. . .ปิ๊ง . . .(The Flash). . .

    มันเกิดขึ้นวันหนึ่งกลางสี่แยกถนน กลางฝูงชนผู้คนขวักไขว่ไปมา

          ฉันหยุด กระพริบตาอย่างงงวยในบัดดล ฉันไม่เข้าสิ่งอันใดเลย ไม่มี. . . ไม่มีสักสิ่งเลย   ฉันไม่เข้าใจเหตุผลในตัวมนุษย์และสิ่งของ มันดูไร้เหตุผล เหลวไหลไร้สาระทั้งนั้น ฉันจึงหัวเราะออกมา

         สิ่งแปลกประหลาดที่ฉันพบในตอนนั้น เป็นสิ่งซึ่งฉันไม่เคยตระหนักมาก่อนเลย สิ่งที่มีมาจวบถึงตอนนั้น ฉันยอมรับไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าไฟจราจร รถรา แผ่นโปสเตอร์โฆษณา เครื่องแบบ อนุสาวรีย์ สิ่งทั้งหลายทั้งมวลล้วนห่างไกลจากบรรดาเหตุผลทางโลกที่ยอมรับความสำคัญของพวกมัน  มีห่วงโซ่แห่งเหตุปัจจัยและผลกระทบรัดร้อยเข้าหากัน
     
         แล้วเสียงหัวเราะของฉันก็เหือดหายแห้งตาย. ฉันอับอายจนหน้าแดง  โบกไม้โบกมือเรียกร้องความสนใจจากผู้คน  "หยุดสักเดี๋ยวสิ!" ฉันตะโกน "มีอะไรบางอย่างผิด! ทุก ๆอย่างผิดหมด! เรากำลังทำสิ่งเหลวไหลไร้สาระ นี่ไม่ใช่วิธีที่ถูก เมื่อไหร่ถึงจะจบจะสิ้นนะ?"

         ผู้คนหยุดมามุงรอบฉัน พิจารณาดูฉันอย่างสนอกสนใจขึ้นมา  ฉันยืนอยู่ที่ตรงนั้นใจกลางวงล้อมของพวกเขา ฉันกวักไม้กวักมือ อับจนหนทางที่จะอธิบายให้พวกเขาร่วมรับรู้ในสิ่งที่ฉันพึ่งปิ๊งในหัวจนฉันบรรลุในทันใด แล้วฉันก็บอกว่าไม่มีอะไร   ฉันบอกไม่มีอะไรเพราะว่าเมื่อชั่วครู่ที่ฉันยกแขนขึ้น อ้าปากจะพูด คำประกาศยิ่งใหญ่ของฉันเหมือนถูกกลืนกินกลับเข้าไปหมด ออกมาแต่คำพูดเก่าๆว่าอย่างไร พร้อมใจเต้นตึกตัก

        "แล้วไงล่ะ?" ผู้คนต่างไตร่ถาม  "คุณหมายความว่าอย่างไร? อะไร ๆก็อยู่กับที่กับทางของมัน อย่างที่มันควรจะเป็น ทุกสิ่งย่อมเป็นผลลัพธ์ของสิ่งอื่น  ทุกสิ่งย่อมเป็นเหตุเป็นผลกับสิ่งอื่น เราไม่ควรมองดูทุกๆสิ่งผิดหรือเหลวไหลไร้สาระ."

        ฉันยังคงยืนอยู่ ณ ทีนั้น รู้สึกเหมือนหลงทาง ด้วยบัดนี้มองเห็นแล้วว่าทุกสิ่งกลับเข้าที่เข้าทางอีกครั้งและทุกสิ่งดูท่าทางปรกติดี  ไฟจราจร อนุสาวรีย์ เครื่องแบบ หอคอย  รถราง  ขอทาน  ขบวนแห่แหน  แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ช่วยให้ฉันสงบจิตสงบใจได้  มันกลับทรมานฉัน  

         "ฉันขอโทษ" ฉันพูด  "บางทีฉันเองแหละที่เป็นคนผิด  ตอนนั้นมันดูเป็นอย่างนั้นนี่  แต่ทุกสิ่งก็ปกติดีแล้วตอนนี้ ขอโทษนะ" แล้วฉันก็เลี่ยงออกมาจากท่ามกลางสายตาขึ้งโกรธของพวกเขาทั้งหลาย
         
          จนถึงแม้ตอนนี้ ทุกๆครั้ง (และออกบ่อยๆ) เมื่อฉันพบว่าไม่เข้าใจอะไรบางสิ่ง  แล้วด้วยสัญชาตญาน ฉันก็เต็มตื้นไปกับความหวังว่าบางทีนี่จะเป็นเวลาของฉันเองอีกครั้ง, บางทีอาจเป็นอีกครั้งที่จะได้ไม่เข้าใจอะไรเลย  จะได้ยื้อหาความรู้อื่นๆ ที่ค้นพบและสูญหายไปได้ในทันใด


    แปลเรียบเรียงจากเรื่องของ  Italo Calvino

    แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 45 09:47:47

     
     

    จากคุณ : ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [ 9 ต.ค. 45 09:42:03 ]