กาลครั้งหนึ่ง...ไม่นานมานี้
มีห้องสมุดเล็กๆอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนห้องสมุดแห่งไหนในโลก
เพราะสิ่งที่เรียงรายอยู่บนชั้นข้างฝานั้นไม่ใช่หนังสือ
แต่เป็นของเล่นมากมาย ที่เด็กๆสามารถยืมเพื่อนำกลับไปเล่นที่บ้านได้
คล้ายๆเวลาที่เรายืมหนังสือจากห้องสมุด
บรรดาของเล่นที่อยู่บนชั้นก็มีอยู่หลากหลาย ทั้งสำหรับเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงทุกวัย
พวกของเล่นถึงจะเก่า แต่ก็ดูแจ่มใส เพราะพวกมันได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
ทั้งยังได้รับความรักจากเด็กๆที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเล่นด้วยตลอดเวลา
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีของเล่นชิ้นหนึ่งซึ่งแตกต่างไปจากเพื่อนๆ
ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักสะอาดเอี่ยม ถูกวางทิ้งไว้มุมนึงของห้อง
ราวกับไม่มีใครเคยสนใจหยิบเธอมาจากตรงนั้นเลย
แม้จะสวมเสื้อผ้าสวยงามสีสันสดใส แต่ใครๆต่างรู้ดีว่า เด็กหญิงตุ๊กตานั้นเศร้าหมองอยู่ตลอดเวลา
" ยิ้มหน่อยเถอะตุ๊กตาน้อย เธอนั่งทำตาแดงๆมาเป็นชั่วโมงแล้ว "
ตุ๊กตาหมีใหญ่ใจดีกล่าวกับตุ๊กตาตัวน้อยที่แอบไปนั่งร้องไห้บนขอบหน้าต่างในคืนหนึ่งที่ฟ้าพราวดาวพร่าง
คืนที่ดาวส่องสว่างอย่างนี้ พวกตุ๊กตาจะได้รับเวทมนต์ให้ตื่นจากการหลับใหล และสามรถเคลื่อนไหวพูดคุยกันได้
แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่ดังเกินไป จนทำให้เด็กๆตกใจตื่น
" ไม่มีใครรักฉันเลยนะ ทำไมไม่มีเด็กคนไหนเล่นกับฉันเลย"
ตุ๊กตาน้อยรำพึงอย่างเศร้าสร้อย แล้วก็ปล่อยให้น้ำตารินไหลจากดวงตาสุกใสที่ทำด้วยกระดุมเม็ดงาม
" โธ่เอ๊ย ตุ๊กตาน้อย " หมีใหญ่ปลอบ พลางดึงตุ๊กตาน้อยเข้าสู่อ้อมกอดอันอ่อนโยน
( ถ้าใครเคยกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ คงจำได้ว่าอ่อมกอดที่กอดตอบมานั้นอบอุ่นเพียงใด )
แล้วตุ๊กตาหมีก็ต้องแปลกใจ ที่ตัวของตุ๊กตาน้อยไม่นุ่มนิ่มน่ากอดเหมือนความน่ารักที่มองเห็น
' ....ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม เด็กๆถึงไม่เล่นกับเธอ เด็กๆที่ไร้เดียงสานั้นสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ภายในได้ดีกว่าผู้ใหญ่
ซึ่งมักจะมองเห็นแต่สิ่งที่อยู่ภายนอก..'
ตุ๊กตาหมีคิดพลางถอนใจ แววตาที่มองมายังตุ๊กตาน้อยนั้นเต็มไปด้วยความเข้าใจและเอื้ออาทรลึกซึ้ง
" ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกนะเด็กน้อย ใครคนที่สร้างเธอขึ้นมา คงลืมยัดนุ่นเข้าไปในตัวเธอมากเกินไป
จึงทำให้เธอไม่อ่อนนุ่มเหมือนที่ควรจะเป็น "
" แล้วนี่ฉันควรทำยังไงดี "
ตุ๊กตาตัวน้อยเอ่ยถามอย่างร้อนรน
" เธออาจจะต้องลองขอพรจากดวงดาวแล้วล่ะ ตุ๊กตาน้อย "
หมีใหญ่แนะนำตามความเชื่อของพวกตุ๊กตา ว่าแสงดาวนั้นจะนำทางให้กับทุกสิ่งอย่างเท่าเทียม
ตุ๊กตาน้อยกล่าวขอบคุณกับหมีใหญ่อย่างอ่อนหวาน ก่อนจะหันหน้าไปอธิษฐานกับดวงดาว
" เทพแห่งแสงดาว โปรดเมตตาช่วยข้าที "
ทันทีที่คำอธิษฐานจบลง ลมแรงก้อพัดเมฆดำก้อนใหญ่มาบังแสงดาวไว้
เมื่อปราศจากแสงดาว บรรดาเหล่าตุ๊กตาก็สูญสิ้นเวทมนต์ ตุ๊กตาน้อยไม่สามารถปีนลงจากหน้าต่างได้
และเมื่อลมกรรโชกมาอีกหอบใหญ่ เธอก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นหญ้านอกห้องสมุด
เช้าวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าสว่างสดใส เมื่อแดดอ่อนต้องหยาดน้ำค้างเป็นประกาย
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตุ๊กตาน้อย
" น่าสงสารจริงๆ ทำไมเธอมานอนตากน้ำค้างอยู่ตรงนี้ล่ะจ๊ะ "
เด็กหญิงพูดกับตุ๊กตาตัวน้อย พลางก้มลงหยิบขึ้นมากอดอย่างรักใคร่
เด็กหญิงคนนี้อาศัยอยู่กับยายในกระท่อมหลังเล็กใกล้ห้องสมุด เธอไม่เคยมีของเล่นเป็นของตัวเอง
จึงได้แวะมาที่ห้องสมุดของเล่นแห่งนี้เป็นประจำ
" ฉันอยากให้เธอเป็นของฉันจริงๆ แต่ถึงยังไงฉันคงต้องคืนเธอไป เธอควรจะอยู่ในห้องสมุดของเล่น
เผื่อว่าจะมีเด็กคนอื่นที่เค้าอยากจะเล่นกับเธอเหมือนกัน "
เด็กหญิงว่าพลางนำตุ๊กตาตัวน้อยไปคืนกับบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดของเล่น
หลังจากวันนั้น เด็กหญิงก็แวะเวียนมาเล่นกับตุ๊กตาน้อยอยู่เสมอๆ
อ้อมกอดของเด็กหญิงทำให้นุ่นที่อยู่ภายใน ค่อยๆนุ่มขึ้นเรื่อยๆ
และความรักที่เด็กหญิงมอบให้ก็คล้ายเวทมนต์แห่งความสุขที่นำรอยยิ้มกลับคืนมาให้ตุ๊กตาน้อย
" ในที่สุดเธอก็พบคนที่รักเธอมากพอ ดีใจด้วยนะตุ๊กตาน้อย "
เสียงหมีใหญ่กระซิบคุยกับเพื่อนเก่า ในคืนที่แสงดาวสลัวเกินกว่าจะทำให้พวกตุ๊กตาเคลื่อนไหวได้
" ใช่แล้วล่ะ เด็กหญิงใจดีกับฉันมาก เธออดทนกับความแข็งกระด้างของฉัน และเธอก็รักฉัน "
ตุ๊กตาตัวน้อยพูดอย่างสุขใจ
" ความรักเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้จริงๆ "
หมีใหญ่ตอบกลับไปด้วยความสุขใจเช่นกัน
แม้เมื่อวันเวลาจะผ่านไป จนเด็กหญิงใจดีเติบโตเป็นหญิงสาว และเลิกเล่นตุ๊กตาไปแล้ว
แต่ความรักที่เธอเคยมอบให้ ก็ยังทำให้ตุ๊กตาน้อยเป็นตุ๊กตาที่มีความสุขอยู่เสมอ
หากมีใครสักคนได้แวะไปเยี่ยมห้องสมุดของเล่นแห่งนั้น
คงมีโอกาสได้เห็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักวางอยู่บนชั้นเตี้ยๆ
ที่แม้แต่เด็กเล็กๆก็สามารถเอื้อมมือไปหยิบเธอมากอดได้
ถึงเสื้อผ้าที่เคยมีสีสันสดใสจะเก่าลงจนสีซีดจาง
แต่เวทมนต์แห่งความสุขไม่เคยจะจางไป ในความรู้สึกของเด็กที่มีโอกาสได้กอดตุ๊กตาตัวนั้นเลย
ฝันดีค่ะ
จากคุณ :
เจ้าหญิงน้อย
- [
13 ต.ค. 45 08:13:12
A:202.183.138.246 X:
]