บทที่ ๑๔
ไล่ล่า
ข้าพเจ้าคาดว่าเป็นลมไปสักนาทีหรือสองนาที ถึงอย่างนั้นข้าพเจ้าก็ยังจำความฝันอันยาวนานและแปลกประหลาดได้ เหมือนอย่างเช่นความฝันของคนไข้ที่ถูกวางยาด้วยแก็ซหัวเราะ ซึ่งมันชัดเจนและแจ่มใสมากในเวลานั้นแต่เพียงชั่วครู่ต่อมามันเลือนหายไปจากจิตใจเหมือนกับน้ำที่ไหลออกไปจากกำมือ มันเป็นบางอย่างทีทำให้โครงกระดูกของช้างนับร้อยลุกขึ้นเดินเข้าแถวเบื้องหน้าข้าพเจ้า พากันคำนับข้าพเจ้าโดยการคุกเข่ากระดูกของมันลง ข้าพเจ้าค่อนข้างจะเข้าใจ เพราะว่าข้าพเจ้าเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่หนีจานามาได้ มากไปกว่านั้นบนหัวกระโหลกของช้างตัวหน้าสุดฮานส์นั่งอยู่เหมือนกับควาญช้าง ออกคำสั่งไปที่แถวของพวกมันและชี้แจงกับพวกมันว่าเป็นเรื่องง่ายมากที่พวกมันจะช่วยกันขนงาช้างเพราะพวกมันไม่จำเป็นต้องใช้อีกแล้วไปกองรวมกันไว้ยังที่แห่งหนึ่ง---ข้าพเจ้าลืมไปแล้วว่าที่ไหน---ใกล้กับถนนเพื่อความสะดวกที่จะมาขนพวกมันไปทีหลังยังดินแดนที่จะใช้พวกมันทำลูกบิลเลียดและแปรงหวีผมของผู้หญิง ต่อมาจากความฝันที่กำลังจะจางไปนั้น ข้าพเจ้าได้ยินเสียงที่ไม่สงสัยเลยว่าเป็นเสียงของฮานส์ ซึ่งแน่นอนข้าพเจ้ารู้อย่างเหลวไหลว่าเขาสาบสูญไปและตายแล้วอย่างไม่ต้องสงสัยพูดว่า
"ถ้าเจ้านายยังไม่ตายรีบตื่นขึ้นมาเร็ว ๆ เมื่อฉันบรรจุลูกปืนใหม่ให้กับดรุณีน้อยเสร็จแล้ว และได้เวลาที่จะไปกันแล้ว ฉันคิดว่ายิงโดนจานาที่ลูกตา แต่เจ้าสัตว์ร้ายใหญ่โตมากไม่ช้ามันก็จะจัดการกับเรื่องเล็กน้อยอย่างนั้นได้และคงมาตามหาเรา ลูกปืนของดรุณีน้อยเล็กเกินไปที่จะสังหารมันเจ้านาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราคงไม่มีโอกาสยิงลูกตามันอีกข้าง"
ตอนนี้ข้าพเจ้าลุกขึ้นแล้วมองจ้องไป ใช่แล้วตรงนั้นเป็นร่างของฮานส์มองดูเหมือนกับตัวเขาตามปกติ เพียงแต่ว่าบางทีค่อนข้างจะสกปรกกว่ากำลังง่วนอยู่กับการใส่เชื้อปะทุลงไปตรงนมหนูของปืนไรเฟิลกระบอกน้อยดรุณีน้อย
"ฮานส์" ข้าพเจ้าพูดด้วยเสียงเบาโหวง "ทำไมผีของแกจึงมาอยู่ที่นี่ ?"
"เพื่อช่วยเจ้านายจากปีศาจร้ายยังไงล่ะ" เขาตอบกลับอย่างทันควัน จากนั้นพิงปืนไว้กับก้อนหิน สหายเก่าแก่คุกเข่าลงข้างตัวข้าพเจ้า เหวี่ยงแขนรอบตัวข้าพเจ้าแล้วเริ่มร้องไห้ฟูมฟายบนตัวข้าพเจ้ากล่าวว่า
"ทันเวลาพอดีเจ้านาย ! แค่ทันเวลาพอดี เหมือนอย่างเคยฮานส์ทำแต่เรื่องยุ่งและตัดสินใจแย่มาก---ฉันจะบอกเจ้านายทีหลัง แต่ก็ยังทันเวลา ขอบคุณคุณพ่อที่นับถือของเจ้านาย โอ ! ถ้าท่านทำให้ฉันล่าช้าไปอีกนาทีเดียวเจ้านายคงแบนแต๋เหมือนกับจมูกของฉัน เจ้านายฟื้นสติขึ้นมาเร็ว ๆ ฉันผูกอูฐไว้ตรงนั้นมันพาเราสองคนไปได้ ตอนนี้มันอ้วนและแข็งแรงหลังจากพักมาสี่วันพร้อมกับมีอาหารให้กินอย่างมากมาย สถานที่นี้มีผีสิงเจ้านาย และราชาของปีศาจร้ายจานาจะกลับมาหาเราในไม่ช้าหลังจากที่มันเช็ดเลือดออกจากตาของมันแล้ว
ข้าพเจ้าไม่ออกความเห็นอย่างใด ในตอนนั้นไม่รู้สึกอยากจะพูดอะไรอีก เพียงแค่มองไปที่ร่างของมารุตผู้น่าสงสารซึ่งนอนเคียงข้างข้าพเจ้าราวกับว่านอนหลับอยู่
"โอ เจ้านาย" ฮานส์พูดขึ้น "ไม่ต้องลำบากกับเขาอีกแล้ว เพราะว่าคอของเขาหักตายสนิทแล้ว อีกทั้งมันก็เป็นเรื่องดี" ฮานส์กล่าวต่ออย่างยินดี "เพราะว่าคุณพ่อนักเทศน์ของเจ้านายต้องจำได้อย่างไม่ต้องสงสัยว่าอูฐบรรทุกคนสามคนไปไม่ได้ มากไปกว่านั้นถ้าทิ้งเขาไว้ที่นี่ จานาจะกลับมาเล่นกับเขาแทนที่จะติดตามเรา"
มารุตผู้น่าสงสาร ! นี่เป็นเพลงศพที่ร้องส่งโดยฮานส์
มองเป็นครั้งสุดท้ายไปยังร่างของคนไร้สุขที่ข้าพเจ้าเริ่มใกล้ชิดในช่วงเวลาที่ถูกจับและได้รับความลำบากมาด้วยกัน ข้าพเจ้าใช้วงแขนของผู้เฒ่าฮ็อตเทนต็อตหรือน่าจะเป็นเป็นหัวไหล่ของเขาเพราะในตอนแรกข้าพเจ้ารู้สึกว่าอ่อนล้าจนเดินด้วยตัวเองไม่ไหว แล้วเดินไปกับเขาผ่านก้อนหินและกองกระดูกช้างตัดผ่านไปทางตะวันออกห่างทะเลสาบออกมา ประมาณสองร้อยหลาจากฉากอันเศร้าสลดของเราเป็นเนินหินคล้ายกับเนินที่จานาปรากฏตัวออกมาแต่ว่าเล็กกว่า ข้างหลังเนินเราพบอูฐคุกเข่าอยู่อย่างเช่นสัตว์ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีและล่ามมันไว้กับก้อนหิน
ขณะที่เราเดินทางไป อย่างสั้น ๆ แต่ใช้ภาษาที่พอจะเข้าใจฮานส์เล่าเรื่องของเขา มันดูเหมือนว่าหลังจากที่เขายิงนายทหารแคนด้าห์เขามีไหวพริบขึ้นมาโดยมองไปข้างหน้าว่าเขาน่าจะมีประโยชน์กับข้าพเจ้ามากกว่าถ้ายังมีอิสสระมากกว่าที่จะถูกจับไปด้วยกัน หรือถ้าเราถูกฆ่าตายเขาก็ยังสามารถแก้แค้นให้กับการตายของข้าพเจ้าได้ เขาจึงหลบหนีไปอย่างที่เขาอธิบายแล้วซ่อนตัวอยู่จนถึงเวลากลางคืนที่ภูเขา จากนั้นด้วยแสงจันทร์เขาแกะรอยตามพวกเราไปหลบหลีกหมู่บ้านตามทางที่ผ่านไป และสุดท้ายพบที่ซ่อนตัวเป็นถ้ำอยู่ในป่าใกล้กับเมืองซิมบาซึ่งไม่มีชาวเมืองอยู่แถวนั้น ที่นี่เขาให้อูฐหาอาหารกินตอนกลางคืนซ่อนตัวมันเมื่อดวงอาทิตย์ ขึ้นไว้ในถ้ำ เวลากลางวันเขาขึ้นไปอยู่บนต้นไม้สูง ที่นั้นเขาเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองข้างล่าง ประทังชีวิตด้วยอาหารที่เขานำไปในถุงผูกไว้กับอานของอูฐ ช่วยเพิ่มเติมด้วยข้าวโพดเขียวที่เขาขโมยมาจากท้องทุ่งใกล้ ๆ
ดังนั้นเขาจึงเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมือง รวมทั้งผลงานอันเศร้าสลดจากพายุลูกเห็บอันน่ากลัว ซึ่งเขาซ่อนตัวอยู่ในถ้ำทั้งเขาและอูฐจึงรอดมาได้โดยไม่บาดเจ็บ ในเย็นวันต่อมาจากที่เฝ้าดูบนยอดไม้ซึ่งตอนนี้เขาซ่อนตัวได้อย่างยากลำบากเนื่องจากลูกเห็บริดใบของมันไปหมด เขาเห็นมารุตและข้าพเจ้าถูกพาตัวออกไปจากบ้านพักนำตัวไปพร้อมกับทหารคุ้มกัน รีบลงจากต้นไม้วิ่งกลับไปที่ถ้ำ ใส่อานให้อูฐและไล่ติดตามไป หลบเข้าไปในป่าแล้วซ่อนตัวอยู่ที่นั้นเมื่อเขารู้สึกว่าพวกทหารทิ้งเราเอาไว้
ที่นี่เขารอจนพวกมันเดินทางกลับไป ขณะที่พวกมันผ่านเข้ามาใกล้เขาได้ยินเสียงพวกมันพูดกัน ซึ่งทำให้เขารู้ว่าพวกมันคาดว่าหรือค่อนข้างแน่ใจว่าเราจะถูกสังหารโดยช้างจานาเทพของพวกเขา ซึ่งคนขี่อูฐได้ถูกสังเวยไปแล้ว หลังจากที่พวกมันไปกันแล้วเขาขึ้นขี่อูฐแล้วตามเรามา ตรงนี้ข้าพเจ้าถามเขาว่าทำไมเขาตามเราไม่ทันก่อนที่เราจะมาถึงป่าช้าช้าง อย่างที่ข้าพเจ้าเชื่อว่าเขาต้องทำได้ เพราะเขาบอกว่าเขาอยู่ใกล้ข้างหลังเรา และด้วยเหตุนี้เป็นหัวของอูฐที่ข้าพเจ้าเห็นอยู่ข้างหลังต้นไม้หนามเมื่อข้าพเจ้าเหลียวมองกลับมาข้างหลังไม่ใช่งวงช้างอย่างที่ข้าพเจ้าเข้าใจ
ในตอนนั้นเขาไม่บอกข้าพเจ้าตรง ๆ นอกจากว่าเขารู้สึกยุ่งเหยิงอย่างที่เขาได้กล่าวเอาไว้แล้ว และคิดว่าหลบอยู่ข้างหลังจะดีกว่าเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น นานต่อมาหลังจากนั้นเขาสารภาพกับข้าพเจ้าว่าเขาทำไปตามความสังหรณ์ใจ
"มันเหมือนกับว่า เจ้านาย" เขากล่าว "ว่าคุณพ่อนักเทศน์ของเจ้านายบอกกับฉันว่าควรจะปล่อยให้ทั้งสองคนเดินทางต่อไปอย่าเพิ่งแสดงตัวออกไป เพราะว่าถ้าฉันแสดงตัวออกไปเราทั้งสามคนคงถูกฆ่าตายหมด เมื่อพวกเราคนหนึ่งต้องเดินไปขณะที่อีกสองคนละทิ้งไปไม่ได้ ขณะที่ฉันปล่อยให้เจ้านายทำอย่างที่ผ่านมาคนหนึ่งจะถูกฆ่าและอีกคนหนีไปได้ และคนที่จะถูกฆ่าไม่ใช่เจ้านาย ทั้งหมดนั้นเหมือนกับว่ามีวิญญาณมาบอกในหัวของฉันว่ามารุตจะถูกฆ่า วิญญาณของใครไม่สำคัญหรอก และที่เหลือเจ้านายก็รู้แล้ว"
กลับไปที่เรื่องของฮานส์ เขาเห็นเราเดินลงไปที่ชายทะเลสาบ เขาตามไปทางด้านขวากำบังตัวอยู่หลังเนินหิน ที่นั่นเขาจึงเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เมื่อจานาเข้าโจมตีเราฮานส์คลานเข้ามาด้วยความหวังอย่างบ้าเลือดว่าจะทำให้มันพิการด้วยปืนเพอร์ดี้ย์ไรเฟิลกระบอกน้อย ที่จริงแล้วเขาเกือบจะยิงที่ขาหลังของมันเมื่อมารุตวิ่งหนีเพื่อชีวิตแล้วกระโจนลงไปในทะเลสาบ จากนั้นเขาคลานเข้ามาเพื่อนำข้าพเจ้าไปที่อูฐ แต่เมื่อเขามาอยู่ในระยะไม่กี่หลาการไล่ล่ากลับมาทางเราและมารุตถูกฆ่าตาย
จากคุณ :
Sv
- [
25 ต.ค. 45 22:38:32
]