บทที่ ๑๐
บุก
อีกสิบนาทีให้หลังเรื่องที่เกิดขึ้นก็รู้กันทั่วทุกคนในค่ายต่างลุกขึ้นเตรียมอาวุธ ในตอนแรกบางคนมีอาการตื่นตระหนก แต่เรื่องนี้ด้วยความช่วยเหลือของบาเบมบาเราควบคุมเอาไว้ได้ จัดวางกำลังคนเอาไว้ป้องกันเท่าที่สถานการณ์จะอำนวย จากนั้นจึงปลุกปลอบใจพวกเขา ในตอนแรกเราก็เห็นได้ว่านอกจากพวกเราสามคนที่มีม้าการหลบหนีแทบจะเป็นไปไม่ได้ กองกำลังอูฐที่เข้มแข็งคงตามจับตัวพวกเราได้ในภายในระยะทางหนึ่งไมล์
ปล่อยให้ผู้เฒ่าบาเบมบาควบคุมทหารของเขา เราคนขาวสามคนและฮานส์ร่วมปรึกษากันข้าพเจ้าทบทวนถ้อยคำทั้งหมดระหว่างฮารุต กับ มารุต และตัวข้าพเจ้า รวมทั้งการปฏิเสธของพวกเขาว่าไม่รู้เรื่องใด ๆ ทั้งสิ้นในการหายตัวไปของคุณหญิงแรกนอลที่แม่น้ำไนล์
"ตอนนี้" ข้าพเจ้าถาม "จะทำอย่างไรกันดี ? ชะตากรรมของผมถูกปิดผนึกเอาไว้แล้วเพราะความประสงค์ของพวกเขาซึ่งเราแทบจะไม่รู้อะไรเลย คนพวกนี้ต้องการพาตัวผมไปที่บ้านเมืองของเขา ซึ่งที่จริงแล้วพวกเขามีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น เพราะผมโง่เองที่ไปรักษาสัญญาว่าจะมาพบพวกเขาที่นี่ แต่ว่าพวกเขาไม่ต้องการให้คนอื่นร่วมทางไปด้วย ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่จะขัดขวางคุณแรกนอล และคุณเซาเวจ และแกด้วยฮานส์ที่จะเดินทางกลับไปพร้อมกับพวกมาซิตู"
"โอ ! เจ้านาย" ฮานส์พูดขึ้น เขาเข้าใจภาษาอังกฤษได้ดีพอสมควรแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยพูด "ทำไมเจ้านายชอบกวนฉันด้วยการพูดแบบนี้เสมอ ? ไม่ว่าเจ้านายไปไหนฉันไปด้วย ไม่สนใจว่าเจ้านายจะไปไหนนอกจากเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย เจ้านายถ้าหากว่าฉันจะต้องไปตายให้ฉันตายไปเถอะมันไม่เป็นอะไรหรอก เพราะฉันต้องไปรายงานกับคุณพ่อนักเทศม์ของเจ้านายในไม่ช้า และตอนนี้เจ้านายฉันตื่นอยู่ตลอดทั้งคืนเพราะฉันได้ยินเสียงพวกอูฐเดินมาตั้งแต่ไกลก่อนที่เจ้าผีสองตัวจะมาปรากฏกาย เพราะว่าฉันไม่เคยได้ยินเสียงพวกอูฐมาก่อนเลยจึงไม่รู้ว่าพวกมันเป็นตัวอะไร เพราะว่าพวกมันเดินไม่เหมือนพวกยีราฟ ฉันจึงขอนอนก่อนเจ้านายพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว เมื่อเจ้านายตัดสินใจแล้วเจ้านายปลุกฉันขึ้นมาสั่งได้เลย" และฮานส์ทำอย่างที่พูดโดยทันที เพราะเมื่อข้าพเจ้าเหลือบตาดูเขาอีกครั้งปรากฏว่าเขาหลับผลอยไปเหมือนกับสุนัขอยู่แทบเท้าของเจ้านาย
ข้าพเจ้ามองไปที่ลอร์ดแรกนอลอย่างสอบถาม
"ผมจะเดินหน้าต่อไป" เขาพุดสั้น ๆ
"แม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของภรรยาคุณเลยหรือ ?" ข้าพเจ้าถาม "ถ้าพวกเขาพูดจริงคุณจะได้ประโยชน์อะไรกับการเดินทางครั้งนี้ ลอร์ดแรกนอล ?"
"อย่างน้อยก็เพื่อประสบการณ์ที่น่าสนใจ เหมือนกับฮานส์ถ้าพวกเขาพูดความจริงอนาคตของผมก็ไม่มีอะไรแตกต่างไป แต่ผมไม่เชื่อถ้อยคำที่พวกเขาพูด บางอย่างบอกผมว่าเขารู้เรื่องดีแต่ปกปิดที่จะพูดถึง-ภรรยาผม เหตุนี้พวกเขาจึงกังวลใจที่ผมไม่ควรจะร่วมทางไปกับคุณ"
"คุณต้องตัดสินใจเอาเอง" ข้าพเจ้าตอบอย่างแคลงใจ "และผมหวังต่อสวรรค์ว่าคุณจะตัดสินใจถูก และคุณเซาเวจตอนนี้คุณจะตัดสินใจว่าอย่างไร ? แต่ว่าก่อนที่จะตอบจงจำไว้ด้วยว่าคนประหลาดพวกนี้ประกาศว่าถ้าพวกเราสี่คนเดินทางไปสองคนจะไม่ได้กลับมา และมันเป็นไปได้เป็นอย่างมากว่าพวกเขารู้ถึงอนาคต อย่างนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเป็นคนที่ประหลาดมาก"
"ท่านครับ" เซาเวจพูด "ผมขอเสี่ยงไปด้วย ก่อนที่ผมจะจากประเทศอังกฤษมาเจ้านายผมท่านได้ให้เงินเลี้ยงชีพกับมารดาผู้ชราของผมและน้องสาวที่เป็นหม้ายกับลูกของเธอเอาไว้แล้ว และผมไม่มีภาระห่วงใยอะไรอีก ยิ่งไปกว่านั้นผมจะไม่เดินทางไปตามลำพังกับพวกมาซิตูป่าเถื่อน และผมจะเดินทางกลับไปยังฝั่งทะเลได้อย่างไรถ้าไม่มีคนนำทาง ? ดังนั้นผมจะไปด้วยที่เหลือก็เป็นพระกรุณาของพระเจ้า"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นเราทั้งหมดก็ไปด้วยกัน" ข้าพเจ้ากล่าว "เมื่อตกลงใจกันเช่นนี้แล้วพวกเราไปบอกบาเบมบา"
พวกเราไปบอกเขาตามนั้น สหายเฒ่ารับทราบข่าวด้วยอาการยอมรับมากกว่าที่ข้าพเจ้าคาดเอาไว้ ดวงตาข้างเดียวของเขาจับอยู่ที่ใบหน้าของข้าพเจ้า แล้วกล่าวว่า
"มะคูมะซาน คำพูดนี้ฉันคาดอยู่แล้วว่าจะได้ยินจากท่าน ถ้าหากว่าเป็นคนอื่นพูดเช่นนี้ฉันจะต้องว่าเขาเป็นบ้า แต่ฉันจำได้ว่าเคยพูดเช่นนี้เมื่อท่านตัดสินใจที่จะไปเยือนดินแดนพวกปองโก และท่านก็กลับมาจากดินแดนของพวกมันได้อย่างปลอดภัยทำเรื่องมหัศจรรย์ที่นั่น และพวกปองโกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไม่ใช่ท่าน และฉันก็เชื่อว่ามันจะเป็นเช่นนั้นอีกครั้งตราบที่ท่านเกี่ยวข้องอยู่ด้วยมะคูมะซาน เพราะฉันเชื่อว่าผีที่อยู่กับท่านจะคุ้มครองเจ้านายของมันเป็นอย่างดี สำหรับคนอื่นฉันไม่รู้เขาต้องตกลงกับผีของเขาเองหรือกับพวกแคนด้าห์ ตอนนี้ขอกล่าวคำอำลากับท่านมะคูมะซาน เพราะฉันรู้สึกว่าเราจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว ซึ่งมันจะต้องเกิดขึ้นกับทุกคนในที่สุด และเป็นสิ่งดีเหลือเกินที่ได้รู้จักกับท่านผู้ซึ่งมีแต่ความกล้าหาญ ฉันจะคิดถึงท่านอยู่เสมอเช่นเดียวกับที่ท่านจะคิดถึงฉัน และฉันหวังว่าในดินแดนที่เหนือพวกแคนด้าห์นี้ออกไปฉันจะได้ยินเรื่องจากปากของท่านถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนพวกแคนด้าห์และการเดินทางครั้งอื่น ๆ อีก ตอนนี้ฉันจะถอยพวกของฉันออกไปก่อนที่พวกอาหรับในชุดขาวจะมาพร้อมกับสัตว์ประหลาดเพื่อจับตัวท่าน อยากจะให้พวกมันเอาตัวพวกฉันไปด้วยมันจะได้สู้กับพวกเราพวกมันจะต้องตายไม่น้อยทีเดียว สัมภาระของท่านเตรียมพร้อมเรียบร้อยที่จะบรรทุกไปบนหลังสัตว์ประหลาดนั้นแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่พวกมันบอกม้าไม่สามารถข้ามทะเลทรายไปได้ และถ้าสัตว์เลี้ยงของพวกมันหลุดออกมาเราจะจับมันเอากลับไปด้วย และถ้ามันเป็นตัวผู้กับตัวเมียมันจะให้ลูกใหม่ออกมาซึ่งมันจะเป็นของท่านถ้าท่านส่งข่าวมาต้องการใช้พวกมัน หรือเป็นของกษัตริย์เบาซีถ้าท่านไม่ส่งข่าวมา ตอนนี้ฉันไม่ต้องการของขวัญอะไรอีกแล้วเพราะฉันได้ปืนดินปืนและลูกปืนที่ท่านมอบให้ งาช้างสำหรับกษัตริย์เบาซี และที่ดีที่สุดคือความทรงจำในความกล้าหาญและชาญฉลาดของท่าน ขอให้สิ่งนี้และพระเจ้าที่ท่านนับถือจงคุ้มครองท่าน จากเนินเขาโน้นฉันจะรอดูจนท่านจากไป ลาก่อน" และโดยไม่รอคำตอบ เขาจากไปพร้อมกับหยาดน้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาเพียงข้างเดียวของเขา
สิบนาทีหลังจากนั้นพวกลูกหาบมาซิตูต่างแสดงคารวะแล้วจากไป ทิ้งให้พวกเรานั่งอยู่ในค่ายพักที่ว่างเปล่าล้อมรอบด้วยสัมภาระของเรา และข้าพเจ้ารู้สึกอ้างว้างอย่างที่สุดเท่าที่เคยรู้สึกมา อีกสิบนาทีต่อมาหลังจากที่เรารวบรวมของใช้ส่วนตัว ฮานส์ที่นั่งเฝ้าหม้อต้มกาแฟอยู่ใกล้ ๆ เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า
"เจ้านาย พวกผีมันมากันแล้ว มากันทั้งกองทัพเลย" เราวิ่งออกไปดู เป็นจริงตามนั้น พวกมันมากันเป็นหมวดหมู่ อูฐพร้อมกับคนขี่อยู่บนหลังเคลื่อนเข้ามาหาเรา พวกมันยืดหดคอเดินเป๋ไปเป๋มา ประมาณห้าสิบหลาพวกมันหยุดตรงที่สายน้ำจากน้ำพุของเราหายไปในทะเลทราย พวกมันให้อูฐกินน้ำตรงนั้นครั้งละยี่สิบตัว ชายสองคนที่ข้าพเจ้าจำได้ ฮารุต กับ มารุต เดินเข้ามาหาในไม่ช้าทั้งคู่มายืนอยู่เบื้องหน้าเราก้มหัวให้อย่างประจบประแจง
"สวัสดีครับท่าน" ฮารุต พูดกับลอร์ดแรกนอลด้วยภาษาอังกฤษตะกุกตะกัก "ท่านจะไปกับมะคูมะซานเพื่อเยี่ยมบ้านอันยากไร้ของเรา อย่างที่เราเคยไปเยี่ยมบ้านอันสวยงามของท่านที่ประเทศอังกฤษ ท่านคิดว่าเราเอาตัวสุภาพสตรีงดงามที่ท่านแต่งงานด้วยคนที่เรามอบสร้อยคอโบราณให้มาอย่างนั้นหรือ ไม่เป็นเช่นนั้นเลย ไม่เคยมีผู้หญิงผิวขาวมาสู่ดินแดนแคนด้าห์ เรารับฟังเรื่องราวจากมะคูมะซานแล้วและเชื่อว่าผู้หญิงจมไปกับแม่น้ำไนล์ เพราะท่านคงจำได้เธอเป็นคนที่มีนิสัยเดินละเมอ เราเสียใจกับท่านเป็นอย่างมาก แต่พระเจ้ารู้หน้าที่ของท่านดี พระองค์ละเว้นคนที่สมควรละเว้นและนำเอาคนที่สมควรไปจากไป ท่านจะพบเธออีกครั้งสักวันหนึ่งสวยงามมากกว่าเก่าและจิตใจของเธอกลับคืนมา"
ถึงตรงนี้ข้าพเจ้าจ้องเขาเขม็ง ข้าพเจ้าไม่เคยบอกพวกเขาเลยว่าคุณหญิงแรกนอลสูญเสียสัมปชัญญะไป พวกเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน ? แต่ข้าพเจ้าคิดว่าสงบนิ่งไว้ก่อนจะดีกว่า และข้าพเจ้าคิดว่าฮารุตรู้ตัวแล้วว่าเขาทำผิดพลาดไปโดยยุติเรื่องของคุณหญิงแรกนอลเสียแล้วกล่าวต่อไป
"ขอต้อนรับท่านด้วยความยินดี แต่เป็นการถูกต้องที่จะบอกท่านว่านี่เป็นการเดินทางที่อันตรายที่สุด เพราะว่าช้างร้ายจานาไม่ชอบคนต่างถิ่น และอีกอย่าง" เขากล่าวต่อไปอย่างช้า ๆ "ไม่มีช้างตัวไหนชอบสายเลือดของท่าน และช้างทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน เมื่อตัวหนึ่งเกลียดชังช้างทั้งโลกพากันเกลียดไปด้วย เห็นได้จากใบหน้าของท่านว่าได้รับความเจ็บปวดมาจากช้าง ตัวของท่านเองหรือว่าคนใกล้ชิดกับท่าน อีกทั้งชาวแคนด้าห์บางคนเป็นพวกดุร้ายรักการต่อสู้ และบางครั้งมีสงครามในดินแดนที่ท่านจะเดินทางไปและในสงครามคนถูกฆ่าตายได้ง่าย ๆ"
"ดีมากเลย สหาย" ลอร์ดแรกนอลพูด "ฉันเตรียมตัวแล้วที่จะเสี่ยงกับเรื่องนี้ พวกเราทั้งหมดจะไปดินแดนของท่านด้วยกันอย่างที่มะคูมะซานกล่าวไปแล้ว หรือไม่อย่างนั้นพวกเราก็ไม่มีใครไปด้วยเลย"
"เราเข้าใจ นั้นเป็นข้อตกลงของเราและเราจะไม่เสียคำพูด" ฮารุตตอบ
จากนั้นของมองอย่างเมตตาไปที่เซาเวจ แล้วพูดขึ้น "ท่านจะไปกับเขาด้วยบีนา นั่นเป็นชื่อของท่านที่นี่หรือ ? ท่านจะได้เรียนรู้อีกมากที่ดินแดนแคนด้าห์เกี่ยวกับงูและเรื่องอื่น ๆ อีก"
ถึงตรงนี้คนที่มีท่าทีร่าเริงมารุตกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของสหายเขา มีรอยยิ้มพราวไปทั่วใบหน้าเผยให้เห็นฟันขาวขณะที่เขากระซิบอยู่นั้น "โอ อย่างนั้นหรือ" ฮารุตกล่าวต่อไป "น้องชายของฉันบอกว่าท่านได้พบกับงูตัวหนึ่งมาแล้วที่ดินแดนที่มีชื่อเรียกว่านาตาล แต่นั่งทับมันอย่างแรงจนตัวแบนและกัดท่านไม่ได้"
"ใครบอกเรื่องนี้กับเขา ?" เซาเวจส่งเสียงถามอย่างประหลาดใจ
"โอ ลืมเสียเถอะ คิดว่าเป็นมะคูมะซานหรือ ไม่ใช่เขาหรอก ? ถ้าอย่างนั้นท่านก็บอกออกมาตอนที่ท่านหลับ เพราะว่าคนมักพูดมากในยามหลับท่านรู้ไหม และบางคนมีหูดีมากได้ยินไปไกล หรือว่าเป็นเรื่องตลกเล็กน้อยจากฮารุต ท่านจำได้ไหมเขาเป็นนักมายากลชั้นหนึ่ง บางทีเขาอาจส่งงูตัวนั้นไปเอง ทำได้อย่างไรท่านอย่าไปรู้เลย แล้วเราจะให้ท่านดูงูที่ดีกว่านั้นในดินแดนแคนด้าห์ แต่ท่านอย่าไปนั่งทับมันน่ะคุณบีนา"
จากคุณ :
Sv
- [
26 ก.ย. 45 08:24:39
]