บทที่ ๑๕
ผู้อยู่ในถ้ำ
หลังจากนั้นเหมือนกับว่าข้าพเจ้าฝันไปอย่างยาวนานและยุ่งเหยิงเกี่ยวกับสิ่งประหลาดหลากหลายที่ข้าพเจ้าจำไม่ได้ สุดท้ายข้าพเจ้าลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเตี้ย ๆ สูงจากพื้นประมาณสามนิ้วในห้องแบบตะวันออกใหญ่และเย็นสบาย มีช่องหน้าต่างในห้องแต่ไม่มีบานหน้าต่างเลย มีเพียงเสื่อทำจากหญ้าแขวนอยู่บนแท่งไม้ ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่ามันแขวนอยู่บนบานพับทำจากไม้อย่างหยาบ ๆ หรือว่าตรึงอยู่ทำให้ม่านผลักกลับมาทางข้างฝาได้
จากช่องหน้าต่างนี้ช่องหนึ่งข้าพเจ้ามองออกไปไม่ไกลนักเห็นเนินของภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ ซึ่งเตือนให้ข้าพเจ้านึกถึงบางสิ่งที่เคยทำเมื่อวัยเด็ก---แต่ด้วยชีวิตที่ผ่านมายาวนานข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่ามันเป็นอะไร ขณะที่ข้าพเจ้านอนสงสัยอยู่อย่างนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าเดินกระย่องกระแย่งมาซึ่งข้าพเจ้าจำได้ดี จึงหันไปมองเห็นฮานส์บิดหมวกใบใหม่ทำจากฟางเล่นด้วยนิ้วมือ
"ฮานส์" ข้าพเจ้าพูด "แกไปเอาหมวกใบใหม่มาจากไหน ?"
"พวกเขาให้ฉันที่นี่ เจ้านาย" ฮานส์ตอบ "เจ้านายคงจะจำได้จานากินหมวกของฉันไป"
จากนั้นข้าพเจ้าจึงจำอะไรขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย ขณะที่ฮานส์ยังบิดหมวกของเขาเล่นต่อไป ข้าพเจ้าขอให้เขาเอาไปสวมไว้บนหัวเพราะมันทำให้ข้าพเจ้ารำคาญ จากนั้นถามเขาว่าเราอยู่ที่ไหน"
"ในเมืองของเทวรูป เจ้านาย พวกเขาหามเจ้านายมาหลังจากที่เจ้านายดูเหมือนกับว่าตายแล้วที่โน่น เมืองสวยงามมากมีของกินมากมาย เจ้านายหลับไปสามวันไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากนมและซุปนิดหน่อย โดยกรอกให้ลงคอไปด้วยช้อนตอนที่เจ้านายเหมือนกับว่าจะรู้สึกตัวชั่วขณะ"
"ฉันเหนื่อยล้ามากและต้องการพักให้นานหน่อย ฮานส์ และตอนนี้ฉันหิวมากแล้ว บอกฉันหน่อยว่าท่านลอร์ดกับบีนาอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า หรือว่าเขาถูกฆ่าตายไปแล้ว ?"
"ใช่แล้ว เจ้านาย พวกเขาปลอดภัยดีทีเดียว รวมทั้งสัมภาระทั้งหมดด้วย ทั้งสองคนอยู่กับฮารุตด้วยเมื่อเขาช่วยเราที่หมู่บ้านโน้น แต่เจ้านายหลับไปเสียก่อนจึงไม่เห็นพวกเขา พวกเขาพยาบาลเจ้านายมาโดยตลอด"
ตอนนั้นเองเซาเวจเข้ามาในห้อง ถือซุปบางอย่างวางมาบนถาดไม้ เขาดูผึ่งผายเกือบเหมือนอย่างที่เขาเป็นที่ปราสาทแรกนอล
"สวัสดีครับ ท่าน" เขากล่าวทักทายด้วยมารยาทอันดีตามอาชีพของเขา "ดีใจมากที่เห็นท่านกลับมาอยู่กับพวกเราอีก และอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ผมมั่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราคิดว่าท่านและนายฮานส์ตายไปแล้ว"
ข้าพเจ้าขอบคุณเขาแล้วดื่มซุป แล้วขอให้เขาช่วยทำอาหารที่หนักกว่านี้หน่อยให้ข้าพเจ้าเพราะว่าหิวมาก เขาจึงออกไปทำให้ จากนั้นข้าพเจ้าให้ฮานส์ไปตามลอร์ดแรกนอลซึ่งออกไปเดินเล่นในเมือง พวกเขาออกไปกันไม่นานนักฮารุตก็เข้ามาท่าทางของเขาดูภูมิฐานกว่าเมื่อก่อน ก้มหัวให้อย่างขรึม ๆ แล้วนั่งลงบนเสื่อตามแบบคนตะวันออก
"มีดวงวิญญาณที่เข้มแข็งคุ้มครองท่านอยู่ มะคูมะซาน" ฮารุตพูด "ท่านจึงรอดมาได้ถึงวันนี้ หลังจากที่พวกเราแน่ใจว่าท่านถูกสังหารไปแล้ว"
"ท่านจึงผิดพลาดที่นั่น เวทย์มนต์วิเศษของท่านรับใช้ท่านไม่มากนักที่นั่น สหายฮารุต"
"เวทย์มนต์วิเศษอย่างที่ท่านเรียก แม้ว่าฉันจะไม่มี ไม่ได้ทำสิ่งใดเลยมะคูมะซาน เพราะบังเอิญว่าฉันไม่มีโอกาสไปอยู่เบื้องหน้าเทวรูปเป็นเวลาสองวันตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่มาถึงที่นี่ เพราะว่าฉันได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าจากการต่อสู้และอ่อนเพลียมากจนไม่อาจเดินทางขึ้นภูเขาไปพบกับแสงจากดวงตาของเทวรูปได้ ในวันที่สามเมื่อฉันไปถึงผู้ศักดิ์สิทธิ์จึงแจ้งเรื่องทั้งหมดให้ฉันทราบ ฉันจึงรีบลงจากภูเขามาอย่างเร็ว รวบรวมคนและไปถึงทันเวลาพอดีช่วยท่านไว้ได้ก่อนที่จะได้รับอันตรายจากพวกโง่เหล่านั้น พวกมันชดใช้สิ่งที่ทำลงไปแล้วท่าน"
"ฉันเสียใจฮารุต เพราะพวกเขาไม่รู้เรื่องดีนัก และฮารุตแม้ว่าฉันจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ หรือน่าจะเป็นฮานส์ช่วยฉันเอาไว้ แต่เราทิ้งน้องของท่านไว้ข้างหลังพร้อมกับคนอื่น ๆ"
"ฉันรู้แล้ว จานาแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขา ท่านกับคนใช้เท่านั้นที่เอาชนะมันได้"
"ไม่ใช่อย่างนั้น ฮารุต มันต่างหากที่เอาชนะเรา เราเพียงแค่ทำให้มันบาดเจ็บที่ลูกตาและที่ปลายงวงและหนีมันมาได้"
"มากกว่าที่ใครเคยทำกับมันหลายชั่วอายุคนมาแล้ว ท่าน แต่ไม่ต้องสงสัยเมื่อมันเริ่มต้นขึ้นแล้วก็จะไปถึงจุดจบ สำหรับจานาฉันคิดว่ามันใกล้ตายแล้วโดยน้ำมือของท่าน"
"ฉันยังไม่รู้" ข้าพเจ้าถามซ้ำ "จานาเป็นอะไรกันแน่ ?"
"ฉันไม่ได้บอกท่านมาก่อนหรือว่ามันเป็นปีศาจที่มาสิงอยู่ในร่างของช้างใหญ่ ?"
"ใช่เคยบอกแล้ว เหมือนกับมารุตบอก แต่ฉันคิดว่ามันเป็นแค่ช้างใหญ่ที่มีอารมณ์ร้าย แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรมันจะฆ่าคนอีก และฉันไม่อยากจะพบกับมันอีกที่ทะเลสาบน่ากลัวแห่งนั้น"
"ถึงอย่างนั้นท่านจะต้องพบกับมันที่ไหนสักแห่ง เพราะถึงแม้ท่านจะไม่ไปพบกับจานา จานาจะมาพบกับท่านผู้ที่ทำให้มันได้รับบาดเจ็บอย่างร้ายกาจ จำไว้ว่าตั้งแต่นี้ไป ไม่ว่าท่านจะไปที่ไหนในดินแดนนี้ ท่านอาจจะได้พบกับจานา"
"ท่านหมายความว่าเจ้าสัตว์ร้ายจะเข้ามาในดินแดนของแคนด้าห์ขาวอย่างนั้นหรือ ?"
"ใช่แล้ว มะคูมะซาน เมื่อถึงเวลามันจะมา หรือว่าภูตผีที่อยู่ในร่างของมันจะมาฉันไม่รู้ว่าอย่างไหนแน่ แต่ที่ฉันรู้สองครั้งแล้วในชีวิตที่ฉันเห็นมันบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ มันมาอย่างไรแล้วไปอย่างไรไม่มีใครบอกได้"
"มันไปเร่ร่อนอยู่ที่นั่นทำไมกัน ฮารุต ?"
"ใครจะไปบอกได้ ท่าน ? บอกฉันซิว่าทำไมภูตผีจึงเร่ร่อนไปทั่วโลกฉันจึงจะตอบคำถามของท่านได้ ฉันเพียงแต่ย้ำว่า ให้ผู้ที่ทำร้ายจานาจงระวังจานาเอาไว้"
"และให้จานาระวังฉันเอาไว้ด้วยถ้าฉันพบกับมันด้วยปืนที่เหมาะสมในมือ ฉันมีบัญชีที่จะต้องสะสางกับมัน ตอนนี้ฮารุตมีอีกเรื่องหนึ่ง ก่อนที่มารุตจะถูกฆ่า น้องชายของท่านบอกฉันบางอย่างเกี่ยวกับภรรยาของท่านลอร์ดแรกนอล ฉันไม่มีเวลาฟังเขาจนจบประโยค แต่ฉันคิดว่าเขาพูดว่าเธออยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ฉันฟังมาถูกต้องไหม ?"
โดยทันทีใบหน้าของฮารุตเปลี่ยนไปเหมือนกับเทวรูปหิน แน่นิ่งไม่ไหวติงเจาะทะลุเข้าไปไม่ได้
"ไม่ท่านเข้าใจผิด" เขาตอบ "น้องของฉันก็ต้องเพ้อคลั่งไปเพราะความกลัว ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน สุภาพสตรีสวยคนนั้นไม่ได้อยู่ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ นอกจากว่าจะมีภูเขาศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ อีกในดินแดนแห่งความตาย มากไปกว่านั้นท่าน เมื่อเราพูดกันถึงเรื่องนี้แล้ว ให้ฉันบอกกับท่านว่าป่าบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผู้ใดเหยียบย่างเข้าไปได้นอกจากพวกพระของเทวรูป ผู้อื่นนอกจากนั้นย่างเท้าไปถึงเขาจะต้องตาย เพราะว่ามันถูกเฝ้าโดยผู้พิทักษ์ที่ร้ายกาจยิ่งกว่าจานาหรือไม่ก็มีแต่มันเท่านั้นที่ร้ายกาจกว่า ไม่ต้องถามฉันถึงผู้พิทักษ์เพราะฉันจะไม่ตอบ และเหนือกว่าเรื่องอื่นทั้งหมดถ้าชีวิตของท่านหรือว่าสหายของท่านยังมีค่าอยู่ อย่าได้ไปพบเห็นกับผู้พิทักษ์"
จากคุณ :
Sv
- [
1 พ.ย. 45 23:04:03
]