ความคิดเห็นที่ 1
คิมบ็อกแมนโทรหาเราให้ไปร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยกันแล้วเกริ่นว่าเขา "เปลี่ยนใจ" แล้ว เขาไม่ได้อธิบายให้แน่ชัดว่าเขาหมายความว่าอย่างไร แต่ผมมั่นใจว่าสิ่งที่เขาจะพูดไม่เกี่ยวกับเรื่องฮันเทจุน ผมบอกเขาแล้วว่าผมไม่ชอบวิธีการแบบนี้ และก็เห็นได้ชัดว่าเขาก็ไม่ชอบสิ่งที่ผมพูดไปเช่นกัน ผมจึงบอกลีโอให้ระมัดระวังและเออออกับเขาไปก่อน
ในขณะที่เรากำลังขับรถไปตามถนน ผมเห็นเจนนี่กำลังเดินมาที่แซฟไฟร์วิลล่า
"หยุดรถก่อน ลีโอ" ผมพูด ผมอยากจะคุยกับเธอก่อนไป
"ดองฮี จะไปไหนล่ะ?" ถามโง่ๆ เห็นอยู่ว่าเธอกำลังจะไปไหน คิดอะไรให้ฉลาดกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงนะ?
"ฉันมีอะไรจะให้พี่" น้องสาวผมยื่นถุงอะไรบางอย่างจากพ่อของผมให้ เขาจากไปอีกแล้ว โดยไม่ลาสักคำ... บางทีเป็นแบบนั้นอาจจะดีกว่า...
แล้วเจนนี่ก็ขอบคุณผมที่ให้เธอได้พบกับพ่อ พี่ชายกับน้องสาว.. แต่ก็ยังเป็นคนแปลกหน้า.. ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย ในฐานะพี่ชาย ผมมีหน้าที่ต้องดูแลและหาอะไรมาให้เธอ อะไรที่เธอต้องการ อะไรที่ทำให้เธอมีความสุข อะไรที่เธอไม่สามารถมีได้ในอดีต อะไรที่ขาดหายไป ผมจะหามาให้เธอ...
แต่เธอบอกว่า "ฉันไม่มีอะไรที่ขาดหาย ฉันมีความสุขกว่าทุกคนด้วยซ้ำ" แล้วเธอก็บอกว่าเธอมีความสุขกับชีวิตมากที่โรงแรมนี้ ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ ได้รู้จักกับผู้คนที่เป็นมิตรและจริงใจ เว้นแต่... เว้นแต่อะไร? พี่สามารถให้เธอได้ทุกอย่างเท่าที่เธอปรารถนา... เธอขอร้อง "พี่คะ ได้โปรดปล่อยโรงแรมเราไปเถอะ ฉันไม่อยากได้อะไรอย่างอื่นเลยจริงๆ..."
ดองฮี นี่เป็นงานของพี่ เหมือนกับการทำอาหารก็เป็นงานของเธอ การยึดโรงแรมนี้เป็นงานของพี่... เมื่อกี้ผมเพิ่งบอกเธอไปว่าผมสามารถให้ได้ทุกอย่างที่เธอต้องการแต่ตอนนี้ผมกำลังกลับคำ... นี่มันเป็นสัญญาแบบไหนกัน แล้วผมเป็นพี่ชายประเภทไหนกันนะ...
"พี่คะ ฉันเป็นหนี้บุญคุณน้าฮันเทจุนมาก เขาเกือบตายเพราะฉัน และเขาก็เป็นคนที่ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน ฉันเป็นหนี้บุญคุณเขามาก กรุณาช่วยฉันได้ไหมคะพี่?" เธอขอร้องอีกครั้ง
นี่เป็นเหตุผลที่ดีพอหรือเปล่า? ผมต้องขอเวลากลับไปทบทวน... "บอส! เราสายแล้วนะ!" ลีโอพูด
ขอโทษนะดองฮี พี่ให้สัญญาเธอได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ ไว้เราค่อยคุยกัน ผมบอกเธอไป ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นสีหน้าผิดหวังของเธอเมื่อผมตบหลังเธอเบาๆ.. แต่ผมต้องไปแล้ว...
"มีอะไรรึบอส?" ลีโอถาม
ผมบอกเขาว่าไม่มีอะไร ผมแค่ต้องการเวลาคิดอะไรนิดหน่อย...
สัญญาต้องเป็นสัญญา ถ้าผมสัญญากับตัวเองและเจนนี่แล้วว่าผมจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ และถ้าเธออยากให้ผมปล่อยโรงแรมนี้ไป จะกลายเป็นว่าผมกลับคำสัญญาหรือเปล่าหากผมยังดำเนินการตามแผนต่อไป?
แล้วลีโอล่ะ? ในฐานะเพื่อนร่วมงาน เขามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางธุรกิจของผม ถึงแม้ผมตัดสินใจจะปล่อยโรงแรมไป ลีโอก็อาจไม่เห็นด้วย
แล้วฮันเทจุนล่ะ? พนันของผมกับเขา ชื่อเสียงเกียรติยศของผม อีโก้ของผม และคุณที่เป็นเดิมพัน...
แล้วคุณล่ะ? คุณบอกผมว่าผมจะเสียคุณไปทันทีที่ผมยึดโรงแรมได้...
มีหลายปัจจัยที่ผมต้องนำไปพิจารณา...
........
ที่โต๊ะอาหารเช้า คิมบ็อกแมนบอกผมว่าเขาตัดสินใจแล้วที่ว่าจะขายโรงแรมให้บริษัทต่างชาติ
ลีโอชอบความคิดนี้ ตามปกติแล้ว ผมก็คงจะชอบ เพราะการติดต่อธุรกิจกับชาวอเมริกันมีปัญหาน้อยกว่าที่นี่มาก แต่ตอนนี้ผมมีหลายสิ่งที่จะต้องทบทวน คุณบอกผมว่าการเข้ายึดโรงแรมเป็นสิ่งที่ผิด และเช้านี้ น้องสาวของผมก็พูดแบบเดียวกัน ผมไม่รู้ว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนว่าคุณกับน้องสาวผมจะคิดผิด แต่ผมคงต้องนำความคิดเห็นเหล่านี้มาพิจารณาด้วยเสียแล้ว
เพื่อจะซื้อเวลาให้ผมมากขึ้นอีกสักหน่อย ผมบอกคิมบ็อกแมนไปถึงผลการตรวจสอบล่าสุดของผมเพื่อให้เขาพิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว "คุณแค่ทำงานของคุณไป นั่นไม่ใช่ธุระของคุณ"
ลีโอสนับสนุน "งานของเราคือการยึดโรงแรม ไม่ใช่การบริหาร"
หุบปากน่าลีโอ คุณทำงานให้ผมหรือให้เขากันแน่?
ผมต้องการเวลา จึงพยายามยืนยันให้คิมบ็อกแมนพิจารณาใหม่อีกครั้ง
แต่เขาสั่ง "หยุดพูดแล้วทำงานไป อาทิตย์เดียวก็น่าจะพอแล้ว!"
ประธานคิม... นี่อาจเป็นวิธีที่คุณใช้สั่งลูกน้องคุณเยี่ยงทาส แต่ไม่ได้ผลกับผมหรอก ชินดองฮ็อกจะไม่รับคำสั่งจากใครทั้งนั้น ถ้าผมต้องการเวลา ก็คือผมต้องการเวลา ไม่จำเป็นต้องพูดต่อ ผมขอตัวแล้วเดินออกไป
ตลอดทางจากภัตตาคารถึงแซฟไฟร์ ลีโอบ่นพึมพัมไม่หยุด ผมเองก็ไม่อยากพูดเพราะผมต้องการความเงียบสงบเพื่อที่จะใช้ความคิด ทันทีที่เราก้าวขาเข้าใปในแซฟไฟร์วิลล่า เขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป แล้วกดดันให้ผมตอบว่าทำไมจู่ๆผมถึงเปลี่ยนไป
อย่ากดดันผมน่าลีโอ ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
อะไรที่ไม่ถูกต้อง? เงินอันหอมหวาน สำหรับเรา? ลีโอถาม
นั่นไม่ใช่ปัญหา โดยปกติแล้ว ได้เงินมาก็ดี อันที่จริงนี่ก็เป็นเหตุผลที่เราทำงานกัน
แต่ดูเหมือนการเข้ายึดโรงแรมที่นี่เป็นสิ่งที่ผิด พนักงานโรงแรมจะเป็นอย่างไรล่ะ? แน่นอนว่าจะต้องมีหลายคนถูกไล่ออกเมื่อบริษัทฝรั่งนำพนักงานของตัวเองเข้ามา ผมบอก
ผมเพิ่งพูดอะไรออกไป????? นั่นผมพูดหรือ???
อึ้งไปกับความเห็นของผม ลีโอบอกว่า "ถ้าบอสจะทำงานแบบนี้ ผมก็ทำกับบอสต่อไม่ได้แล้ว"
ถ้าเราต้องทำงานกันแบบนี้ ผมไม่อยากทำต่อเหมือนกัน ผมตอบ
ผมเพิ่งพูดอะไรไป? ผมพูดแบบนั้นไปจริงๆหรือ?
เกิดอะไรขึ้นกับผมนะ? ทำไมเช้านี้ผมเอาแต่พูดอะไรแปลกๆ?
ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้เพราะผมยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าผมกำลังพูดอะไร...
ก่อนประตูปิด ผมได้ยินลีโอตะโกนตามหลังผม "บอสยังอยากไปเดินเล่นอีกหรือ?? ไม่อยากหาเงินแล้ว อยากจะเป็นนักปรัชญาแทนหรือไง?"
ลีโอ ผมไม่รู้ อย่ากดดันผม... ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวสักพัก ได้ไหม?
เท่าที่ผมรู้ตอนนี้คือผมเบื่อทุกอย่าง ชื่อเสียงเกียรติยศ เงิน อีโก้ ความภูมิใจ ความกดดัน คำสัญญา ญาติโกโหติกา มิตรภาพ ความรัก สงคราม... ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะต้องยอมสละอะไรบางอย่างไป... ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวแล้วอย่ามากวนผมอีก!
ประตูปิดด้านหลังผม จู่ๆผมก็คิดได้ว่าผมไม่รู้จะไปไหน.. ที่จริงแล้ว ผมไม่มีที่ไปต่างหาก
ผมคิดว่าผมได้ยินใครบางคนทักผม.. ผมคิดว่างั้นนะ.. สองคนนั้นเป็นใครกัน? หญิงทำความสะอาดสองคน... ผมเคยเห็นมาก่อนหรือเปล่านะ? จำไม่ได้... ทำไมต้องทักทายผมอย่างตื่นเต้นขนาดนั้น? ไม่รู้สิ.. ผมหันหลังไป "พ่อหนุ่มกุหลาบ 300 ดอกไง!" หญิงคนหนึ่งพูดกับอีกคน พอรู้ตัวว่าผมกำลังมอง พวกเธอก็โค้งให้ผม เดินไป หัวเราะคิกคัก แล้วเอาแต่มองมาทางผม...
"กุหลาบ 300 ดอก" เป็นชื่อที่ประหลาดจริงๆสำหรับชินดองฮ็อก ไม่เคยมีใครเรียกนักล่าด้วยชื่อนี้มาก่อน
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมแต่ผมก็เดินตามพวกเธอไป พวกเธอนำผมไปยังกลุ่มหญิงทำความสะอาดกลุ่มเบ้อเร่อ ในเครื่องแบบสีเทา ถุงมือสีขาว.. คนเหล่านี้มาจากไหนกันนะ? พวกเขามาทำอะไรที่นี่? เพื่อนร่วมงานของคุณทักทายผมด้วยรอยยิ้ม "สบายดีไหมคะท่าน?" แล้วทั้งกลุ่ม ประมาณ 20 คน ก็ทักทายผมอย่างพร้อมเพรียง
ผมมาผิดที่ รบกวนพวกคุณหรือเปล่า? ผมถาม แล้วก็เหมือนเดิม ทั้งกลุ่มตอบอย่างพร้อมเพรียงกันว่าไม่ แล้วโบกไม้โบกมือให้ผมทั้งถุงมืออย่างนั้น เป็นภาพที่แปลก เป็นอะไรที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน... คนเหล่านี้มาจากไหนกันนะ? มารวมตัวกันแบบนี้ได้อย่างไร?
ผมเดินไปที่โรงแรม ได้รับการทักทายจากคนที่ผมไม่เคยรู้จัก ระหว่างทางไปห้องครัว ก็มีคนที่ผมไม่รู้จักเข้ามาทักผมอีก คนเหล่านี้มาจากไหนกันนะ?
แล้วผมก็เห็นเจนนี่เดินอยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานของเธอ พูดคุยกันถึงเรื่องอะไรสักอย่างอย่างมีความสุข ผมตามเธอไปที่ห้องเก็บของ เธอกำลังวุ่นวายกับการขนย้ายของและไม่ทันสังเกตเห็นผม ผู้ชายตัวสูงๆบอกเธอว่าผมอยู่แถวนี้แล้วทักทายผม "เป็นอย่างไรบ้างครับคุณชิน?"
คุณชินกำลังรู้สึกแปลกๆอยู่ตอนนี้... อย่าถามผมอีกเลย
ผมบอกเจนนี่ว่าผมแค่มาเดินเล่น ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง ทำไมผมมาเดินเล่น ผมกะลังตามหาอะไรอยู่ ก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีผมอาจจะแค่มามองหาคนที่คุ้นเคย...
พอผมหันหลังจะเดินไป เธอก็บอกว่า "เดี๋ยวก่อนค่ะ!"
ผมหันหลังกลับ เธอพูดว่า "พี่คะ คืนนี้ว่างหรือเปล่า? ถ้าว่าง มาทานข้าวเย็นที่แฟลตฉันนะคะ ฉันจะทำอาหารให้พี่ทาน"
ผมจะปฏิเสธได้อย่างไร? นี่เป็นครั้งแรกที่น้องสาวของผมชวนผมทานข้าวเย็น ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็ต้องไปให้ได้
เธอพยักหน้าให้ผมแล้วกลับไปทำงานต่อ ผมเดินเล่นต่อไป เด็กขนกระเป๋ากำลังลากกระเป๋าไปตามพื้น... พนักงานโรงแรมกำลังคุยกัน... คนพวกนี้มาจากไหนกัน?
แล้วเท้าผมก็นำผมไปที่แผนกต้อนรับ
ผมเห็นคุณยิ้มคุยโทรศัพท์อยู่ไกลๆ คุณรู้ไหมว่ารอยยิ้มของคุณมีผลต่อผม และเป็นสิ่งแรกที่ผมเห็นจากที่แสนไกลเป็นหลายๆไมล์ เช้านี้ผมเดินทางมาไกลแล้ว และนี่อาจจะเป็นที่หยุดพักสำหรับผม...
ช่วยผมอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม ผมถามคุณ
"อยากได้รับบริการแบบไหนคะท่าน?" คุณตอบ
ผู้จัดการโซ ผมกำลังมองหาจุดที่วิวสวยที่สุดในโรงแรมนี้
"งั้นคุณก็ถามถูกคนแล้วล่ะค่ะ ตามดิฉันมาเลยค่ะท่าน" คุณหันไปแล้วบอกเพื่อนร่วมงานของคุณว่าคุณจะไม่อยู่ที่แผนกต้อนรับสักพัก
จากคุณ :
la_fille_de_D'artagnan
- [
31 ต.ค. 45 15:49:59
]
|
|
|