Jimmy และ เมืองขออะไรก็ได้ ( ตอนที่2 หนทาง) Part3

    ในขณะที่หนูน้อยกำลังขบคิดถึงคำใบ้ปริศนาอยู่นั้นเองก็มีสิ่งประหลาดที่ไม่น่าคาดฝันเกิดขึ้นมีแสงประหลาดระยิบระยับแสบตาเป่งประกายออกมาจากเศษแก้วที่แตกนั่นเอง แสงนั่นสว่างขึ้น สว่างขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ตาก็เจ้าหนูน้อยมองไม่เห็นอะไรภายในห้องเลยนอกเสียจากแสงสีขาวจ้าและแล้วทันใดนั้นเองสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก็ก็เกิดขึ้น…
    “สวัสดีจ๊ะ ฉันชื่อบีบี้”เสียงแหลมเล็กของใครคนหนึ่งดังขึ้นหลังจากที่แสงประหลาดค่อยๆจางหายไป Jimmyค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆตอนนี้ตาของเขาพร่ามัวไปหมด เขาพยายามใช้มือขยี้ตาสองสามครั้งเพื่อให้เห็นสิ่งต่างๆรอบๆตัวชัดเจนขึ้น
    “สวัสดีจ๊ะ ฉันชื่อบีบี้” เสียงนั้นทักทายอีกครั้ง Jimmyค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆและแล้วสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าของเขาก็คือ ภูตตัวจิ๋วที่หน้าตาคล้ายกับมนุษย์แต่ว่ามีหูแหลมแล้วยังแต่งกายด้วยชุดประหลาดสีแดงที่มีรูปทรงกลมมองดูแล้วเหมือนสวมผลส้มสีแดงนะเอง นอกจากนั้นยังสวมหมวกแม่มดใบใหญ่สีแดงและรองเท้าที่มีหัวงุ้มงอสีแดงอีกด้วย Jimmy จ้องมองภูตจิ๋วด้วยความตื้นเต้นเขารู้ดีว่านี้ไม่ใช่ความฝัน มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วและมันคงจะเกิดขึ้นกับเขาคนเดียวเท่านั้น “มันชั่งวิเศษเสียจริงๆ” ตอนนี้ไม่มีคำใดๆที่จะสามารถมาบรรยายความรู้สึกสุดวิเศษของเจ้าหนูน้อยได้ เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญเป็นคนพิเศษที่ได้มารับรู้เรื่องราวต่างๆที่ไม่เคยมีใครได้มารับรู้เช่นเดียวกับเขามาก่อน  ตอนนี้เจ้าหนูอยากจะร้องตะโกนออกได้ดังๆถึงความตื้นเต้นที่อัดแน่นอยู่เต็มอก   แต่แล้วเสียงเล็กๆนั้นก็กล่าวขัดจังหวะความดีใจอีกครั้ง
    “สวัสดีจ๊ะ ฉันชื่อบีบี้ ฉันกล่าวทักทายเธอมาเป็นครั้งที่สามแล้วนะ เธอช่วยสนใจฉันหน่อยได้ไหม” เจ้าภูตตัวจิ๋วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก
    “อ่าวเออ….ขอโทษทีนะฉันมัวแต่ดีใจและตกตะลึกที่ได้เจอเธอ ฉันชื่อจิมมี่  ยินดีที่ได้รู้จักนะ” จิมมี่กล่าวตอบด้วยความนอบน้อม
    “อืม เจ้าคือเด็กที่ถูกเลือกแล้วสินะ อืมมม… อืมม… อืมม…ใช้ได้ ใช้ได้ๆ” เจ้าภูตจิ๋วพูดไปพลางก็เอามือเกาคางไปพลาง แล้วก็บินวนไปรอบๆตัวจิมมี่ค่อยๆมองอย่างพินิจ พิจารณาเหมือนคนกำลังเลือกดูสินค้าไม่มีผิด ทำเอาจิมมี่รู้สึกอึดอัดไม่น้อยเลยที่เดียว
    “เออของโทษนะครับ คุณบีบี้ คุณมาทีนี้ทำไมหรือครับ แล้วคุณมาได้ยังไงกัน” จิมมี่รีบเอ่ยถามขึ้นก่อนที่ตัวเขาเองจะรู้สึกแย่ไปกว่านี้ เขาไม่ชอบที่จะให้ใครมามองเขาแบบนี้เลย
    “อ้อใช่!!เกิบลืม เราชื่อบีบี้เกิดขึ้นมาจาก “ขวดเพโทโดส” นั้นยังไง ใครๆมักเรียกเราว่าภูตแห่งเพโทโดส เรามาที่นี้เพื่อพิทักและแนะนำเจ้าสู่หนทางที่ถูกต้อง เจ้าภูตจิ๋วกล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
    “ภูตรแห่งเพโทโดส ขวดเพโทโดสงั้นหรือครับ” จิมมี่อุทานขึ้นด้วยเสียงแปลกใจ เขายังไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่เจ้าภูตจิ๋วพูดเท่าไรนัก
    “อืมใช่แล้วๆ ก็ขวดที่เจ้าทำมันแตกยังไงละ เราเป็นภูตรประจำขวดใบนั้นแต่จะออกมาได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ทำลายมนต์สะกดเสียก่อนซึ่งเจ้าก็เป็นคนทำ นั้นก็หมายถึงว่าต่อแต่นี้ไปเราก็คือภูตผู้พิทักและแนะนำเจ้ายังไงเจ้าหนูน้อย” เจ้าภูตจิ๋วกล่าวอธิบาย
    “ผมนะหรือครับคนทำลายมนต์สะกด ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย นอกเสียจากปาขวดนั้นแตก”จิมมี่ถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
    “ก็นั้นละ…. เอาๆพอๆ เจ้าหนูเจ้าเลิกถามอะไรเสียทีเถอะข้าเหนื่อยและล้ามามากพอแล้ว ไม่อยากจะตอบคำถามอะไรอีกแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะเจ้าหนู ราตรีสวัสดิ์” เจ้าภูตรตัวน้อยกล่าวตัดบท  พลางเอามือวนไปวนมาเป็นวงกลม ปากก็ขมุบขมิบเหมือนกำลังท่องมนต์อะไรสักอย่างแล้วอยู่ๆไฟในห้องก็ดับลงเฉยๆ แต่เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้จิมมี่ตกใจเพราะเขารู้สึกว่ามันไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสิ่งอื่นๆที่เขาได้เจอะเจอมา
    “อืม ราตรีสวัสดิ์ แต่เดี่ยว เราชื่อจิมมี่ไม่ใช่เจ้าหนูอย่าเรียกเราอย่างนั้นอีก” จิมมี้กล่าวก่อนที่จะล้มลงนอนบนเตียงอันแสนนุ่ม แล้วพวกเขาทั้งสองก็ม่อยหลับไป…………….  

    จากคุณ : หมากระป๋อง - [ 7 ต.ค. 45 20:13:40 A:203.149.38.143 X: ]