คำสระยากมากนัก สรุปแล้ววรคนี้เกือบยากที่สุด เรื่องไขหลากข้อแยบ......ยลคิด จิตฤา (ใจ) วรรคสามวิธีคิดไม่ค่อยยาก แต่เวลาแต่งมักจะพลาดวรรคนี้ เพราะเริ่มงง เดี๋ยวเสียงโคลง เดี๋ยวเสียงกลอนตีกันมั่วไปหมด วิธีคิดคือหาแค่คำรับสัมผัสโคลง กับคิดคำเอกท้ายวรรค ให้ส่งสัมผัสในไปคำแรกของสร้อยได้จะฟังเป็นกลอนดี อย่าลืมวรรคนี้ต้องมีสร้อยโคลงเสมอ และควรใช่เสียงสามัญเท่านั้น คำที่ตามมา (ใจ) ก็เหมือนกันถึงจะใช้เสียงตรีได้อีกเสียง แต่อย่าดีกว่า อย่าเพิ่งลองแบบพิศดารมาก เพราะจะเละทั้งโคลงทั้งกลอน ใจจักสอดใส่สร้อย..........สว่างไว้ทางกวีฯ วรรคสุดท้าย โอย...เหนื่อย วรรคนี้ยากคล้ายๆ วรรคสองในแง่เสียง แต่ยากกว่าในแง่เนื้อความ เพราะสรุปจบทั้งหมด เละไม่เละ วัดกันที่วรรคนี้ เอาแค่แง่เสียงอย่างเดียวแล้วกันนะครับ (ใส่) รับสัมผัสกลอน (สร้อย) รับสัมผัสโท คำเอกสุดท้าย (สว่าง) ควรหาคำมารับสัมผัสสระ (ทาง) และถึงแม้คำสุดท้ายเป็นโคลงเสียงจัตวาฟังดีกว่าเสียงอื่น แต่เป็นกลอนแล้วฟังไม่ได้ ให้ใช้เสียงสามัญ อย่างเดียวพอ ถึงใช้เสียงตรีได้ก็ไม่เอา เอาแบบพื้นๆ ก่อน กลอนจะได้แลนดิ้งแบบไม่คะมำกลิ้ง สูตรทั้งหมดที่เขียนมานี้ เป็นแบบคร่าวๆ พี่เนาว์ท่านคิดเยอะกว่าผมอีกหลายชั้นมาก คิดตามพอไหว แต่เขียนอธิบายไม่ไหว ไม่ได้อมภูมิแต่อย่างใด เพราะมันเขียนอธิบายยากจริงๆ เอาเป็นว่าสั้นๆ อย่างนี้ พอให้เขียนออกมาพอใช้ได้ก็พอแล้ว โอย...เหนื่อย...เหนื่อย... โดยคุณ : หนอนสุรา แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 45 21:39:00 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 45 21:37:24 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 26 ก.ย. 45 21:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ส่งแบบฝึกหัดค่ะ ศิษย์พี่ทั่นทั้งหลาย  กรุณาด้วยค่ะ น้ำ     ท่วมชวนหลั่งน้ำ          ผ่านใจ ท่วม   บ่าน้ำใจใส                สู่น้ำ น้ำ     ใดเท่าน้ำใจ               ที่ท่วม ใจ      หลั่งน้ำ ท่วมล้ำ          ซับน้ำจากตา (บาทสี่ อ่านเว้น3-2 ต่างจากบาทอื่น  ผิดไหมคะ) ไม้บรรทัดที่ 1 สองตายายตำข้าว         เพื่อหุง สากตำถากจากซุง        ตำหง้าย (ง่าย) สองแรงตำหลังตุง        เพียรตำ ขยันตำสลับขวาซ้าย     ตำด้วยช่วยกัน ไม้บรรทัดอันที่ 2 ครั้งนั้นป้าตื่นเช้า         ต้มยา ล้มลื่นข้อเท้าขวา        พลิกเข้า น้ำร้อนลวกซ้ำขา        ซ้ายตลอด ครั้นลุกก้นจ้ำเบ้า         โชคร้ายซ้ำสาม แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 45 20:35:40 จากคุณ : เงาน้ำค้าง (เงาน้ำค้าง) - [ 26 ก.ย. 45 21:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ความจริงอยากจะเสวนาโคลงกับหลายๆท่าน แต่ขอยกยอดไปก่อน ขอรับ ขอคารวะเบียร์ ๓ จอกสำหรับโคลงของ โมโน/๓๔ ขอรับ     จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 26 ก.ย. 45 22:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อาราย ยังไม่ทันวันเสาร์ ก็จะเมากันละ ท่านปู่ ... จากคุณ : จังงัง - [ 26 ก.ย. 45 22:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39                       แม่รำพึง ๑. ๏  ปรภพพรากลูกแล้ว               ลาญอก   แม่เอย                                     สวรรค์ล่มเทนรก                       ท่วมล้าง บาดาลสะเทือนหก                    ทะเลเหือด   หายฤๅ น้ำปริ่มฟ้าเวิ้งว้าง                     ว่างไร้วิญญาณ   ๚         ๒. ๏    ขวัญแม่คงว่ายเวิ้ง                 วังวน                                     หนาวเหนื่อยเหงาเงียบมน          มืดไห้                       สำลักกระเสือกกระสน                สุดเรี่ยว  แรงเอย                           ช่วยเพื่อนเพื่อนกลับไร้                 ร่วมน้ำใจสนอง   ๚ ๓. ๏    ลูกรักหลับเถิดเจ้า                 ดวงใจ   แม่เอย                                     มหาสมุทรคลั่งอาลัย                 คลื่นครื้น สายลมเห่โหมไกว                     กรูกล่อม หาดแม่รำพึงสะอื้น                    อกสิ้นสลายขวัญ   ๚ ๔. ๏    สุสานทรายคลื่นเคล้า            ฟองขาว                                     ฝังร่างลูกนอนหนาว                   เหนื่อยล้า ฝังโลกแห่งหนุ่มสาว                   ใสซื่อ ฝังศพวีรบุรุษกล้า                       กับท้องทะเลครวญ   ๚ ๕. ๏    ชเลเอยฝากลูกน้อย               นอนฝัน                                     ขอคลื่นกล่อมเห่อัน                    โอบอ้อม               ผืนทรายลาดต่างบรร-                 จถรณ์นุ่ม   นิทร์เอย ดิ่งโลกอมฤตล้อม                       รอบรุ้งนิราสมัย   ๚ อุทิศแด่นายจิตปรีดี(เต้ย)  เครือคล้าย  นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สถาบันราชภัฏสวนดุสิต  ผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ   ณ   หาดแม่รำพึง   ตำบลเพ จังหวัดระยอง   เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2545 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 27 ก.ย. 45 00:14:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ..ปรกติจะเข้ามาอ่านอย่างเดียว.. ..ขอคราวนี้ผมขอร่วมสนุกด้วยคนนะครับ.. @ หยาดฝนปนหยาดน้ำ.......... ตาริน.. ..เกลียวคลื่นกัดกลืนกิน.......... ถิ่นถ้ำ.. ..มหรรณพลบแผ่นดิน.......... แดนแม่.. ..เมืองล่มจมลำน้ำ.......... สู่พื้นนภสินธุ์. จากคุณ : ญาติระอา - [ 27 ก.ย. 45 11:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ดีจัง นานจะเข้ามาซะที ฝากใจไปมีตติ้งเสวนาชาวอาศรม โตยเน้อ จากคุณ : เซียวฮูหยิน - [ 27 ก.ย. 45 12:47:29 A:203.185.151.254 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 พรุ่งนี้ศาลาไทยคงไม่ได้เข้ากระทู้เพราะต้องออกไปติดต่องานข้างนอก และจะเลยไปที่ "ยกจอกเย้ยจันทร์" ตั้งแต่ช่วงบ่ายเพื่อช่วยพี่ทิวาจัดร้าน ฝากข่าวถึงทุกๆท่านว่า ไปเร็วไม่ว่า ไปสายไม่เป็นไร ขอให้ไปก็แล้วกัน เท่าที่ทราบตอนนี้ราวๆสิบคนที่คาดว่าจะไปได้แน่ ๆ เฮียคัมภีร์โบราณ คงไปไม่ได้แน่ๆอย่างที่บอก เพราะติดงานตลอดวันตลอดคืน แต่จริงๆ ถึงดึกแค่ไหน  ถ้าไม่เป็นการรบกวน พอจะเจียดเวลาไปได้ก็อยากให้ไป เพราะเท่าที่ผ่านมาทุกปี  กว่าจะแยกย้ายสลายวงกลับบ้านก็ดึกดื่นเที่ยงคืน เห็นชื่อ คุณญาติระอา แล้วดีใจ ทราบว่าตอนนี้อยู่กรุงเทพฯแล้ว ถ้าว่างเชิญด้วยนะคะ  งานนี้ เกลออาพี รับปากว่าไม่พลาดแน่ๆ เอิ้กๆ ๏ น้ำ คำเรียงร่ำร้อย            เทียบเชิญ ท่วม จิตคิดขัดเขิน              กล่าวซ้ำ น้ำ มิตรมอบเพียงเพลิน         โคลงตอบ  นาพ่อ ใจ  จรดอักษรย้ำ               จอกเย้ยยวนจันทร์  ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 ก.ย. 45 12:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แวะเข้ามาแถมท้ายให้อีกนิดว่า  การสังสรรค์ของคนในถนนนักเขียนนั้น มีเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว  และในส่วนของร้อยกรองโดยเฉพาะโคลงนั้นมีกันมานาน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพบนโลกอินเตอร์เนตนั้นมีอยู่จริง  เลยเอา link เล่าบรรยากาศของการพบปะในปีที่แล้วมาฝากกันก่อนเป็นการเรียกน้ำย่อย กาพย์เห่...เล่าสู่กันฟังงานสังสรรค์ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๔ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1021649.html จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 27 ก.ย. 45 13:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณท่าน "จอมยุทธ"(๓๕) สำหรับความรู้เพิ่มเติม ผมเป็นคนอ่านน้อย รู้น้อย เข้ามาในอาศรม ได้รับการชี้แนะจากท่าน "โมโน" ท่าน "คัมภีร์โบราณ" ท่าน "หมีเซอะ" และศิษย์พี่ทุก ๆ คน ในอาศรมนี้ จึงได้เปิดหูเปิดตา มีความรู้มากขึ้น ตอนนี้กำลังพยายามอ่านกระทู้เก่า ๆ ย้อนหลังอยู่ ...ผมไม่มีตำราเกี่ยวกับฉันทลักษณ์ใด ๆ อยู่ในครอบครองเลย นิราศต่าง ๆ ก็อาศัยอ่านจากเว็บของท่าน "โมโน" (ขอบคุณครับ) ...ท่าน"หมีเซอะ" เคยไล่ผมไปอ่านตำรา ผมก็ได้แต่หัวเราะ แหะ ๆ เพราะไม่รู้จะหาได้จากที่ไหน ห้องสมุดก็ไม่เคยเข้าไปเยี่ยมกราย ก็ได้แต่อาศัยความรู้จากในเว็บนี่แหละครับ ขอให้ทุกท่านโปรดชี้แนะด้วยครับ ... อยากจะไปร่วมงานที่ร้าน "ยกจอกเย้ยจันทร์" มาก แต่ติดราชการ ต้องไปต่างจังหวัด อยากเห็นบรรยากาศจริง ๆ ท่านใดที่ไปแล้วก็นำมาบอกเล่ากันบ้างเด้อ.. จากคุณ : อกนิษฐ์ - [ 27 ก.ย. 45 14:36:27 A:203.113.36.14 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 ..คุณศาลาไทยครับ.. ..ถ้าอาพีไป.. งั้นผมไปด้วย.. ..วันเสาร์ผมเข้ากรุงเทพฯ.พอดี.. ..ถ้ากลับบ้านไม่ทัน.. ไปนอนค้างบ้านอาพีก็ได้.. ..ฮ่า.. ฮ่า.. ฮ่า.. ..ว่าแต่ว่า.. ..นัดไปเจอะกันที่ไหน.. ..แล้วไปกันยังไงเหรอครับ.. ...... ตำนานทางช้างเผือก ( ฉบับย่อ ) ...... @ กุญชรจรจากหล้า.......... หาสวรรค์.. ..ป่าลึกดึกดำบรรพ์.......... บ่ายหน้า.. ..หุบบึงบ่ออาถรรพ์.......... ธารเถื่อน.. ..ปีนป่ายหมายฟากฟ้า.......... สู่แคว้นแมนสรวง.. @ ถูกลวงลงสู่พื้น.......... อเวจี.. ..โจนสู่มิคสัญญี.......... แย่งเยื้อ.. ..ลาก่อนสุขาวดี.......... แดนแม่.. ..ทอดซากฝากฝังเชื้อ.......... ชั่วร้ายละลายดิน.. จากคุณ : ญาติระอา - [ 27 ก.ย. 45 19:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แหะ แหะ แวะเข้ามาอีกครา ขอรับ ขออภัย ช่วงนี้ งานรุมสุมหัว ขยับตัวบ่ค่อยได้เลยขอรับ แวะเข้ามาตอบคุณ ญาติระอา แทนคุณศาลาไทย โดยการเอาลายแทง มาปะไว้ให้อีกครา ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ เมฆาบังจันทร์ ม่านหม่นบังใจ.. เย้ยจันทร์ คลายใจ ร่ำเมรัยใต้แสงดาว คารวะสหาย ๓ จอกแรก แด่มิตรภาพยืนยาว แล้วพบกัน ณ “ยกจอกเย้ยจันทร์” วันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๔๕ เวลาดี ๖ โมงเย็น ขอรับ มิตรภาพอบอุ่น น้ำใจสหายระอุ แท้ ๆ จริงด้วยน้ำใจ ขอรับ จากคุณ : นายทิวา (นายทิวา) - [ 27 ก.ย. 45 19:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เจอ link แล้ว... จากที่นี่นะเอง (ไม่ได้แวะมาพักนึง) ฮือๆ ศิษย์น้องไปไม่ได้เจ้าค่ะ ส่งใจไป (หม่ำ) แทน ^_^ แล้วก็เลยส่งโคลงยาวๆ ตามตา Noppy บ้าง (เลียนแบบการบ้าน ): ๏ อันว่าขันธ์แบ่งห้า-              กลุ่มคือ หนึ่งรูปขันธ์จับถือ                 พิศได้ เป็นกายธาตุคงหรือ              รอดับ เพียงสิ่งรับนามไว้                 เพื่อม้วยสักวัน ๚ ๏ เวทนาขันธ์นั่นรู้                  อารมณ์ เมื่อเหตุปัจจัยสม                   เกิดพร้อม เฉยทุกข์สุขผ่านชม               ทุกขณะ ห้ามยากปลงจิตน้อม-           รับแล้วดับไป ๚ ๏ สัญญาขันธ์จำได้               รู้หมาย ร้อยสิ่งโยงเชื่อมสาย             อดีตเข้า หลอกจิตมั่นเฉกนาย            งำครอบ แรกพบรู้ด้วยเจ้า                   ใช่สร้างใหม่เอง ๚ ๏ สังขารขันธ์เพิ่มแต้ม           แต่งเติม ห้าสิบเจตสิกเสริม                หวั่นได้ ธรรมชาติจิตนิ่งเดิม              ไหวเปลี่ยน กองแห่งปรุงแต่งไซร้              หากพ้นวุ่นคลาย ๚ ๏ วิญญาณขันธ์จิตแท้           รู้รับ หกส่วนคอยร้อยสดับ            อยู่เฝ้า อารมณ์ทราบกวาดจับ         เก็บสะ- สมนา บุญบาปติดจิตเข้า                 ดั่งสร้างสายกรรม  ๚ จากคุณ : ไร้นาม - [ 28 ก.ย. 45 08:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ส่งโคลงซั่นๆ แซวโคลงไร้นาม (ที่เลียนแบบ Noppy อีกที ฮิฮิ) อันว่าขันแบ่งห้า           กลุ่มคือ หนึ่งหยิบขันจับถือ       ตักน้ำ ขบขันไก่ขันมือ-         ขันนอต อีกแฮ คันรึขันบ่ล้ำ               ชื่อไม้แลเฮย จอมยุทธฯ (๓๕) รู้สึกว่านั่นจากกระทู้ที่ผมตั้งหรือเปล่าครับ จำได้ว่าแรกหัดโคลงก็ลองเล่นอยู่พักหนึ่ง ผมหาลิงก์ไม่เจอแล้ว อย่างไรขอลิงก์ด้วยครับ (หรือถ้ากระทู้ลบแล้วแต่เซพไว้ รบกวนส่งทางเมล์ให้หน่อยนะครับ ) หนู ศ. -  เหนื่อยหน่อยน้าาา .. ขอบคุณจ้าสำหรับแม่งาน   อกนิษฐ์  -  เหมือนผมเลยครับ .. ถึงไล่ให้ไปอ่านไง เพราะจะได้ไม่เหมือนผม .. (ไม่งงนะ ) ญาติระอา  -  มาววางโคลงบ่อยๆนะครับ ชอบครับ แว้บบ ..   จากคุณ : หมีเซอะ - [ 28 ก.ย. 45 11:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มีหลายท่านมาวางโคลงชุดดีๆไว้ ไม่ว่า Noppy ,โมโน ,เฮียคัมฯ ,ไร้นาม น่าสนใจครับ ความจริงอยากจะเสวนาโคลงกับหลายท่านจริงๆ แต่ช่วงนี้ธุระเยอะมากๆ คุณเงาน้ำค้าง(๓๖) ก่อนอื่นขอตอบคำถามก่อนครับ " บาทสี่ อ่านเว้น3-2 ต่างจากบาทอื่น  ผิดไหมคะ " ตอบว่าไม่ผิดครับ ขอยกตัวอย่างจังหวะการอ่านของโคลงบทนี้ละกัน สายหยุด-หยุดกลิ่นฟุ้ง.............ยามสาย สายบ่หยุด-เสน่ห์หาย...............ห่างเศร้า กี่คืน-กี่วันวาย........................วางเทวศ ราแม่ ถวิลทุกขวบ-ค่ำเช้า..................หยุดได้-ฉันใดฯ (เตลงพ่าย) น้ำ     ท่วมชวนหลั่งน้ำ          ผ่านใจ ท่วม   บ่าน้ำใจใส                สู่น้ำ น้ำ     ใดเท่าน้ำใจ               ที่ท่วม ใจ      หลั่งน้ำ ท่วมล้ำ          ซับน้ำจากตา มีข้อสังเกตคือ มีสัมผัสซ้ำคำว่า ใจ ใช้คำ น้ำ ในตำแหน่งคำบังคับโท ๓ ที่ ซึ่งทั้งสองจุดนี้ ถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยงครับ โคลงบทนี้สื่อความและเล่นคำได้ดี แต่ถ้าจบแบบจอมยุทธฯ อาจจะเล่นคำแบบซ้ำคำโท ในบาทสุดท้าย แบบนี้ครับ ใจ หลั่งใจท่วมน้ำ..............ซับน้ำจากตา ถึงตรงนี้จอมยุทธฯจะผูกคู่โทใหม่ แล้วเปลี่ยนคำโทในบาทแรกเป็นคำอื่น แล้วแก้ตรงสัมผัสซ้ำ ขอรับ โคลงใช้อำแทนเอก ใช้แค่คำว่า ตำ อย่างเดียวในตำแหน่งเอกทั้ง ๗ ที่ อยากให้ลองใช้คำอำตัวอื่น บ้างขอรับ เจ็ดที่เจ็ดคำโดยไม่ซ้ำกันก็ยิ่งดี โคลงรกโท สื่อความดีครับ แต่บาทสามวรรคหลัง ลองเปลี่ยนเป็น น้ำร้อนลวกซ้ำขา........ซ้ายอีก น่าจะสื่อความชัดขึ้นขอรับ ตาหมีเซอะ(๔๘) จอมยุทธฯ คัดมาจากกระทู้นี้ ขอรับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W730473.html ส่วนกระทู้เดิมจริงๆต้องขอจากน้องน้ำแข็งใส แล้วละขอรับ เพราะจอมยุทธฯก้อไม่มีขอรับ ขอคัดงานเก่าๆของจอมยุทธฯ มาวางอีกครั้ง (แต่งใหม่ไม่ออก ฮิ ฮิ) โคลงกลอน ๏ แค่พิศพักตร์ผ่องพริ้ม...............พิลาส ล้ำสุดหาคำวาด............................แต่งแต้ม เพียงส่วนผ่องผิวผาด....................ผ่องแม่ ยิ่งแล นวลดุจจันทร์ยวนแย้ม..................เปล่งครั้งเพ็งกาล ฯ ๏ กลิ่นสุมาลย์ส่งกลิ่นฟุ้ง...................กระจาย กลิ่นรื่นรวยรินราย.........................กล่อมหล้า หอมหวานแต่หอมวาย...................ฤๅเปรียบ เทียบแม่ ปานแม่หอมซ่านฟ้า.......................ไล่ทั้งไตรภูมิ ฯ กลอนโคลง ๏ แค่พิศพักตร์ผ่องพริ้มพิลาสล้ำ สุดหาคำวาดแต่งแต้มเพียงส่วน ผ่องผิวผาดผ่องแม่ยิ่งแลนวล ดุจจันทร์ยวนแย้มเปล่งครั้งเพ็งกาล ๏ กลิ่นสุมาลย์ส่งกลิ่นฟุ้งกระจายกลิ่น รื่นรวยรินรายกล่อมหล้าหอมหวาน แต่หอมวายฤๅเปรียบเทียบแม่ปาน แม่หอมซ่านฟ้าไล่ทั้งไตรภูมิ ฯ เย็นนี้ หกโมงเย็น อย่าลืมนะครับ ยกจอกเย้ยจันทร์ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 28 ก.ย. 45 12:13:24 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ส่งใจไปร่วมเลี้ยง............................สังสรรค์ นัดพบยกจอกกัน..............................เพื่อนพ้อง เอมอิ่มอีกเมามันส์............................คุยแฉะ ลั่นนา ท้ายสุดเรอแน่นท้อง...........................อย่างนี้ต้องขยาย ขันเดียวแม้นชะล้าง............................ร่างกาย กำจัดสิ่งรอบราย..............................ออกได้ แต่ตัวกิเลสแยบคาย............................ยากออก หมดฤๅ ต้องดับที่ขันธ์ไซร้.............................จึ่งล้างตัณหา จากคุณ : รสา รสา - [ 28 ก.ย. 45 19:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณทั่นจอมยุทธฯค่ะ โคลงอำแทนเอก  อยากลองเล่น "ตำ"  ฝึกผูกเรื่องน่ะค่ะ โคลงตามกระทู้ ลองเล่นสนุกกับ 4 คำ ในทุกบาท คือ "น้ำท่วมน้ำใจ"  ค่ะ อยากไปร่วมสังสรรค์จริง ๆ  ค่ะ  อย่างไรก็จะรอฟังจากท่านที่ไปนะคะ ว่าเป็นอย่างไร  ครั้งหน้า สัญญากับตัวเองว่าจะไปให้ได้ :):):) จากคุณ : เงาน้ำค้าง (เงาน้ำค้าง) - [ 28 ก.ย. 45 21:47:09 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เพิ่งกลับมาจากงานสังสรรค์ ขอรับ ประทับใจมากๆที่ได้พบปะมิตรสหายร่วมอาศรมหลายๆทั่น สหายทิวา กับ น้องศาลาไทย ทำหน้าที่แม่งานได้ยอดเยี่ยม ผู้อาวุโสสุด ต้องยกให้ พี่(ครู)เล็ก พี่xxx(เฒ่า) และพี่หนูนา ส่วนทั่นอื่นๆ ขอเอ่ยนามแล้วกันขอรับ ทั้ง ตั่วกอ(แดงน้อย) นิรนาม หมอโมโน ญาติระอา อาพี เหงาจังเลย นายเดียร์ มาพร้อมนัวเนียร์และสาวน้อยอีกหนึ่งคน ปิ๊วปิ้ว ตาNoppy อีกสาวน้อย pencil 2B และหนูเอ็นจัง เอยังตกใครบ้างเนี่ย ขอบคุณทุกๆท่าน ขอรับ จอมยุทธฯประทับใจจริงๆจ้า เอิ้กๆ ขอบคุณสำหรับ หนังสือ ๓ เล่ม จากพี่หนูนา และหมอโมโน ที่ให้จอมยุทธฯ อาศัยรถกลับ พรุ่งนี้จะมาเล่าบรรยากาศให้ฟังขอรับ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 45 01:07:23 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 29 ก.ย. 45 01:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาว่าผมตา Noppy ได้ไงเนี่ยพี่จอมยุทธฯ... เฮ้อ...ใครนะ...ร้องเพลงเพราะจังเร้ยย... สนุกมากเลยครับงานวันนึ้เนี่ย...ขอมาเสริมพี่จอมยุทธนิดนึงครับ...... จากคุณ : Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) - [ 29 ก.ย. 45 03:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 54 น้ำ ในคลองเอ่อล้น                  ริมคลอง     ท่วม แน่หากฝนฟ้าคะนอง     กระหน่ำซ้ำ น้ำ ตาเอ่อไหลนอง                  จนอาบ แก้มพี่ ใจ หนึ่งเดียวต้องช้ำ                เหตุน้องทำเหงา ๚ ๏ ยามเรายกจอกเย้ย              จันทร์เพ็ญ ดวงจิตแทบหลุดกระเด็น         จากขั้ว   แววตาที่เคยเห็น                       ประกายส่อง มากลับกลายเกลือกกลั้ว         กับแกล้มของฉัน ๚ *** เมื่อคืนนี้นึกตั้งนานว่าลืมอะไรไปรึเปล่า? แล้วก็ลืมจริงๆด้วย ลืมขึ้นไปร้องเพลง The End of The World ให้น้องๆฟัง เสียดายจริงๆ ปล.พี่เล็กประทับใจในน้ำใจไมตรีของมิตรสหายและน้องๆทุกๆคนเป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกก็แปลกๆหน้าอยู่ประมาณ ๕ นาที แต่พอรู้ว่าใครเป็นใครก็รู้สึกหน้าแปลกกว่าที่คิด วันนี้พี่เล็กจะออกไปธุระ คงจะกลับค่ำๆ แล้วจะเข้ามาบอกว่าเมื่อคืนนี้ประทับใจอะไรบ้างจ้ะ จากคุณ : lek Isara - [ 29 ก.ย. 45 09:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ประทับใจน้ำมิตร.........อาศรม ประเสริฐล้ำพรพรหม.......แห่งฟ้า สัมพันธ์ผูกเกลียวปม.......ยึดแน่น คือรักแท้แกร่งกล้า........เหนี่ยวรั้งใจเสมอ แง้ว ๆๆๆ อิอิ เมื่อคืนประทับใจเพื่อน ๆ ทุกคนครับ แหะ ๆๆๆ กระผมได้ออกไปร้องเพลงกับเค้าด้วยหงะ แต่ว่า เนื่องจากจำเนื้อเพลงไม่ค่อยได้ เลยร้องกันอย่างกระท่อนกระแทน อิอิ แต่ เพื่อน ๆ ทุกคน ก็ให้กำลังใจกันดี ด้วยการไม่สนใจเลย เย้ ๆๆๆๆ 55555 เอิ๊กกก... แต่พอร้องจบเท่านั้นแหละ เสียงปรมมือลั่นร้าน พร้อมบอกว่า ดีแล้วที่จบ จะได้ไม่หนวกหู ...ว่าเข้านั้น 5555 งานนี้พาลูกไปด้วย ตอนแรก ลูกก็ไม่ค่อยสนใจใครเท่าใดนัก เพราะไม่เคยเจอคนหน้าแปลก ...เอ้ย แปลกหน้า แหะ ๆๆๆ แต่สักพักเท่านั้นแหละ ก็ซนได้ดังเดิม สมชื่อนัวเนียร์แสนซน สำหรับงานนี้ ขอยกตำแหน่ง เจ้าแม่เสียงแจ๋ว ให้กับคุณป้าเอ็นจัง เพราะตั้งแต่พี่ท่านมา พี่ท่านก็ทำให้คนอื่นหงอยปาก...เอิ๊ก... ส่วน ตำแหน่งเงียบสนิท ก็ขอจกให้ Pencil 2B  เพราะขานี้ เงียบสุด ๆ เหมือนเดิม...อิอิเอาแต่นั่งเกาะติดแม่หนูนาไม่ยอมห่าง สร้างความอิจฉาให้กับเพื่อน ๆ อิอิอิ ส่วนภาพงานเลี้ยงขอเวลาตกแต่งสักพัก แล้วจะนำมาเปิดกระทู้ใหม่นะขอรับ ...อิอิ จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 29 ก.ย. 45 12:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 56 รับปากคุณ ลมหนาว (๓๒) ว่าจะลองวิจารณ์โคลง ขันธ์ห้า ลองดูซักนิดนะ  ตามอารมย์ความรู้สึกไม่อ้างอิงวิชาการเท่าใดนักนะ ๑ คุณลมหนาวเขียนโคลงเป็นโคลง แล้ว เรื่องที่เขียนก็ไม่ง่าย  สื่อความหมายได้ค่อนข้างครบถ้วน ๒ รูปแบบด้านฉันทลักษ์  อาจเบี่ยงเบนบ้างบางจุด   -- หลุดเอก ๒ ที่ สร้อยเจตนัง ๑ที่ (บทแรก)  --  ใช้อำแทนเอก ๓ ที่  ใช้โทโทษ ๕ ที่ใน๑สำนวน ๗บท รู้สึกว่าไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น  การบรรยายความ ๗ บทน่าจะมีเนื้อที่เพียงพอ ที่จะเลี่ยงอำแทนเอกหรือโทโทษได้  ยกเว้นเจตนาจะสื่ออะไรบางอย่าง สังเกตพวกแก่แดดเช่น  คุณศาลาไทย คุณคัมภีร์ฯ คุณหมอโมโน  หมอวฤก โคลงของแกแทบไม่มีเอกโทษโทโทษเลย(ยกเว้นจะหลุดเป็นกิ้งกือจะตกท่อในบางครั้ง)  ๓  ท่วงทำนองโคลง   อยากให้ลองอ่าน "ขันธ์ห้า"  เปรียบเทียบกับ "แม่รำพึง" (๓๙) ของคุณคัมภีร์ฯ     ความแตกต่างอยู่ที่เรื่องที่จะสื่อต่างกันอารมย์โคลงต่างกัน ขันธ์ห้า สงบเยือกเย็น เป็นวิชาการ แม่รำพึง  เศร้าสะเทือนใจ      อีกส่วนที่จะต้องเหมือนกันคือทำนองโคลง แม่รำพึงมีมาก  แต่ขันธ์ห้ามีน้อยกว่า ได้แก้  การเล่นคำ สัมผัสอักษร ทั้งในวรรคและต่างวรรค  และที่สำคัญ การเลือกใช้คำที่แสดงอารมย์ความรู้สึกตามเนื้อหาที่เสนอ ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แต่คุณ ลมหนาวลองอ่านเปรียบเทียบกันน่าจะเห็น ลองอ่านนิราศนรินทร์ เตลงพ่าย และสามกรุง อย่างพิจารณา จะเห็นอารมย์และท่วงทำนอง ของโคลงได้ค่อนข้างชัดเจนนะ ****ข้อสังเกต  การอ่านมากเพื่อรู้ท่วงทำนองเท่านั้นนะ  แล้วก็อย่าติดถ้อยคำสำนวนมาด้วย  เพราะจะเป็นความด้อยของโคลงที่เขียนใหม่ถ้ามีติดมาด้วยโดยไม่ตั้งใจ******  ๔ รายละเอียดในแต่ละบท    บทแรก น่าจะเลี่ยงสร้อยเจตนัง"สัญญา"ได้ แต่อาจต้องเปลี่ยนสัมผัสนอก สามารถตัดคำออกได้มากเช่น อันสี่ ที่ห้า ฯลฯ ไม่จำเป็นต้องนับ  บทที่ ๔ สัญญา  รู้สึกแปลกๆกับคำว่า"จู้" ไม่ค่อยสื่อกับความในบทนะ บทที่ ๕ สังขาร  หมายถึงการปรุงแต่งใช่ใหม?? วรรคที่ ๓และ๔ ไม่ค่อยจะรู้สึกเหมือนวรรคที่ ๒ บทที่ ๖ วิญญาณ  อ่านแล้วไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร ความหมายที่แท้จริงคือการรับรู้ใช่ใหม??? ขอเรียนธรรมข้อนี้จากคุณ ลมหนาวด้วย ๕ ที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกจากการอ่าน  ผิดพลาดประการใด เพื่อนๆช่วยให้ความเห็นด้วยครับ(แปลว่าช่วยกันยำหน่อยครับ) ......................................................................... ได้รับความรู้สึกที่ดีที่ได้พบทุกคน  และหนังสือฟรีจากคุณหนูนาอีกเล่ม ขอบคุณครับ จากคุณ : xxx(เฒ่า) - [ 29 ก.ย. 45 14:28:52 A:203.150.32.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 ไปยกจอกร่วมเย้ย .   ชมจันทร์ มิตรมุ่งสมานฉันท์ .    ร่วมถ้อย สืบสานก่อผูกพัน    นานเนิ่น โคลงย่อมเป็นโคลงร้อย สืบไว้วรรณศิลป์   สนุกดีค่ะ ได้เจอคนอีกหลายคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน เป็นการเจอกันหนแรก ประทับใจหลายอย่าง ความอบอุ่นเป็นกันเอง ถ้อยสนทนาที่แลกเปลี่ยนกัน และสิ่งดีๆที่จะกระทำแก่กัน งานนี้พี่หนูนาถือโอกาสส่งหนังสือนิยายไล่ล่าหาคนอ่าน เพราะได้โอกาสทั้งที  งานนี้หนุ่มๆเยอะปกติหนุ่มๆจะไม่ค่อย อ่านนิยายแต่รายการบังคับมอบให้คงจะทำให้ต้องเปิดอ่านกันบ้างละ อยากให้มีงานแบบนี้อีกค่ะ ป.ล.ส่วนตัวจริงๆ ถ้าร้านติดแอร์สักนิดนะคะ เฮ้อ คนมีอายุของตัวเองก็ขี้ร้อนอย่างนี้น่ะค่ะ   จากคุณ : คุณหนูนา - [ 29 ก.ย. 45 15:59:20 ]

ความคิดเห็นที่ 58 จอมยุทธฯ มาถึงร้านยกจอกเย้ยจันทร์ ก็เวลาล่วงมาเกือบหนึ่งทุ่ม หลังจากยืนทำใจอยู่หน้าร้าน ประมาณหนึ่งนาที จึงเดินเข้าไปในร้าน โอ้โห ทั้งร้านมีแขกอยู่โต๊ะเดียว ใช่แล้วโต๊ะนี้ต้องใช่ชาวอาศรมฯ แน่เลย " ใช่งานเลี้ยงชาวอาศรมหรือเปล่าครับ " จอมยุทธฯกลั้นใจถามหลังจากเดินเข้าไปที่โต๊ะ " ม่ายช่าย นี้งานเลี้ยงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติครับ " มีเสียงหนึ่งตอบกลับมา โดนแล้วสิจอมยุทธฯ แต่คนนั่งหัวโต๊ะ ผอมๆมีหนวดน่าจะใช่นายทิวา หัวโต๊ะอีกฝั่งสาวน้อยตัวเล็ก ก็ยัยหนูศาลาไทยนี่นาจำได้ตอนออกทีวี " ใช่ อาพี หรือเปล่าครับ " มีอีกเสียงหนึ่งทักทายมา เอทำไมคิดว่าจอมยุทธฯ คืออาพีหนอ " ไม่ใช่ครับ ผมจอมยุทธฯ ครับ " ต้องรีบแสดงตัวก่อนจะมีคนอื่นเข้าใจผิดอีก " เชิญครับ เชิญนั่งตรงนี้เลยครับ จะรับอะไรดีครับ " นายทิวา ขยับที่ให้นั่งสมเป็นเจ้าภาพจริงๆครับ " ขอเหล้าผสมโซดาครับ " นี่แหละครับของโปรดของจอมยุทธเมรัย จอมยุทธฯ ใช้เวลานั้นกวาดสายตามองไปรอบๆโต๊ะ มีคุ้นๆหน้า หมอโมโน น้องศาลาไทยเพราะเคยเห็น จากหน้าจอทีวี และก็พี่ผู้หญิงหัวโต๊ะอีกท่าน น่าจะใช่คุณหนูนา สำหรับท่านที่เหลือ นอกจากสหายทิวา แล้วไผเป็นไผกันมั่งหว่า " ลองทายซิครับว่าใครเป็นใครบ้าง " พี่ผู้ชายที่นั่งตรงข้ามกับจอมยุทธฯ เอ่ยขึ้นมา ช่วงนั้นมีเสียงแซวหนุ่มถือกล้อง ที่นั่งข้างๆจอมยุทธฯ ทำให้เดาออกทันทีว่า หนุ่มท่านนี้คือ ญาติระอา แน่ ส่วนที่เหลือก็หมดปัญญา แล้วครับ หลังจากที่โดนอำอยู่พักใหญ่ จอมยุทธฯจึงได้รู้จักท่านที่เหลือ พี่ xxx(เฒ่า) มาดสุขุม ดูจะอาวุโสกว่าจอมยุทธฯหลายปี นิรนาม หนุ่มสวมแว่น ตัวจริงต่างกับที่จอมยุทธฯ จินตนาการไว้มาก หมอโมโน ไม่ผิดจากที่เคยเห็นในทีวีเลย เหงาจังเลย เงียบจริงๆนะน้อง ศาลาไทย ตัวเล็กกว่าที่คิดไว้อีกนะเนี่ย พี่หนูนา เป็นผู้ใหญ่อีกท่านทีได้คุยแล้วรู้สึกอบอุ่นมากครับ Pencil 2B ทำงานที่เดียวกับจอมยุทธฯ หรือเนี่ย วันหน้าวันหลังเจอกันอย่าลืมเลี้ยงข้าวจอมยุทธฯ ตามสัญญานะครับ ญาติระอา หนุ่มอารมณ์ดี ทำหน้าที่ตากล้องในงานนี้ ยังไงรูปจอมยุทธฯ ต้องหล่อกว่าตัวจริงนะครับ นายทิวา ไม่มีคำบรรยายบรรยายครับ ทำหน้าที่แม่งานได้เยี่ยมมากๆ หลังจากนั่งคุยกันพักใหญ่ สมาชิกที่เลือก็เริ่มทยอยกันมา ปิ๊วปิ้ว มาพร้อม Noppy ขอยกให้เป็นสองหนุ่มอารมณ์ดีแห่งมีตติ้งครั้งนี้ อาพี ตัวจริงดูเงียบๆนะครับ นึกว่าเป็นคนเมืองคอนเหมือนจอมยุทธฯ แต่กลายเป็นคนสงขลา หรือเนี่ย พี่(ครู)เล็ก เป็นครั้งแรกที่จอมยุทธฯ ได้เจอ ดีใจมากครับ แต่ พี่(ครู)เล็ก คงงงมากๆ เจ้านี่ใช่ จอมยุทธเมรัย ตัวจริงหรือเปล่าหว่า ต่างกับภาพที่คิดไว้ลิบลับ แหะ แหะ นายเดียร์มาพร้อมหนูน้อยนัวเนียร์ นัวเนียร์เลยกลายเป็นขวัญใจของงานไปเลย งานนี้พ่อเดียร์ก้อสบาย ครับ ไม่ต้องเลี้ยงลูก ฮิ ฮิ พี่แดงน้อย แม้จะมาอยู่ได้ไม่นาน แต่ก้อประทับใจครับ เอ็นจัง ต้องยกให้เป็นสาวเสียงใสแห่งงานหละครับ พอหอมปากหอมคอก่อนครับ     จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 29 ก.ย. 45 19:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แวะมาฟังเพื่อนพ้อง.........................พบเจอ แถมท่านจอมยุทธเกลอ.......................เล่าแจ้ง อ่านไปแอบยิ้มเผลอ.........................ดูสนุก จึ่งนั่งรอแช่แป้ง............................อยากรู้อีกตอน จากคุณ : รสา รสา - [ 29 ก.ย. 45 21:08:44 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อื้อออออ อิจฉา อิจฉา..ลูกลิงไปตกระกรรมลำบาก โน่นนนน สัมนาเพชรบุรีโน่นนนน แน่ะ ...ฝากไว้ก่อนโอฬาร์ คราวหน้าไม่พลาดเป้าแน่นอนอ่ะ .. ตาจันทรคราส ห้ามอู้นา..เอารูปมาแปะเร็วๆๆๆๆ... จากคุณ : จังงัง - [ 29 ก.ย. 45 21:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ๏ น้ำ....ป่าน้ำบ่าน้ำ....................นองเรือน ท่วม....ถล่มทลายเฉือน.............ฉีกริ้ว น้ำ.......ซัดเซาะกัดเหมือน........หมายกลบ.........ลบฤๅ ใจ.......หวั่นน้ำคลั่งกริ้ว............กรากขยี้เหยียบผลาญ ๚ ๏ น้ำ....เอ๋ยเคยชุ่มชื้น................ฉาบดิน ท่วม....ถั่งโถมพังภินท์..............พับบ้าน น้ำ......ใจช่วยใจริน...................โรยเอื่อย ใจ......สู่ใจสู้ต้าน........................ตักน้ำคืนละหาน ๚ ๛ ================================================= มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน ... ไม่ได้เข้ามาแวะเวียนที่อาศรมฯ ซะนาน จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ได้รับโทรศัพท์จากท่านจอมยุทธฯ .... ทำให้รู้ว่าวฤกพลาดโอกาส อันหาได้ยากไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว ไม่ได้ไปร่วมงาน ... ก็ขอยกจอกเย้ยจันทร์นอกรอบ นะครับ ============================================= ๏ ยก.......จิบยื่นจอกย้ำ...................ยืนเคียง จอก........นี่นับสนิทเพียง...............พี่น้อง เย้ย.........สนุกเยาะสนานเสียง........สรวลสนั่น......สนองฤๅ จันทร์....จับจอกจัณฑ์จ้อง...............เจิดแจ้งแสงฉาน ๚ ๛ ปล. ไม่ได้เขียนโคลงมานาน ...สนิมจับจนขยับไม่ออกเลยครับ .. จากคุณ : วฤก - [ 29 ก.ย. 45 22:20:34 ]

ความคิดเห็นที่ 62 • แวะมาโม้ต่อนะครับ สิ่งที่ประทับใจเมื่อคืนมีหลายอย่างตั้งแต่การได้พบผู้เฒ่า(ด้วยกัน) คือคุณ xxx(เฒ่า) เพราะรู้จักกันมานานนับปี แต่ก็ไม่ถึงกับใกล้ชิดติดพัน เพราะท่านหายตัวได้เป็นนิจศีล ได้พบกับคุณหมอหนุ่มรูปหล่อ(โมโน)เป็นครั้งแรก ประทับใจในความหล่อ ... อิอิ ได้พบคุณหนูนา คนคุ้นเคยกัน พร้อมหนู pencil 2B ที่ยังมีรอยยิ้มพิมพ์ใจเหมือนเดิม เจ้าหนูศาลาไทยนี่ก็พบบ่อย แถมตอนหลังยังมานั่งคุยกันอีกเหมือนเอาลูกมาด้วยเลยแฮะ! ได้พบอาพีนี่งงมากว่ามาได้ไงนึกว่ายังอยู่ที่โพ้นทะเลอยู่เลย ท่าทางขรึมๆ เลยฝ่อ ไม่กล้าแหย่ อิอิ เจอนิรนามยิ่งนึกไม่ถึงใหญ่ เพราะนึกว่าจะอายุแถวหลักสี่ (สำนวนแก่ ฮิฮิ ) แต่ตัวจริง “เบเบี้เฟซ” แต่เจ้าจอมยุทธเรไรนี่ ตอนแรกนึกว่าจะสะโอดสะองเหมือนพระเอกหนังจีน ที่แท้ยังกะนักกล้าม 555! เหงาจังเลยนี่เหงาจริงๆ นั่งอยู่ไกล ก็เลยไม่ทันได้คุยกัน ได้แต่ยิ้มและสวัสดีทักทายกันด้วยความยินดี เจ้าหนุ่มน้อย ๒ ตน นายนพปี้ กับอีตาปิ๊วปิ้ว (ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร) ตอนแรกก็ดูดี แต่พอเมาแล้วก็พอกัน แม่หนูเอ็นจังนี่น่าจะสมัคร ส.ห. เอ๊ย ส.ส. เพราะเสียงไม่ตกเลย หมอนี่ไปงานไหนไม่มีงานกร่อยน่ารักมาก นายเดียร์พร้อมลูกน้อยนัวเนียร์แสนซนและพี่เลี้ยงเข้ามาเพิ่มสีสันบรรยากาศให้อบอุ่นขึ้นเมื่อมีเด็กมาวิ่งเล่น แดงน้อย เจ้าเก่าแวะมาทักทายสักพักใหญ่ๆ พอดีพี่เล็กนั่งแล้วรากงอกเลยไม่ได้ไปดูน้องแม็กซ์ที่หลับอยู่ในรถ อ๊ะจ๊าก! หันไปเจอ “ญาติระอา” ตกกระ ใจ นึกว่าแหกพรรษามา (พอดีตกข่าว) เป็นหนุ่มใหญ่วัยหล่อหุ่นดี ถือกล้องอันเบ้อเริ่ม เล็นซ์ซูมยังกะบ้องข้าวหลามหนองมน พี่เล็กเลยทิ้งกล้องตุ๊ดตู่ไว้ในรถ ไม่กล้าหยิบมา ชอบเรียกพี่เล็กว่า “เฮียเล็ก,เฮียเล็ก” ถ้านั่งใกล้ๆก็พอได้ แต่พอนั่งไกลๆ แล้วเรียกอย่างนี้สะดุ้งทุกที .. อิอิ สุดท้ายก็เจ้าของบ้าน (อย่าไปเรียกว่าเจ้าภาพ) ก็คืออีตา “ทิวา” คนรุ่นใหม่ไฟแรง ประทับใจมากเฉพาะเมื่อคืน เพราะได้นั่งคุยกันมากมายหลายๆเรื่อง คงใช้เวลานานเป็นชั่วโมงแต่ดูเหมือนว่าระยะเวลามันน้อยเหลือเกิน พี่เล็กไม่ได้สนิทกับนายทิวามากกว่าคนอื่นๆนะครับ เพียงแต่เมื่อคืนนี้มีโอกาสได้ใกล้ชิด เอ๊ย  นั่งติดกัน ..อ๊ะจึ๋ย รู้สึกว่าเป็นคนที่จริงใจและจริงจัง น่าคบกว่าที่ได้พบเห็นกันในเน็ต (ชมนะ ไม่ใช่ด่า อิอิ) และก็เป็นคนมีน้ำใจดี เมื่อคืนนี้มีน้องๆ ขึ้นไปร้องเพลงหลายคน คิดว่าคงจะไพเราะเพราะพริ้ง พอดีโม้ติดพันเลยฟังแค่ผ่านๆ เท่านั้น มาตั้งใจฟังก็ตรงที่นายทิวาไปเล่นกีต้าร์และร้องเพลง “เดือนเพ็ญ” ซึ่งเป็นเพลงที่เพราะและชอบมากจึงชื่นมื่น *** ไม่ทราบว่าตกหล่นไม่ได้กล่าวถึงใครบ้างหรือเปล่า? ทวงมาได้นะครับ เพราะเมื่อคืนเจ้านพปี้ก็มาต่อว่านิดๆ ว่าเวลามาแจมกระทู้พี่เล็ก บางทีพี่เล็กก็หลงลืมหรือตอบไปนิดเดียว ไม่สะใจ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเวลาและอารมณ์ อิอิ *** ความจริงความประทับใจที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ไม่เฉพาะที่ได้กล่าวถึงนะครับ แต่เป็นความประทับใจโดยรวมที่ได้พบกัน อาจไม่ค่อยได้คุยกันกับน้องบางคน แต่ก็ยินดีมากที่ได้มาเจอกัน อย่างน้อยระยะเวลา ๔ ถึง ๕ ชั่วโมงเมื่อคืนนี้มันช่างสั้นจริงๆ เลยครับ *** ขอขอบพระคุณ คุณหมอโมโนที่ได้มอบหนังสือ “โคลงนิราศนรินทร์” ให้กับพี่เล็ก ซึ่งความจริงแล้วนายทิวาก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับเช่นกัน (ทายปัญหาถูก)  แต่นายทิวามีน้ำใจสละสิทธิ์ให้พี่เล็ก ซึ่งพี่เล็กก็สละสิทธิ์ให้นายทิวาเช่นกัน ก็เกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา (เกี่ยงกันเป็นผู้ให้) สุดท้ายพี่เล็กก็จำยอม จึงขอขอบพระคุณทั้งคุณหมอโมโนและนายทิวา มา ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง  และขอขอบพระคุณคุณหนูนาเช่นกัน ที่ได้มอบหนังสือที่ถูกใจ “เขยนอกสังกัด” ของ ‘กันยามาส’ (คุณหนูนานั่นแหละ) เอาไว้เตรียมการฮึ่มๆ ในอนาคต ปล.เมื่อคืนก็ได้คุยกันถึงมิตรสหายหลายๆ ท่านที่พวกเราคิดถึงกันอาทิ ครูหนอนฯ จัสมี และคุณหมอวฤก ฯลฯ น่ะครับ จากคุณ : lek Isara - [ 29 ก.ย. 45 23:54:57 ]

ความคิดเห็นที่ 63 น้ำ จากธรรมชาติข้าม               แดนดุ ท่วม ไร่นาเมืองลุ                     กลบด้าว น้ำ ทิพย์ระยิบมุ                       มานะ ใจ กอดใจไทยก้าว                   กอบกู้เกื้อกัน ฯ ดีใจกับทุกท่านที่ได้ไปร่วมพบปะคุยกันครับ มาอ่านเรื่องราวอันแสนประทับใจด้วยคนครับ ได้แต่นึกเสียดาย ครับ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 29 ก.ย. 45 23:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 64 จะขอกล่าวถึงบรรยากาศในมุมมองของสายตาหนุ่มน้อย (แก่มาก)อย่างข้าพเจ้าซึ่งได้มีโอกาสคว้า "เกียรติ"ที่ บรรดาพี่พ้องน้องเพื่อนทั้งหลายกระจายว่อนไว้ในหลาย หลายอาศรมถึงการเชื้อเชิญให้ไปร่วมในงานสังสรรค์ครั้งนี้ ประกอบกับน้องนพพีซึ่งเป็นหนึ่งในน้องชายตัวดีและขี้เมา ด้วยกันนี้ก็ได้เอ่ยปากชักชวนเป็นที่กระชับยิ่งทุกวันเวลา หลังอาหารและก่อนทานเหล้า.. รูปร่างของหนุ่มน้อยสะโอดสะองตาโตใส่แว่นจมูกโด่งคิ้ว โค้งเหมือนวงจันทร์ก็ปรากฎขึ้นในเวลาประมาณสองทุ่ม ยาม กวาดสายตาคมงามนั้นไปยังพวกพ้องน้องพี่ที่นั่งคุย กันอึ่งมี่นั้นด้วยจิตที่ระริกกลัวปอดกระเส่า..ว่าจะมีใคร หนอที่รูปหล่อเหมือนเราหรือเกินหน้าเราไปได้บ้าง..เมื่อ โกยสิ่งที่กวาดมานั้นได้แล้วก็ให้โล่งในหัวอกเหมือนยก ภูเขาออกจากใจ ว่าเอ๋ย..กระเรยไรกระไรเลย แต่ละคนแต่ ละท่านก็รูปร่างประมาณกัน..อายุอานามรวมกันยิ่งประมาณ ว่า เปรียบจำนวนนับของขวดสุราและโซดาที่ถูกพล่าไปนั้น ยังมิเทียบได้ ให้เอาขวดแป๊บซี่ดีที่สุดหรือโค๊กซ่าสุดฤทธิ ในร้านมารวมเข้าก็ยังไม่ครบ กระทิงแดงเอ็มสิบหกก็ยังยก ยอดมารวมเสีย หันไปนับฝาเบียร์ที่หล่นเรี่ยอยู่แถวนั้นถึง พอจะใกล้เคียง..ได้เทียมพัน หนึ่งนั้นสาวน้อยตัวเล็กแต่ความสามารถเป็นเอกคงมีเลข เป็นโทมีสาโทเป็นน้ำย่อย..สะสวยสะคราญผู้ประดิษฐ์ดอย โคลงร้อยกระทู้ได้ในเวลาน้ำในกายังไม่ทันขึ้นไอ..เธอ เรียกตัวเองว่าศาลาไทยพักรัก..เหตุไฉนศาลาไทยจึงตัว เล็กนัก..น้องรักเลยถูกเรียกว่าเป็นศาลพระภูมิด้วยเหตุนี้ เธอเก่งกาจสามารถนำเรื่องราวสาระมาสู่ที่ประชุมฟุ้งเหล้านี้ ได้ ด้วยการเปิดประเด็นเป็นประเด็ดให้พวกเราเหล่าหัวเด็ด ได้ออกความคิดเห็ดเอ๊ยความคิดเห็น..ว่าจะมีโครงการทำ อะไรหรือไม่ให้เป็นที่ระลึกของเหล่าเราชาวอาศรม..ใน โอกาสที่ได้ระดมตั้งอาศรมกันมาเป็นร้อยเป็นพัน ข้าพเจ้า นั้นตรอมตรมอยู่กับสายลมและกลิ่นเหล้า..นั่งตาปรือนิ่งงำ เอาแสดงว่ากำลังครุ่นคิด พยักเพยิดเฉิดเฉลาไปกับความ เห็นที่ยิงออกมาติดติดเหมือนจุดพลุจากคุณทิวาและราตรี อ้อคนหลังนั้นยังไม่มียังไม่มา และจากคุณเล็กอิสระพา สาระอีกท่านหนึ่ง รวมทั้งท่านอื่นที่ผมยังเมาไม่หายเลยยัง นึกไม่ออก...ในตอนนี้ อีกหนึ่งหญิงที่ดูเหมือนกลายเป็นคุณป้าหรือคุณแม่ตามที่ น้องศาลพระภูมิเรียก แต่ด้วยสายตาอันครมกริบของ ข้าพเจ้าเมือแลแล้วนั้นมิเห็นด้วยไปได้เลย เธอออกจะสด ใสน่ารักและน่าเคารพ แต่ละคำแต่ละความคิดที่หยิบยก ออกมาจากเธอนั้นล้วนน่าฟังด้วยเหตุและผลและความเป็น จริง นับว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้มีประสพการณ์ตัวจริงเสียงจริง สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ว่านิ๊งในเรื่องนี้ก็คือบรรดานวนิยายท้ายรถ ของเธอที่เธอนำติดมาด้วย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่น้อง ๆ และ ลูก ๆ จนหนำใจทุกผู้ตัวคน นามปากกาที่ใช้ล้วนแต่ไพเราะ เพราะพริ้ง แต่อยากจะถามเธอจริงจริงว่า "หนูนา" นี้พริ้งที่ ตรงไหน คงจะเป็นดวงตาที่ใสใสและความคิดที่ว่องไว ประดุจมุสิกถูกงูไล่ในท้องนา..ปานนั้น ก็คงจะได้กล่าวถึงจนครบถ้วนทุกตัวคน แต่ตอนนี้คงต้อง ขอพักนิ้วให้หายเมื่อขบ บรรจงจรดขอบแก้วชิดริมฝีปาก สาดหยาดน้ำสีอำพันนั้นให้ล่วงลงไปที่คอ..เผื่อจะได้ถอน จากเมื่อวานที่ล้นคอออกมาจนปริ่มปาก..นี้จึงเป็นสาเหตุที่ ข้าพเจ้าได้เป็นคนขอให้คิดเงิน เนื่องจากข้าพเจ้าเมาจนไม่ ไหวแล้วนั่นเอง..จะขอตัวกลับก่อนก็ติดว่าข้าพเจ้าต้องรับ ผิดชอบในสิ่งที่ได้พล่าได้ผลาญนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสุราหรือ หารที่แสนอร่อย แม้เจ้าของร้านจะเป็นคนรู้จักหน่อยแต่ก็มิ น่าที่จะถือโอกาสนั้นไม่ต้องจ่ายเงินไปได้ ถ้าหากเกิดไป ขวางอารมณ์สนุกของท่านใดก็ต้องขออภัยไว้ที่นี้ด้วย และ รับรองว่าอาการติดลมจะกลับมาในงานเลี้ยงครั้งหน้าอย่าง แน่นอน..ครับผม จากคุณ : ปิ๊วปิ้วขี้เมา - [ 30 ก.ย. 45 01:04:41 A:203.107.147.107 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 อรุณสวัสดิ์ชาวอาศรมค่ะ และแล้วงานสังสรรค์ที่ร้านยกจอกเย้ยจันทร์ก็ผ่านไปได้อย่างทุลักทุเลและจบด้วยดี สำหรับบรรยากาศในงานนั้นคงต้องฟังจากหลายๆคนช่วยกันเล่าพร้อมภาพประกอบ จริงตั้งใจจะเล่ายาวๆ แต่เช้านี้ต้องรีบออกไปติดต่องานข้างนอก ขอผัดไปก่อน (ตามเคย) เอามัดจำมาแปะไว้เป็น "ลายมือ" ของญาติมิตรที่ไปร่วมงานกันอย่างคับคั่งที่สุด (เท่าที่เคยเห็น) ลายมือใครเป็นอย่างไรคงต้องดูกันเอาเอง  ตามคำโบราณ "ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ" ๏ ภาพ ยี่สิบแปดนั้น         คืนเสาร์ วัน สิบเก้าเพื่อนเรา          ร่วมพร้อง พบ ครูสู่ศิษย์เนา            เฉลยลักษณ์  แผกแฮ มิตร ยกจอกจันทร์คล้อง     ครึกครื้นโคลงสมาน  ๚ะ๛ อ้อข้อความจากรูปที่เอามาฝาก ฉบับถอดความ จะเอามาให้อีกที ตอนนี้ให้แกะเองก่อน เอิ้กๆ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 45 08:20:07 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 30 ก.ย. 45 07:57:30 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ก๊าก...ศาลาไทย ..แบบว่า เขียนก่อนเมาหรือหลังเมาอ่ะ .. พยายามอ่านแบบสุดๆแล้วอ่ะ แหม..ท่านปู่(เมรัย) คงคุ้นกับกระดานชนวนอ่ะ อ่านยากจังแฮะ ส่วนบทที่สอง เล็งแล้ว เล็งอีก บางบรรทัดแทบเอากล้องจุลทรรศน์ส่องนะ มองม่ายค่อยเห็นเลยอ่ะ ... คิก คิก ..แบบว่าไม่ได้ไป แต่ขอป่วนจั๊กโหน่ยยย จะได้คิดถึงอ่ะ เนอะ เนอะ .. จากคุณ : จังงัง - [ 30 ก.ย. 45 08:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 67 นอกเหนือจากนี้  ยังมีของแถมเป็นโคลงที่ยังแต่งไม่จบ (จริงๆคิดว่าจบแล้ว แต่จำไม่ได้มากกว่า) ที่ว่ากันสดๆในงาน สาเหตุมาจากมาจากบทสนทนาสั้นๆ ระหว่าง ศาลาไทย พี่นิรนาม พี่หมอโมโน  คุณแม่หนูนา และคุณ xxx เฒ่า ศาลาไทย :  พี่นิรนามบ้านพี่อยู่แถวไหนคะ นิรนาม    :  อยู่แถวหัวลำโพงจ้ะ ศาลาไทย :  ยิ้มเจ้าเล่ห์ ... หัวลำโพงนัดน้อง   หกโมง นิรนาม    :  ??? โมโน      :  โคลงบาทแรกงัยครับ  น้องเขาขึ้นมาก่อน นิรนาม    :  อ๋อ อิๆ     หัวลำโพงนัดน้อง        หกโมง                          เจ็ดครึ่งโดดจากโปง     อาบน้ำ โมโน      :    หัวลำโพงนัดน้อง          หกโมง                เจ็ดครึ่งโดดจากโปง        อาบน้ำ                เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง       รถติด xxx เฒ่า  : ................... (จำไม่ได้) แม่หนูนา    : ................... (จำไม่ได้) เลยได้โคลงสามบาท  มาฝากให้ชาวอาศรมช่วยกันต่อให้จบ หัวลำโพงนัดน้อง              หกโมง เจ็ดครึ่งโดดจากโปง           อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง         รถติด ....................         ............ ภาพบรรยากาศภายในงาน  ช่างภาพฝีมือดีรับปากจะรีบมาให้ยลโฉมกันเร็วๆนี้รอหน่อยนะคะ และท้ายสุด  วันนั้นถ้าศาลาไทยพูดอะไรที่ไม่ทันคิด  และผิดกาละเทศะ  สร้างความขุ่นเคืองไปบ้าง ต้องขออภัยทุกๆท่านด้วย  เพราะจริงๆแค่อยากให้บรรยากาศสนุกสนานไม่เครียดเท่านั้นเอง  ชะแว้บไปทำงานก่อนนะเจ้าคะ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 45 08:17:54 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 30 ก.ย. 45 08:12:14 ]

ความคิดเห็นที่ 68 บทโคลงกลอน-กลอนโคลง..." โสมสะคราญ " จากหัวใจของใครคนหนึ่ง เจ้าค่ะ... โคลงกลอน (๑) .....สายฝนหลั่งพรั่งฟ้า.............วสันต์ กาลผ่านเนิ่นนานพลัน................ฉ่ำชื้น ยามสายเจิดตะวัน.....................พรรณพร่าง กระจ่างพรายไป่มลื้น*...............ดุจ*คล้ายหทัยบาน ฯ (๒) .....มวลวิหกนกน้อย...............คอยเคียง ติดพินิจคิดเพียง.....................เยี่ยงเย้า เรียงขานขับสำเนียง.................เสียงส่ง บ่งแล นานดุจเพลงกานท์เฝ้า...............หมั่นเร้าราวโสดม* ฯ (๓) .....รุ้งทอแสงแหล่งหล้า............ณ นภา เพริศยิ่งบรรเจิดหา..................เลิศใกล้ เฉิดโฉมกัลยา*........................หาสิ่ง อิงแม่ โพยมพร่างพราวโสมไล้............จ่มใว้ชมเชย ฯ (๔) .....ทุกทิวาว่าใว้.......................ไป่หลง จิตแน่วพินิจคง.......................ชิดเชื้อ คิดเอ่ยเนื่องอนงค์ตรง............ใฝ่บ่ง เปรียบเอย สบถเอ่ยเปรยเอื้อ....................เพื่อใกล้เนื้อนวล ฯ ******** กลอนโคลง (๑) สายฝนหลั่งพรั่งฟ้าวสันต์กาล ผ่านเนิ่นนานพลันฉ่ำชื้นยามสาย เจิดตะวันพรรณพร่างกระจ่างพราย ไป่มลื้นดุจคล้ายหทัยบาน (๒) มวลวิหกนกน้อยคอยเคียงติด พินิจคิดเพียงเยี่ยงเย้าเรียงขาน ขับสำเนียงเสียงส่งบ่งแลนาน ดุจเพลงกานท์เฝ้าหมั่น เร้าราวโสดม* (๓) รุ้งทอแสงแหล่งหล้า ณ นภาเพริศ ยิ่งบรรเจิดหาเลิศใกล้เฉิดโฉม กัลยาหาสิ่งอิงแม่โพยม พร่างพราวโสมไล้จ่ม*ใว้ชมเชย (๔) ทุกทิวาว่าใว้ไป่หลงจิต แน่วพินิจคงชิดเชื้อคิดเอ่ย เนื่องอนงค์ตรงไฝ่บ่งเปรียบเอย สบถเอ่ย เปรยเอื้อเพื่อ ใกล้เนื้อนวล ฯ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 45 10:59:36 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 45 10:23:14 จากคุณ : จังงัง - [ 30 ก.ย. 45 10:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 69 .....แสนไพเราะพริ้งเพราะขอชมชื่น แม่ระรื่นร่ายเรียงสมเที่ยงถ้วน เรียงกำหนดพจน์คมสมดั่งทวน รจน์กระบวนล้วนอร่ามล้ำเลิศรมย์ ฯ .....แสนไพเราะพริ้งเพราะ...................ขอชม-  ชื่นแม่ ระรื่นร่ายเรียงสม...............................เที่ยงถ้วน เรียงกำหนดพจน์คม...........................สมดั่ง ทวนรจน์กระบวนล้วน..........................อร่ามล้ำเลิศรมย์ ฯ จากคุณ : the kop พเนจร - [ 30 ก.ย. 45 10:49:54 A:203.107.138.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 แม้นห่างกายหมายว่าอย่าห่างใจ ยังฝักใฝ่ใคร่คล้องดองสมาน เปรียบนกน้อยคอยเคียงเสียงเบิกบาน ร่วมเรียงขานหวานแว่วแนวพฤกษ์ไพร ฮั่นแน่ ..ย่องมาไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจเลยนะ จากคุณ : จังงัง - [ 30 ก.ย. 45 11:04:08 ]

ความคิดเห็นที่ 71      ๏    "หัวลำโพงนัดน้อง         หกโมง เจ็ดครึ่งโดดจากโปง                 อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง               รถติด" ธุระเสร็จเรารีบจ้ำ                     สี่ขรึ้งถึงแถง ๚ แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 45 14:02:46 จากคุณ : ลูกปูขี้แย (เหงาจังเลย) - [ 30 ก.ย. 45 12:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 72 น้องหนูศาลาไทย ตอนที่โทรมาปลุกเจ๊จากที่นอน บอกว่าจะมีคนมาส่ง ที่ไหนได้ เขาเมากว่าพี่อีก สุดท้ายกลับคนเดียว ดีนะ ที่มีหน้าเป็นอาวุธ  taxi เลยไม่กล้าทำอะไร พี่ๆ ทุกท่านเอ็นจัง อร่อย มาก คราวหน้ามีอีก ห้ามปิดกันนะ โทรมาเลย จะหนีการหนีงานตามไปกิน น้อยใจไม่ได้หนังสือเลย ฮือๆๆๆๆๆ จากคุณ : เอ็นจัง - [ 30 ก.ย. 45 13:01:57 A:203.146.130.80 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73      ๏     ปิงวังยมน่านน้ำ             เจ้าพระยา ป่าสักแม่กลองสา-                     หัสซ้ำ มูลชีฝั่งโขงขวา                         ขวานท่วม หกสิบจังหวัดช้ำ                         ครึ่งล้านครัวเรือน ๚      ๏     น้ำ   น้อยคงแข้มิด         แม่ตีน ท่วม     เท่านี้ปีนเรือน                 หลบพ้น น้ำ       มากมิดสวนมีน-              บุรีเล่า      พ้นฤๅ ใจ       ช่วยโดยให้ท้น                 สิ่งประเทา ๚                        ๏     ยก   จอกท่านยื่นทิ้ง        ท่อระบาย     น้ำแม่ จอก      ฤ หายกระหาย                จอกจ้อย เย้ย     กันอย่างนี้ขาย                   หน้าหมด จันทร์   เด่นเป็นดาวด้อย               ดื่มร้อยเรียกจันทร์ ๚      ๏     พี่หนูนามอบน้อง             หนังสือ คำขอบคุณแทนมือ                      นอบไหว้ น้ำมิตรทุกคนคือ                         สิ่งทราบ     ใจนา ยิ่งกว่าที่ข้าได้                             อิ่มฟรี ๚ จากคุณ : เหงาจังเลย - [ 30 ก.ย. 45 13:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 74 :~(~~~   ฮือ ๆ ไม่ได้ไปด้วย เสียดายจริง ๆ -=-แกะลายแทง (๖๕) ได้ว่า-=- ******************************************************* ..คว้าจอก กรอกคอ รอจันขึ้น [ญาติระอา] ..คนมีกึ๋น ร่วมชุมนุม ร่วมสุมหัว [คุณหนูนา] ..จันทร์ไม่ตก จอกไม่ตก ไม่หายตัว [เหงาจังเลย] ..เมาไม่กลัว กลัวไม่เมา เย้ากันเอง [จอมยุทธเมรัย] ..บรรเลงโคลงหยัดยื้อ       คำยาว    [ศาลาไทย] ..จารจิตคิดคำพราว           ร่วมคล้อง [Noppy] ..จารคำร่ำคำราว              ไออุ่น มิตรเอย [ปิ๊วปิ๊ว] ..ไมตรีต่อพวกพ้อง           ร่ำให้ใจโหย     [ญาติระอา] ...[...อ่านม่ายออก...] .. ..วะเหวย ! จันทร์ฤาเย้ย มิตรสหาย [นายทิวา] ..จอกข้าสิ น่าอาย ไร้เหล้า             [พี่เล็ก]         ..บรรยากาศ สิชอบ ไช่ชอบเมา      [จอยุทธเมรัย] ..ขอสร่างเศร้า ด้วยเหล้า มงคล     [ญาติระอา] ..มารวมยกจอกแกล้ม       กินโคลง [คุณหนูนา] ..วัยต่างต่างอยู่โยง           ร่วมเช้า   [ศาลาไทย] ..แซวสดับกับแกล้มโยง    เกาะเกี่ยว  กันนา [Noppy] ..ร่ำกาพย์ยกจอกเหล้า      ยกเย้ยจันทรา  [จอมยุทธเมรัย] *************************************************** -=สังเกตหว้า!   ท่านจอมยุทธเมรัย เนี่ยแต่งไป ๓ บาท ทุกบาทเกี่ยวกะเหล้าหมดเลย ลองนำมาเรียงกันใหม่ จะเห็นได้ชัดมาก ;-) [จอมยุทธเมรัย]   วะเหวย! จันทร์ฤเย้ย             มิตรสหาย        [ยืมมาจากท่านทิวา] เมาไม่กลัวเพียงหมาย               หยอกเย้า บรรยากาศสิชอบจาย               ไช่ชอบ เมาเวย   ["ใจ"  พอเมา ๆ ก็ออกเป็น"จาย" ฮิฮิ] ร่ำกาพย์ยกจอกเหล้า               ยกเย้ยจันทรา  ๚ **************************************************** -=แม่หญิงศาลาไทย  เนี่ยแต่งไป ๒ บาท เห็นว่าจะเกี่ยวกับ โคลง และ เพื่อนต่างวัย (ครูศิษย์) ทำนองเนียะ ก็เลยจับมาโยงกันใหม่รวมกับลำนำ(๖๕) ได้ทำนองนี้แหละ :-P [ศาลาไทย]   บรรเลงโคลงหยัดยื้อ         คำยาว     วัยต่างต่างเกรียวกราว          ร่วมเช้า   พบครูสู่ศิษย์สาว                  เฉลยลักษณ์  แผกแฮ มิตรยกจอกจันทร์เคล้า         ครึกครื้นโคลงสมาน  ๚ ***************************************************** .... อ้อ! มีโคลงค้างไว้ ๓ บาท ลอง ต่อดูถี ..(ฮิฮิ.. ไม่ได้ไป เลยป่วนอย่างเดียว)   "หัวลำโพงนัดน้อง                 หกโมง เจ็ดครึ่งโดดจากโปง                 อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง               รถติด" บ่ายกว่าท่าจะแย่จ้ำ                  กระโดดขึ้นแมงกะไซด์ ๚ จากคุณ : อกนิษฐ์ (BAU93) - [ 30 ก.ย. 45 15:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 75 @ วางจอกหยอกเพื่อนเย้ย.......... เมรัย.. ..รินแต่รสฤทัย.......... ปริ่มแก้ว.. ..คุยกันหลั่นเรียงราย.......... ประสาชื่น.. ..เดือนต่ำยามสองแล้ว.......... จึ่งร้างห่างกัน. จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 76 .. จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ..ขอโทษที่เอารูปมาลงช้าไปเล็กน้อยนะครับ.. จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:12:48 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ... จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 79 . จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ..... จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ...... จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ........ จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:21:53 ]

ความคิดเห็นที่ 84 . . จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 85 . . . จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 86 . . . . จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 87 . . . . . จากคุณ : ญาติระอา - [ 30 ก.ย. 45 15:30:41 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ท่านญาติ เราขอเสนอว่า ตั้งกระทู้สำหรับรูปต่างหากดีไหม เพราะเวลาโลดจะได้ไม่ช้าค่ะ จากคุณ : เอ็นจัง - [ 30 ก.ย. 45 15:32:24 A:203.146.128.5 X: ]

ความคิดเห็นที่ 89 ..โอเชเลยเจ้าค่าาาาาาาา.. ..กำลังคิดว่า.. ..เฮ่ย.. ทำไมถึงโหลดนานจังเลยฟะอยู่เหมือนกัน.. ..งั้น.. ..เดี๋ยวผมรอให้คุณนัวเนียร์ฯ.. ..มาเปิดกระทู้ภาพงานมี๊ตติ้งก็แล้วกันนะขอรับ.. จากคุณ : ..ขออภัยในความมะสะดวก.. (ญาติระอา) - [ 30 ก.ย. 45 15:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 90  ๏ ๏ ๏ ลิลิตยกจอกเย้ยจันทร์ ๏ ๏ ๏ ร่ายสุภาพ ๑ ๏ ศรีสิทธิมงคล                วันนัดคนอาศรมฯ                   รวมชมรมชาวโคลง สืบจรรโลงอักษรา              กันยายนวันเสาร์                   นัดเอายี่สิบแปด ยามแสงแดดอ่อนอ่อน        ก่อนย่ำสนธยา                        รอจันทราส่องสว่าง รอแสงดาวพร่างแต้ม         ยกจอกเย้ยจันทร์แย้ม              ยั่วเย้าดาวเดือน   พ่อเอย โคลงสามสุภาพ ๒ ๏ แม้คลาดเคลื่อนหกโมง                นัดชาวโคลงเพื่อนแก้ว จอมยุทธฯมาถึงแล้ว                        ถิ่นร้าน"...เย้ยจันทร์" ๓ ๏ พลันกลัวอีกสับสน                         เพราะหลายคนแปลกหน้า เดินดุ่มใช้ความกล้า                         ร่วมเข้าพูดคุย ๔ ๏ หวังลุยดูสักครั้ง                             โดนอำตั้งแต่ต้น หลากมุขแต่สุขล้น                             เสน่ห์พ้องอาศรมฯ ร่ายสุภาพ ๕ ๏ ชื่นอารมณ์หลากหลาย          เจ้าถิ่นนายทิวา                 ยัยหนูศาลาไทย                     พี่ใหญ่สามเอ็กซ์เฒ่า           นั่นเล่านิรนาม                   ตามด้วยหมอโมโน โอ้โหเหงาจังเลย                 เผยตัวญาติระอา               พี่หนูนาใจดี Pencil2Bเคียง        สมาชิกเพียงล่อล้อ            จอมยุทธฯฤๅจักท้อ ยกแก้วสังสรรค์ โคลงสี่สุภาพ ๖ ๏ จำนรรจ์เจื้อยแจ้วจาก                 ศาลา ไทยแม่ ทายทักเป็นภาษา                          ถิ่นใต้ ตัวเล็กแต่อักษรา                           แม่เด่น ผ่องประกายฉาบไว้                        ยอดแล้วกวิณี ๗ ๏ นิรนามนามนี้เด่น                       อาศรมฯ ได้ชิดได้ชื่นชม                              พ่อแล้ว ฝีปากแห่งปราชญ์ผสม                    ความคิด วิจิตรแฮ คารวะด้วยจอกแก้ว                         จอกนี้สนองสนาน                         ๘ ๏ แม้งานหมอหนื่อยล้า                      เพียงใด ฤๅจักท้อถอยใจ                                เสกสร้าง โมโนดั่งประทีปไข                            คุณค่า กวีแฮ ยอดแห่งวรรณกรรมสล้าง                  ว่ายเวิ้งวรรณศิลป์ ๙ ๏ ยินชื่อยอดแห่งบ้าน                        ผะหมี พี่เอ็กซ์เฒ่าร่ำวลี                              เยี่ยมถ้วน นามเด่นอีกงานมี                              จุดเด่น คำเรียบง่ายแต่ล้วน                            ลึกล้ำงานงาม ๑๐ ๏ นักเขียนนามอุโฆษก้อง                   ทั้งสยาม นามปากกาหลายนาม                         กู่ก้อง                         นวนิยายหลากเรื่องหวาม                     ไหววูบ จิตแฮ งานพี่หนูนาพ้อง                                  ค่าล้นยิ่งทอง       ร่ายสุภาพ ๑๑ ๏ น้องPencil 2B    ทำงานที่เดียวกัน                   ไว้สักวันคงเจอ จะให้เธอเลี้ยงค่าว(ข้าว)    ไม่ค่อยกล่าววาจา                  จนเวลาเธอกลับ จนลาลับเพื่อนพ้อง                         นั่งเงียบจริงนะน้อง               พี่แกล้งแซวไป ๑๒ ๏ หนุ่มใหญ่ญาติระอา                     ท่านมาพร้อมกับกล้อง            รูปพี่น้องสังสรรค์ ในเร็ววันคงเห็น                             ใครเป็นใครกันบ้าง                 อีกทั้งสร้างความสุข รอยยิ้มสนุกสนาน                            อีกผลงานรจน์ถ้อย                  ที่เสกคำเรียงร้อย เลิศแล้วอีกนาม ๑๓ ๏ ฤๅเกรงขามเพื่อนพ้อง                 ไยน้องเหงาจังเลย                  ไม่ค่อยเผยวจี แต่งานกวีโดดเด่น                          เช่นที่บ้านผะหมี                      งามวลีอักษร ทั้งกาพย์กลอนโคลงฉันท์                สารพันเสกสร้าง                      งามบทงามสล้าง เลิศแล้วงานประพันธ์                      พ่อเอย แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 45 18:48:54 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 30 ก.ย. 45 15:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 91 โคลงสองสุภาพ ๑๔ ๏ เวลาผันผ่านคล้อย                        สมาชิกร่วมถกถ้อย อีกทั้งทยอยมา                                เพิ่มนอ ๑๕ ๏ สุราพร้อมกับแกล้ม                      ยกจอกเย้ยจันทร์แย้ม จอกนี้น้ำจัณฑ์                                 จันทร์เวย ๑๖ ๏ สังสรรค์อักษรเคล้า                       จอกพร่องฤๅพร่องเหล้า สุขแท้ฤๅเมา                                   เพื่อนเอย ร่ายสุภาพ ๑๗ ๏ ปลื้มใจเราจริงที่                          เจอพี่เล็กอิศรา                         อาพีมาร่วมแรง พี่แดงน้อยตั่วกอ                              Noppy พอรู้จัก                 เพราะรักในเชิงโคลง ควงแขนโยงปิ๊วปิ้ว                           ตาเดียร์หิ้วนัวเนียร์                    ไม่เสียเชิงยอดสตรี ก็เพราะมีเอ็นจัง                               เสียงหวานดังนักร้อง                 เพลงต่อเพลงกู่ก้อง ขับซึ้งราตรี โคลงสี่สุภาพ ๑๘ ๏ ก่อนร่างวจีร่ำถ้อย                       เพียงประสา สนุกพ่อ                             ห่อนยึดฉันทลักษณ์มา                    เสกถ้อย พี่(ครู)เล็กอิศรา                          ช่วยแนะ นำพ่อ จอมยุทธฯจึ่งรักษ์ร้อย                      แบบเพี้ยงทางบุราณ ๑๙ ๏ โคลงกานท์บ่งแบบแท้                  อย่าถลำ เพราะตั่วกอแนะนำ                          รุ่นน้อง รสความยิ่งรสคำ                               ยามแต่ง โคลงเอย อย่าติดรสคำต้อง                              แต่งแต้มความจม     ยังไม่จบครับ เดี๋ยวคืนนี้จะมาวางต่อ ก่อนที่พรุ่งนี้จอมยุทธฯ จะหายตัวไปอีกหลายวัน แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 45 18:50:42 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 30 ก.ย. 45 15:58:41 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ๏ หยาดจัณฑ์ยกจอกเย้ย...............จันทร์แรม เอมโอชอิ่มยำแหนม......................น่าลิ้ม ดูจันทร์ดื่มจัณฑ์แซม.....................แสนสนุก........สนานเฮย เพียงคิดนอนเนตรพริ้ม.................พร่ำเพ้อละเมอฝัน ๚ ๛ ============================================= เห็นด้วยกับการเปิดกระทู้รูปใหม่ครับ .... ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีการบรรยายรูปด้วย เพราะอยากซึมซับบรรยากาศในงาน น่ะครับ ปล. ชอบโคลง ยกจอกเย้ยจันทร์ ของคุณครูพี่เล็ก #54 เลยเอามาเขียนเลียนแบบ .... จากจันทร์เพ็ญ ..เป็นจันทร์แรม ครับผม จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 30 ก.ย. 45 16:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ไปงานนี้รู้สึก                     เสียดาย นักแล รีบกลับก่อนทักทาย              ทั่วถ้วน ยังอยากดื่มกับสหาย             ทุกท่าน ถูกทักว่าชักอ้วน                  จึ่งต้องอำลา แหะๆ แซวเล่นนะขอรับ ถูกทักว่าเริ่มอ้วนจริง แต่ที่รีบกลับเพราะสงสารหนูแม็กซ์ ได้เวลานอนแล้ว วันนั้นมิได้ร่วมต่อโคลง จึงขอแต่งโคลงมาแจม เป็นการชดเชยนะครับ น้ำ     มาปลาเขมือบลิ้ม          ชิมมด ท่วม   มากมดพลันหด           หมดสิ้น น้ำ     เอยกว่าจะลด             มดอยู่ กระไรแม่ ใจ     ยากทำอร่อยลิ้น           เขมือบเนื้อปลาสนอง ยกจอกหมายร่วมเย้ย            จันทร์นวล เห็นแต่เมฆเป็นขบวน             กลบเจ้า มนุษย์น้อยต่างชี้ชวน             ร่วมดื่ม นาพ่อ เย้ยเยาะหรือแอบเศร้า           ค่ำนี้ไร้จันทร์ หัวลำโพงนัดน้อง                หกโมง เจ็ดครึ่งโดดจากโปง              อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง            รถติด ทุ่มกว่าเพิ่งรีบจ้ำ                 จากเจ้าพระยาสอง ดีใจที่ได้พบเจอทุกท่านครับ จากคุณ : ตั่วกอ (โอวทิฮวย) - [ 30 ก.ย. 45 16:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 94 หัวลำโพงนัดน้อง                  หกโมง เจ็ดครึ่งโดดจากโปง              อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง            รถติด ทันหกโมงสุดช้ำ                   เพราะน้องมาสาย หัวลำโพงนัดน้อง                  หกโมง เจ็ดครึ่งโดดจากโปง              อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง            รถติด ทันหกโมงสุดช้ำ                   นัดไว้ผิดวัน ไม่ได้ไปร่วมครับ .. ฮือ .. อยากซึมซับบรรยากาศในงานเช่นกัน กระทู้ใหม่โพสต์รูปแล้ว อย่างไรถ้าแต่งโคลงบรรยายด้วย คงน่าสนุกนะขอรับ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 30 ก.ย. 45 17:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เอ่อ ..ครายเป็นคราย บ้างเนี่ย รู้จักแต่นายจันทรคราสคนเดียวอ่ะ นอกนั้น ยังไม่รู้เลยนะ ว้า.. ว้า .. จากคุณ : จังงัง - [ 30 ก.ย. 45 17:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ใครเป็นใครใคร่รู้              ใคร่ถาม ใครช่วยบอกช่วยตาม         ช่วยแจ้ง ใครไหนหล่อไหนงาม         วานเอ่ย เผยนา ใครอย่าเบี่ยงอย่าแกล้ง       ปล่อยให้นะจังงัง จากคุณ : ตั่วกอ - [ 30 ก.ย. 45 18:15:05 A:203.155.21.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 97 ลิลิตยกจอกเย้ยจันทร์ ต่อ ๒๐ ๏ คำคมยามรจน์สร้าง                      ทางกวี เป็นหนึ่งเยี่ยงแสงสุรีย์                    รุ่งฟ้า คมคิดจากอาพี                               ล้ำลึก ได้สดับทั้งแหล่งหล้า                       ทั่วหล้าซึ้งฝัน ร่ายสุภาพ ๒๑ ๏ เจอกันเพียงไม่นาน                แต่ผลงานNoppy          สมศักดิ์ศรีเลื่องลือ นามระบือทั้งถนน                     เพียงยินยลก็สนาน          หล่อก็ปานเทพบุตร โลกมนุษย์ฤๅมี                          กี่นารีชอกช้ำ                  แหย่เล่นอย่าหน้าง้ำ หยอกเย้าน้องชาย ๒๒ ๏ ปิ๊วปิ้วดูภายนอก                   หน้าตาบอกลูกครึ่ง(เอิ้ก)    หล่อเป็นหนึ่งโดยตลอด แต่ยอดท่านยอดคน                  ยามเมื่อชนจอกสุรา          คารวะเลยครับ จอมยุทธฯรับว่าแพ้                  โดยไม่มีข้อแม้                  เยี่ยงนี้ยอดคน ๒๓ ๏ แสนซนต้องนัวเนียร์              พร้อมนายเดียร์ผู้พ่อ         ผู้ยังหล่อไม่สร่าง กว่าจะว่างมาได้                       ปาเข้าใกล้สองทุ่ม              แต่ก็ชุ่มชื่นใจ ความสดใสนัวเนียร์                  แม้อาจเพลียคนเลี้ยง          แม้เหนื่อยเพี้ยงปานใด แต่เพราะใจสนิทเจ้า                  เพราะชอบจึ่งคอยเย้า         หยอกล้อขวัญใจ  งานเอย ๒๔ ๏ เสียงใสต้องเอ็นจัง               เสียงขานยังเจื้อยแจ้ว       ยินเสียงแล้วสดับเพียง ยิ่งเสียงคีรีบูน                        เสน่ห์แม่ปูนนางสวรรค์        เจื้อยจำนรรจ์กล่อมโลก คลายทุกข์โศกจากใจ                เมื่อใดเพลงแม่ร้อง            เพลงต่อเพลงกู่ก้อง นั่นแล้วเสียงสวรรค์ โคลงสี่สุภาพ ๒๕ ๏ ดาวแจ่มจันทร์สว่างห้วง              หนหาว ยกจอกเย้ยจันทร์ดาว                     เด่นสล้าง สายลมอาจไม่หนาว                       หนาวจิต พ่อเอย แต่อุ่นน้ำมิตรล้าง                          ลบให้หายหนาว ๒๖ ๏ เรื่องราวหลายหลากล้วน             ผ่านมา ยกจอกเย้ยจันทรา                        ผ่านแล้ว ขอบคุณเพื่อนทิวา                        ยิ่งยิ่ง เพื่อนเอย วันน่าคงพานแผ้ว                         จอกเย้ยจันทรา ๒๗ ๏ คารวะวิศิษฏ์แก้ว                        อาศรม โคลงพ่อ ครูใหญ่ที่ศิษย์ชม                          ชื่นล้น หนอนสุราบ่มผสม                        ศิษย์แกร่ง กล้านอ แม้ไม่เด่นคำด้น                            แค่นี้พอใจ ๒๘ ๏ ใช่ลีลาเลิศแล้ว                          โคลงกลอน นึกสนุกสลักอักษร                        เสกสร้าง ผิดพลาดแห่งใดวอน                    ชี้แนะ หน่อยรา โคลงเด่นอักษรสล้าง                     ก่อเกื้องานสลวย ๚๛                                                                                   จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 30 ก.ย. 45 18:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 98 แวะมาลงชื่อก่อนขอรับ แหะ แหะ เดี๋ยวจะหาเวลาแวะมาอีกหน งานรุมสุมทรวง แล้วเลยห่วงยกจอกฯอีกตะหาก แหะ แหะ ขอรับ มาทักทายสหายชาวอาศรมก่อน แล้วจะมาอีกครา ขอรับ ขอบคุณน้ำใจเพื่อนพ้องน้องพี่ อบอุ่น อบอุ่น และอบอุ่น คารวะก่อนอีก ๓ จอก ขอรับ ปล. โหลดเข้ามากว่าจะครบ แทบน้ำสุรากระซ็น เจียว ขอรับ แหะ แหะ   จากคุณ : นายทิวา (นายทิวา) - [ 30 ก.ย. 45 19:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 99 กำลังคร่ำเคร่งกับงานประจำตัวเอง  พร้อมๆกับข่าวสารจากการสังสรรค์ที่ต้องมาสรุปให้ทราบ แอบโผล่หน้าเข้ามาดูรูปที่ พี่ญาติระอา เอามาแปะไว้ให้  เอิ้กๆ ใครเป็นใครนะเหรอ จริงๆ ศาลาไทยว่า ไม่น่าจะเฉลยเลยนะคะ  ดูให้พอเห็นบรรยากาศงานก็น่าจะพอแล้ว ส่วนถ้าอยากรู้ว่าใครเป็นใคร  รอปีหน้าฟ้าใหม่ตอนสังสรรค์อาศรมชาวโคลงปีสอง น่าจะดี แบบว่าใครอยากรู้ก็ต้องไปร่วมงานกันเอาเอง  คาดว่าหลายๆท่านที่ไปก็น่าจะเห็นด้วย อิๆ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 30 ก.ย. 45 21:29:56 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ยก พลมาขึ้นบก                      เมืองนนท์ จอก หนึ่งแถวฝั่งธนฯ                ท่วมแล้ว เย้ย หยันต่อสายฝน                 เย็นฉ่ำ                 จันทร์  แจ่มฤๅคลาดแคล้ว         เมฆคลุ้มบังแข ๚ *** ญาติระอา ... พ่อทูนหัว! บอกแล้วไงว่ารูปคนชราให้ลดขนาดลงหน่อย! ปล.เดี๋ยวมีทติ้งคราวหน้าไม่กล้าไปนะ(แก่ขึ้นทุกปี) .. ขออภัยแก้ไขบ่อยเพราะพิมพ์ผิด เช่น ‘ขึ้นบก’ เป็น ‘ชึ้นบก’ อิอิ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 45 22:34:55 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 45 22:23:55 จากคุณ : lek Isara - [ 30 ก.ย. 45 22:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 101 แหมมมมมม ท่านพี่เมรัยฯ ชมซะ เหมือนกับว่าเราเสียงดี ที่จริงไม่มีอะไรค่ะ ที่บ้านไม่มีไมค์ ชอบคาราโอเกะ แต่ไม่ตังค์ ร้องจน นักร้องที่นั่นไล่ลงเวที พี่ทิวาเจ้าขา ถ้าแขกโต๊ะอื่นเขาบ่น ฝากบอกด้วยว่า นานๆ มันจะมาสักที ปล่อยมันเถอะ นึกว่าสงสาร เด็กเก็บกด จากคุณ : เอ็นจัง - [ 1 ต.ค. 45 00:07:57 A:203.146.129.223 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102       หัวลำโพงนัดน้อง        หกโมง เจ็ดครึ่งออกจากโปง          อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง        รถติด สองทุ่มแล้วยิ่งช้ำ              ลูกรั้งผัวกวน       ยก   ขบวนรีบดิ่งบ้าน   ตอนเย็น จอก    ยั่วใจยากเว้น          ห่างได้ เย้ย    เรายิ่งอยากเห็น        ศิษย์พี่ จันทร์  พร่างจนจันทร์ไร้      (ยัง)อยู่เฝ้าโยงเรือน       น้ำ   ตารินร่ำไห้          ในทรวง ท่วม    หลั่งถั่งล้นดวง         จิตข้า น้ำ      คำร่ายอ่านตวง         เต็มอิ่ม ใจ      ประกาศก้องฟ้า        เที่ยวหน้า(ไป)แน่นอน เสียดายจังค่ะ อยู่ไม่ไกลแถวนั้นแต่ไปไม่ได้ ได้อ่าน-ชม บรรยากาศ ในงานแล้ว อิจฉาจัง ปีหน้าจะไปให้ได้เชียวละ สัญญา ๆ ๆ ๆ ว่าแต่ใครเป็นใครมั่งน้อ หน้าแปลก เอ๊ย..แปลกหน้าจัง  อิอิ จากคุณ : นิ่มนวล - [ 1 ต.ค. 45 01:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 103 น้ำ     ลายไหลหยดย้อย          รวยริน ท่วม   ปากเพราะอยากกิน         กับแกล้ม น้ำ     เหล้าบ่เคยถวิล             คิดอยาก เลยพ่อ ใจ     ใฝ่กับจึงแย้ม               นัดหน้าบอกที ยก      เสื่อปูพาดพื้น             ชานระเบียง จอก    สุราวางเรียง               รอบไว้ เย้ย     เยาะแค่ลองเสียง         สักหน่อย จันทร์   ช่วยบอกหวยให้          เลขท้ายสามตัว หัวลำโพงนัดน้อง             หกโมง เจ็ดครึ่งออกจากโปง          อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง        รถติด เกือบทุ่มยังวนซ้ำ             ทั่วร้านขายลำโพง อิจฉาตาร้อนเจ้าค่ะ อ่านแล้วอยากไปมากๆๆๆๆ แต่บ้านอยู่ต่างจังหวัด ไปมาไม่สะดวก เลยไม่สามารถไปแจมได้สักที อยากรู้จังว่าใครเป็นใคร แต่ขอเดาว่า คนที่หน้าชราสุด คือพี่(ครู)เล็กแน่นอน ฮิฮิ จากคุณ : ธาราริน - [ 1 ต.ค. 45 02:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ๏ ยก   สุรารอเสริพค้าง           แต่ไกล จอก    ห่างยื่นส่งใจ                ร่วมเลี้ยง เย้ย     ท้องพิศภาพไป            น่าหม่ำ จันทร์  ส่องกับแกล้มเกลี้ยง      ยั่วเย้าอยากไป ๚ ตามดูรูปบรรยากาศเจ้าค่ะ ดูตระการตาน่าหม่ำจัง อุ๊บ! ใครเป็นใครกันบ้างหนอ? แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 45 03:06:21 จากคุณ : ไร้นาม - [ 1 ต.ค. 45 03:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 105 โหๆๆ...กระผมมัวแต่นั่งนิ่งนอนใจ... แป๊บเดียวกระทู้ก็ทะยานผ่านทะลุหลักร้อยแล้ว... หากNoppyจะพูดถึงบรรยากาศในงาน "ยกจอกเย้ยจันทร์ : สังสรรค์ชาวโคลง" ก็เกรงว่าจะถ่ายทอดร้อยเรียงได้ไม่จับใจ และสวยงามเท่ากับท่านพี่ทั้งหลาย "พี่จอมยุทธฯ" ที่ยังไม่รอให้สร่างก็กลับมาบรรจงกดแป้นคีย์ถ่ายทอดภาพเรื่องราว หนำซ้ำเมื่อสร่างแล้วก็ได้นิพนธ์ "ลิลิตยกจอกเย้ยจันทร์" สำทับอีกชั้นหนึ่ง บรรยากาศของค่ำคืนงานได้เห็นเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเมื่อ"พี่ญาติระอา" ตากล้องกิติมศักดิ์ของเราได้นำเอารูปภาพความทรงจำมาแปะไว้ให้ได้รับชมกันในอาศรมนี้ด้วย (ยังมีรูปอีกมากมายถ้าจำไม่ผิดหรือไม่เมาไปก่อน เกริ๊กๆๆ ทั้งนี้ก็เนื่องจากในงานลำแสงวาบๆ จากแฟลซมีอยู่อย่างไม่ขาดช่วง ทั้งจากพี่ญาติระอา และอีกตากล้องมือดีคือ "พี่เดียร์" ป๊ะป๋าของน้องนัวเนียร์ที่แสนน่ารัก...เอ่อ...จะบอกว่าตาพร่าเลยครับ คือ ประมาณว่าสามสิบวิฯ หนึ่งวูบ...เกินไปไหมเนี่ย ^^) ... ทั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณ "พี่ทิวา" เจ้าบ้านที่แสนจะน่ารัก ต้อนรับขับ(โคลงกลอน)สู้ ด้วยน้ำใจไมตรี บริการพี่ๆ น้องๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย... หนูศาลาไทย น้องสาวที่น่ารัก(และน่าชังในบางที กร๊ากๆๆ) ผู้ทำหน้าที่ประสาน และจัดการให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น... ตัวNoppyในฐานะน้องใหม่รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ร่วมงานครั้งนี้ และยังคิดว่าตัวเองมีโชคดีอีกหลายๆ ชั้นทีเดียว... โชคชั้นที่หนึ่ง...ได้มีโอกาสรู้จักกับ คุณพี่หนูนา และ พี่ครูเล็ก ท่านผู้ใหญ่ที่ได้สละเวลามาพบปะรวมถึงฝากข้อแนะนำดีๆ ในเรื่องการจัดทำหนังสือด้วย...ความใจดีนี้ยังเลยไปถึงหนังสือนิยายหอบใหญ่ที่ คุณพี่หนูนาได้นำมาแจกให้พร้อมลายเซ็นแก่ชาวอาศรมฯอย่างทั่วถึง...โชคดีจริงๆ นี่ถ้าหากเป็นที่งานหนังสือผมคงต้องไปต่อคิวรอเป็นแน่...และนอกจากนั้นยังมีองุ่นพวงใหญ่ไร้เม็ดที่พี่เล็กหิ้วมาฝากอีกด้วย... โชคชั้นที่สอง ได้มีโอกาสฝากตัวให้ศิษย์พี่ๆ ทั้งหลายได้ชี้แนะแนวทาง ล้วง แคะ เกาะ แกะ เกา ไชชอน โคลงหัดขับของNoppyเพื่อจะได้พัฒนาฝีมือต่อไปในภายภาคหน้า ซึ่งพี่(xxx)เฒ่า ก็ได้รับปากและจัดการยำ(ตามที่พี่เขาว่าไว้) โคลงเคลงของกระผมไว้...Noppyขอขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ...สิ่งนี้เองครับที่Noppyว่าเป็นเสน่ห์ของอาศรมฯอย่างหนึ่งนั่นคือการที่เราได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสวนามุมมองเพื่อเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้น... โชคชั้นที่สาม อันนี้วิเศษครับ เนื่องจากมีหลายท่านที่Noppyได้อ่านและนับถือผลงาน ก็ได้เห็นหน้าค่าตาและซึมซับวรยุทธกันในคราวนี้เอง รวมถึงได้พบปะกับพี่ๆ น้องๆ (ส่วนใหญ่พี่นะ ^^) ที่ได้โลดแล่นสัญจรกันอยู่บนท้องถนนสายนี้ ยินดีเป็นอย่างยิ่งเชียวครับที่ได้รู้จักทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น พี่หนูนา พี่เล็ก พี่(xxx)เฒ่า พี่หมอโมโน พี่นิรนาม พี่จอมยุทธฯ พี่อาพี พี่เดียร์ พี่ญาติระอา พี่ทิวา พี่แดงน้อย คุณเหงาจังเลย คุณpencil 2B คุณเอ็นจัง ยัยศาลาฯ และ พี่ปิ้ว(รายนี้ไม่รู้เรียกว่าโชคดีหรือเปล่า??)... หากคราวหน้าฟ้าใหม่หวังว่าคงจะได้พบกับพี่ๆ เพื่อนๆ อีกนะครับ... "หัวลำโพงนัดน้อง                  หกโมง เจ็ดครึ่งโดดจากโปง                 อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง               รถติด" ถึงที่ก็ชีช้ำ                           ล่วงแล้วตีสอง ... จากคุณ : Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) - [ 1 ต.ค. 45 04:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ๐ ขี้ยาเราหยั่งรู้               รสควัน หอมชื่นหฤหรรณ์           ห่อนร้าง สมองโล่งเลิศล้ำปัญ-      ญาปราด   เปรื่องนอ ปอดป่องอกพองกว้าง     กวาดเถ้าเตาถลุง ๐  ฟุ้งควันฝากเพื่อนพ้อง       ผิดหลาย ร้อนรุ่มรุมสุมกาย                    เกือบเดี้ยง หงุดหงิดผิดใจหมาย               มองเขม่น ยกโทษเถิดโปรดเลี้ยง             เหล่าข้อยขี้ยา / ............................................... เห็นคำปรารถคุณหนูนา แล้วสำนึกผิด ว่านอกจากร้อนแล้ว ขี้ยา ๕-๖ คน ก็ตั้งปล่องปล่อยควันกันสนุกสนาน ขออภัยทุกท่านด้วยครับ   จากคุณ : xxx(เฒ่า) - [ 1 ต.ค. 45 08:59:04 A:203.154.196.253 X: ]

ความคิดเห็นที่ 107 รอให้มีคนมาต่อกระทู้ใหม่  จะต่อเองก็กระไรอยู่ เพราะเพิ่งต่อไปเมื่อกระทู้ก่อนนี่เอง อยากให้หน้าใหม่ หรือ คนที่นานๆมาทีช่วยต่อกระทู้บ้าง ภาระจะได้ทั่วถึงกัน เอิ้กๆ ศาลาไทยยังติดค้างเรื่องบรรยากาศในงานที่กะเอามาประชันกับ "ลิลิตยกจอกเย้ยจันทร์" ของพี่จอมยุทธฯ กะว่าจะยกยอดเอาไปแปะในกระทู้หน้า  พร้อมๆกับรายละเอียด เรื่องหนังสือที่ระลึกครบรอบปีอาศรมที่ได้สรุปกันไปคร่าวๆในระดับหนึ่งเมื่อคืนวันงาน ขอบ่นเจ้าพี่ชายตัวดี Noppy หน่อยเถิด หนังสือหนังหาที่มามี้อุตส่าห์เตรียมให้ ชื่ออะไรก็จำไม่ได้ กิ๊วๆ ทีกะคนอื่น เรียก คุณ เรียก พี่ ได้ กะเราเรียก ยัยศาลา โอ้โห พี่ชาย มันน่าปลื้มไหมเนี่ย ๏ ภาพ ไผหากอยากรู้        โปรดรอ วัน ครบสองปีขอ              นัดไว้ พบ กันร่วมขับคลอ           หลากรส  ชาติแฮ มิตร รักแฟนโคลงได้         เจอะหน้าสมานฉันท์  ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 1 ต.ค. 45 12:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เข้ามาครานี้ก็เพื่อประสงค์จะกล่าวถึงบุคคลต่อไปที่ข้าพเจ้าได้พบ ประสบพักตร์ในคราวนั้น แต่โอ้ว่าสวรรค์เหตุใดกันจึงมีรูปของ ข้าพเจ้าโผล่ออกมายิ้มแย้มกับเขาได้ ก็เมื่อสักทีหนึ่งที่หนุ่มผู้ถือกล้อง ตัวใหญ่ราวปืนลำกล้องเดี่ยวหน้ากระทรวงกลาโหมจะหันมาส่อง ตรงยังข้าพเจ้านั้นยังมิเคยมี เขาเฝ้าแต่กดแวบแวบนัวเนียอยู่หน้าสาว สวยทั้งสามหรือสี่คนในยามนั้นอยู่เลยมิใช่หรือ..อือฮือพอรูปออกมา แล้วก็กลับมีหนุ่มรูปหล่อคนนี้ได้อย่างไรกันช่วยบอกที..คุณแม้แต่ญาติ ยังระอาที่รัก หนุ่มผู้ถือกล้องคนนี้ ข้าพเจ้าเฝ้ามองเขาอยู่นาน จะสังเกตเป็นหมาย เหตุว่าเขานอกจากถ่ายรูปแล้วยังจะทำอะไรอีกบ้าง ไม่มีเลยสักอย่าง แม้แต่จะยกแก้วขึ้นดื่ม นานนานครั้งจะทำเป็นลืมเผลอยกขึ้นดื่มบ้าง ก็ นิดหน่อยพอเป็นเครื่องกันกระดากยามขวยเขินสะเทิ้นอายเมื่ออยู่ต่อ หน้าสาว รูปร่างของเขานั้นผอมสูงสะองโอดผมเรียบสั้น ใส่แว่นรูป หล่อพอประมาณ สัมภาระมากมายประดานั้นขนมาทำไมกันก็ไม่รู้ กองท่วมหัวท่วมหูอยู่ที่เก้าอี้โต๊ะข้างข้าง แต่ละชิ้นก็ใหญ่บ้างเล็กบ้าง เก็บเข้าที่ทางแทบไม่หมด  ที่บรรยายอยู่นี้ก็เพื่อฟ้องต่อท่านผู้ชมทุก ท่าน รูปทุกคนที่ไปงานนั้นถูกนำมาแพร่ใบหน้าที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัว หนังสือมาเนิ่นนาน แต่ท่านผู้ถือกล้องกลับหลบอยู่ข้างหลังกล้องจนไม่ มีภาพมาโชว์มั่งเรย..ความยุติธรรมถูกละเลยไปได้อย่างไรกัน..ขอ ฟ้องและขอเรียกร้องกล้องอื่นอื่นที่ปรากฎอยู่ในงานนั้นอีกประมาณ สองสามตัว ช่วยนำภาพที่ชวนหัวของหนุ่มผู้ถือกล้องนั้นพิมพ์แพร่ลง บนนี้ด้วย..จะเป็นพระคุณยิ่ง ไปก่อนนะครับ..แล้วจะมาใหม่...เอย จากคุณ : ปิ๊วปิ้ว - [ 1 ต.ค. 45 12:46:51 A:203.155.231.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 109 อะจ๊าก ข้าพเจ้าไปตั้งกระทู้ใหม่ ภาค ๕๓ แล้วเน้อขอรับ แหะ แหะ เดี๋ยวเอาLINK มาปะอีกทีขอรับ จากคุณ : นายทิวา (นายทิวา) - [ 1 ต.ค. 45 13:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เปิดแล้ว ขอรับ แหะ แหะ ภาค ๕๓ อุ่นใจสหายโคลง(งานสังสรรค์) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1790016/W1790016.html จากคุณ : นายทิวา (นายทิวา) - [ 1 ต.ค. 45 13:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ขอโทษคุณ สายลมคิมหันต์ ด้วยครับ แปลชื่อผิดเป็นลมหนาว  ตรงข้ามกันเลย เพิ่งเห็น  คนแก่คนเฒ่าก็หลงๆลืมๆอย่างนี้ละ จากคุณ : xxx(เฒ่า) - [ 1 ต.ค. 45 13:48:35 A:203.154.196.253 X: ]

ความคิดเห็นที่ 112 ๏ หัวลำโพงนัดน้อง            หกโมง เจ็ดครึ่งออกจากโปง          อาบน้ำ เที่ยงกว่าอยู่พระโขนง         รถติด หกทุ่มเธอโทรย้ำ                ดึกแล้วคุณขา ๚ *** คืนนั้น (อิอิ) ... มีอยู่ช่วงหนึ่งพี่เล็กถามนิรนามว่าแฟ็บ เอ๊ย บ้านอยู่ไหน? นิรนามตอบว่าอยู่แถวหัวลำโพง พี่เล็กก็เลยทำสู่รู้ว่าเมื่อก่อนนี้เรียกว่าวัวลำพอง พอดีบรรยากาศช่วงนั้นจอแจมาก ทั้งเสียงดนตรี เสียงคุยและเสียงหัวเราะต่างๆ นิรนามจึงได้ยินไม่ชัด แล้วก็ถามว่าอะไรนะครับ พี่เล็กก็ตอบว่า วัวลำพอง แล้วก็เกิดอาการทำซ้ำ   อะไรนะ - วัวลำพอง อะไรนะ - วัวลำพอง อะไรนะ - วัวลำพอง พี่เล็กจึงกระซิบเบาๆ ว่า “วัวลำพอง” คือ “โคลำพอง” น่ะ นิรนามร้อง .... อ๋อ! ......... ก็เป็นอันว่าเข้าใจ ความจริง “วัวลำพอง” นั้นเป็นชื่อสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษมตรงถนนเจริญกรุง ต่อมาเรียกกันไปเรียกกันมาเลยเพี้ยนจาก ‘สะพานวัวลำพอง’ เป็น ‘สะพานหัวลำโพง’ แล้วเมื่อมีการสร้างสถานีรถไฟขึ้นใกล้ๆบริเวณนั้น จึงมีชื่อว่าสถานีรถไฟหัวลำโพงตามชื่อสะพาน ปล.ขำคนข้างบนจริงๆ ที่บอกว่าไปมีทติ้งไม่ได้เพราะ Poor-Kuan ฮ่าๆ *** ขออภัย ... ไม่ได้ Refresh ก่อน post จึงไม่เห็นข้อความของทิวา ไว้จะไปแจมกระทู้ใหม่จ้ะ .................................................. สวัสดี! แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 45 19:39:08 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 45 14:33:17 จากคุณ : lek Isara - [ 1 ต.ค. 45 14:24:21 ]

ความคิดเห็นที่ 114 แห้ . . . นิรนามเพิ่งโผล่หน้าเข้ากระทู้ เลยต้องแอบมาเขียนท้ายๆ ต่อท้ายทั่นพี่เล็กอีกที มีตติ้งคราวนี้สนุกเหมือนเดิม นิรนามดีใจที่ได้เจอทุกคน โดยเฉพาะทั่นพี่เล็ก เพราะมีตติ้งปีที่แล้วกะว่าจะได้เจอ แต่ไม่ได้เจอ ต้องรอตั้ง ๑ ปีถึงจะได้เจอ อยากไหว้สวัสดีทั่นพี่เล็กสักหนหนะคับ นิรนามนั่งติดโมโน ตอนแรกก็นั่งกินกับแกล้มด้วยกันสบายใจเฉิบ แต่ตอนหลังรู้ว่า โมโน เป็นนักชำแหละเนื้อมนุษย์เป็นๆ นิรนามเลยนั่งเสียวตลอดงาน ไม่กล้าขยับตัวลุกไปไหน (ขอแซวหน่อยจ้าน) นิรนามนั่งติดทั่น xxx (เฒ่า) ทั่นนี้ประกอบกิจการโรงสีขนาดใหญ่ ส่วนนิรนามประกอบกิจการโรงสีขนาดเล็ก ก็เลยปักหลัก ควันโขมง (โฉงเฉง) อยู่ด้วยกันตลอดงาน แต่อยากกระซิบทั่นลูกพี่ xxx หน่อยว่า ยาเส้นแบบไลท์ น่าจะถนอมปอดกว่า สำหรับกิจการโรงสีขนาดหนักแบบนั้น (ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างยิ่งคับผม) ได้เจอ อาพี นิรนามก็ดีใจ นิรนามก็เลยท่องกลอนของอาพี ให้อาพีฟัง บทกวีไม่มีตายสหายเอ๋ย อย่าหมายเลยเข่นฆ่าให้ . . . บุ๋งๆๆ นั่นแหละบทกลอนของอาพี ความจริงนิรนามเจอ นู๋ศอ ก่อนใคร แต่ด้วยความที่ไม่เจอนู๋ศอมาเกือบปี อีกทั้ง นู๋ศอ มามาดใหม่ เฉี่ยวกว่าเดิม แลหนักกว่าเดิม (ไม่ปลิวตามลมพายุมรสุม) นิรนามเลยไม่ค่อยแน่ใจนัก เลยทักเฉิ่มๆว่า นู๋ศอ ใช่ไหม นู๋ศอ ตะลึงอึ้ง ทำนองว่า อยู่ข้างนอกก็จะเรียก 'นู๋ศอ' เหรอพี่ นิรนามก็อย่างนี้แหละ คุ้นเคยทางเน็ตมานานเลยเรียกติดปากแบบเน็ตๆ จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 3 ต.ค. 45 01:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ต่อจ้าน . . . คุณพี่หนูนา สดใสยิ้มละไมคุยได้ทุกเรื่อง มีของกำนัลมา (ไล่) แจกทุกคน นิรนามขอบคุณอย่างยิ่ง อา . . . ทั่นทิวา ชาวอาศรม ยกจอกเย้ยจันทร์ ไป ๓ กลม นิรนามตอนขับรถกลับบ้าน เห็นถนน โค้งคดเคี้ยวตลอดเส้นทาง เกือบชนขอบทางอยู่หลายที มีใครเป็นแบบนิรนามบ้าง ญาติระอา . . . บุรุษชุดดำ เห็นชื่อนี้มานาน ได้เจอตัวจริงก็ดีใจ แต่เรื่อง ถ่ายรูป-ลงรูป ในเน็ตสาธารณะ นิรนาม ไม่คุ้น จริงๆจ้าน ที่เคยไปมีตติ้งมา ก็ไม่ค่อยถ่ายรูปกัน ถึงถ่ายก็ไม่ค่อยลงรูปในเน็ต จึงต้องขอสะกิดหน่อยว่า ในงานมีผู้คนหลากหลาย แต่ละคนอาจมีทัศนะเรื่อง ตัวตน หรือ การเผยเผยตัวตน ไม่เหมือนกัน จอมยุทธเมรัย แต่หน้าใส อีกทั้งโหงวเฮ้งเปล่งปลั่ง กลับจากงานมีตติ้ง ไฟลุกพรึบ (ไฟแรง) เขียน ลิลิตยกจอกเย้ยจันทร์ กำนัลสหาย นิรนามขอปรบมือให้ . . . แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 'เหงาจังเลย' ปักหลักสังเกตการณ์เหมือนเมื่อปีที่แล้ว รายนี้น่าจะรู้เรื่อง เม้าท์ มากกว่าใคร เพราะมีสมาธิฟังกลุ่มโน้นกลุ่มนี้คุยกัน งานหน้าต้อง คาย ออกมาให้ฟังบ้างเน่อ ยิ่งเล่ายิ่งติดลม เดี๋ยวคงได้ยาวเป็นหลายตอนจบ เอาซาหรุบเลยดีกว่าว่า นิรนามยินดีที่ได้เจออีกหลายคน ได้แก่ ครอบครัวนัวเนียร์, แดงน้อย, Pencil2B, Noppy, ปิ๊วปิ้ว และ เอ็นจังจอมเม้าท์ หวังว่าคงได้เจอกันอีกจ้าน . . . . . จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 3 ต.ค. 45 01:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 116 • นิรนาม : สงสัยจะเวลาน้อยจริงๆ เค้าตั้งกระทู้กันใหม่แล้วจ้ะ พี่เล็กขออนุญาตนำข้อความไปโพสต์ในกระทู้ใหม่เลยนะ ที่ .. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1790016/W1790016.html ปล.ชอบประโยคนี้จัง ... “แต่ตอนหลังรู้ว่า โมโน เป็นนักชำแหละเนื้อมนุษย์เป็นๆ นิรนามเลยนั่งเสียวตลอดงาน” อิอิ ปล.๒ ไปคุยต่อกันที่กระทู้ใหม่นะครับทุกท่าน จากคุณ : lek Isara - [ 3 ต.ค. 45 09:41:21 ]