นี่ถ้าไม่มีไอ้เจ้าคนที่ชื่อ โนโบรุ วาตานาเบะ ผมยังไม่รู้เลยว่าจะใช้กบเหลาเดินสอก่าคร่ำครึต่อไปอีกหรือเปล่า ขอบใจนะโนโบรุ วาตานาเบะ นี่ผมก็เลยได้เป็นเจ้าของ กบเหลาเดินสอใหม่เอี่ยมอ่อง. โชคดีพรรค์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันนี่นะ
ตอนที่โนโบรุ วาตานาเบะ เข้ามาในครัวของผม เขาจ้องเขม็งที่กบเหลาดินเสาเก่า ๆบนโต๊ะของผมโดยทันที วันนั้น ผมเปลี่ยนไปทำงานที่โต๊ะในครัวตามอารมณ์ที่แปรปรวน ดังนั้น กบเหลาดินสอจึงย้ายมาวางอยู่ระหว่างขวดซีอิ๊วกับกระปุกเกลือ
โนโบรุ วาตานาเบะ ขณะกำลังซ่อมท่อน้ำทิ้ง--เขาเป็นช่างประปาน่ะครับ--มักจะลอบแอบชำเลืองมองด้วยหางตามาที่โต๊ะเสมอ ๆ แต่ตอนนั้นไม่มีทางรู้เลยว่าเขาจะเป็นขโมยโรคจิตชอบสะสมกบเหลาดินสอหรือเปล่า ผมเลยนึกไม่ออกจริง ๆว่าเขามาเสนอกสนใจอะไรหนักหนาบนโต๊ะ ถึงได้แอบจ้องเอา ๆ อย่างไร้จุดหมาย ก็บนโต๊ะมีแต่ข้าวของวางออกเกลื่อน
"ท่านครับ กบเหลาดินสอเจ๋งเป้งของท่านอันที่อยู่ตรงนั้นน่ะครับ," โนโบรุ วาตานาเบะเอ่ยปาก หลังจากซ่อมท่อสร็จสิ้นแล้ว.
"กบตัวนี้รึ?" ผมหยิบมันขึ้นจากโต๊ะด้วยความประหลาดใจ . มันเป็นกบเหลาด้วยมือธรรมดาๆแบบเดียวที่ผมใช้มากว่ายี่สิบปี ตั้งแต่สมัยผมอยู่ชั้นมัธยมนู้นแน่ และไม่เห็นจะแตกต่างจากกบตัวอื่นๆเลย ส่วนที่เป็นโลหะก็ขึ้นสนิมเขรอะเต็มไปหมดแล้ว และข้างบนมีสติกเกอร์แปะอยู่ พูดสั้น ๆก็คือทั้งเก่าทั้งสกปรก.
"กบที่ท่านมีน่ะเป็นรุ่น Marx PSDของปี 1963 ซึ่งหายากมากครับ" โนโบรุ วาตานาเบะบอก "ลักษณะคมใบมีดที่ตัด นั่นแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ เพียงเล็กน้อย แต่รอยเเหลานั้นประณีตแตกต่างอย่างยิ่ง"
"แม่เจ้าโว้ย" ผมอุทาน
ดังนั้น วันนั้นนจึงเป็นวันพฤหัสบดีซึ่งผมได้กบเหลาดินสออันใหม่เอี่ยมอ่องรุ่นล่าสุด และโนโบรุ วาตานาเบะ กลับออกไปพร้อมกับกบรุ่น Marx PSDของปี 1963 (ที่มีสติ๊กเกอร์ติด) โนโบรุ วาตานาเบะ มักหอบกบเหลาดินสอใหม่ ๆใส่กระเป๋าไปไหนต่อไหนด้วย เผื่อไว้แลกเปลี่ยนต่อรองเช่นในสถานการณ์ที่พึ่งเกิด ถึงแม้ว่าอาจจะเกิดขึ้นได้บ่อยๆ โชคลาภเช่นนี้ก็มิได้โคจรมาให้พบปะบ่อยๆในชั่วชีวิตหนึ่งเช่นกัน
แปลเรียบเรียงจากเรื่องของ Haruki Murakami
จากคุณ :
ส.ค.ศ. ๔๙๑๔
- [
13 ต.ค. 45 12:32:47
]