และแล้วเช้าวันใหม่ก็มาถึง เสียงคุณนาฬิกาปลุกร้องเตือนเจ้าหนูน้อยเหมือนทุกๆเช้า
สวัสดี Jimmy --- สวัสดี Jimmy --- เจ้าหนูตื่นขึ้นพลางเอามือลูบหัวคุณนาฬิกาปลุกเพื่อบอกว่าเขาตื่นแล้ว หนูน้อยJimmy ลุกขึ้นจากเตียงอย่างงัวเงีย เดินโซเซไปที่อ่างล้างหน้า เขาเริ่มล้างหน้า แปรงฟัน หวีผม และแต่งตัว เตรียมจะลงไปทานอาหารเช้ากับพ่อของเขา แต่ในทันใดนั้นความคิดทั้งหมดก็หยุดลง!!!ใช่แล้ว!!เขาเกิบจะลืมเลือนสิ่งที่สำคัญมากๆไปสะแล้วสิ เจ้าหนูรีบวิ่งกลับไปที่เตียงนอนของเขา พลางคุ้ยหากระดาษจดหมายฉบับนั้น อะ! นั้นไงมันอยู่ใต้ผ้าห่มนะเอง เจ้าหนูรีบคว้าจดหมายมากำไว้ในมือแน่น แล้วก็รีบวิ่งรี่ลงไปที่ชั้นล้าง เอามืออีกข้างที่เหลืออยู่คว้าขนมปังปิ้งที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร แล้วก็ใช้หลังผลักประตู กระโจนออกจากบ้านอย่างรีบร้อน จนขนาดที่เขาลืมที่จะกล่าวอรุณสวัสดิ์ กับพ่อของเขาด้วยซ้ำ เจ้าหนูรีบวิ่งเร็วรี่ไปตาม ถนนหนึ่งสายเพื่อไปยังบ้านของ คุณตาเอื้อเฟื้อ และ คุณยายเผื่อแผ่ วิ่ง วิ่ง วิ่ง และก็วิ่ง ขาวิ่งไปพลาง ก็กินขนมปังไปพลาง นั้นไง! ร้านของใช้เจ้าหนูค่อยๆวิ่งช้าลงแล้วหยุดอยู่ที่หน้าร้าน
ปิ๊ง ปิ๊ง ปุ๊ ปุ๊ มีแขกมาจ้า!! ปิ๊ง ปิ๊ง ปุ๊ ปุ๊ มีแขกมาจ้า!! เสียงกริ่งของร้านของใช้ดังขึ้น ทำเอาสองตายายตกใจไม่น้อย
ใครกันนะมากันแต่เช้าอย่างนี้ คุณเอื้อเฟื้อกล่าวขึ้นด้วยเสียงเบาๆ เหมือนกับบ่นพึมพับ นั้นนะสิตา คุณเผื่อแผ่กล่าวเสริมพลางเดินไปเปิดประตูให้แขกที่มาเยือน
อ้าว สวัสดี Jimmy มาทำอะไรแต่เช้าอย่างนี้ละ มีอะไรให้ช่วยไหม คุณ เผื่อแผ่ กล่าวทักทายเจ้าหนูน้อย ด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจกับการมาเยื่อนของแขกตัวน้อย
สวัสดีครับ คุณเอื้อเฟื้อ สวัสดีครับ คุณเผื่อแผ่ จิมมี่ ตอบด้วยน้ำเสียงเกรงใจ เล็กน้อย
เอาๆ ยายพาเจ้าหนูมานั้งคุยกันข้างในมะ คุณเอื้อเฟื้อ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเอื้ออารี
แล้วคุณเผื่อแผ่ก็ เอามือโอบไหล่จิมมี่เบาๆ พลางพา เจ้าหนูมานั่งที่ ม้านั่งเล็กๆทางด้านใน
เอาละ..มีอะไรหรือจิมมี่ คุณเอื้อเฟื้อถามแล้วก็หันมามองทางจิมมี่
คือ
..คือ
. ผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อยนะครับ จิมมี่เริ่มพูดด้วยท่าทีเกรงใจ
แล้วก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ได้รับจดหมายจากคุณไปรษณีย์ ให้คุยเอื้อเฟื้อ และคุณเผื่อแผ่ฟัง แล้วก็ยื่นจดหมายนั้นให้ดู พอจิมมี่เล่าจบ ดูท่าคุณเอื้อเฟื้อ และ คุณเผื่อแผ่จะไม่ค่อยเข้าใจมันสักเท่าไรนัก จิมมี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและรู้สึกถึงความเปล่าประโยชน์ที่จะถามอะไรต่อไป (พวกเขาคงไม่รู้จัก เมืองขออะไรก็ได้ และคงจะ ไม่เคยได้รับจดหมายจากพระราชาแห่งเมืองขออะไรก็ได้เป็นแน่ แต่เอาเถอะ ไหนๆก็มาแล้ว ไม่รองจะรู้ได้ไง
.) เจ้าหนูน้อยคิดในใจ แล้วเขาก็รับจดหมายคืนจากสองตายาย
เออ.. คุณเอื้อเฟื้อ ฮะ คุณ เผื่อแผ่ ฮะ
. คุณ รู้ไหมฮะว่าเมืองขออะไรก็ได้นี้อยู่ที่ไหน แล้วผมจะไปที่นั้นได้อย่างไง?? เจ้าหนูน้อยถามด้วยเสียงเบาๆ เหมือนเตรียมใจไว้ผิดหวังกับคำตอบที่เขาจะได้ยิน
ไม่จิมมี่ เราทั้ง2ไม่รู้ และไม่เคยได้ยินเรื่องราวเช่นนี้มาก่อนเลยจริงๆ ขอโทษนะที่เราไม่รู้จะช่วยเจ้าได้ยังไง คุณเอื้อเฟื้อตอบด้วยน้ำเสียงอารีอย่างเคย
พลางเอามือลูบหัวของจิมมี่เบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ เจ้าหนูทำหน้าเศร้าเขารู้สึกผิดหวังกับคำตอบที่ได้ยิน เขาค่อยๆลุกขึ้นจากม้านั่งอย่างช้าๆ และกำลังจะเดินไปยังที่ประตูทางออก
เออ
จิมมี่--- เสียงของคุณเผื่อแผ่ ดังขึ้น
เจ้าหนูหันหน้ากลับไปมองที่คุณเผื่อแผ่ ดวงตาของหนูน้อยเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย
มีอะไรหรือครับ จิมมี่ถามคุณเผื่อแผ่ด้วยเสียงเบาๆ
ทำไมเธอไม่รองไปถามคุณ ตุ๊ต๊ะ กับคุณ ตุ้มตุ้ย ดูละจ๊ะ บางที่พวกเขาอาจเคยได้รับจดหมายแบบเดียวกับเธอก็ได้นะ คุณเผื่อแผ่บอกกับจิมมี่
ทันใดนั้น ดวงตาของเด็กน้อยดูเหมือนจะเริ่มมีความหวังขึ้นมาทันที
ขอบคุณครับ จิมมี่ตอบอย่างฉะฉานด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจ
แล้วเจ้าหนูก็รีบวิ่งรี่ออกจากประตูร้านของใช้ไปอย่างรีบร้อนปานจรวด ตรงไปยังถนนหนึ่งสายอย่างเคย เพื่อที่จะไปยัง ร้านของกิน เราต้องขอย้ำกันอีกครั้งว่าเมืองไม่มีที่ไหนแห่งนี้มีถนนเพียงแค่สายเดียว นั้นก็คือ ถนนหนึ่งสายนะเอง เอาละเรามาดูเหตูการณ์กันต่อไป
วิ่ง วิ่ง วิ่ง และ ก็ วิ่ง อย่างไม่ลดละ ตอนนี้ในหัวของจิมมี่เร่งอยากจะไปให้ถึงบ้านของคุณตุ๊ตะ และคุณตุ้มตุ้ยไว้ๆ
ตอนนี้เจ้าหนูหยุดอยู่ที่หน้าร้านของกิน เจ้าหนูยื่นมือไปกดกริ่งอย่างช้าๆ ตุ๊ ตะ ลุ ตุ๊ ตะ มีคนมา มีคนมา ตุ๊ ตะ ลุ ตุ๊ ตะ มี คนมา มี คนมา เสียงกริ่งของ ร้านของกินดังขึ้นเจ้าหนูรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าประตูนะเอง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่งเสียงฝีเท้าของอะไรสักอย่างที่ดูจะตัวใหญ่มากๆ ดังขึ้น และดูเหมือนมันจะ ดังขึ้นเรื่อยๆ และหยุดลงตรงที่หน้าประตู แอ๊ดดด
ประตูบานใหญ่เปิดออก สิ่งที่ปรากฏอยู่ด้านหน้าของจิมมี่คือชายร่างมหึมา เขาคือ คุณตุ๊ตะ นะเอง
เชิญๆ หนูน้อย เชิญเข้ามาข้างในก่อน คุณตุ๊ต๊ะ เรียกบอกจิมมี่
หนูน้อยเดินเข้ามาข้างในบ้านหลังมหึมา คุณตุ้มตุ้ย กำลังนั่ง ถักผ้าพันคอสีแดงสด อยู่บนม้านั่ง ที่ดูเล็กไปถนัดตาสำหรับผู้หญิงร่างยักษ์ อย่างเธอ
อ่าว!! ว่าไงจะหนูน้อย พาเขามานั่งตรงนี้สิคะที่รัก คุณ ตุ้มตุ้ย ร้องบอกสามีของเธอ
จิมมี่ พยายามที่จะขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะสูงและ ใหญ่เกินไปสำหรับเด็กชายตัวเล็กๆอย่างเขา ในที่สุดคุณตุ๊ต๊ะ จึงต้องเป็นคนอุ้มเจ้าหนูน้อยขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ ก่อนที่เขาจะย้ายร่างอันใหญ่โตของเขา ไปนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ คุณตุ้มตุ้ย
เออ
.คุณตุ๊ตะ คุณตุ้มตุ้ยครับ คือผมมีเรื่องอยากถาม จิมมี่เอ่ยขึ้น ด้วยเสียงอันดังเพราะเกรงว่า 2สามีภรรยาจะไม่ได้ยิน
มีอะไรละจ๊ะจิมมี่ พูดเสียงเบาๆก็ได้พวกเราได้ยินจ๊ะ คุณ ตุ้มตุ้ย ตอบพลางยิ้มให้กับจิมมี่ จิมมี่เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้2สามีภรรยาร่างยักษ์ ฟัง แต่ดูเหมือนกับว่ามันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะมาพบพวกเขา เพราะคำตอบยังคงเหมือนเดิม เขาทั้งคู่ ไม่รู้จักเมืองขออะไรก็ได้ และไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่าพระราชาของเมืองขออะไรก็ได้คือใคร และไม่เคยได้รับจดหมายเหมือนกับจดหมายของจิมมี่มาก่อนเลย แต่ก่อนที่จะลาจากกัน ทั้งสองได้แนะนำและบอกกับจิมมี่ว่าให้เขาไปถามคุณสะอาด เพราะคุณสะอาดเป็นผู้ที่รู้จักเส้นทางดีกว่าใครๆ
.
จากคุณ :
หมากระป๋อง
- [
5 ต.ค. 45 21:12:33
A:203.149.41.199 X:
]