ความคิดเห็นที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1859873/W1859873.html  กระทู้เดิม .. วู้ ว่า..แล้วเชียวหน้าแตกตั้งแต่บทเริ่มเลย ระบบสมาชิกเป็นไรไม่รู้อ่ะ .. จากคุณ : จังงัง (จังงัง) - [ 10 พ.ย. 45 16:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คงจะต้องแก้เขินด้วยบทลอยกระทงอีกจั๊กโหน่ย เพื่อเข้ากับบรรยากาศของเดือนสิบสองนี้ ไผเป็นแฟนไผ จับจองคิวกันไปลอยกระทงเด้อ ...คิก คิก..                         ...ลอยกระทง... (๑) .....ฟากคลองนองเอ่อล้น...................ชลธาร ผันผ่านพรรษากาล............................ล่วงแล้ว ลอยเลื่อนเคลื่อนชลยาน.....................สราญรื่น เคียงคู่พธูแก้ว...................................เกี่ยวก้อยกัลยา ฯ (๒) .....วันเพ็ญพราวพร่างแพร้ว...............เดือนสิบ-  สองเฮย จันทร์แจ่มแวมระยิบ...........................ยิ่งย้อง* เรืองรองผ่องละลิบ............................โรจน์รุ่ง ประหนึ่งเปรียบเทียบน้อง....................แน่งน้อยเยาวมาลย์ ฯ (๓) .....หวานคำยามหว่านล้อม....................ถนอมนวล พลอดพร่ำเพลินพยางค์ยวน.................หยอกเย้า สายลมล่องปองสงวน.........................โอบกอด  นวลแม่ ไออุ่นอาจอิงเฝ้า.................................กล่อมน้องยามหนาว ฯ (๔) .....แจ่มจรัสจันทร์เจิดจ้า.....................พรรณราย ประทีบธูปเทียนถวาย..........................ใคร่น้อม กระทงบ่งความหมาย..........................ผสานจิต  มั่นนอ คงคู่คลอเคียงพร้อม..........................ไป่ร้างมลายเลือน ฯ (๕) .....เผลอไปหมายวักน้ำ.......................หยอกนวล  แม่เอย หนาวสั่นพลันจรรจวน.........................ป่วนแล้ว เพียงหยอกหลอกยียวน.......................สรวลสนุก หาใช่หมายใจแคล้ว.............................กลั่นแกล้งแสดงกล ฯ (๖) .....มัสยามาว่ายล้อ..............................เรียงเรือ เปรียบพี่มีจิตเจือ................................โจ่งแจ้ง จักเคียงเยี่ยงว่านเครือ.........................สนมเนื่อง  นวลนา ตราบดับลับโลกแล้ง............................สาบฟ้าสูญฝัน ฯ (๗) .....สองมือถือธูปตั้ง.............................เทียนผจง จุดส่องทางหวังตรง.............................บ่งน้อม นอบนบจบเศียรคง...............................กานท์กล่าว ปราศทุกข์สุขแห่ห้อม.............................มากพ้นดลจิต  อธิษฐาน ฯ (๘) .....ธูปหอมดอมกลิ่นคลุ้ง.......................คละขจาย เทียนส่องมองแวววาย............................หว่างน้ำ มวลพฤกษ์ตรึกตรองชาย-......................ตาเพ่ง  งามเอย โชติช่วงปราศชอกช้ำ.............................เด่นด้นชลธาร ฯ (๙) .....บูชาพระบาทเบื้อง-...........................พุทธองค์ ดลจิตมิติดหลง....................................ชั่วร้าย เกษมสานต์มั่นเคียงคง...........................สถิตย์ทั่ว เป็นมิ่งเป็นขวัญคล้าย.............................เกราะคุ้มกำบัง ฯ (๑o) .....ขอขมาต่อแม่น้ำ................................ชลาลัย โยนสิ่งปฏิกูลใด.....................................สู่น้ำ เนืองนองแน่นแสยงใจ............................เปรอะขยะ จักรักษ์หากเพลี่ยงพล้ำ...........................แม่ได้อภัยเทอญ ฯ (๑๑) .....ลอยเรือเล่าเรื่องล้ำ............................เริงกวี ดาวเด่นดารดาษศรี.................................ส่องสล้าง* เพ็ญแขข่มรัศมี.....................................สุกสว่าง เชิญร่วมจรรโลงสร้าง.............................สืบย้ำคงสยาม ฯ (๑๒) .....กระทงหลงลุ่มน้ำ..............................คงคา เปรียบพี่สิไกลตา...................................จากเจ้า เจียมจิตคิดคนึงหา..................................นุชนาฏ  แม่เอย หากเมื่อเจือเป็นเถ้า................................เที่ยงสิ้นถวิลวาย ฯ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 45 10:32:48 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 45 23:25:34 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 45 16:32:25 จากคุณ : จังงัง พรรคลิงรักลิง (จังงัง) - [ 10 พ.ย. 45 16:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ๏ สมัคร พรรคพวกเพื่อนพ้อง             อาศรม สมาน   คติสิสมาคม                           สนิทใกล้ เสมอ    เหมาะเสนาะภิรมย์                 สราญรื่น สมร     ร่างสร้างเรือนไว้                    มิตรพร้อมถนอมโคลง ๚ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 45 19:55:58 จากคุณ : ไร้นาม - [ 10 พ.ย. 45 19:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .....สมัคร...รักชักร่วมคล้อง........................โคลงกลอน สมาน........มั่นหวั่นจากจร..........................จบแล้ เสมอ........ไปไป่คลายคลอน.....................แคลงขาด   สมร..........อาจคาดครวญแม้.....................เที่ยงแท้ถดถอยฯ                                                                                                       จากคุณ : " . " - [ 10 พ.ย. 45 19:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมติดตามอาศรมชาวโคลงมานานพอสมควร เห็นหัวข้่อกระทู้ในภายหลัง มีแต่ โคลงกระทู้เท่านั้นเอง หวังใจว่าจะผันผาย ไปในรูปแบบอื่นบ้างนะขอรับ เพื่อจะได้เห็นพัฒนาการของโคลง ได้กว้างขวางมากกว่านี้ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 45 21:24:12 จากคุณ : ด้วยความเคารพ (Ped-Degree) - [ 10 พ.ย. 45 21:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ด้วยยินดีและขอน้อมรับในข้อเสนอแนะ ค่ะ คุณPed-Degree กรุณาให้เกียรติในการเปิดเรื่องด้วยค่ะ :) มิตรภาพตราบสิ้นฟ้าค่ะ จากคุณ : จังงัง (จังงัง) - [ 10 พ.ย. 45 21:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องของเรื่องคือ Ped-Degree ไม่มีพลังภายในพอนะสิครับ แต่เห็นว่าโคลงกระทู้มีเยอะแล้ว แล้วก็เห็นชาวโคลงได้ไปมีตติ้งกันมาแล้ว จะได้มีการประชุมโคลง หรืิอลงมติกันอย่างไรหรือไม่ Ped เห็น ก็เสนอมาตามประสาคนชอบอ่านเท่านั้นเองครับผม แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 45 22:14:04 จากคุณ : คนชอบอ่าน (Ped-Degree) - [ 10 พ.ย. 45 22:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 .....สมัคร...เขียนเรียงร้อย.................กลอนกานท์ สมาน...คำตำนาน..............................สืบไว้ เสมอ...มั่นสืบสาน..............................ตราบเท่า   สมร...มาตรเขียนให้..........................กึกก้องรู้กัน จากคุณ : idaho (idaho) - [ 10 พ.ย. 45 22:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ว่า จังงัง ไม่เคยได้ไปมิตติ้งกับชาวโคลงที่จัดสักครั้งเลยน๊า ..เลยไม่ทราบมติของชาวโคลงค่ะ ว่าต้องทำอย่างไรดี .. ที่จริง การตั้งกระทู้โคลง เป็นงานที่ไม่ถนัดเลย เวลาไปแจมที่ท่านอื่นตั้งกระทู้ จังงังมักจะหลุดโลกไปเสมอ..เอ๋ อย่างไรดีหนอ..หรือจะเอาแบบ กลอนกลอนุกรม เป็นโคลงกลอนุกรม .. แหะ แหะ ..เหอะน่า แค่มีความคิดดีๆให้มาจังงังก็ปลื้มแล้วล่ะค่ะ  กระทู้นี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เป็นกระทู้สาธารณะ แนะแนวความคิด และวิจารณ์กันได้ค่ะ .. รออยู่น๊า ..รอโจทย์ อยู่ค่ะ .. น่านะ ..ไม่ต้องใช้กำลังภายในหรอกน่ะ ..๕๕๕ ขำกลิ้ง จังงัง วันทั้งวันเอาแต่ปีนต้นไม้ เนี่ย รับอาสาเปิดกระทู้มา หวั่นๆว่าจะทำอาศรมเขากระเจิงเหมือนกันนะเนี่ย ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ช่วยกันหน่อยน่า นะ นะ ... สรุปดีกว่า รอโจทย์จากคุณเพ็ดดีกรีค่ะ เริ่มได้เลยนะคะ ..:) จากคุณ : จังงัง (จังงัง) - [ 10 พ.ย. 45 22:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ....แวะเวียนเพียรสู่ห้อง.................มองความ   ท่านเพ็ดดีกรีตาม.........................ตรึกถ้อย แยบยลประพนธ์งาม.....................งำเงื่อน   หวังจิตพินิจคล้อย........................ห่อนแคล้วแนวโคลง ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 10 พ.ย. 45 22:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 .....เพ็ชร.....พลอยอุบัติใต้......................ธรณิน ดี.....เด่นดุจดารกาฉิน............................เฉิดแฉล้ม ก-.....นกนพรัตน์ยิน-.............................ยลสง่า-  งามนอ รี.....เหลือบเลิศเลอแต้ม.......................แต่งชั้นเชิงศิลป์ ฯ .....เพช-.....ฉลูกรรมเสกสร้าง..................ฤาฉไน ฎีก์.....เกริ่นเพลินอุไร.............................เลื่อมแล้ ก-.....มลใคร่หมายเจียรไน......................ปองประดับ ลี-....ฬหหลากลายแท้............................ทัดเกล้าเทียมกาย ฯ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 45 08:05:07 จากคุณ : จังงัง (จังงัง) - [ 10 พ.ย. 45 22:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณศิษย์พี่ นิรนาม กราบงาม งาม สำหรับคำแนะนำ  ก็ส่งงานการบ้านรอบใหม่ค่ะ ส่งงานการบ้านให้น้องพี่ ช่วยชี้ช่วยแนะนำเสนอ จะน้อมค้อมรับคำเกลอ รอเสมอรับฟังทุกคำไป ไม่เป็นศิษย์พี่หรอกค่ะคุณไร้นาม  ฟังดูว่า "ศิษย์พี่"ให้ความรู้สึกถึงฝีมือเก่าแก่และขลัง  มือใหม่แม้แก่ ก็ยังไม่บังอาจค่ะ   เป็นศิษย์น้อง(หน้าแก่) ไปก่อนดีกว่า  อิ อิ อิ สมัครพรรคพรั่งพร้อม     เพื่อนผอง สมานจิตคิดไตร่ตรอง      กระทู้ เสมอม่านเปิดสมอง       สว่าง สมรร่ำคำกานท์สู้           ร่วมใจใส่โคลง จากคุณ : เงาน้ำค้าง (เงาน้ำค้าง) - [ 10 พ.ย. 45 23:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ศิษย์น้องไร้นาม..ความคิดเห็นที่ ๓ ... .....ปราศรูปลักษณ์ร่วมร้อย..............พจน์พยางค์ ปราศชื่อเสียงอำพราง......................รื่นล้อ ปราศตนหากอางขนาง.....................กานท์กล่าว แลฤา ปราศสิ่งสิงทรวงฉ้อ........................เล่ห์ไร้หลอกหลอน ฯ .....ไร้นาม...งามพจน์พ้อง.................เพรียกสนาน เริงรื่น...เรียงกาพย์กานท์..................สนั่นด้าว ชระมื่น...ชื่นดังสมาน........................จิตสม่ำ  เสมอนา แช่มชื่น...ยืนกิ๊วก๊าว..........................เก่งแท้ตละแม่เอย ฯ ** คุณมหัพภาค ...ความคิดเห็นที่ ๔ ... ......กลอนกลกาจเก่งกล้า....................เกรียงไกร กาน์กาพย์เกริกเกียรติไกล....................กริ่มกรุ้ม กฎเกณฑ์เกริ่นกลไก............................โกรดกล่าว เกาะเกี่ยวไกลโกรธกลุ้ม........................กู่ก้องเกรียวกราว ฯ ** idaho ...ความคิดเห็นที่ ๘ ... .....เจ้า...ซุกซนโลดเต้น........................ตึงตัง ลิง...เล็กดุจโกฮัง...............................ดร่าก้อน แก้ม...ยุ้ยอยากหยิกจัง........................เย้าหยอก ป่อง...เปรียบโดเรม้อน.......................มากด้วยสุนทรีย์ ฯ ก๊ากๆๆๆ เจ้าไอซ์ ..เขียนไปขำไปอ่ะ ขอสักวันเหอะน่า ถือซะว่าเป็นทีของเราละกัน ก๊ากๆๆ.. ** คุณเงาน้ำค้าง ...ความคิดเห็นที่ ๑๒ ... .....น้ำค้างดุจเพ็ชรเบื้อง.......................บนสวรรค์ พราวพร่างยังเฉิดฉันท์..........................พักตร์พริ้ม ระยับวับวายวรรณ................................สุกสว่าง แสงส่องอาจจิ้มลิ้ม...............................เหลือบล้อสุรีย์ฉาย ฯ เอ่อคือว่า ..ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ แต่รู้สึกว่าบาทที่สี่ของคุณจะไม่ถูกต้องค่ะ เช็คอีกทีนะคะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 45 00:13:30 จากคุณ : จังงัง - [ 10 พ.ย. 45 23:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สมัคร ใจสายสวาสดิ์น้อง...........นางเดียว สมาน รักราวเขาเขียว.................ขอบฟ้า เสมอ แสงศศิธรเทียว..................ฉายฉาบ ละมุนแม่ สมร มิ่งเปรียบขวัญหล้า..............ประทับไว้ใจเรียม มิตรภาพตราบสิ่นฟ้า................คงเสมอ จารจรดจิตฉันเธอ.....................ค่ำเช้า อักขรร่ายบำเรอ........................รมณ์รื่น ระบัดนา สิ้นโลกฤๅโศกเศร้า.....................ฝากไว้ในฝัน แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 45 23:56:13 จากคุณ : ...ดุกเผา... (วิญญาณอสัญญา) - [ 11 พ.ย. 45 00:23:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สมัคร..ร่วมขีดแต่งแต้ม....................เติมโคลง สมาน..ร่วมด้วยอยู่โยง....................อยู่เหย้า เสมอ..ร่วมมิตรมิโหวง....................เหวงอยู่ เดียวนา   สมร...ร่วมอนุรักษ์เฝ้า....................ว่าเจ้าร่วมเขียน จังงัง...ขยันขยับเฝ้า....................กระทู้กวี พรรค...พวกเพื่อนฝูงมี....................มากล้น ลิงรัก...รักษาวจี........................แต้มแต่ง โคลงเอย   ลิง.....แค่นามชั้นต้น.....................ใช่ด้นส่อนิสัย จากคุณ : รสา รสา - [ 11 พ.ย. 45 01:13:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ...พึ่งสร่างไข้ลุกขึ้น.................ขวนขวาย ต่อเน็ตต่อตรงหมาย................เยี่ยมหน้า จังงังเกริ่นโคลงกราย..............ลอยกระ...ทงแฮ รีบมุดผ้าห่มว้า.......................วุ่นค้นโคลงประลอง ๚ :) หวัดดิ์จังงัง จากคุณ : อกนิษฐ์ - [ 11 พ.ย. 45 04:09:54 A:203.113.37.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ......กลกลอนก่อนเก่งกล้า....................เกรียงไกร เก็บกักกลักกลไก...............................เกี่ยวกั้น กุมกำก่ำเกียรติไกล............................เกณฑ์กลบ กบเกาะเกราะเกินกลั้น.........................ก่นเกี้ยวเกรียวกราว ฯ                                         จากคุณ : " . " - [ 11 พ.ย. 45 04:16:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สมัครลบเลือนลับสิ้น................. เคยรอ สมานฉันด์นั่นเกิดก่อ..................มิตรแท้ เสมอเทียมมิทดท้อ....................วัวคู่ เกวียนแม่ สมรมั่น"ขวัญ"รักแม้....................ศพเซ่น คู่"เรียม"ฯ   จากคุณ : แจมด้วยฯ - [ 11 พ.ย. 45 04:19:43 A:217.1.73.26 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ...ต่อเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว...อกนิษฐ์ลองแต่งโคลงกระทู้หน้าบาท เป็นชื่อบิ๊ก ๆ ในห้องนี้ที่ช่วยชี้แนะอกนิษฐ์ตั้งแต่ต้น ชื่อใครตกหล่น ต้องขออภัยนะครับ..เพราะพึ่งสร่างไข้..หวัดรับประทานซะแย่เลย  :) ๏ คุณ..ดีศรีเด่นถ้วน........................ทุกสถาน หมอ...ช่วยป่วยหายปาน...................เทพเจ้า โม.......กขสุขห่างทุกข์หาญ.............เห็นสว่าง โน......นุสุเมธเค้า.............................ครึกครื้นโคลงครู ๚ ๏ หมี.....พิเศษผู้ซึ่ง.............................เลิศคน   เซอะ.......เซ่อคิดซุกซน........................บคิดขึ้ง สอน.......โคลงส่งเสียงศิลป์..................ความครบ...ถ้วนเฮย โคลง......แบบฉบับซาบซึ้ง...................สืบสร้างสานฝัน ๚ ๏ คัมภีร..ภาพภาพคล้อง.....................โคลงงาม โบ...........กขรพรรษพัดสยาม..............อย่าร้อน รา...........ชันแห่งโคลงนาม..................กระเดื่อง...แดนแล ณ...........ขอบฟ้าสะท้อน.....................ประภัสแก้วกวีศรี ๚ ๏ จอม..ธีรทองท่องท้อง....................ธรณี ยุทธ.....ศาสตร์ปราชญ์วิธี...................กล่าวไว้ เม........ธาเปี่ยมศักดิ์ศรี.......................สรรค์เสนาะ รัย....(ไร)หริ่งเดือนเด่นได้...................เฟื่องฟุ้งสนองสนาน ๚ ๏ x(เอ็ก)..ซเรย์แลลึกเข้า...................ข้างใน x(เอ็ก)......โค่ความจริงใจ.................แจ่มเจ้า x(เอ็ก)......คาลิเบอร์ไข......................ความสงบ เฒ่า(เท่า)..คิริใครเท่าเถ้า..................ปราชญ์เถ้าอาจารย์ ๚ จากคุณ : อกนิษฐ์ - [ 11 พ.ย. 45 04:32:15 A:203.113.37.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 โอโห .. ไหง๋แยะจังอ่ะ เมื่อคืนกว่าจะตอบเสร็จเกือบคลานขึ้นเตียงแน่ะ เช้ามายังเมาขี้ตาเลยอ่ะ .. แว๊ก.. ตอบของนายปลาดุกเผาก่อนละกัน ..ฮี่ๆๆๆ .. ทีละคนนะเรียงตามความหล่อ ความสวยอ่ะ ..ก๊ากๆๆ คุณดุกเผาห๊อมหอม..(หิวข้าวอ่ะ) ความคิดเห็นที่ ๑๔ (ไปไหนมา หือ.? ไม่เห็นตั้งหลายวัน รู้ป่าว นายอกไข่ดาวร้องไห้ฟูมฟายคิดถึงตะหงึดๆฟืดฟัด อ่ะ .. .....วิญญาณ.....การรับรู้...........................ตอบสนอง อายตนะภายในครอง................................ครอบตั้ง เป็นจริงสิ่งตรึกตรอง.................................ดองจิต ชีพอาจหยัดยืนยั้ง....................................กว่าสิ้นชนม์สลาย ฯ .....อสัญญา...หารับรู้.................................สรรพสิ่ง สมมติดุจเป็นจริง.......................................แจ่มแจ้ง ปรมัถสัจจ์อาจอิง.......................................ธรรมบท ละโลภโกรธหลงแสร้ง.................................จึ่งสิ้นโศกศันต์ ฯ คุณแจมด้วย ....ความคิดเห็นที่ ๑๘ (ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ) .....ลีลาพากย์พจน์เพี้ยง..............................พี่ขวัญ เพลงขลุ่ยขับขานพลัน.................................เพราะพริ้ง สำเนียงเยี่ยงคีตวรร-...................................ณกรรมกล่อม กาพย์กล่าวราวสิงคลิ้ง*...............................ขลุ่ยพ้องเพลินใจ ฯ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 45 08:12:45 จากคุณ : จังงัง พรรคลิงรักลิง (จังงัง) - [ 11 พ.ย. 45 08:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สมัคร   เรียนเขียนอ่านรู้                     โคลงกลอน สมาน   อักษราเมื่อตอน                      ร่ำไห้ เสมอ    คำสลักจิตสอน                     ควรเผื่อ ใจนา สมร     ห่างบ่ยอมใกล้                      แค่ข้าฯผายลม จากคุณ : ตั่วกอ (โอวทิฮวย) - [ 11 พ.ย. 45 11:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนนี้แต่งมะออกหงะ แหะ ๆๆๆ ตอนเย็น ๆ เน้ออออ เอ้อออออ ยายเทพธิดาหมวย ว่าง ๆ ช่วยโทรเข้ามือถือฉันหน่อยนะ พอดี มือถือฉันโทรออกไม่ได้แล้ว จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 11 พ.ย. 45 12:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ก๊าก ปู่ก๊อง ...ก๊ากๆๆๆ ความคิดเห็นที่ ๑๗ .....กรีดกรายกวัดแกว่งกลิ้ง.............กลอนกานท์ กลกฏเกินกงการ............................กาจแกล้ว เกียกกายกลอกกลับกราน................กราบเกริ่น กรองกลั่นกาพย์กานท์แก้ว................กึกก้องกำกวม ฯ แฮ่ๆ กินข้าวไป ทยอยตอบไปเด้อ นายอกไข่ดาว ไหนบอกว่าจะช่วยกันงัยล่ะ หนีปายหนายอ่ะ อ่านของอาตั่วเฮีย ข้อความที่ ๒๑ ..ขำกลิ้งเลยอ่ะ กลิ่นหอมบรรเจิดอารายเช่นนี้อ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า .. ขำๆๆๆ ช่างหักมุมแท้หนอ ..ก๊ากๆๆ จากคุณ : จังงัง - [ 11 พ.ย. 45 12:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดวงดาวฤๅสว่างล้ำ               เกินตะวัน มหาสมุทรฤๅเทียมทัน            แผ่นฟ้า งดงามดั่งนางสวรรค์             ฤๅแม่ มิอาจสั่นใจข้าฯ                   เลิกจ้องชายงาม (นะฮ้า) จากคุณ : ประเทืองชั่วคราว - [ 11 พ.ย. 45 12:56:56 A:203.155.21.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ๏ สมัคร สมาชิกช้า            อาศรม สมาน มั่นเหล่ามัธยม          เปรียบได้   เสมอ มธุรพจน์คม              เหมือนพี่ ไกลแฮ สมร ศึกสู้แต่งไว้                สักครั้งให้ชม ๚ ๏ สมัย เยาว์ยอมย่อท้อ       กลอนกาพย์ สมรรถ นะดั่งคมดาบ          ทู่ทึ้ง สมา บัตรจักซึมซาบ           จากพี่ สอนแฮ สมุทร สื่อทรวงซาบซึ้ง        ซึ่งสร้างทางเดิน๚ ลองอีกซักตั้ง ไม่รู้ว่าจะผิดตรงไหนอีก ศิษย์พี่ช่วยดูให้ด้วยครับ โอย มึนตึ้บ -_-" จากคุณ : น้องเจ ({``-_-}{-``-}{-_-``}) - [ 11 พ.ย. 45 13:16:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีคุณจังงัง และขอบคุณหลาย อิอิ ตกโทอย่างไม่น่าให้อภัย แก้ค่ะ สมัครพรรคพรั่งพร้อม     เพื่อนผอง สมานจิตคิดไตร่ตรอง      กระทู้ เสมอม่านเปิดสมอง       สว่างหล้า สมรร่ำคำกานท์สู้           ร่วมร้องทำนองโคลง สวัสดีคุณดุกเผา  คุณมหัพภาค  คุณรสา รสา ไม่ได้เห็นนานเลย ดีใจที่ได้เจอ :):):) จากคุณ : เงาน้ำค้าง - [ 11 พ.ย. 45 13:47:43 A:203.146.131.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบนายอกนิษฐ์ ... ความคิดเห็นที่ ๑๖  แฮ่ ๆๆ ป่วยเหรอ รอดมาได้งัยเนี่ย ..ป๊าดธ่อ ดวงแข็งแฮะ ..กิ..กิ.. .....อ...ลเวงเขย่งยื้อ............................โยงใย กนิษฐ์...ใคร่หมายลนไฟ.........................ผ่าวก้น พิศ...เพ่งไป่ไยไพ................................พจน์เกริ่น  นาพี่ วง...ศ์ว่านเครือหลากล้น........................ดุจคล้องดองสมาน ฯ ตอบคุณรสา ... ความคิดเห็นที่ ๑๕ ...แหะ แหะ ท่านพี่แบบว่าผิดพลาดประการใด ช่วยชี้แนะด้วยนะเจ้าคะ .....หวานเอยเผยผ่านพ้อง......................พจน์พยางค์ สดับดั่งทิพย์ดุริยางค์............................กึกก้อง รสา...ส่งโคลงปราศหมาง.......................จิตหม่น หลายหลากวากย์โคลงคล้อง....................คล่องคล้ายเธียรไทย ฯ ..สรรพรสอาจพ่ายแพ้...........................รสธรรม์ จักมั่นตราบนิรันดร์...............................ไป่ร้าง ตาลหวานหากคืนผัน.............................แปรผ่าน อาจจืดหมดรสค้าง................................ซ่านลิ้มชิวหา ฯ .....อันตาลหวานลิ้นอาจ.........................อันตรธาน หากพจน์รจน์ขับขาน.............................เพราะพริ้ง จักคงบ่งอนันตกาล...............................นานเนิ่น คงติดจิตสิงคลิ้ง...................................ตราบฟ้าดินสลาย ฯ ตอบคุณตั่วกอ (โอวทิฮวย) .... ความคิดเห็นที่ ๒๑ อาตั่วเฮีย ช่วยเหล่าเก๊าด้วยอ่ะ เหล่าเก๊าเท้าฮิ้งเหลี่ยว ..นา .. .....ตั่วกอ...ฉอเลาะล้ำ...........................เลิศกวี โอ...วาทอาจสุนทรีย์..............................ร่ายถ้อย ทิ...วาอีกราตรี.....................................สืบเสนาะ-  โคลงนา ฮวย...ฮ่าเหะหะสร้อย.............................แซ่ซ้องสราญรมย์ ตอบคุณประเทืองชั่วคราว .... ความคิดเห็นที่ ๒๔ ..ว๊าว ชื่อท่านช่างบาดใจหนุ่มใหญ่ หนุ่มน้อย ณ อาศรมเป็นแน่แท้ .....ประ...ดับกายแต่งแต้ม......................นวลกาย เทือง...ทั่วปานฉุยฉาย............................ขับฟ้อน นี่...หนอดั่งบุญทาย...............................เทียมคู่-  ครองนา หว่า...แว่วหวานยามค้อน.........................ดุจน้องสาวไทย ฯ ตอบน้องเจ ({``-_-}{-``-}{-_-``})  .... ความคิดเห็นที่ ๒๕ ไปไหนมาไหน ต้องเอาเจ้ากุมารนี้มาด้วยอ่ะ สงสัยเอามาคุ้มกัน รัก ยม กุมารทอง ..ฮ่าๆๆๆๆๆ ...น้อง...ใครใยพักตร์พริ้ม......................จริงหนอ เจ...ดั่งมณฑลหล่อ................................ล่ำบึ๊ก เท่ห์...ท่วงท่ากระจอหวอ..........................หวานแว่ว  จริงนา จัง...หวะดังซี้ปึ๊ก...................................หยอกเย้าสรวลสนาน ฯ แหะ แหะ กระทู้รวมมิตรอ่ะ ปลื้มจังแฮะ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 45 14:31:20 จากคุณ : จังงัง พรรคลิงรักลิง (จังงัง) - [ 11 พ.ย. 45 14:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านโคลงหวานผ่านโคลงนิราศ (๗) ในที่สุดก็มาถึงตอนที่ ๗ จนได้ สำหรับ อ่านโคลงหวานผ่านโคลงนิราศ เป็นครั้งแรกที่จอมยุทธฯ ตั้งใจอ่านโคลง อย่างจริงๆจังๆ หลายเรื่องขนาดนี้ แม้ โคลงทวาทศมาส กับ โคลงกำศรวลศรีปราชญ์ จะเป็นการอ่านแค่ผ่านๆ แล้วอาศัยการสรุปจากหนังสือวรรณคดีวิจารณ์ หลายๆเล่มที่มีอยู่ แต่ก็คิดว่าได้อะไรสำหรับตัวเองพอสมควรใน การทำเปลเปล้อร์ชิ้นนี้ ตอนนี้จอมยุทธฯ จะนำมาอ่าน โคลงนิราศของพระยาตรังกันขอรับ พระยาตรังเป็นกวียุคเดียวกับพระพิพิธสาลี  มีวรรณคดีโคลงนิราศที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน ๒ เรื่อง คือ ๑. โคลงนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย แต่งเป็นโคลงสี่ดั้น  เข้าใจกันว่า แต่งขึ้นเมื่อคราวตามเสด็จ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ไปตีทวาย ใน พ.ศ. ๒๓๓๐ ซึ่งถ้าเป็นดั่งที่ระบุ นิราศเรื่องนี้จะแต่งก่อน นิราศทวาย ของพระพิพิธสาลี ๒ ปี ๒. โคลงนิราศพระยาตรัง แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ เมื่อคราวไปทัพเมืองถลาง คาดว่าแต่งในปี พ.ศ. ๒๓๕๒ ซึ่งถ้าเป็น ดั่งระบุ นิราศเรื่องนี้ จะแต่งหลังนิราศนรินทร์ ๒ ปี (เพราะนิราศนรินทร์แต่งประมาณปี พ.ศ. ๒๓๕๐) ก่อนจะอ่านโคลงนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย จอมยุทธฯ ขอคัดข้อความจากหนังสือ วรรณวิเคราะห์ ตำนานฉันทลักษณ์ กับหลักการใหม่ ของ คมทวน  คันธนู มาให้อ่านสักช่วงหนึ่งขอรับ " นามของนายนรินทร์ (ธิเบศร์) อิน อาจชินหูชินตากว่าพระยา (ตรัง) ทั้งที่มีผลงานน้อยกว่ามาก  หากแต่นายนรินทร์อิน นั้นสามารถสร้างสรรค์ลีลาโคลงสี่ฯ ได้ดีกว่านั่นเอง ทั้งที่พระยา (ตรัง) เก่งกว่าในด้านการใช้คำ " ตรงนี้จอมยุทธฯ ยังไม่มีความเห็น แต่เราลองมาอ่านโคลงนิราศของพระยาตรังกันดีกว่า โดยจะเริ่มจาก โคลงนิราศตาม เสด็จทัพลำน้ำน้อย กันก่อน โคลงนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย แต่งเป็นโคลงสี่ดั้นบาทกุญชรและวิวิธมาลี ๑๙๗ บท โดยมีร่ายดั้นปะปนอยู๋ ๓ บท มีโคลงสี่สุภาพปะปน อีก ๓ บท ดั่งบทสุดท้าย คือ ๏ กำศรวลนิราศสร้อย............................สารตรัง ตรองแฮ เป็นบาทกุญชรัง....................................เรียบร้อย ฤกับวิวิธมาลีบีง...................................เบิกบท กาพย์ราย แสนเสนาะเพราะย้อย...............................หยาดน้ำทิพย์สรง ลักษณะการแต่ง เริ่มต้นด้วยร่าย และโคลงบทชมพระนครและยอเกียรติพระมหากษัตริย์ ก่อนพรรณนาถึงการเดินทาง คร่ำครวญถึงคนรัก  โคลงหลายๆบทได้รับอิทธิพลจากโคลงสมัยอยุธยา เช่นบทฝากนาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับอิทธิพล จาก โคลงกำศรวล คือ ๏ โฉมเจ้าจะแหวกฟ้า.............................ฝากพรหม เมศฤๅ เกรงจะชมฌานเมิล...............................แม่ไว้ จะฝากอิศรกรม.....................................ไกรลาศ ไฟราคร้อนหล้าไท้.................................ทั่วแหนง ๏ เลียบเล็งโลกธาตุสิ้น..........................สรรพางค์ เจ็บฝากเจ็บแฝงฝืน..............................ใฝ่เฝ้า คิดทั่วทิศานาง.......................................แหนงพี่ วายเลย โฉมแม่ฝากไว้เจ้า...................................จึ่งคง สถานที่ที่พรรณนาถึงในนิราศเรื่องนี้ จะคล้ายกับสถานที่ที่พรรณนาใน โคลงนิราศทวายของพระพิพิธสาลี จึงสันนิษฐาน ได้ว่าใช้เส้นทางเส้นเดียวกันในการเดินทัพไปตีเมืองทวายเหมือนกัน แต่คนละช่วงเวลาเท่านั้น สถานที่ที่กล่าวถึงแห่งแรกในโคลงนิราศชุดนี้ คือ คลองบางหลวง กวีผู้แต่งพรรณนาไว้ว่า ๏ บางหลวงคลองน้ำวิ่ง.......................วลวง ขนานขนัดแพพวนเหนี่ยว.....................หน่วงฝั้น เสนอสนองบ่วงสามสง........................สารสุด สวาสดิ์ฤๅ นานนิพันธ์หมั้นม้วย............................หมื่นปี เมื่อผ่านวัดหงษ์ และวัดสังขจาย พรรณนาไว้ว่า ๏ ศัลย์เสียวไป่หยุดเศร้า.......................แสนสา หัศเอย ล่วงลุวัดหงษ์ทวี...................................เทวศซ้ำ หวงหงษ์ประเหลหา.............................เหมสระ สนานพ่อ ว้าวุ่นท้องน้ำถ้ำ....................................ถิ่นไศล ๏ สังขจายขจรชื่ออ้าง.........................อาราม วงษ์ทวิชาชาญ...................................เชื่องหล้า สังข์สรงสุร่ายพราหมณ์......................เพรงแม่น ฤๅโสรดน้ำหน้าเศร้า.............................เสื่อมสูญ แม้นักวรรณคดีวิจารณ์หลายๆท่าน จะบอกว่าลีลา สำนวนโวหาร ของโคลงสี่แบบพระยาตรัง จะออกแนวแข็ง การ สร้างสรรค์คำยังไม่เนียนชวนอ่าน แต่จอมยุทธฯ ขอบอกว่าลีลาโคลงสี่แบบพระยาตรังนี่แหละครับ ที่เราๆท่านๆ ไม่น่าพลาดในการอ่านศึกษาด้วยประการทั้งปวง ขอยกตัวอย่างอีกซักสี่ห้าบท ขอรับ ๏ พวงมณฑามาศห้อง........................หัดถา เรียมเอย ขาดบ่ทันถนอมโฉม............................เฉกทิ้ง ดุรดวงทิพยสุดา.................................ดุรแดก ทรวงพี่ ควรจะเกลือกกลิ้งเศร้า.......................สั่งสาร ๏ อ่อโอษฐอรร่อพร้อง........................พรายแสง ทนต์แม่ เลิศลบนิลวารี....................................ร่วงรุ้ง วาวชิรผลแตง....................................เติมหนุ่ม เนตรฤๅ ดูดั่งน้ำกุ้งเต้น....................................ตื่นแห ๏ ลดชงฆ์ลงนั่งเล้า............................โลมสอน สวาสดิ์นา เมิลเถิดนะใจตรอม............................ตรากเศร้า ใจเอยเมื่อใจวอน...............................เวียนว่าย ฟังฤๅ ห้ามเท่าห้ามเฝ้าข้อน............................ขอดศัลย์ ๏ สารนี้สายสวาสดิเจ้า........................จงสงวน ไว้แม่ แทนพี่แทนถนอมองค์.........................แอบพร้อง ไป่ควรแม่อย่าควร.............................คำพี่ เพรงเลย เช้าค่ำเพื่อนห้องน้อง..........................ณ ศรี ๏ ฤๅรก รฦกบทตั้ง............................เทวศถวิล ถนัดแฮ ฤๅรก เรือมาสินธุ์..............................ลุแล้ว ฤๅรก จากมาพินธุ์..............................ดลเสน่ห์ สวาสดิ์เอย ฤๅรก เยียมาแก้ว................................เฉกซ้ำถับถึง ๏ ถึง ๓ เทวศโอ้...............................๓ ดล  ๑ เอย ดูร ๔ ได้ ๒ ผล..................................สวาสดิ์ ๕ เสน่ห์ ๘ คิด ๔ กล.............................๒ ถนัด  ถวิล ๑ รักรฦก ๔-๓ อ้า................................ลุนั้นมี ๒  พ่อฮา คงพอแค่นี้สำหรับโคลงนิราศตามเสด็จลำน้ำน้อย ตอนหน้ามาอ่านโคลงนิราศพระยาตรัง หรือโคลงนิราศถลาง กันต่อ ครับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ย. 45 16:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เย้ ปู่เมรัยมาแย้ว คิดถึงที่ซู๊ดดดดดดด คือว่า..ลูกลิงมีเขียนผิดบ้างป่าวอ่ะ มั่วไปแยะอ่ะ จากคุณ : จังงัง - [ 11 พ.ย. 45 16:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สยาย .สลวยสวยสะสล้าง สรีระนาง สยิว ยั่วทั่วสรรพางค์ .สะพรั่งพร้อม แสยะ .ยิ้มลูบนวลสอางค์ .สลัวสลับ สองรา สยอง .แย่แม่มัดย้อม .ยกย้อมละทีสยองฯ แหะ แหะ ขอรับ เห็น สมัคร สมาน เสมอ สมร ก็เลยกระมิดกระเมี้ยน ส่ง สยาย สยิว แสยะ สยอง มาวางแบบแอบ ๆ อยู่มุมห้อง ขอรับ สวัสดีขอรับ ทุกท่าน หายไปเพลาหนึ่งร่วมสัปดาห์ แล้วอีกเพลาหนึ่ง มิรู้จะหายร่วมเดือน ฤๅตะวัน ดี แหะ แหะ ขอรับ ปล. คิดถึงทั่น คัมภีร์โบราณ หายไปนานกว่าเพลาหนึ่งเจียว จากคุณ : นายทิวา - [ 11 พ.ย. 45 16:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กำลังเป็นห่วงอยู่ว่าเอา ลูกลิงจอมซน มาเฝ้ากระทู้นี้จะเป็นอย่างไร ไม่น่าเชื่อเฝ้ากระทู้ได้ดีเกินคาด แฮะ มาเอารางวัลกล้วย ๑ หวี จากปู่แล้วกัน ขอทักทายทุกๆท่านด้วยขอรับ ช่วงนี้จอมยุทธฯ ยุ่งจริงๆ อาจไม่ค่อยมีเวลาแวะมาอาศรมเท่าไหร่ แต่ตั้งใจว่า จะเขียนอ่านโคลงหวานผ่านโคลงนิราศซัก ๑๒ ตอน สุดท้าย ฝากถึงศิษย์น้องน้องเจ (ทานเจหรือเปล่าเนี่ย) (๒๕) โคลงที่แต่งมาถูกต้องตรงตามฉันทลักษณ์โคลง ครับ เสียงโคลงไม่เลว แต่รสความยังด้อยไปนิดหนึ่ง ผิดพลาดตรงไหน คืนนี้ถ้าจอมยุทธฯ ไม่เมาจนตาลาย จะลองชำแหละให้ดูครับ หรือศิษย์พี่ท่านใดว่าง ช่วยชำแหละโคลงของน้องเจ หน่อยเด้อ ฝากลูกลิง ดูแลอาศรมดีๆนะ อย่ามัวแต่ห้อยโหนต้นไม้อยู่นา บารนี   จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 11 พ.ย. 45 16:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ธาร     หลากไหลฉ่ำชื้น........................โลกา ศิลป์   สืบสร้างอุรา................................ชื่นล้ำ สร่าง   เภททุกข์ศาสตรา.......................หายห่าง สิ้นแฮ โศก     เสื่อม สุขเยี่ยมย้ำ........................สถิตซึ้งเต็มทรวง ธาร    แก้วจากขอบเบื้อง.........................แดนสวรรค์ ศิลป์  เติมแต่งดุจฝัน...............................เพริศแพร้ว สร่าง  สิ้นสุดคืนวัน..................................เปล่าเปลี่ยว โศก   พัดผ่านคลาดแคล้ว........................เคลื่อนคล้อยตามธาร กระทู้หน้า จำมะได้ ว่าอ่านจากหนังสือพิมพ์ไหนน่ะ แต่ จำได้ขึ้นใจ และ ชอบจังเยย เย้ ๆๆๆ จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 11 พ.ย. 45 17:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 33 นายจันทรคราส (เจ้าเดียร์) ไหนบอกว่าจะส่งแฟ๊กซ์มา เดินไปเดินมาหลายรอบ เมื่อยตุ้มแล้วน๊า ยังไม่เห็นมีเลยอ่ะ กะว่าจะส่งให้ปีหน้าหรือไร กิ..กิ.. ท่านอาทิวา..สบายดีอยู่ฤา ห่างหายไปนานเชียวนา อึ๊ยส์...สยองอ่ะ ๕๕๕ ...ท่านอามานี่เลย มานี่เลย มานั่งโต๊ะกลางห้องนี่ นั่งเป็นองค์ประธานจั๊กโหน่ย ..เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจอ่ะ ..อะฮ้า หายไปนานต้องทำโทษ เนอะ ๆ อย่างน้อย น่าจะมีโคลงชุดมาฝาก นี่ก็หน้าหนาวแล้ว หนุ่มละอ่อน(หรือเปล่า) จะว่าจั๋งได๋ .. ท่านปู่เมรัยเจ้าขา .. เกือบแย่เหมือนกันนา ..ตื่นมาตอนเช้า ร้อง อะ..จ๊าก เลยอ่ะ ยิ่งกว่าทำการบ้านส่งลุงเวทย์อีกอ่ะ แยะไปหมด ก๊ากๆๆ แต่ บ่ ยั่นดอก หลานลิงซะอย่าง ยังงัยซะ ปู่ก็ช่วยลากๆ ดึงๆ ไปด้วยนา บารนี .. จากคุณ : จังงัง พรรคลิงรักลิง (จังงัง) - [ 11 พ.ย. 45 17:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถึง.....คุณเงาน้ำค้าง #๒๖ สมัครพรรคพรั่งพร้อม     เพื่อนผอง สมานจิตคิดไตร่ตรอง      กระทู้ เสมอม่านเปิดสมอง       สว่างหล้า   <----- ต้องเป็นคำเอกหงะ  แหะ ๆๆๆๆ สมรร่ำคำกานท์สู้           ร่วมร้องทำนองโคลง <------- คำว่าทำนอง รวมแล้ว เป็น 2 คำ ครับ ทำให้คำว่าโคลงเกิน ถึง......คุณน้องเจ... ฉันทลักษณ์ถูกต้อง เย้ ๆๆๆๆๆ แต่.....โคลงพาไปเยอะอะ แบบว่า อ่านแล้ว เนื้อความนี่ ง้ง งง แง้ว แง้ว เอิ๊กกกกก กาดึ๋ง กาดึ๋ง สมัคร         มาช่วยร่วมสร้าง....................ความฝัน สมาน         มั่นเธอกับฉัน..........................คู่หล้า เสมอ           อยู่ชั่วนิรันดร์........................แม่นมั่น สมร             หนึ่งผู้เจิดจ้า.........................ประทับซึ้งสนิททรวง จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 11 พ.ย. 45 17:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ๏จัง หวะจับจัดจ้า             จันทรา งัง งับดับพสุธา                ส่องสู้ น่า พิศผ่องพนิดา             ดุจดั่ง ดาวเฮย รัก รูปเรียมรับรู้                 ร่ำร้องชมนาง๚ ๏จอม ใจจอมจักจี้           จาคี ยุทธ เยี่ยมยังจิตรดี          แด่น้อง เม ธาท่านทัศนีย์             นีรนาท รัย ไล่เล่นคำคล้อง          เคลิบเคลิ้มโคลงเขา๚ เริ่มจะซ่าซะแล้วน่อผม จะโดนมั้ยนี่ กลิ่นนมยังติดปากอยู่เลย ซ่าแซวชาวบ้านเค้าซะแล้ว หุหุ  อย่าว่าหนูน้า..... ศิษย์พี่จ๋า โคลงมันพาไปน่ะครับ /me ก้มลงกราบ ๆ  @_@ จากคุณ : น้องเจ ({``-_-}{-``-}{-_-``}) - [ 11 พ.ย. 45 18:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คิดๆแล้วเห็นด้วยกับ คุณPed-Degree - ความคิดเห็นที่ ๕ ว่าพักหลังชักจะมีแต่โคลงกระทู้ ทั้งที่จริงๆแล้ว ก่อนหน้านี้ ชื่อกระทู้ที่ตั้งมักไม่เล็งไปที่โคลงกระทู้  เพียงแต่เอามาเขียนประดับทีหลัง ๏ สมัคร ใจไม่คิดล้าง                 ลบสหาย                   สมาน มิตรมิเคยคลาย                เคลื่อนคล้อย เสมอ มั่นหมั่นสร้างสาย             โคลงต่อ สมร มุ่งมาน้อยน้อย                    แน่วเน้นประเด็นงาม ๚ะ๛ คนเฝ้ากระทู้นี้ขยันดีจัง  แวะมาเอาใจช่วยด้วยอีกแรงนะเจ้าคะ   ๏ หวาน โคลงตอบลอบยิ้ม        นิ่มนวล ใจ รัดรึงรัญจวน                        แต่เจ้า หวาน หอมอุ่นกรุ่นชวน             เชยชิด  แม่เอย จัง หวะว่างสร่างเศร้า               จึ่งคล้องครวญแถลง ๚ะ๛ ปัจฉิมลิขิตถึง น้องเจ (คนขยัน-ฤเปล่า)  พยายามเข้าเด้อ   จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 พ.ย. 45 19:33:22 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ลวดลายอักขรล้ำ......................รอยคิด สนองศิลป์สืบวิจิตร..................รักร้อย ศรีเสาวลักษณ์ประสิทธิ์-............ประสาท ผลนา มิตรมิ่งจังงังน้อย.......................ฉกาจแกล้วกอบกวี อิอิ ขอบคุณจังงัง ครับ สวัสดีทุกท่านด้วยครับ คิดถึงเช่นกัน จากคุณ : ดุกเผา (วิญญาณอสัญญา) - [ 11 พ.ย. 45 21:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ฉันทลักษณ์ผิดซ้ำผิดซาก  ด้วยจากอาศรมนานหรือฉไน แต่คงเป็นด้วยเหตุที่ใจ     แอบแก้โคลงในเวลางาน เลยไม่ได้ทานซ้ำอีกครั้ง สม สม นี่แหนะสม อิอิ  พระเจ้าลงโทษซะ จากคุณ : เงาน้ำค้าง (เงาน้ำค้าง) - [ 11 พ.ย. 45 21:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หุหุ..เครื่องคอมพ์ที่ทำงานเดี้ยงอ่ะเลยไม่ได้เข้ามาช่วยดู..ขอโทษนะจังงัง.. ๏ สมัคร    หมายมุ่งสร้าง           สิ่งใด สมาน    มิตรสนิทใจ                   แจ่มแจ้ง เสมอ    สามัคคีไข                      คำสัตย์ สมร     ยุทธสมรแย้ง                 อย่าร้างสมานฉันท์ ๚ ..วันนี้ยังมึนหัวอยู่เลย เนี่ยไปนั่งซุ่มเขียนโคลงตั้งหลายชั่วโมง ออกมาได้แค่นี้เอง..ฮิฮิ ๏ เดือนสิบสองน้ำนิ่ง                  น้ำทรง ปริ่มตลิ่งกระเพื่อมลง                  ศศิไล้ หนุ่มสาวล่องกระทง                   เคียงคู่  กันนา อธิษฐานคู่ไซร้                           ไป่แคล้วคู่กัน ๚ ๏ วันเพ็ญวันพระแจ้ง                ใจชน ลอยกระทงแสวงผล                  สุขล้ำ จุดธูปประทีปเทียนดล               ดังปรารถ   นาเฮย ปล่อยโศกไปกับน้ำ                    ปล่อยช้ำสลายสินธุ์ ๚ ..ผมว่าเรามาแต่งอะไร ๆ ที่เกี่ยวกับงานลอยกระทงจะดีมั้ย? โจทย์ไม่มี จะออกมาแนวไหนแล้วแต่ใครจะคิด ..ใครไปด้วยยกมือขึ้น.. ..เรานำไปก่อน ๒ บท..ฮิฮิ จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 11 พ.ย. 45 21:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มั่วๆๆๆ เรานำไปก่อนอะ ๑๒ บท ยังไม่พูดเลย แค่สองบททำมาพูด ป๊าดธ่อ .. วันนี้โกนหนวดยังอ่ะ ..? จากคุณ : จังงัง - [ 11 พ.ย. 45 22:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อิอิ จากคุณ : windsaint - [ 11 พ.ย. 45 22:14:24 A:202.29.143.1 X:10.1.64.30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมว่า น่าจะมีแบบ ใครเอารูปมาแปะไว้ แล้วให้อธิบายภาพเป็นโคลงสี่นะครับ อิอิ ช่วย ๆ กันอะไรเงี้ย จากคุณ : น้องเจ แจ๋นแจ๋น - [ 11 พ.ย. 45 22:31:56 A:202.183.228.67 X:203.170.158.167 ]

ความคิดเห็นที่ 43 งั้นยกผลประโยชน์ให้เจ้าบ้านนะ ..โอเชมิวสิค เริ่มได้ บัดเดี๋ยวนี้ ..กิ..กิ.. จากคุณ : จังงัง - [ 11 พ.ย. 45 22:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ๏ เดือนเดียวดวงเด่นห้วง           เวหา กะเฌอคู่ริมธารา                        คู่ค้ำ กระทงคู่สว่างสา-                     โรชรูป แม่คู่เรียมค่าล้ำ                          คู่แล้วสมสวรรค์ ๚ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 45 23:11:35 จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 11 พ.ย. 45 23:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตอบอาทิวา ... ความคิดเห็นที่ ๓o ......ทิวา*...คราดอกแย้ม...................บานขาว กลิ่นกรุ่นหอมปานสาว.......................รุ่นแล้ ภมรเพ่งเพรียกระนาว.......................ดอมกลีบ-  ขาวนา ชระมื่นระรื่นแท้................................เปรียบคล้ายพจน์ภาณ ฯ .....ทิวา...มาร่วมด้วย.........................ถกแถลง เกณฑ์กฎพจน์แสดง..........................เก่งกล้า โวหารซ่านฤทัยแจง............................โคลงกล่อม  หวานนอ คราวเคร่งขรึมดุจคว้า........................ดาบเงื้อบาดใจ ฯ ** ตอบนายจันทรคราส ... ความคิดเห็นที่ ๓๒ ... คิก คิก แกล้งดีไหมน๊อ ตะหงิด ตะหงิดอ่ะ ... .....ธาร...ไหลหลั่งดั่งน้ำ.....................ตาไหล ศิลป์...ศาสตร์อาจขานไข.....................ข่มเศร้า สร่าง...รักหากอาลัย...........................หวลห่วง  นาแม่ โศก...เสื่อมหากจิตเฝ้า........................ใฝ่น้องสมานฉันท์ ฯ .....โศก...ไปใครไป่ใกล้......................ใจเรา สร่าง...จากกำสรวลเซา......................เสื่อมแล้ว ศิลป์...อาจมากลัดเกลา......................จิตรื่น  สราญนา ธาร...หลั่งดังคลาดแคล้ว....................ผ่านพ้นโศกา ฯ ** ตอบน้องเจ ผู้ที่มาพร้อมกับ รัก ยม และกุมารทอง เสมอ...๕๕๕๕๕ แหมน้องเอ๋ย ลูกลิงกลัวผีน๊า พกมาด้วยทุกทีอ่ะ กลั๊วกลัว ...๕๕๕๕ .....เทศ...ไทยหมายปลาบปลื้ม............ภราดร กาล...เมื่อตีลูกบอล............................พุ่งปรู๊ด กิน...หมดดั่งเชิงสอน-........................มวยหมู่ เจ...เกิดตดดังปู๊ด.............................หมดมู๊ดบูดเหม็น ฯ .....น้อง...เอยควรเร่งรู้.......................วิทยา-  การเฮย เจ...ษฎาจักนำพา................................โรจน์ล้ำ เท่ห์...นักยากสรรหา...........................ใครเทียบ-  เทียมพ่อ จัง...ค่ะมาหยอกย้ำ.............................พร่ำเพ้อละเมอหา ฯ ** ตอบหวานใจศาลาไทยของจังงัง .. ความคิดเห็นที่ ๓๖... ฮ่า ฮ่า ฮ่า แควนๆๆๆ อย่าอิจฉาตาร้อนน๊า ขอบอก ..ก๊ากๆๆๆ .....คุณ...ช่างงามงดแท้.........................พธูไทย ศา..สกสาธกใด..................................เพราะพริ้ง ลา.....วัลย์คิดขานไข...........................โคลงบท ไทย...ท่วงทำนองนิ้ง...........................นิ่มน้องแสนงาม ฯ ** ตอบคุณปลาดุกเผาห๊อมหอม .. ความคิดเห็นที่ ๓๗ .. .....ลำนำมาหยอกเยื้อน.........................ลิงฟัง ปลาดุกพี่วจียัง...................................รักถ้อย น้องน้อยค่อยมีพลัง............................พรมพร่าง ใจนา ดุจดั่งมาลัยร้อย.................................ส่งให้เกษมศานต์ ฯ ** ตอบคุณเงาน้ำค้าง ... ความคิดเห็นที่ ๓๘ ... เป็นกำลังใจให้นะคะ จังงังเองก็เรียนรู้จากที่นี่จ๊ะ กว่าจะได้ก็ดำน้ำไปหลายอึกเหมือนกันจ๊ะ .....ฉันทลักษณ์หากผิดเพี้ยน..................พจน์ขยาย เพียงแค่บทสาธยาย..............................แผกบ้าง พินิจจิตติดสักกาย*.............................แฝงอยู่ หากผิดอย่าคิดร้าง...............................จากห้องอาศรม ฯ .....เพียรเขียนเวียนอ่านซ้ำ.....................สบสมัย อาจถ่องกถาอุทัย*................................ถี่ถ้วน เรียงร่ายอาจพิศมัย..............................เสมือนท่าน-  พิชญ์นา มิเนิ่นอาจเลิศล้วน-................................ท่วงถ้อยกานท์กวี ฯ ** ตอบนายอกไข่ดาว ... หมายเลข ๔๔ ยาหม่องตราลิงถือลูกท้อส่งเข้าประกวด .. .....อ...ธิษฐานท่านไท้............................เทพยดา กนิษฐ์...วิงวอนหา-...............................ท่านแล้ว คิด...อยากฝากเทวา..............................พรหมโลก  หนึ่งเอย ฉไน...จึ่งมาเจื้อยแจ้ว............................หยอกเย้าโศลกสรวล ฯ .....อ...ภิธานท่วงถ้อย............................ทบทวน กนิษฐ์...มิตรคิดยียวน............................เขย่าย้ำ คิด...โคลงบ่งเสริมสรวล.........................แสนสนุก  สนานนา ฉไน...เอ่ยเผยพจน์พล้ำ...........................พากย์เพี้ยงเสียงหลง ฯ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 45 10:57:54 แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 45 10:40:16 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 45 23:54:11 จากคุณ : จังงัง พรรคลิงรักลิง ง่วงอ่ะ (จังงัง) - [ 11 พ.ย. 45 23:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ๏ สมัคร รักปักซอกซึ้ง           ตรึงทรวง สมาน จิตคิดแหนหวง            ห่วงเจ้า เสมอ จันทร์มั่นส่องสรวง        โศภิต สมร สนิทชิดชื่นเคล้า             ห่างไห้พิไรหา ๚ ๏ สมัน น้อยค่อยเยื้องย่าง      ยามเย็น สมอง สั่งดังตาเห็น               เหตุร้าย สมี คิดปลิดทั้งเป็น                เป่าดับ ดิ้นแฮ สมุน โฉดโหดละม้าย            มิตรบ้าอาศรม ๚ (ล้อเล่นคับป๋ม...) จากคุณ : Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) - [ 12 พ.ย. 45 00:43:40 ]

ความคิดเห็นที่ 47 Noppy B. Good = นบผีบีจุดกุด (พี่แทนแกว่างั้น)   ๏  นบ นอบตอบทบถ้อย         กระทงความ ผี เถื่อนเพื่อนฝากถาม           หลบม้วน บี ฑาบ่าคำลาม                 เล่นลื่น  นาพี่ จุดกุด โคลงกวนห้วน            ล่อให้ขบขัน  ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 พ.ย. 45 08:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ฮ่า ฮ่า ฮ่า ..รอดไปหนึ่งยก เพราะว่าแควนเรามาตอบแทนอ่ะ ..  ท่านสายลมคิมหันต์ ..พัดแผ่วๆ หยอกเอินได้ถูกใจลูกลิงแท้ คิก คิก ไหง๋หวานใจเรามาทีไร มีเจ้าตุ๊กตุ่นเคาะหัวโป๊กๆมาด้วยอ่ะ ..สวยแบบดุๆแฮะ..อะ อะ อึ๋ยส์ .. จากคุณ : จังงัง พรรคลิงรักลิง (จังงัง) - [ 12 พ.ย. 45 08:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สมัคร บอกโฟมเหอะพี่        ทำกระทง สมาน สมัครกระเทยดง       ก็ด้วย เสมอ  ก่อนเก่าก็คง            หนุนเน่า คลองแฮ สมร    บ่สนโฟม,กล้วย       คว่ำค้นกระทงเพลิน จากคุณ : แอบแว้บบบ...มา ดีจ้า - [ 12 พ.ย. 45 09:53:13 A:202.183.214.6 X:10.254.254.4 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ศิษย์น้องเจ (๒๕) สมัคร สมาชิกช้า..........................อาศรม สมาน มั่นเหล่ามัธยม...................เปรียบได้ เสมอ มธุรพจน์คม........................เหมือนพี่ ไกลแฮ สมร ศึกสู้แต่งไว้...........................สักครั้งให้ชม ก่อนจะชำแหละโคลงบทนี้ มาดูความหมายของกระทู้หน้าบาทแต่ละคำก่อน สมัคร : ก. เต็มใจ , เข้าพวกด้วยความเต็มใจ สมาน : ว. เสมอกัน , เท่ากัน / ก. ทำให้ติดกัน , ทำให้สนิท /ก. เชื่อม , ผูกพัน เสมอ : ว. เท่ากัน ,ปานกัน,เหมือนกัน /ว. เรียบราบ /ว. ร่ำไป ,เป็นนิตย์ /ก. เข้าด้วย            น. ชื่อเพลงหน้าพาทย์ฯ สมร : น. การรบ ,การสงคราม / น. นางงามซึ่งเป็นที่รัก ทีนี้มาดูทีละบาท บาทแรก : สมัคร สมาชิกช้า......................อาศรม ตรงนี้ถ้าถามว่าอ่านเข้าใจหรือไม่ ขอตอบว่าเข้าใจครับ แต่ถ้าให้เพื่อนคนอื่นอ่าน อาจจะงงๆ เหมือนกัน เพราะไม่เข้าใจว่า สมาชิกอาศรม คืออาศรมอะไร แก้ง่ายๆโดยใช้สร้อยเพื่อขยายคำ อาศรม อาจแก้ว่า " สมัคร สมาชิกช้า...................อาศรม โคลงเอย " แค่นี้ความบาทนี้ก็จะชัดขึ้น แต่ถ้าเป็นลูกปูแบบจอมยุทธฯ อาจแก้เป็น " สมัคร ร่วมสมาชิกช้า.................อาศรม โคลงเอย " เพราะมีความรู้สึกโดยส่วนตัวว่าทำให้โคลงบาทนี้อ่านง่ายขึ้น (สมัครร่วม-สมาชิกช้า........) บาทที่ ๒ : สมาน มั่นเหล่ามัธยม.................เปรียบได้ ตรงนี้อ่านแล้วพอเข้าใจว่า เปรียบฝีมือตนเองแค่ระดับมัธยม แต่จอมยุทธฯ ก็ยังนึกตะหงิดๆกับ คำ สมานมั่น ซึ่งพยายามตีความอย่างไรก็ไม่ค่อยเข้ากับบาทนี้ ลองเปลี่ยนเป็น " สมาน มั่นแม้ระดับประถม....................เปรียบได้ " ตรงนี้ ขอเปลี่ยน มัธยม เป็น ประถม เพื่อมิให้คำเกิน บาท ๓ : เสมอ มธุรพจน์คม........................เหมือนพี่ ไกลแฮ บอกตรงๆ ว่าชอบโคลงบาทนี้มากที่สุด จากโคลงบทนี้ แต่ตามประสาลูกปูเดินเฉอีกแล้ว ลอง เพิ่มคำนิดหน่อย ขยายความให้ชัดขึ้น เป็น " เสมอ บทมธุรพจน์คม.................เคียงพี่ ไกลแฮ " นอกจากความจะชัดขึ้น ยังมีสัมผัสในทำให้แยกจังหวะการอ่านได้สะดวก เสมอบท-มธุรพจน์คม โดยใช้ลูกเก็บนิดหน่อย ลองใช้สัมผัสอักษรระหว่างวรรค คม-เคียง ให้จังหวะโคลงดีขึ้นหรือถ้าเยิ่น ไปลองแก้เป็น " เสมอ บทมธุรสคม......... " ก็ได้ โฮ่ โฮ่ มั่วซะไม่มีดี บาทจบ : สมร ศึกสู้แต่งไว้...........................สักครั้งให้ชม แต่งโคลงทั้งทีอย่างกะทำสงครามเลยหรือน้องเจ สงสัยโดนกระทู้หน้าบาทพาไป เอาสงครามก็สงคราม ลองเปลี่ยนเป็น " สมร พากย์วากยแต่งไว้...................สักครั้งหวังเสนอ " ความจริงจอมยุทธฯ ก็ไม่ ชอบใจบาทจบนี้เท่าไหร่ เพราะความของโคลงยังไม่ดี แต่ลองแก้ให้ไกล้เคียงความเดิมที่น้องเจแต่งมา ให้มากที่สุด ลองเปลียนคำให้โคลงมีรสคำ (ความไพเราะ) ดีขึ้น น้องเจลองอ่านออกเสียงแล้วเทียบกับ ของเดิมดูนะครับ ซาหรุบว่า จะได้โคลงบทนี้ คือ สมัคร ร่วมสมาชิกช้า............................อาศรม โคลงเอย สมาน มั่นแม้ระดับประถม....................เปรียบได้ เสมอ บทมธุรสคม................................เคียงพี่ ไกลแฮ สมร พากย์วากยแต่งไว้........................สักครั้งหวังเสนอ เอาแค่บทเดียวก่อนขอรับ แค่นี้ก้อมั่วสุดๆแล้ว แต่แต่งโคลงใหม่ๆ เมื่อแม่นฉันทลักษณ์ ขอให้คำนึงถึงความของโคลงไว้ก่อนขอรับ ถ้าเดินเฉแบบศิษย์พี่ ปู อย่างจอมยุทธฯ อาจจะกู่ไม่กลับ อย่างนี้แล เอิ้ก จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 12 พ.ย. 45 14:59:04 A:161.246.1.33 X:161.246.51.143 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อะ       กุศลกะแน่งน้อง-       ภรรยา อยากแฮ กะนิด   หน่อยพออุรา            รื่นรื้น อิท      ธิฤทธิ์จากบาทา         ตะละแม่ ลอยเวย กะนัด   สนุกแลครึกครื้น        กะหน้าของฉัน ไม่รู้แจมไร ขอแต่งชื่อฮอตฮิตเลียนแบบจังงังละกานนน.... อิอิ ปล.#49 (ลุง)สมัครบอกโฟมเถอะน้อง ... ทำกระทง  จ้า.. แหะแหะ ตกโท ฮือฮือ จากคุณ : แอบแว้บบบ .. มา อีกรอบ - [ 12 พ.ย. 45 15:23:59 A:202.183.214.6 X:10.254.254.4 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เข้ามาอ่านโคลงเหมือนเดิมค่ะ  คราวนี้เป็นคิวจังงังเฝ้ากระทู้ทำได้ดีเชียวค่ะ  ยังไงก็จะเป็นกำลังจัยนะจ๊ะ  แล้วจะแวะเข้ามาให้กำลังใจบ่อยๆจ้า.......... จากคุณ : ยัยไหม - [ 12 พ.ย. 45 15:34:45 A:203.156.14.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามาอ่านโคลงเหมือนเดิมค่ะ  คราวนี้เป็นคิวจังงังเฝ้ากระทู้ทำได้ดีเชียวค่ะ  ยังไงก็จะเป็นกำลังจัยนะจ๊ะ  แล้วจะแวะเข้ามาให้กำลังใจบ่อยๆจ้า.......... (จังงังสู้ๆๆๆเนอะ จากคุณ : ยัยไหม - [ 12 พ.ย. 45 15:39:13 A:203.156.14.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 แหะ แหะ ปวดท้องเป็นระยะ ระยะ เย็นนี้ว่าจะไปให้ลุงหมอชำแหละตรวจสักหน่อย อาจจะต้องเอาไส้ออกมากองข้างนอกแล้วล้างให้สะอาดแล้วยัดไปใหม่ ..วู้ คล้าย ใครหว่า ..ศรีธนนชัยแหง๋มๆๆ ใครหนอแว๊ปแอบมา เนี่ย เอ๋ ผักเผือกบรรดาเสนาลิงหรือเปล่าหนอ .. ปู่เมรัยจ๋า จับชำแหละ ด้วยนะ เรื่องศัลยกรรม ลูกลิงไม่ค่อยถนัดอ่ะ ถนัดแต่ป่วนนี่นา .. ยัยไหม..อะแฮ่ม กำลังใจใส่เข่งมาให้แยะขนาดนี้ สุดใจขาดดิ้นเลยอ่ะ คืนนี้จะย่องมาใหม่ หากยังไม่แอ๊ดมิทซะก่อน .. อย่างไรก็ตาม นายอกไข่ดาว ออกมารับแขกแทนด้วยน๊า .. บรรดาปู่ทั้งหลายด้วย หากลูกลิงหายไปสักสองวัน เตรียมซองขาวได้เลย ...เฮ้อ ..ปวดท้องเจง เจง อ่ะ จากคุณ : จังงัง - [ 12 พ.ย. 45 15:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ปวดท้องยังไงอ่ะ  ขนาดเอาลำไส้มาทำความสะอาดแล้วเอายัดเข้าไปใหม่ยังเคยเลยอ่ะ...เจ็บปวกน่าดู  แต่ก้อโอเครอดมาได้หวุดหวิด  ไปหาหมอซะหล่ะ  อดทนเข้มแข็งน่ะไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ....... จากคุณ : ยัยไหม (กรวี) - [ 12 พ.ย. 45 16:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณเงาน้ำค้าง แหะ แหะ ไร้นามมั่วเจ้าค่ะเห็นใคร ในอาศรมนามไม่คุ้นแต่โคลงสวยก็มั่วเป็นศิษย์พี่ไว้ก่อน ศิษย์พี่จังงัง แต่งโคลงให้เราเพราะเลย ซาบซึ้ง T_T ว่าแล้วก็ส่งโคลงแจมเทศกาลลอยกระทงมั่ง - - - ๏ ๏ ๏ วันเพ็ญเดือนสิบสอง ๏ ๏ ๏ - - - ๏ วัน เพ็ญเย็นค่ำแล้ว               ลอยกระทง วัน ร่างเรียงบุษบง                    กลีบล้อม วัน ทาปล่อยวางลง                  ขมาแม่- น้ำนา วัน ชาติราษฏ์พรักพร้อม          นบน้อมชลธาร ๚ ๏ เพ็ญ จันทร์นวลส่องฟ้า          เย็นตา เพ็ญ ภาพพร่างพรมนภา          เพริศแพร้ว เพ็ญ ดวงอาบธารา                   ฉายฉาบ เพ็ญ ศศิส่องสล้างแล้ว               สงบไหว้สายนที ๚ ๏ เดือน ดวงล่วงผ่านคล้อย        ครบวาร เดือน สิบสองสบสราญ              สุขได้ เดือน เพ็ญเด่นตระการ              พลุประดับ เดือน ดาษด้วยดอกไม้                ระยับฟ้าระดับชล ๚ ๏ สิบ นิ้วน้อมนบไหว้                  อัญชลี สิบ ธูปเทียนเหรียญพลี             ลบล้าง สิบ สองมาศล้อมนที                  กรานกราบ สิบ หมื่นประทีบสล้าง                ราษฏ์เข้าบวงสรวง ๚ ๏ สอง เหตุสรรเสกสร้าง             เทศกาล สอง สื่อคือหนึ่งสนาน                 สนุกล้ำ สอง มุ่งมั่งสืบสาน                      วัฒน(ะ)- ธรรมเฮย สอง สิ่งจรรโลงค้ำ                       คู่ไว้ไทยสยาม ๚ จากคุณ : ไร้นาม - [ 12 พ.ย. 45 17:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โหยยยยยยยยยยยย โหยยยยยยยยยยยยย T_T น้ำตาไหลพราก ๆ ไม่รู้จะยกคำใด ๆ มาขอบพระคุณสำหรับศิษย์พี่ท่านจอมยุทธเมรัย ให้สมกับสิ่งที่ชี้แนะมาครับ จะจดจำไว้ทุกคำที่พี่ท่านได้สละเวลาชี้แนะผมมา มันมีคุณค่ายิ่งใ ห้ผมได้พัฒนาไปอีกครับ ฮืออออ ซึ้งอ่ะ ซึ้งจริง ๆ ที่นี่อบอุ่นจัง ผมได้รับการดูแลจากพี่ ๆ อย่างไม่รู้สึกเดียวดายเลยครับ จากคุณ : น้องเจ ({``-_-}{-``-}{-_-``}) - [ 12 พ.ย. 45 17:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เดียร์  มีเวลาว่างม่ะ  หากมีมาเฝ้ากระทู้ให้จังงังหน่อยดิ จากคุณ : ยัยไหม (กรวี) - [ 12 พ.ย. 45 18:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ยามจังงังแวะเข้า.....................โรงหมอ เหล่ามิตรสหายนั่งรอ......................นอกห้อง ตามส่งใจไปขอ..........................หายขาด เร็วนา   รีบกลับมาเฝ้าน้อง........................กระทู้นี้ไม่เหงา วันเพ็ญ..ทรงกลดล้ำ.......................กระจ่างตา เดือน...ที่แม่คงคา........................ปริ่มล้น สิบ.....ประนมธูปเทียนทา..................กระทงนอบ น้อมเอย   สอง....บาทวางลงก้น.....................จึ่งได้อธิษฐาน จากคุณ : รสา รสา - [ 12 พ.ย. 45 18:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 . ลุ่มหลงมนต์โคลง -๑- ครอบจักรวาล ๏ ยินคำขานขับถ้อย............................กถายิน พ้องเทพประเลงพิณ - ........................พาทย์พ้อง โสตสนานเสน่ห์ศิลป์............................สนองโสต.......เสนอนา เสียงเสนาะเสียงโคลงซ้อง....................ซ่านซึ้งเสพย์เสียง ๚ -๒- ครอบจักรวาล ๏ คำเรียงเพียงเสกสร้อย......................สายคำ สร้างสง่าศรีวรรณกรรม........................กอปรสร้าง สืบโคลงต่อโคลงทำ.............................ทางสืบ...........โคลงเอย ศิลป์สืบศิลป์ไป่ร้าง...............................ล่มแล้ววรรณศิลป์ ๚ -๓- ๏ ประพิณพจน์กำหนดไว้....................วางกล ใช่เล่ห์ลวงหลงหน..............................หักห้าม ฉันทลักษณ์หลักประพนธ์....................ประพฤติอย่าง วางกรอบเป็นขอบข้าม.........................ขัดข้องคาไฉน ๚ -๔-โคลงแบบ ๏ ยวนใจกวีว่าแม้น..............................มีกล วางเล่ห์ลวงหลงหน..............................ห่อนได้ สรรคำส่งประพนธ์...............................ประภาษอย่าง.........ใจเฮย เสมอหนึ่งนายเหนือไซร้.......................สั่งได้ภาษา ๚ -๕- ๏ วิชาโคลงวางแต่เบื้อง........................บุพกาล ท่านแต่งตามพิจารณ์............................จับถ้อย เสียงใดเหมาะความขาน.......................คำขับ วางประดับเป็นแบบร้อย........................รจน์ไว้ว่างาม ๚ -๖- ครอบจักรวาล ๏ เรียนตามจงอย่าท้อ..........................ถอยเรียน เว้นเพราะขาดความเพียร....................พ่ายเว้น เสื่อมศิลป์เสื่อมคนเขียน......................โคลงเสื่อม.........สูญฤๅ สานเถิดสานสืบเส้น.............................สืบไว้โคลงสาร ๚ ๛ =============================================== สวสัดีครับสหายอาศรมฯ หมู่นี้วฤกเขียนโคลงไม่ออก ไม่รู้จะเขียนอะไรดี ..... จึงดูเหมือนห่างหายอาศรมฯ ไป วันนี้เลยเขียนโคลงปลุกใจตนเองให้ลุกขึ้นมาเขียนใหม่ เพราะอยากเขียนเรื่องลอยกระทง ... แต่ก็เขียนไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 07:03:50 จากคุณ : วฤก - [ 12 พ.ย. 45 18:59:02 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ศา...........ริกาว่าวัจน์เว้า              วอแว ลาฯ.........เลิกเบิกกระแส              สดับเจ้า ซา...........สร่างใช่ร้างแล             เลาะเลียบ เล็งนา ดิฐ(ดิสม์)...อยู่บ่แหย่เย้า               ยุ่งจ้าภาระหลาย ๚ะ๛ คคห.48 ไหง๋หวานใจเรามาทีไร มีเจ้าตุ๊กตุ่นเคาะหัวโป๊กๆมาด้วยอ่ะ...จากคุณ : จังงัง คำตอบ = ศาลาฯ...ซาดิสม์ จากคุณ : Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) - [ 12 พ.ย. 45 19:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ยามแสดงแสงจรัสหล้า..............เรืองโพยม ดวงเด่นดียวดุจโคม..................คู่ฟ้า คืนเดือนสิบสองโสม..................เพ็ญผ่อง แถวประทีปแจ่มจ้า.....................ทั่วทั้งชลาลัย ขอขมาสายน้ำแห่ง.....................ชีวี ขอขอบคุณความดี....................แห่งน้ำ กระทงท่องทางนที....................ทั่วทิศ ไทยนา ชลหลากชนรื่นล้ำ......................ค่ำฟ้าสกาวเดือน อิอิ เจอท่านนปปี้ มีคนฝากความคิดถึงมาด้วยนะครับท่าน... จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 12 พ.ย. 45 22:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 64 สมัคร สุมิตรลิขิตคล้อง              คระลองโคลง สมาน จักรวาลจรรโลง               จำหลักถ้อย เสมอ พิภพสยบใต้โอง-              การปราชญ์ ศิลป์ฮา สมร เดือดระอุกลับพร้อย             เมื่อพร้องโคลงสาร ฯ สวัสดี คุณจังงัง เจ้าบ้าน และทุกท่านครับ ขอชื่นชมเจ้าบ้าน ขยัน และร่าเริง ดีมาก ทราบว่า ไม่สบาย ก็ให้หายไว ๆ เน้อ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 12 พ.ย. 45 22:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 65 นำโคลงกระทู้นามบุคคลมาวาง เพื่อศึกษา ตามคำแนะนำของ ท่านนิรนามฯ ความคิดเห็น ๑๐๑ กระทู้อาศรมฯ ๕๖ ครับ รัชกาลที่ห้า แห่ง                 ราชวงศ์ พระบาทสมเด็จ ทรง            สืบเชื้อ พระจุลจอมเกล้า องค์          เสวยราชย์ เจ้าอยู่หัว ไทยเกื้อ               กล่อมเลี้ยงราษฎร ฯ (ร้อยกรองฉลองกรุง หน้า ๖๕ ของ ท่านรศ. ธนู บุณยรัตพันธุ์) ภูมิ พลมหาราชเจ้า              จอมใจ ไทยเอย พล พ่างพลเทพไท              กลั่นแกล้ว อดุลย ภาพห่อนหาไหน        ทาบเท่า พระฤๅ เดช เพิ่มพระยศแล้ว             อื่นไท้ไป่เทียม ฯ (นวมราชสดุดี กวีนิพนธ์ ฉบับคณะกวีสมานฉันท์ บท พระราชพิธีรัชดาภิเษก หน้า ๔๙ ของ ท่านเรืองอุไร กุศลาศัย) พระ บารมีมุ่งแจ้ง               วิมุติวิโมกข์ ธรรมะ ประเสริฐเหนือโลก    เลิศแล้ว ปิฎก ตรีชื่นชัยโชค             มนุษยชาติ วิสุทธิ์ ธาตุเพชรรุ้งแพร้ว      ภิกขุแก้วมณีสมัย ฯ (กวีศรีอยุธยา หน้า ๑๒๑ ของ ครูอังคาร กัลยาณพงศ์) กราบ ศรีรัตนสร้อย            โกสินทร์ ปราชญ์ เอกศรีแผ่นดิน       แผ่นกว้าง เสฐียร ธรรมสถิตวิญ-         ญาณยุค โกเศศ โกศลสร้าง             เสกรู้แรงใจ ฯ (ฤดีกาล หน้า ๓๓ ของ ท่านไพวรินทร์ ขาวงาม) ศาสตราจารย์ ทั่วทั้ง          นครา พี่เอย ประ หวั่นจะสรรมา              เทียบแท้ ชุม นุมซึ่งฤทธา                 สมสั่ง นาพี่ สุข ด้วยความเปรมแปล้       แผ่เอื้อปัญญา ฯ (บทกวีนิพนธ์บนเส้นทางชีวิต ของ ศ. ดร. นางประชุมสุข อาชวบำรุง หน้า ๒๓ แต่งโดยคณะศิษย์ฯ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย) รวบรวมจากข้อมูลต่าง ๆ แลไปขลุกที่หอสมุดแห่งชาติมา ก็ได้ประมาณนี้แล แหะ ๆ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 00:43:36 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 12 พ.ย. 45 23:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ว้า...หวานใจไม่สบายเสียแล้วเหรอ  ส่งกำลังใจไปเยี่ยมแล้วน้าาา...ได้รับป่าวเนี่ย ตอบความคิดเห็นที่ ๖๒ - พี่นบผีบีจุดกุด ๏ คน   ค่อนแคะลอบค้อน           เคืองโกรธ มี  ฤ หาเราโหด                          ห่อนแม้น ภา  ษิตเก่าอย่าโทษ                    เมาหนึ่ง  บ้าแล   ระ  ลอกโคลงละเลงแค้น              ทบท้ามาสนอง  ๚ะ๛                   จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 พ.ย. 45 23:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อ้อ หลังจากไปขลุกที่หอสมุดแห่งชาติมา ก็ได้โคลงกระทู้โบราณ ทะ ลุ่ม ปุ่ม ปู ฯลฯ มาฝากเพื่อน ๆ ด้วยครับ กวีนิพนธ์ ของ อังคาร กัลยาณพงศ์ พิมพ์ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๑๓ สำนักพิมพ์ ศึกษิตสยาม ๏กระทู้นเรศวร๏ ๏ทะ แกล้วไทยเร่งล้อม            ตองอู ลุ่ม หล่มไขเหมืองกรู               ลู่ข้าม ปุ่ม ขวากฆ่าริปู                      ปู่ญ่า ปู แผ่ลายไว้คร้าม                   ชั่วฟ้าดินสมัย ๚ ๏ทุ จริตเพรงท่ามฟ้า                เมืองแครง สุ หร่ายรดปัฐพีแพง                 ค่าไว้ มุ ใจซื่อเสียแรง                      เปล่าเปล่า ดุ ดิ่งดาบปราบให้                   *เพื่องฟุ้งชัยเฉลิม ๚ ๏อุ ษาโยคย่ำฆ้อง                   ชัยขาน สา แก่ใจทวยหาญ                   ที่แกล้ว นา สาหร่ายหมู่มาร                  หัวขาด รี รี่ผีร่ำแล้ว                            โทษแล้วหรือไฉน ๚ ๏โก ลาหลแหล่งหล้า               เวียงสยาม วา สัตว์ป่าพยายาม                  บิ่นบ้า ปา ใจชั่วเลวทราม                   ไปทั่ว เปิด ชาติประชดป่าช้า               ชัดแท้ดิรัจฉาน ๚ ๏จก ทรายสั่งชั่วฟ้า                  อวสาน จี้ ที่กระดูกทหาญ                     ที่ม้วย รี้ รี้ร่ำมานาน                           จนเปื่อย ไร จักดับแค้นด้วย                    ปากแก้วกวีสยาม ๚ะ๛ หน้า ๑๑ ข้อสังเกต * อาจพิมพ์พลาด น่าจะเป็น เฟื่องฟุ้ง.. * "-----------------------------"  ทหาร ๏กระทู้พม่า๏ ๏ทะ แกล้วซากเกลื่อนพื้น          อยุธยา ลุ่ม แห่งเลือดน้ำตา                   ท่วมไว้ ปุ่ม อิฐฝุ่นทรายสา-                   มารถกล่าว ปู แผ่สัจจะให้                          ทั่วฟ้าดินฟัง ๚ ๏ทุ รชาติพม่าไซร้                    สาธารณ์ สุ หร่ายรดวิญญาณ                   ที่เปื้อน มุ ล้างซึ่งสันดาน                      สัตว์ป่า ดุ เฆี่ยนสาปสะเทื้อน                 ทั่วเวิ้งจักรวาล ๚ ๏อุ โฆษถึงเทพไท้                    ทรงฤทธิ์ สา รทิศมาสถิต                        แหล่งหล้า นา ฑีนี่ประสิทธิ์                       สาปแช่ง รี ชาติพม่าชั่วช้า                       ตราบฟ้าดินหาย ๚ ๏โก สีย์ทรงเป่าซึ้ง                    สังข์ทิพย์ วา ระนารายณ์หยิบ                   จักร์ร้าย ปา ไปลิ่วลับลิบ                        ทุกแห่ง เปิด แผ่นดินพม่าให้                  ท่วมท้นเวรกรรม ๚ ๏จก ทรายฝังกาพย์แก้ว             อาถรรพณ์ จี้ จิตร์ธรณีพลัน                        *ร่ำไห้ รี้ พลซึ่งอาสัญ                         มากล่าว ไร เจ็บช้ำที่ร้าย                        กว่าไร้มนุษยธรรม ๚ะ๛ หน้า ๑๒ ข้อสังเกต * อาจพิมพ์พลาด น่าจะเป็น ร่ำให้ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 00:48:49 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 13 พ.ย. 45 00:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ๏ ผม เผ้าฟูฝุ่นฟุ้ง                กระเซิง ยัง  อยู่หลงระเริง                 ค่ำนี้ ไม่  ดึกไม่มีเชิง                   คิดอ่าน เรื่องเอย นอน  ร่ายโครงเพื่อนซี้          ก่อนเช้าเอามัน(ส์)๚ โอย! ง่วงละครับ บายก่อนทุกท่านสำหรับคืนนี้ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 00:55:44 จากคุณ : น้องเจ ({``-_-}{-``-}{-_-``}) - [ 13 พ.ย. 45 00:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ฟากคลองนองเอ่อล้น........................ชลธาร หลากลิบพริบตาลาญ........................ร่วมม้วย สรรพสัตว์พลัดพรากพาน.................เพียรตะเกียก...ตะกายเวย อเนจอนาถหวาดหวังด้วย..................ช่วยแก้แปรขม เพ็ญพราววาวเพริศแพร้ว..................ผืนนภา มัวหมอกหลอกลวงตา........................แต่งแต้ม พิษพรมบ่มเบียนทา-.........................รุณร่ำ พูดพร่ำยำเยงแย้ม.............................งัดแง้มสุสาน หวานคำด่ำดื่มล้น..............................เรียมหลง หวานฉ่ำนำยืนยง..............................ยิ่งล้วน หวานลวงบ่วงกำกง...........................เกวียนก่อ หวานล่อรอมุดม้วน...........................หมากข้อฉ้อฉล จวงจันทร์วรรณเจิดจ้า.......................แจ่มแสง เทียนธูปรูปสำแดง.............................หม่นไหม้ กระทงจ่งปล่อยแปลง.........................ปวงโศก อวยโชคโมกข์มอบไซร้.......................อย่าให้ใจหมอง เผลอกายหมายวักน้ำ...........................หยอกนวล เหม็นเน่าเนาอบอวล............................รากแล้ เพียงหยอกศอกกลับสวน.....................นงแม่.....ตูเฮย แผลแตกแยกปริแม้.............................ทิ่มแท้แลโหย ปลาหงายว่ายปริ่มน้ำ..........................สยดสยอง เหงือกกระแหมบแทบลอยคลอง...........คู่เคล้า เปรียบพี่ที่ตรมตรอง...........................เต็มอก ยากยกรกเรื้อเร้า..................................ก่นเศร้าเซาแฝง สองมือถือธูปทั้ง..................................เทียนผจง หมายสว่างทางถ่องตรง.......................ตราบม้วย ลามลวกจวกพองคง.............................พานอัก.....เสบเหย่ วานเถิดเลิศลักษณ์ฉ้วย.........................หยิบแก้แปรไข. ธูปหอมดอมกลิ่นคลุ้ง...........................คละขจาย แนมแนบแอบกลิ่นอาย..........................อับเร้น สางสาบอาบกลิ่นราย...........................โลมขัด อึดอัดปัดกลิ่นเน้น................................มุ่งเว้นหับหาย ลอยเรือเล่าเรื่องล้ำ...............................เริงกวี ยุงว่อนร่อนปฐพี..................................จู่เข้า คันคายหน่ายนำบี-...............................ฑาประทุษ โทรมทรุดฉุดเรือเจ้า...........................คว่ำล้มจมสูญ กระทงหลงลุ่มน้ำ.................................เจ้าพระยา บอกบ่งหลงกานดา...............................เกือบเดี้ยง ไยหลงส่งสายตา..................................ตรมติด.....ตามเหย่ หลงเล่ห์หลงเฉเพี้ยง............................เลี่ยงลี้หลบไฉน.                                                                                                                           แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 07:21:42 จากคุณ : " . " - [ 13 พ.ย. 45 04:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 70 .....ขอขอบคุณเพื่อนพ้อง.........................มิตรสหาย ท่านพี่ครูโคลงหลาย...............................หลากล้น อวยพรบทสาธยาย................................ตอนป่วย แสนชื่นใจมากพ้น..................................กร่นถ้อยพลอยเกษม ฯ .....จักจำความที่ได้...............................ไมตรี ตราบดับลับโลกีย์.................................ชีพสิ้น เขียนโคลงบ่งวลี...................................รจน์ร่าย-  นอบนา ซึมซาบตราบแดดิ้น...............................ดับม้วยมรณา ฯ ** ก๊าก ครึกครื้นดีแท้ อาหมอวฤกและท่านพิราบเงิน รวมทั้งเพื่อนๆอีกตั้งแยะ และยิ่งฮาแสนฮา กับบทโคลงของท่านปู่ที่ได้แก้โคลงของจังงัง .. ๕๕๕ แหม ..ท่านปู่ แค่หยอกหน่อยนึงว่าเคยไปลอยกระทงอ๊ะป่าว เนี่ยน๊า .... เล่นหมัดเด็ดเลยนี่นา ท่านปู่จอมยุทธ วันก่อนโทรมาจากคาเฟ่ .ชะอุ๋ย ไม่เมาไม่ช่ายจอมยุทธตัวจริงอ่ะ ก๊ากๆๆ ตลกจัง นายอกไข่ดาวเนี่ย  น๊า น่าตีจังแฮะ บอกว่าจะมาช่วยดูแล ไหง๋มัวแต่ไปหลีสาวบ้านไหนหนอ หรือว่า ไปลอยกระทงกับกระเทยซะแย้ว .. นายปลาดุกห๊อมหอม ..กะ นายจันทรคราส แวะมาเยี่ยมเยือนเสมอ จากหนาวเลยหายหนาวเลยอ่ะ แล้วต้องกลับมาหนาวใหม่ ตอนที่หวานใจ(ศาลาไทย)แวะมาหาอีกครั้ง..กิ..กิ.. แบบนี้เรียกว่าอ้อนหรือเปล่าหว่า น้องเจคนเท่ห์กะศิษย์น้องไร้นามก็ขยันส่งการบ้านแฮะ  ไหง๋ตอนเรียนหนังสือ ชอบลอกการบ้านอ่ะ ..ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ .. แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 21:29:16 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 13:34:14 จากคุณ : จังงัง พรรคลิงรักลิง (จังงัง) - [ 13 พ.ย. 45 10:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ยามแสดงแสงจรัสหล้า..............เรืองโพยม ดวงเด่นเดียวดุจโคม..................คู่ฟ้า คืนเดือนสิบสองโสม..................เพ็ญผ่อง แถวประทีปแจ่มจ้า.....................ทั่วทั้งชลาลัย ขอขมาสายน้ำแห่ง.....................ชีวี ขอขอบคุณความดี....................แห่งน้ำ กระทงท่องทางนที....................ทั่วทิศ ไทยนา ชลหลากชนรื่นล้ำ......................ค่ำฟ้าสกาวเดือน หนุ่มสาวสองฝั่งคล้อง................เคียงใจ บุญล่องตามน้ำไหล....................ร่วมสร้าง อธิฏฐานรักยาวไกล....................ชลส่ง เสริมรา ดุจคู่กระทงมิคว้าง.....................ประทีปน้องพี่เคียง ลมเย็นเห็นระลอกน้ำ...................พริ้วพราย ตาส่งกระทงสุดปลาย.................พิศคล้อย ตาจึงสบตาสาย.........................ใจสื่อ กันนา บุญแห่งพี่น้องร้อย....................ล่องล้ำกระแสสินธุ์ ดุจแม่รักลูกน้อย........................มิปาน พระแม่วารีสาน...........................ชีพเพี้ยง ถึงคราลูกมากราน.......................กราบแม่ สำนึกบุญคุณเลี้ยง......................ระลึกล้นดวงใจ อิอิ เอามาให้จบเลยละกัน อายจัง ของจังงัง ๑๒ บท ของพี่ "." ๑๐ บท ของผม ๕ ของไฟธาตุ แตกซ่านแล้วอ่ะ ได้ยินว่าไม่สบาย หายยังครับ จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 13 พ.ย. 45 11:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ลงมามั่ว แง้ว แง้ว มีทรัพย์นับหมื่นล้าน............................ก่ายกอง ก็แค่เศษเสี้ยวของ..................................รักแท้ มีรักหนึ่งเดียวครอง...............................คู่มั่น ก็เปี่ยมก็สุขแม้..........................................ชีพนี้สิ้นสลาย แรงรักเราเร่าร้อน....................................เริงลม พรูพร่างพริ้วพรายพรม.........................เพริศแพร้ว กายก่ายกอดเกลียวกลม........................เกยเกศ เคียงคู่คร้านคลาดแคล้ว.......................คาดคว้าครอบครอง จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 13 พ.ย. 45 11:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เสนาะ สนั่น  สุเทพ สมัครนี่พอรู้ แต่ 3 คนข้างบนนี่ตอนนี้มีบทบาทอะไรในบ้างเมืองที่สำคัญอ่ะครับ พอดีไม่ชอบติดตามเรื่องการเมือง ลองยกประเด็นมาทีละคนหน่อยจิครับ เผื่อจะได้ลองแต่งอ่ะครับผม หุหุ จากคุณ : น้องเจ ({``-_-}{-``-}{-_-``}) - [ 13 พ.ย. 45 14:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อ่านโคลงหวานผ่านโคลงนิราศ (๘) ๏ เสนาะสารเสาวนิศน้อง....................รำพรรณ์ แถลงนา ปางนิราแรมขวัญ............................เนตรไว้ อกเรียมตระลึงศัลย์..........................สุดสิ่ง รักแม่ แสนกระซิกโศกไข้.............................ขุ่นไข้ใจเรียม ๚ นี่คือบทโคลงที่เริ่มต้นรำพันถึงนางอันเป็นที่รัก จากโคลงนิราศถลาง ผลงานของพระยาตรัง อีกเรื่องหนึ่ง โดยโคลงนิราศเรื่องนี้แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ ต่างจากผลงานอีกเรื่องของพระยาตรัง คือโคลงนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย ที่แต่งเป็นโคลงสี่ดั้นเกือบทั้งหมด โคลงนิราศพระยาตรัง (บางครั้งเรียกโคลงนิราศถลาง) ตามประวัติบอกว่าแต่งเมื่อคราวไปทัพ สู้ศึกพม่า ที่เมืองถลาง เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕๒ นักวรรณคดีหลายๆท่านกล่าวไว้ว่า ถ้าพูดถึงสำนวนโวหารจากผลงานทั้งหมดของพระยาตรัง ที่ ตกทอดมาถึงปัจจุบัน พบว่าลีลาและสำนวนในการแต่งโคลงดั้น พระยาตรังจะแต่งได้ดีกว่าบทร้อย กรองชนิดอื่น อย่างไรก็ตามสำนวนโคลงทั้งหมด(รวมถึงโคลงสี่สุภาพ)ที่พระยาตรังแต่ง ควรนับว่า แต่งดีจริง ดังนั้นจึงได้นับถือกันมาในหมู่กวีแต่ปางก่อน ดังนั้นจอมยุทธฯ พลาดไม่ได้ที่จะต้องอ่านนิราศพระยาตรัง ที่พระยาตรังแต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ จำนวน ๑๒๖ บท พร้อมร่ายนำอีกหนึ่งบท ว่าเป็นอย่างไร ไปอ่านกันดีกว่าขอรับ พระยาตรังใช้เส้นทางน้ำโดยเรือสำเภาในการเดินทางไปศึกครั้งนี้ กล่าวไว้ในโคลงบทที่ ๑๓ ว่า ๏ เสร็จโลมเสร็จสั่งสิ้น......................สอนสมร พี่นา ลงสู่สำเภาจร....................................จากคุ้ง ร้อยยาก บ เคยรอน..........................รักพราก อกแม่ ใจหนึ่งหนามเหน็บสดุ้ง......................เนื่องร้อยรุมกระสัน สถานที่ทีกล่าวพรรณนาถึงแห่งแรกในนิราศเรื่องนี้ คือวัดสามปลื้ม กวีผู้แต่งพรรณาไว้ว่า ๏ ถึงวัดสามปลื้มยิ่ง..........................อาไลย์ คิดแม่ปลื้มใจใจ.................................จักขว้ำ นับวันจะคอยใคร...............................ครวญปลอบ นางนา โอ้ที่ปลื้มกลับปล้ำ.............................เปลี่ยนร้อนมาเรียม ๚ ใช้เส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนมาออกอ่าวไทยที่ปากน้ำ แล้วเลียบฝั่งอ่าวไทยลงไปทางใต้ ตรงนี้ มีพรรณนาถึงสถานที่บางแห่งที่น่าสนใจ อาทิ ๏ เรียมมามาลุด้าว............................ดาวคนอง แล้วแฮ เชอญเทพย์นำสารสนอง....................ข่าวเจ้า ดาวนามคนองหมอง..........................ดาวฤกษ์ บนนา ดีอยู่ดอกอย่าเศร้า..............................โศกร้อนรุมถวิล ๚ ๏ ถึงแถวแนวบ้านช่อง.......................นนทรี เรียมก็เมิลทฤษฎี...............................หมู่ไม้ พิศพงพุ่มสดศรี.................................เหลืองโสด แม่เอย เรียมก็ไข้ไม้ไข้....................................ช่วยไข้ใจตรอม ๏ มาเห็นโชนเชี่ยวบ้าน......................บางขนง บางไป่เปรียบบางทรง........................แม่ไว้ ขนงโฉมแม่สุดวง...............................หางเนตร นางนา บางใช่เอวบางให้................................จากเจ้ามาบาง ๚ ๏ ถึงสามร้อยยอดโอ้...........................อาวรณ์ สุดสั่งสุดโศกสมร................................สุดเศร้า สุดยอดยิ่งสิงขร...................................สูงสุด นางเอย สุดยอดรักรักเจ้า.................................ยิ่งร้อยพันทวี ๚ สำนวนครวญถึงนางอันเป็นทีรัก เป็นอย่างไรอ่านดูครับ ๏ เจ็บจันทกินเรศครั้น........................ครวญคราง สรสอดเสียบอุรภางค์.........................เมื่อม้วย ตราตรงกระหน่ำปาง..........................ปวดยอก ทรวงแม่ เจ็บไป่ปานเจ็บด้วย.............................ที่ร้อนเรียมเอย ๚ ๏ ยามดึกเงียบสงัดด้าว.......................เดือนฉาย แม่ฮา วับวาบลำพูพราย................................พร่างพร้อย หิ่งห้อยจับพฤกษ์ราย..........................เรียงกิ่ง ไกวนา แสงดั่งพลอยเพชรก้อย.......................กรีดนิ้วนางเฉวียง ๚ ๏ เห็นหงษ์เคียงคู่เคล้า........................สาวหงษ์ ภักตร์สิทธิเกล้าทรง............................เฟื่องฟ้อน ปากรับช่อหัศบง.................................พิโยค หงษ์แม่ คิดคู่รศโอษฐป้อน................................เปลี่ยนชู้ชานสลา ๚ ๏ เออองค์อมเรศท้าว..........................จัตุรพักตร พ่อฮา โฉมแม่ยังเยาว์นัก...............................ใหญ่หน้า เยียวองค์ราชไตรจักร..........................จักเสน่ห์ นางพ่อ ฝากแม่ใส่หีบฟ้า..................................ซ่อนไว้ทวีปพรหม ๚ ๏ นุชเอยแต่พี่ร้อง..............................ครวญคนึง ถึงแม่ แม้นว่าเหวบ่อบึง................................หุบแห้ง รุมรับสุชลพึง.....................................เพ็ญเพียบ แล้วแฮ สายพิรุณโลกย์แล้ง............................ไป่แล้งเทวศเรียม ๚ ๏ ร่ำพรรณ์ร่ำอาจอ้าง.........................ออกองค์ อรเอย เข้าระคนทรวงลง................................ร่ำไว้ สารสมุดสมรคง...................................คำพี่ แทนแม่ ยามเมื่อนอนจักได้...............................กล่อมช้าแทนนาง ๚ โคลงสมัยอยุธยา คงมีอิทธิพลต่อแนวโคลงของพระยาตรังหลายบท มีโคลงบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า ๏ ศรีปราชญ์นิราศท้าว.......................จุฬาลักษณ์ ร่ำเรื่องร่ำรักทุก..................................น่านกว้าง ทวาทศมาสศักดิ์.................................สามปราชญ์ รังแฮ ยังไป่ปานเรียมร้าง.............................ร่ำให้หาสมร ๚ ทัพไปศึกถลางครั้งนี้ ไปขึ้นฝั่งที่ไหนไม่ปรากฎในโคลง สถานที่สุดท้ายที่กล่าวพรรณนาถึงคือ แหลมไทร แต่กวีผู้แต่งกล่าวไว้ในบทสุดท้าย (๑๒๖) ว่าไปศึกเมืองถลาง ความว่า ๏ ร้อยยี่สิบหกสิ้น...............................แบบฉบับ โคลงแฮ นิราศตรังไปลับ..................................เศิกสู้ ฉลางบอกแห่งเหตุทัพ........................พุกามติด ฉลางนา ควรแก่สำปราชญ์ผู้.............................อ่านอ้างอวยผล ๚ คงขออ่านโคลงนิราศของพระยาตรังไว้แค่นี้ ตอนหน้าจะไปอ่านนิราศนรินทร์ ต่อครับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 13 พ.ย. 45 14:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 75 .....สัตย์...จริงสิงซ่อนเล้น.........................ในใจ  พี่เอย ดำ...หม่นดุจนิลใส...................................ค่าล้น หูด...ไฝใช่ภายใน...................................ขาวจิต-  สะอาดนา เซ็น...บอกคนงามพ้น................................ใช่อ้างกายงาม ฯ .....จอด...รถรีบไขว่คว้า.............................กุญแจ ดับ...เครื่องชำเลืองแล...............................เร่งเร้า บิว...ตี้พร่างดังแพร....................................รออยู่  จริงฤา บุษ-...บกอาจเทียบเจ้า..............................เพริศแท้แม่งาม ฯ นายปลาดุก .. ขอบคุณนะทีเป็นห่วง เค๊าไม่อยากเป็นวิญญาณเร่ร่อนอ่ะ ยังอยากเป็นลิงเร่ร่อนอยู่นา ... ปู๋ปู่เมรัย ..หวานนนนนนนนนน เชียววว ..เอ๋ มาแต่วัน คืนนี้ไปต่อไหนป่าวเนี่ย ก๊ากๆๆ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 45 10:12:11 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 21:25:58 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 45 16:01:23 จากคุณ : จังงัง - [ 13 พ.ย. 45 15:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 76               ๐๐๐กำศรวลเกษียณสมัย๐๐๐ ๏ราตรีมีเรื่องเร้า                    เริงใจ เสือหนุ่มนึกสานใย              ยั่วเย้า ระริกร่านด่านอันใด             ใครดับ ระริกแม่ อาจแค่คลึงคู่เคล้า                 คู่เคล้นระริกหาย ๏สีแสงแรงรุ่มร้อน                 ลามเธอ รูปรัดมัดใจละเมอ                ระรื่นแล้ว แนบเบียดเสียดสีเสมอ       สมันนุ่ม เนื้อนา เล็งเหยื่อเสือฤๅแคล้ว        คลาดแคล้วสมันหมาย ๏โนมพรรณดันหนั่นเนื้อ    อวดนวล นางโอ่เอาเย้ายวน             ยั่วให้ ระส่ำคร่ำเสียงครวญ         คนสยบ คนเอย ประหนึ่งมายาใช้              ชุบชู้ฤดูกาล ๏เหยื่อกลายกลืนผู้ล่า       สลับกัน สมัยเปลี่ยนมายาฝัน        ขวากสิ้น ใครรู้เท่ารู้ทัน                     รู้โทษ  รู้ฤๅ คำตอบเพียงกระผีกริ้น     พลิกลิ้นรู้สมัย ๚ะ๛                                            กึ่งราตรี ณ "ยกจอกเย้ยจันทร์"                                            ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ //....................................................๛ สวัสดีขอรับ สหายชาวอาศรม เมื่อคืนนี้ เเพลาดี กึ่งกลางราตรี ข้าพเจ้าร่ำสุราโดยลำพัง ณ “ยกจอกเย้ยจันทร์” เสพบรรยากาศเหว่ว้า และภาพมายา อันปรากฏท่ามสายตาขุ่นมัว เห็นดั่งที่เห็น จึงร้อยเรียงคำ เป็น “กำศรวลเกษียณสมัย” ฉะนี้แล แหะ แหะ ขอรับ นำมาฝากสหายชาวอาศรม ขอรับ เชิญทัศนา แนะนำติติง ขอรับ ประมาณว่า [i]หนูจังงัง[/b] ปรารภให้เขียนเป็นชุด ก็เลยเป็นฉะนี้แล แหะ แหะ ปล.๑ สหายชาวอาศรมทั่นใด จะช่วยชำแหละ “กำศรวลเกษียณสมัย” ให้ข้าพเจ้าบ้างขอรับ แหะ แหะ ทั่น นิ-รา-นาม พอจะมีเวลาบ่ขอรับ ปล. ๒ ขอบคุณเปล-เปล้อ ที่บรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ หลายทั่น ช่วยสืบค้นให้สหายชาวอาศรม ได้ศึกษา ขอรับ ปล.๓ บ่มีตีหัวกัน ของเล่นใหม่ ที่หนู ศ. โซดาซ่า ชอบเอามาเล่นเลย ขอรับ แหะ แหะ สวัสดีขอรับ ทุกทั่น จากคุณ : นายทิวา - [ 13 พ.ย. 45 18:20:47 ]

ความคิดเห็นที่ 77 น้องเจ ..ความคิดเห็นที่ ๗๓ ..แหะ แหะ แบบว่าเปลี่ยนแปลงกระทันหัน ไม่ว่ากันเด้อ .. กลัวติดคุกอ่ะ .. นายจันทรคราส .. มั่วอารายมาเหรอ มั่วเจงเจงเยย .. เราร่วมด้วยช่วยกันมั่วด้วยดิ... .....นิ...ราศพลัดจากบ้าน..........................ไกลเมือง โค...ราชอาจชำเลือง................................ทุ่งเวิ้ง คิด...ไปหวั่นใจเคือง................................ขอดค่อน  ตนเฮย แมน...อย่างเราอยากเซิ้ง...........................ซิ่งฟ้อนลืมแสลง  ฯ .....แสน...โศกอกหวั่นแท้...........................คราวคนึง  ถึงแม่ ดา...รกาพร่างพราวตรึง-..........................จิตอ้าง บุญ...กรรมย่ำใจจึง..................................เจียมอยู่ หลอก...ล่อพอแนบข้าง.............................จากนั้นจึงจร ฯ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 45 10:13:09 จากคุณ : จังงัง - [ 13 พ.ย. 45 21:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แห้ นิรนามนอนอู้มาหลายเพลาแล้ว ตอนนี้ขอเอา ทฤษฎี มาโม้ต่อ นิรนามเคยพูดถึงเรื่อง อุปมา อยู่นิดหน่อย เพราะรู้นิดหน่อยอยู่แค่นั้น คราวนี้ลองมาอ่านเรื่อง อุปมาอุปไมย ของ ล้อม เพ็งแก้ว กันดู (จากหนังสือเล่มเดิม . . . ว่ายเวิ้งวรรณศิลป์, สนพ.ต้นอ้อฯ) "โวหารอุปมา อุปมา แปลว่า การเปรียบ หรือสิ่งที่ยกขึ้นเปรียบ โวหารอุปมาจึงเป็นถ้อยคำแหลมคมที่เกี่ยวกับการเปรียบเทียบ หรือถ้อยคำที่ใช้การเปรียบเทียบเป็นสิ่งโน้มน้าวให้เกิดความจับใจ เพราะโดยปกติข้อความที่ยกขึ้นกล่าวนั้นอาจเป็นเรื่องไกลตัว เป็นความรู้สึก เป็นสิ่งสงสัย เป็นสิ่งประทับใจ ฯลฯ จึงยากที่จะให้ผู้ฟังเข้าใจตรงกันกับผู้กล่าว กวีจึงจำเป็นต้องยกสิ่งที่พบเห็นบ่อยๆ หรือสิ่งที่เห็นกันอยู่แล้ว ยุติแล้ว มาเปรียบ เพื่อผู้ฟังจะได้เข้าใจอย่างซึมซาบ สิ่งที่นำมาเปรียบเรียกว่า อุปมา ส่วนสิ่งที่รับเปรียบเรียกว่า อุปไมย เช่นว่า "เธอนั้นมีหน้าเปล่งปลั่งดังเดือนแจ่ม" "เดือน" เป็น อุปมา "หน้า" เป็น อุปไมย จึงกล่าวกันติดปากอยู่ว่า อุปมาฉันใดอุปไมยฉันนั้น โวหารอุปมาที่กวีไทยนิยมใช้สังเกตได้ชัดอยู่สองวิธี คือ อุปมาที่ใช้คำระบุ กับ อุปมาที่ไม่ใช้คำระบุ ตำราฝรั่งเรียกว่า Simile กับ Metaphor อุปมาที่ใช้คำระบุ หมายถึง ใช้คำระบุอุปมา เช่น ราว ดัง ดั่ง ประหนึ่ง แม้น เทียบ เทียม ปาน คือ เสมอ เหมือน เสมือน คล้าย กล เงื่อน ต่าง เฉก เช่น ฯลฯ ตัวอย่าง : อารมณ์น้องเหมือนหนึ่งท้องทะเลลึก ..... ตามแต่นึกปรารถนาจะอาศัย (สุนทรภู่) ตัวนางเป็นไทสิใจทาส ....................... ไม่รักชาติรสหวานไปพาลขม ดังสุกรฟอนฝ่าแต่อาจม ...................... ห่อนนิยมรักรสสุคนธ์ธาร น้ำใจนางเปรียบอย่างชลาลัย ............... ไม่เลือกไหลห้วยหนองคลองละหาน เสียดายทรงแสนวิไลแต่ใจพาล ............. ประมาณเหมือนหนึ่งผลอุทุมพร สุกดังแสงแดงปัทมราช ....................... ข้างในล้วนกิมิชาติเบียนบ่อน เรารู้ใจมิให้อนาทร ............................. จะพาคืนสู่นครในราตรี (เจ้าพระยาพระคลัง (หน)) บทเปรียบนี้แสดงความแค้นเคืองเหมือนกัน อุปไมยเดียวกันคือ "ใจนาง" สุนทรภู่ท่านใช้อุปมาเดียวคือ ท้องทะเล ส่วนเจ้าพระยาพระคลังท่านใช้ ๓ คือ สุกร ชลาลัย ผลมะเดื่อ จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 14 พ.ย. 45 11:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 79 อุปมาที่ไม่ใช้คำระบุ คือ โวหารที่ไม่ปรากฏคำดังกล่าว แต่เมื่ออ่านแล้ว ก็เห็นว่าเป็นการอุปมา บัวทองเด็ดแต่น้ำ ....... เอามา แลฤๅ แลว่าดวงดารา .......... หยาดฟ้า ฤๅจันทร์จากเวหา ....... หาพี่ พระเอย เรียมเร่งคิดหน้าหน้า .... หนุ่มหน้าติดใจ (ลิลิตพระลอ) ตัวอย่างนี้มีอุปมา ๓ อย่าง (บัวทอง ดวงดารา จันทร์) แต่มีอุปไมยเดียว (คือความงามของพระเพื่อนพระแพง) บัวนมบัวเนตรหน้า ....... บัวบาน (ลิลิตพระลอ) ตัวอย่างนี้มี อุปมาเดียว (บัว) แต่อุปไมย ๓ (คือ นม เนตร หน้า เปรียบดั่ง บัว) การใช้อุปมาอาจพลิกแพลงได้ เช่น .......... .......... ขอเป็นธวัชไป .......... ปักทัพ เฉลิมนา ขอพระเป็นฉัตรกั้ง ..... เกลื่อนร้อนผ่อนเกษม ฯ (ตะเลงพ่าย) เต่าเตี้ยดอกอย่าต่อให้ตีนสูง มิใช่ยูงอย่ามาย้อมให้เห็นขัน หิ่งห้อยฤๅจะแข่งแสงพระจันทร์ อย่าปั้นน้ำให้หลงตะลึงเงา (ขุนช้าง ขุนแผน) อย่าว่าแต่อาหารแม่จะหวง เลือดในทรวงแม่ยังยอมให้ดื่มได้ (ครูเทพ) โวหารอุปมานั้นแม้จะแบ่งกว้างๆเป็น ๒ อย่าง คือ ใช้คำระบุ กับไม่ใช้คำระบุ ก็จริง แต่แต่ละอย่างก็มีกลวิธีที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ทำนองหรือฝีปากของกวี บางทีการใช้อุปมาที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หากใช้ตามๆกัน ก็จะเกิดความชินชา เพราะได้พบได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ นักเขียนที่มีฝีมือจึงยักเยื้องทำนองกล่าวเสียใหม่ กลายเป็นอุปมาที่จับใจกว่าเดิม ..... " จบจ้าน . . . . . จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 14 พ.ย. 45 11:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 80 . -๑- ๏ แลไศลวางสลับเยื้อง............................ยักกัน เพียงภาพฉากสวรรค์..............................วาดไว้ คะนึงถึงจึ่งรำพัน....................................ภาพบอก พี่พิศด้วยน้องไซร้...................................สุขแม้นชมสรวง ๚ -๒- ๏ กลลวงวงกตแกล้ง...............................กันทาง เป็นด่านเป็นปลักขวาง............................คดเคี้ยว ไฉนนะจะถากถาง..................................เถิงที่..........น้องเอย แม้ฝ่ามาจะเกี้ยว....................................กอดน้องถนอมขวัญ ๚ -๓- ๏ สุริยันยามรุ่งแจ้ง.................................ประเจิดฉาย ผกาแผ่กลีบขยาย....................................ขยับแย้ม ยวนกระสันภู่เกลือกกาย...........................เกษมกลิ่น หมายประทิ่นบินแฉลบแฉล้ม - ................แช่มช้อยเชยผกา ๚ -๔- ๏ เบื้องนภาเมฆหม่นครึ้ม........................คลั่งคะนอง ฝนตกตาบละออง.....................................ระอุร้อน เรียมถนอมแนบประคอง..........................ประคิ่นกอด กรสอดกายเกยซ้อน.................................สู่น้องภิรมย์สม ๚ ๛ ========================================== วฤก ..เป็นคนเขียนกลอนช้า ... โคลงชุดนี้เริ่มร่างมาตั้งแต่กระทู้บทอัศจรรย์ เพิ่งเขียนเสร็จ ..ตะกี้นี้เองครับ เลยเอามาฝากไว้ให้อ่านกัน เล่น ๆ .... ย้อนอดีตครับพ้ม จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 14 พ.ย. 45 11:58:20 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อ่านโคลงหวานผ่านโคลงนิราศ (๙) ๏ ตราบขุนคิริข้น......................ขาดสลาย แลแม่ รักบ่หายตราบหาย....................หกฟ้า สุริยจันทรขจาย.......................จากโลก ไปฤๅ ไฟแล่นล้างสี่หล้า......................ห่อนล้างอาลัย ๚ โคลงบทที่ยกมาเป็นโคลงบทหนึ่งจาก นิราศนรินทร์ ซึ่งถือว่ารู้จักกันอย่างแพร่หลาย และนิราศ นรินทร์นี้ ถูกยกย่องว่าเป็นยอดแห่งโคลงนิราศ ความจริงจอมยุทธฯ ไม่อยากจะโม้เรื่องนิราศนรินทร์มากนัก กลัวจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน เพราะเพื่อนๆคงจะอ่านและรู้จักโคลงนิราศเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่เพื่อไม่ให้ขาดตอนในการอ่าน โคลงนิราศยุครัตนโกสินทร์ จอมยุทธฯก็จำต้องหาข้อมูลมาโม้ แต่จะพยายามให้กระชับที่สุด เพื่อนๆท่านใดที่ไม่มีหนังสือโคลงนิราศนรินทร์ สามารถอ่านได้ที่เวปหมอโมโน คือ http://www.geocities.com/thailiterature/nn.htm หรืออ่านได้ที่อีกเวปหนึ่ง เวปนี้ถึงแม้จะตัดโคลงบทคร่ำครวญจากนิราศบางบทออกไป แต่ก็น่า สนใจที่มีภาพสถานที่และภาพธรรมชาติบางแห่งประกอบ คือ http://203.154.104.10/service/mod/heritage/nation/nirad/narin/narin.htm ไม่ต้องเสียเวลาเรียบเรียงมาก ขอคัดข้อความหน้าแรกของโคลงนิราศนรินทร์ จากเวปหมอโมโน มาให้อ่านโดยสังเขป =================================================================== .......นิราศนรินทร์เป็นบทประพันธ์ประเภทนิราศคำโคลงที่โด่งดังที่สุดในยุครัตนโกสินทร์ ทัดเทียมได้กับ " กำสรวลศรีปราชญ์ "และ" ทวาทศมาส " ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้แต่งคือ นายนรินทร์ธิเบศร์(อิน) แต่งขึ้นเมื่อคราวตามเสด็จ  กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ไปทัพพม่า  ในสมัยรัชกาลที่สอง ไม่มีบันทึกถึงประวัติของผู้แต่งไว้ ทราบแต่ว่าเป็นข้าราชการ  ตำแหน่ง  มหาดเล็กหุ้มแพร ในกรม พระราชวังบวรฯ  และมีผลงานที่ปรากฏนอกจากนิราศเรื่องนี้ เป็นเพลงยาวอีกบทหนึ่งเท่านั้น แต่แม้จะมีผลงานเพียงน้อยนิด แต่ผลงานของกวีท่านนี้จัดว่าอยู่ในขั้น วรรณคดี และเป็นที่นิยม อ่านกันอย่างแพร่หลาย เนื้อหาของนิราศนรินทร์ก็ดำเนินตามแบบฉบับนิราศทั่วไป คือ มีการเดินทางและคร่ำครวญถึงการ พลัดพรากจากนางอันเป็นที่รัก โดยได้รับอิทธิพลอย่างสูงจาก กำสรวลศรีปราชญ์ (ซึ่งในสมัยนั้นถือ ว่าการเอาอย่างโบราณเป็นเรื่องดี) แต่นิราศนรินทร์มีจุดเด่นที่การใช้คำที่ไพเราะ รื่นหู ข้อความกระชับ ลึกซึ้งและกินใจ จะถือว่าเป็นนิราศคำโคลงที่ไพเราะที่สุดก็ย่อมได้..... =================================================================== แล้วจอมยุทธฯ ก้อโม้ต่อ ว่ากันว่าโคลงนิราศนรินทร์แต่งขึ้นประมาณปี พ.ศ.๒๓๕๒ คราวกวีผู้แต่งตามเสด็จไปทำศึกพม่าที่แอบ มาตีเมืองถลางและชุมพร ซึ่งเส้นทางเดินทัพเป็นทางเดียวกับที่นายนรินทร์อิน อธิบายไว้ในนิราศของ ตน คือออกจากกรุงเทพฯทางเรือ และไปขึ้นบกที่เพชรบุรี เพื่อเดินเท้าต่อไป แต่มีข้อน่าสังเกตอยู่ว่า ตามประวัติศาสตร์นั้น กรมพระราชวังบวรยกทัพเดินเท้าจากเมืองเพชรบุรีตรงไปยังเมืองชุมพรทีเดียว แต่นายนรินทร์อินนั้น เมื่อออกจากเพชรบุรีแล้วตรงไปเมืองกำเนิดนพคุณ และวกกลับไปเมืองตะนาวศรี อันเป็นเมืองด่าน ทำให้สันนิษฐานต่อไปว่า กวีผู้แต่งไม่ได้ไปพร้อมทัพหลวง อาจจะไปกับทัพหน้าซึ่ง ส่งไปดูลาดเลาพม่าก่อน จึงไปยังเมืองตะนาวศรีใกล้ด่านสิงขร ทั้งประวัติศาสตร์ก็มีระบุไว้ว่า กรมพระ ราชวังบวรได้ส่งทัพหน้าล่วงไปก่อน โม้มาเสียเยอะยังไม่ได้อ่านโคลงเลย แหะ แหะ เริ่มกันดีกว่า ๏ โฉมควรจักฝากฟ้า......................ฤๅดิน ดีฤๅ เกรงเทพไท้ธรณินทร์.....................ลอบกล้ำ ฝากลมเลื่อนโฉมบิน.......................บนเล่า ณ แม่ ลมจะชายชักช้ำ..............................ชอกเนื้อเรียมสงวน ๚ ๏ ฝากอุมาสมรแม่แล้......................ลักษมี เล่านา ทราบสวยมภูวจักรี..........................เกลือกใกล้ เรียมคิดจบจนตรี...........................โลกล่วง แล้วแม่ โฉมฝากใจแม่ได้............................ยิ่งด้วยใครครอง ๚ โคลงสองบทนี้นายนรินทร์อิน เลียนแบบมาจากโคลงกำสรวลศรีปราชญ์ (ยกตัวอย่างไว้แล้วใน อ่านโคลงฯ ตอน ๓) แต่เป็นการเลียนแบบแนวคิดทำให้ทำนองอันมีอารมณ์กร้าวของโคลงกำสรวลฯ กลับอ่อนโยน ละมุนละไมหวานชื่น โดยเติมความขึ้นอีกนิด เปลี่ยนทำนองเสียง หาคำอ่อนๆที่เหมาะกับทางของโคลงสี่สุภาพ เป็นโคลงสองบทเท่ากับกำสรวล บรรจุความพอดิบพอดีเรียกว่าได้สัดส่วนพอเหมาะจริงๆ จอมยุทธฯ คงจะไม่ยกตัวอย่างโคลงจากนิราศนรินทร์มากนักเพราะเพื่อนๆสามารถอ่านได้จากเวปที่บอกไว้ ข้างต้น แต่จะขอคัดตัวอย่างโคลงนิราศนรินทร์พร้อมข้อวิจารณ์ จากหนังสือที่จอมยุทธฯมีอยู่มาให้อ่านกันดีกว่า โคลงและข้อวิจารณ์ต่อไปนี้คัดมาจากหนังสือ แต่งโคลงตำรับประมวญมารค โดย พ.ณ.ประมวญมารค พร้อม โคลงลมหนาว ของ พ.ณ.ประมวญมารค อีกหนึ่งบท ======================================================================= ....ลองอีกบทหนึ่งที่พิสดารยิ่งอีก มีสลับความแลสลับเสียง ๏ ลมหนาวหนาวห่มผ้า....................ฤๅหาย พระท่านทายว่าตาย.........................แน่แล้ว สายยาแม่ยาสาย............................เซ้าสวาท พี่รา ผี้ว่าพี่กอดแก้ว.............................กลับเช้าชุ่มกชวย ๚ ในบาท ๓ สายยาแปลว่าหญิง ว่าประเภทยาว่าน้ำกระสาย สลับความกันได้ ในบาท ๔ ผี้แลพี่สลับเสียงกันได้ คือผี้ว่าพี่ (ถ้าว่าพี่กอดแก้ว) หรือ พี่ว่าผี้ (พี่ว่าถ้ากอดแก้ว) pun อย่างนี้เล่นนอกตำราฝรั่งไปหน่อย โคลงบทนี้ข้าพเจ้าชอบ เพราะง่ายดายดี ก็เลยจะขอวิจารณ์สักหน่อย วิจารณ์โคลงที่เราแต่งเองอย่างนี้ดี ไม่มี ใครติได้ ไม่เหมือนวิจารณ์โคลงของคนอื่น บาท ๑ : ใช้เสียงเปิดตลอด คือไม่มีคำตาย ลมหนาวหนนาาาวห่มผ้า...........ฤๅหาหาาาย บาท ๒ : " พระ " หนักปักไว้ข้างหน้าตามด้วยเสียงเปิด (เซรัวร่าลงที่คำแรกเลย) ถ้าเปลี่ยนคำนี้เป็น " โหร " หรือ " หมอ " ก็จะอ่อนลงทันที สัมผัส หาย-ทาย-ตาย จะไม่กลืนกัน บาท ๓ : " สวาท " คำตาย จำเป็น มิฉะนั้นบาท ๔ จะแข็งไป " พี่รา " สร้อยจำเป็น  เพราะความผี้ว่าพี่รับสร้อย ในบาทนี้ตัดเสียงแข็งทิ้งไปสองแห่ง คือ กะสาย-กะเซ้า (หรือกระสาย-กระเซ้า) ขืนเอาไว้โคลงบทนี้จะไม่เล่น ความสลับ และสร้อยก็จะเอาไว้ไม่ได้ด้วย บาท ๔ : ส่งเสียงต่ำ (ซึ่งไม่นิยมกัน) ในบาทนี้ตัดเสียงแข็งออกไปเสียเสียงหนึ่ง (กะชุ่ม-กะชวย)  ถ้าส่ง กลับเช้ากะชุ่มกะชวย หรือ กลับเช้าชุ่มชวย ก็จะเยิ่นหรือแบน แต่ที่เก็บเสียงแข็งไว้อันหนึ่งอย่างนี้ เท่ากับเคาะ กลองเบาๆ ก่อนจบเพลง - กลับเช้าชุ่มกชวย - หรือจะว่าแขวนโคลงไว้กับดาวหางที่ระเหยไปในอากาศเฉยๆ ก็คงได้กระมัง           .......ลองเทียบกับนรินทร์อินสักบท ๏ ถึงชรอ่ำชรอุ่มห้อง.....................เวหา หนเอย คิดอรแมกเมฆมา...........................กลัดไว้ ฤๅเขาชรอ่ำอา...............................ดูรเทวษ เป็นชรอุ่มฟ้าไข้.............................ข่าวน้องนางตรอม ๚ บทนี้ของนรินทร์อินเล่นความสลับ ชรอ่ำและชรอุ่มแปลว่ามืดมัว มืดคลุ้ม แต่ชรอ่ำเป็นชื่อตำบลชายทะเลด้วย (บ้านชอำ) อยู่ก่อนถึงหัวหิน ฉะนั้นโคลงบทนี้เล่นความสลับ คำว่า " ชรอ่ำ - บ้านชอำ " แต่ไม่ชัดนัก เพราะ นรินทร์อินมัวแต่พะวงคำว่าชรอุ่มด้วย ถ้าบาท ๔ ว่า เป็นชรอ่ำฟ้าไข้ จึงจะชัด ส่วนวลี " ฟ้าไข้ " แปลว่าอะไร ไม่ทราบ จะทราบก็ต้องเดา วลีนี้นรินทร์อินได้มาจากกำศรวญเล่นความสลับว่า เยียมาเยียแลเหลียว.....................ชรอ่ำ ชรอ่ำอกฟ้าไข้.............................ข่าวตอม ๚ ส่วนในด้านสำเนียง โคลงของนรินทร์เป็นเพลงทำนอง มีจังหวะ (คำตายในบาท ๒) แต่บาท ๑ บาท ๓ และ บาท ๔ ใช้คำเปิด ไม่ค่อยผิดกับบทลมหนาวของข้าพเจ้านัก เว้นแต่คำตายวางไว้ต่างบาทกันนอกจากนั้นลีลา จังหวะของนรินทร์อินเกิดจากการใช้ลหุทุกบาท ของข้าพเจ้าเสียงเบาเกิดจากสัมผัสใน..... ======================================================================= จอมยุทธฯ ไม่แน่ใจว่าจะออกนอกเรื่องมามากหรือเปล่าเพราะไม่รู้จะยกตัวอย่างหรือโม้เรื่องอะไร แต่คงต้อง จบอ่านโคลงนิราศนรินทร์ ไว้ด้วยโคลงถ่อมตัวของนรินทร์อินบทนี้ ๏ โคลงเรื่องนิราศนี้......................นรินทร์อิน รองบาทบวรวังถวิล.....................ว่าไว้ บทใดปราชญ์ปวงฉิน....................เชิญเปลี่ยน แปลงพ่อ ปรุงเปรียบเสาวคนธ์ไล้..................เลือกลิ้มดมดู ๚ ตอนต่อไปมาอ่าน โคลงนิราศพระประธม ซึ่งน่าจะหาอ่านได้ยากอีกเรื่องหนึ่งกันต่อนะขอรับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 14 พ.ย. 45 20:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 82 แหะ แหะ ขอรับ กลับมาดูอีกที เอ ไหงวันนี้เงียบเงียบ บ่ครึกครื้น ดีใจได้เจอ ทั่น นิ-รา-นาม ที่ยังมีเปล-เปล้อ มาฝากซา-เหมอ และดีใจ ได้เจอ ทั่น วฤก ที่มีร้องกรองไพเราะมาฝาก ซา-เหมอ ขอรับ แหะ แหะ สวัสดีสหายชาวอาศรมทุกทั่น ขอรับ แหะ แหะ ปล.๑ เพิ่งเห็นข้อผิด ที่บ่ควรให้อภัยของข้าพเจ้า แหะ แหะ แต่บ่มีไผทักท้วงให้ข้าพเจ้าแก้ไขเลย แหะ แหะ กำสรวล บ่ใช่ กำศรวล คำหลังบ่มีความหมาย แหะ แหะ ข้าพเจ้าคัดพจนานุกรม มาขออภัย ขอรับ ค้น : กำสรวล คำ : กำสรวล เสียง : กำ-สวน คำตั้ง : กำสรวล ชนิด : ก. ที่ใช้ : แบบ ที่มา : นิยาม : โศกเศร้า, คร่ำครวญ, ร้องไห้. (โบ กำสรวญ). ภาพ : อ้างอิง : ปรับปรุง : 98/4/2 ปล.๒ ถึง ทั่น นิ-รานาม แหะ แหะ พอจะมีเวลา ไปนั่งถกโคลง(เคลง) บรรเลงกล่อมด้วยเสียงดนตรี สุรา แลลมหนาว (ฤๅลมฝน) แถวแถวชายทะเลฝั่งตะวันออก บ่ ขอรับ แหะ แหะ จากคุณ : นายทิวา - [ 14 พ.ย. 45 20:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 83 แหะ แหะ และแล้วสี่อัศวินผู้พิทักษ์ลิงก็มา ขอบคุณอาทิวาและอานิรนามและอาหมอวฤก ..(อย่าน๊า อย่าถือเข็มมาน๊า..) อั่นแน่ มีสาระแย้ว เย้ ..ท้ายสุดคือคนที่แก่ที่สุด ปู่จอมยุทธเมรัย นี่เอง ..คิก คิก ...หลังจากที่ดำผุดดำว่ายมา เกือบบุ๋มๆๆ ตั้งหลายรอบ แถมวันนี้ ..ใครหนอ เอากอเอี๊ยะ(ยันต์) มาแปะที่อาศรม เข้าตั้งแต่เที่ยง ยังไม่ได้ซักที เกือบจะประกาศแจ้งความซะแล้ว ว่าโดนยึดบ้านไป ..กระซิก กระซิก กระซิก ...(ลิงทำหน้าเศร้า ..คิดให้ได้อย่างนี้อ่ะนะ) ..ยิ่งปู่เมรัย เห็นบ่นงุ่นง่านเชียวหนอ คิก คิก ..แอบเห็น แอบเห็น อ่ะ .. .....หลุย.....หลุดสุดไขว่คว้า....................เดือนดาว อำ.....จิตคิดเหน็บหนาว.........................ด่าวดิ้น สะ.....เทือนทั่วคราวสาว.........................ผละอก ตรอง.....ไตร่หมายหมดสิ้น.....................หยัดเยื้อเยื่อหาย ฯ .....ชา.....ชินกินดื่มน้ำ...........................จากศอก  เขานอ ลี.....ลาศบาดดังหอก.............................ทิ่มท้อง แฉบ.....ฉับกลับช้ำชอก..........................ช่างหม่น  จริงหนอ ปลิ้น...ปลอกมาหยอกพ้อง.....................จิตใกล้ไฉนหนา ฯ .....เท...ใจหมายให้นิ่ม-..........................นวลงาม ย่า...บอกเผื่อใจยาม..............................พร่ำเพ้อ โหล...ขวดใว้ดองความ..........................รักมั่น  นาหลาน เจอ...แม่ควงใครเก้อ.............................จักเศร้ากุมเศียร ฯ .....มา...รอพอเจอะหน้า.........................ยาหยี ราย...รอบหนุ่มมากมี.............................หล่อด้วย แค่...เห็นเรากลับหนี..............................หลบหลีก  ไฉนหนอ ลี่...เร่งครวญเพลงกล้วย-......................ถูกค้างคาวเขมือบ ฯ .....ไม...โครโฟนเดี่ยวด้น........................ฮำเพลง เขิล...ข่มกลัวกางเกง.............................หลุดก้น โอ...หนอฝ่อบรรเลง..............................เกรงท่าน  อ๊วกนา เวร...แน่คนเหลือล้น...............................มากแท้เวรกรรม ฯ .....คิด...ไปไหงโห่ฮิ้ว............................กันหนอ โต...เล็กเด็กแววอ.................................ใฝ่ขว้าง เฟอ...นิเจ่อมีพอ...................................หลบหลีก  แลฤา รีบ...เร่งเพลงของป้าง.........................จบแล้วขอลา ฯ ** เอาน่ะ เด๋วจะหาว่าอู้ เข้าอาศรมไม่ได้แล้วไม่ทำการบ้าน เสียชื่อสถาบันลิงหมด ..อะ..ก๊าก ... ไม่ป่วนกระทู้ตัวเอง มันจะยังงัย ยังงัย..อยู่นา คันยิกยิก .. เอาจั๊กโหน่ย พอเป็นกระสาย เรียกเสียงฮาบ้างเล็กน้อย ดีกว่าอยู่เปล่าๆ น๊า .. ปล .ข้อความนี้ (๘๓) ผู้ปกครองควรพิจารณา เพราะไม่มีสาระ มีแต่เฮฮา แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 45 20:37:55 จากคุณ : จังงัง - [ 14 พ.ย. 45 20:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 84 .....ถึงบางไทรซุ้มร่ม...........................โศกสยาย ลมพัดใบกวัดกลาย..............................ยอกย้อน เปรียบจิตคิดครวญหมาย.......................ครองคู่ หทัยเฮย ไทรโยกปานอกซ้อน............................เสียดซ้ำยามถวิล ฯ .....หัวรอ...ขอย่ำเท้า............................งอแง ชมตลาดอาจจอแจ.............................อยู่บ้าง คนมากหากวอแว.................................ฉุกละหุก...? พันหมื่นเปรียบย่านร้าง..........................หากสิ้นเรียมเคียง ฯ .....ขาดความยามเอ่ยเอื้อน...................โอษฐ์วจี สุดคร่ำยามจรลี.................................จากร้าง จักมั่นดั่งพจนีย์..................................ตราบดับ-  ขันธ์นา ขาดแม่ดุจดังคว้าง..............................คร่ำฟ้าครวญดิน ฯ .....กำสรวลสลดแท้............................นุชนาฏ  แม่เอย พรอดพร่ำลำนำอาจ.............................ร่ำไห้ เดือนดับลับโลกธาตุ............................คราวรุ่ง  สมัยแฮ ไป่เทียบเปรียบอกไข้..........................จากน้องอนงค์นวล ฯ จ๊ะเอ๋ แบบนี้เรียกว่า นิราศได้ป่าวอ่ะ ปู่ ชำแหละหน่อย นะ ... เอามีดหมอหรือปังตอก็ได้จ้า .. แบบว่า ขอสารภาพอ่ะ นิราศนรินทร์ยังไม่ได้อ่านเลย อ่านนิราศสองภพจบแย้วอ่ะ แบบว่าเพื่อนๆคุยกัน กลัวตามเขาไม่ทันอ่ะ ทีวีไม่ได้ดูเลยต้องอ่านอ่ะ ..เด๋วไม่ทันสมัย ...กิ..กิ.. แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 45 00:07:23 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 45 21:08:27 จากคุณ : จังงัง - [ 14 พ.ย. 45 21:03:11 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ทั่นทิวา ขอใช้บริการหมอเถื่อนชำแหละโคลง เข้าทางนิรนามที่กำลังหื่นกระเหี้ยนกระหือรือ หิ๊หิ๊ บทแรก บาท ๑ - บาท ๒ - "สานใย" ความไม่ค่อยชัดเน่อ บาท ๓ - "ด่านอันใด ใครดับ" เดาสิบตลบยังเดาความหมายไม่ออกเลย -_- (ใครดับ หรือ ใคร่ดับ ?) บาท ๔ - บทสอง บาท ๑ - "ลามเธอ" อาจขัดกับ "สีแสง" ลาม น่าจะใช้กับ ไฟ, เพลิง ซึ่งคนละอย่างกับ สี, แสง บาท ๒ - อ่านแล้วอาจเข้าใจว่า ยังหมายถึงฝายหญิง แต่ที่เขียนคงตั้งใจหมายถึงฝ่ายชาย "มัดใจละเมอ" ตามด้วย "ระรื่นแล้ว" ฟังดูออกจะแปลกๆ บาท ๓ - อุปมาหรือนั่นทั่นทิวา ไม่ค่อยเข้ากันเลยนะ . . . เสียดสีเสมอ สมันนุ่ม เนื้อนา บาท ๔ - บทสาม บาท ๑ - ผ่านเฉียดฉิวจริงๆ เพราะโนมพรรณ ไม่น่าจะดันหนั่นเนื้อได้ ต้องเสื้อรัดรูปถึงจะดันได้ บาท ๒ - บาท ๓ - "เสียงครวญ คนสยบ คนเอย" . . . แหม่งๆจ้าน บาท ๔ - "มายาใช้ ชุบชู้ฤดูกาล" ม่ายเข้าใจ ม่ายเข้าใจ มายา เพี้ยนจาก มารยา หรือเปล่า ? ชุบชู้ฤดูกาล=ปลุกชู้แห่งฤดูกาลที่หนาวเนื้อ ? บทสี่ บาท ๑ - บาท ๒ - "มายาฝัน ขวากสิ้น" ม่ายเข้าใจ บาท ๓ - บาท ๔ - พลิกลิ้นรู้สมัย . . . ก็ม่ายเข้าใจ นิรนามมีเวลาดูไม่มาก อาจอ่านไม่ละเอียด บางจุดอาจวิจารณ์เกินไปก็ได้ . . . . . ส่วน ปล. ๒ ถกโคลง ทวนคลื่นทะเล เมื่อไหร่ อย่างไร ขอรายละเอียดหน่อยเน่อ . . . . . จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 14 พ.ย. 45 21:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 86 หลานลิง (๘๔) อย่างนี้ก็พอเรียกว่านิราศได้จ้า แต่สั้นไปหน่อย เพราะการแต่งนิราศนิราศจะเดินความแบบนี้แหละ ขึ้นต้นปรารภการเดินทางไกล แล้วกล่าวคร่ำครวญถึงนางอันเป็นที่รัก จะให้ชำแหละกำลังตาลาย ดูแค่ผ่านๆก่อนนะ ติดใจที่บทนี้ .....หัวรอ...ขอย่ำเท้า............................รีรอ ชมตลาดอาจแจจอ..............................อยู่บ้าง คนมากหากแววอ.................................ฉุกละหุก...? พันหมื่นเปรียบย่านร้าง..........................หากสิ้นเรียมเคียง ฯ ไยมาสลับคำอย่างนี้เล่า แจจอ กับ แววอ ไม่มีความหมายนะ จะอ่านแบบแยกคำแยกความหมาย ก็ไม่ได้อีก (แจ-จอ) ดังนั้นต้องบังคับให้กลับไปใช้ จอแจ กับ วอแว จ้า หลานลิง แล้วจำไว้เลยนะ อย่าสลับคำถ้าทำให้ความหมายเปลี่ยนหรือไม่มีความหมาย ลองเปลี่ยนคำวรรคหลัง ในบาทแรกนะ 1. ค้น :  จอแจ คำ :  จอแจ เสียง :  จอ-แจ คำตั้ง :  จอแจ ชนิด :  ว. ที่ใช้ :   ที่มา :   นิยาม :  มีผู้คนคับคั่งและมีเสียงเซ็งแซ่ เช่น ผู้คนจอแจ ตลาดจอแจ. ภาพ :   อ้างอิง :   ปรับปรุง :  98/4/2 2. ค้น :  จอแจ คำ :  จอแจ เสียง :  จอ-แจ คำตั้ง :  จอแจ ชนิด :  ว. ที่ใช้ :   ที่มา :   นิยาม :  จวนแจ เช่น เวลาจอแจเต็มที. ภาพ :   อ้างอิง :   ปรับปรุง :  98/4/2 1. ค้น :  วอแว คำ :  วอแว เสียง :  วอ-แว คำตั้ง :  วอแว ชนิด :  ก. ที่ใช้ :   ที่มา :   นิยาม :  รบกวน, จอแจ, เซ้าซี้. ภาพ :   อ้างอิง :   ปรับปรุง :  98/4/2 อ่านโคลงหลานลิงชุดนี้ นึกถึงโคลงนิราศถึงพเนียด  บทพระนิพนธ์ ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระยาบำราบปรปักษ ขอคัดมาให้อ่านสัก ๒ บท ๏ บางไทรด่านตั้งฝั่ง..................บูรพา คอยเรียกเรือไปมา......................แวะค้น เรียมบำราศแรมคลา....................ทุกข์หนัก ทรวงแฮ บันทุกข์เรือเหลือล้น....................เพียบแต้ด่านเมิน ๏ หัวรอแพแม่ค้า........................ขายของ เนืองเนื่องแนวฝั่งสอง................ฟากน้ำ เยียดยัดอัดปากคลอง.................บางขอด เจียวพ่อ ครบสิ่งเครื่องใช้ล้ำ......................แต่งต้งงเต็มแพ อยากอ่านเต็มๆอ่านได้ที่นี่จ้าน http://thirawat.com/waruek/poem/panead.html จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 14 พ.ย. 45 22:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ท่านอานิรนาม .. คล้ายๆกับ ทอรักถักฝัน ที่ท่านเขียนแจงมาที่ละคำ .. แหะ แหะ สมัคร สมาน เสมอ สมร .. ช่วยชำแหละด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : จังงัง - [ 14 พ.ย. 45 22:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เจอ นิ-รา-นาม ถือมีดหมอชำแหละโคลงคุณนายฯ พอดี โอ๊โหย่ยโหย..... ถกโคลง ทวนคลื่นทะเล งานนี้ จอมยุทธฯก้อว่าจะไม่พลาดขอรับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 14 พ.ย. 45 22:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ..แหะ ๆ กว่าจะเข้าอาศรมฯ ได้เล่นเอาเหงื่อตก..^.^"' ..จังงัง..ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้เข้ามาดูอาศรมฯ ให้ มีของปลอบใจด้วยน๊า (ไปทวงกับปู่ก๊องนะเออ..ฮิฮิ) ..ขอทดลองแต่งโคลงดั้นบาทกุญชรบ้าง ช่วยติชมด้วยนะครับ.. ๏๏๏ ลอยกระทง ๒๕๔๕ ๏๏๏ ๑ ๏ เดือนสิบสองน้ำเนื่อง..........นองชล ขึ้นสิบห้าค่ำเดือน...................เด่นฟ้า นภพร่างประดาคน.................ขวักไขว่ ลอยกระทงแก้วจ้า..................แจ่มใจ ๚ ๒ ๏ ประชาชีไพร่ฟ้า..................ชุมนุม ตามประทีปโคมไฟ.................เฟื่องฟุ้ง ชายหญิงเกี่ยวแขนกุม.............เคียงคู่  มาเฮย สรวลเสนาะเลาะใกล้คุ้ง..........คู่กัน ๚ ๓ ๏ กระทงลงสู่น้ำ.....................นำลอย ระยิบระยับตาผัน....................ภาพย้อน เห็นอดีตประเพณีรอย.............วัฒนะ  ธรรมแฮ ไทยวิถีฟุ้งสะท้อน...................เทอดไทย ๚ ๔ ๏ ถึงยุคอารยะท้า...................เทคโนฯ ต่างถกวัสดุไหน......................น่าใช้ โฟมสังเคราะห์ฤๅโบ-..............ราณพับ  ตองเฮย ธรรมชาติด่าวดิ้นให้................ใคร่ครวญ ๚ ๕ ๏ ฝ่ายอนุรักษ์ว่าไว้.................วาที พืชสลายโดยขบวน.................เน่านั้น ใบตองสิ่งอินทรีย์....................สลายสู่  ปุ๋ยนา คืนนิเวศน์ให้ปั้น.....................เปลี่ยนเป็น ๚ ๖ ๏ โฟมสังเคราะห์คู่หล้า............ห่อนสลาย ถึงเก็บสะอาด บ เห็น................เปื่อยพ้น รีไซเคิ่ลอย่าหมาย....................คุ้มค่า มลพิษพิษร้ายล้น.....................ชีพสูญ ๚ ๗ ๏ ฝ่ายหนุนโฟมว่าโอ้...............อย่าหลง ตองเน่าคลุ้งคลองมูล...............หมกน้ำ เก็บยากหากจมลง....................ลับแผ่น  น้ำแล โฟมหยิบกลับใช้ซ้ำ.................สวัสดิ์คืน ๚ ๘ ๏ ต่างถกเถียงแค่นขั้น............สูญสมัคร  สมานเฮย ต่างว่าดียันยืน........................มติข้า ต่างห่วงสงวนรักษ์..................รักแม่   น้ำนา ต่างถูกต่างถ้อยกล้า.................ต่างใจ ๚ ๙ ๏ หากฉุกขุกแง่ซึ้ง..................สองขดาน เปลืองเปล่าเผาเงินไป..............ป่นปี้ ซื้อก็จ่ายเก็บสมาน...................ก็จ่าย ธรรมชาติ บ ย้อนกี้..................เก่าคืน ๚ ๑๐ ๏ สังคมงมง่ายบ้า....................บริโภค อำนาจเงินตรากลืน..................เก่าดิ้น ลืมคิดประหยัดประโยค............สมสถาน  ที่แล ควรพินิจคิดให้สิ้น....................สว่างเมือง ไสวเมือง บารนี ๚ะ๛ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 45 23:05:44 จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 14 พ.ย. 45 22:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แหะ แหะ เอาไปเลยโคลงด้นบาทกุญชร บัดเดี๋ยวนี้ บัดเดี๋ยวนี้ ...รอตั้งนานแน่ะ ..เกือบเอาหัวโขกจอซะแย้ว ....แสนสุขทุกท่านเอื้อน..........................บทกวี ยามอ่านพลันสุขสม................................ยิ่งแท้ เลิศรจน์พจน์สุนทรี-...............................ยภาพยิ่ง ชมชื่นรื่นถ้อยแล้...................................หากตรอง ฯ .....อยากเพียรเขียนตอบด้วย..................พจน์ขยาย หากแต่งานมากอง.................................ต่อหน้า ยามใดว่างจักหมาย................................แถลงต่อ  ท่านนอ หากตอบโคลงด้นช้า...............................อย่าเคือง ฯ **** ของนายอกไข่ดาว (๘๙) .เอ๋...สุดยอดมากค่ะ...ขอชื่นชม... ...แต่อ่านไปมาตอนบทที่สาม...บาทที่สี่......ความแปลก ๆ น๊า... .....ไทยวิถีฟุ้งสะท้อน.................เทอดไทย **แก้เป็น .....ไทยวิถีฟุ้งช้อน...............เทอดไทย และในบทที่ ๑o บทที่ ๓ .....ลืมคิดประหยัดประโยค............สมสถาน  ที่แล ..สมสถาน  ที่แล..............( คำนี้ผิดฉันทลักษณ์)สลับตำแหน่งกันนิดหน่อยถ้าจะดีน๊า .. **แก้เป็น .....ลืมคิดประหยัดประโยค............สถานที่  สมแล... ก็เลยลองเขียนแก้สักนิดค่ะ...ขอรวมหุ้นด้วยหน่อยนึง...(เหมือนทองแผ่นเดียวกัน...ทองพับอ่ะ อย่าคิดมาก) จะยอมไหม...ยอมหรือไม่ยอม ไม่ยอมร้องไห้จริงๆน๊า ..แง๊ แง๊ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 45 23:24:17 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 45 23:21:08 จากคุณ : จังงัง - [ 14 พ.ย. 45 23:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ....จอม...โจรนามท่านลี้...............คิมฮวง ยุทธ-.....จักรมักเห็นควง..............มีดสั้น เม...รีที่หึงหวง...........................พระรถ-  เสนนอ รัย...รี่ยากอดกลั้น......................หากต้องสบตา ฯ แหม ..ครั้นจะไม่แซวปู่เมรัยสักหน่อย ก็ดูจะกระไรอยู่นา .. ขอสักทีเหอะน่า ไปอ่างทองจะได้คิดถึงกัน ..กั๊กๆๆๆๆ ขออนุญาตขำอ่ะ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : จังงัง - [ 14 พ.ย. 45 23:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 92 แผนผังคำโคลงจำไว้............แม่นนับ เพียรท่องให้สดับ................อยู่ใกล้ สักวันหนึ่งคงจับ.................ถึงใจ เก่งดั่งคิดเอาไว้..................ล่ะว้าตัวเรา *************เรื่อยๆเฉื่อยๆ จากคุณ : idaho (idaho) - [ 15 พ.ย. 45 00:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 93 -- กระทงตอง -- O ใช้หยวกตอง ลองต่อ ก่อประสาน ดั่งเป็นพาน บายศรี เพื่อบวงสรวง แด่พุทธา คงคา และเพ็ญดวง เพื่อให้ล่วง ลุหวัง ดั่งใจปอง O จีบตองร้อย เรียงล้อม พร้อมประดับ จึงนำจับ ติดหยวก ขยับสม จัดให้งาม ตามแต่ง แต่นิยม ด้วยดอกดม กลิ่นดี มีบูชา O แล้วจึ่งจัด ด้วยเทียน แล้วธูปสาม ปักให้งาม ด้วยจิต เพียรอุตสาห์ เพื่อบอกกล่าว บูชา ขอขมา เป็นเมตตา เป็นศิริ ธิมงคล 15 พิจิก 2545 จากคุณ : jinnivan - [ 15 พ.ย. 45 03:18:51 A:203.146.247.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 94 ประทีปเรืองรองเฟื่องฟ้า................สว่างไสว ประดับนิจสถิตใจ.........................จรัสล้น ประดิษฐ์ภาพพิศพิไล....................เลอศักดิ์ ประสิทธิ์สลักหักหาพ้น..................ดุ่มด้นยลเสมอ ประทีปน้อยลอยล่องคว้าง.............กลางธาร ประดับเด่นเห็นตระการ.................แต่งแต้ม ประดิษฐ์ดุจสุดมือวาน..................วงศ์ช่าง ประสิทธิ์ชื่นรื่นรมย์แกล้ม..............กล่อมผู้ดูฉงน ประทีปดับลับล่วงแล้ว..................ฤๅอนงค์ ประดับมืดจืดจางลง.....................แหลกแล้ ประดิษฐ์งามกลับทรามคง.............ขืนอยู่...ยังฤๅ ประสิทธิ์โศกเกลื่อนโชคแท้..........ก่นแก้แปรขาม ประทีปใจไยหมอกกลุ้ม...............กังวล ประดับฝุ่นตุนตมจน....................เผือดแผ้ว ประดิษฐ์ใดไป่ดาลดล.................คืนกลับ ประสิทธิ์สรรพยับยู่แล้ว...............เพริศแพร้วพานขม.           แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 45 08:05:59 จากคุณ : " . " - [ 15 พ.ย. 45 07:54:05 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ลอยกระทง ๑- ๏ เพ็ญโสมโพยมสว่างแจ้ง......................แจ่มใส ลอยประทีปประเทืองไฟ.........................ฟ่องน้ำ เพ็ญเดือนสิบสองสมัย.............................มาประจบ มโนนบพระคุณล้ำ...................................ค่าล้นชลธาร ๚ -๒- ๏ เป็นละหานเลี้ยงแหล่งหล้า..................ไหลระ ชโลมไร่นาสวนสระ................................ชุ่มชื้น ชลสรงโสรจสายชะ.................................ล้างเหงื่อ...........ไคลเอย สินธุ์ช่วยชุบชีพฟื้น..................................ฝากเลี้ยงอาศัย ๚ -๓- ๏ จุดไฟเทียนธูปพร้อม............................พรรณผกา ประจุใส่กระทงมา...................................มอบให้ เสมอเสมือนเครื่องบูชา............................ชูเชิด........ชลนอ ยอจบเหนือเศียรไหว้................................วากย์ถ้อยคำขมา ๚ -๔- ๏ คืนฟ้าเพ็ญผ่องแจ้ง................................แจ่มจันทร์ ลอยประทีปประเทืองอัน............................อร่ามแพร้ว ขมากรรมล่วงเกินกัน................................ก้มกราบ มโนซาบซึ้งคุณแล้ว...................................ลูกน้อมกระทงถวาย ๚ ๛ ================================================= มาร่วมลอยกระทงกับชาวอาศรมฯ ได้แรงบันดาลใจจากภาพลิงลอยน้ำ เอ๊ย ภาพกระทงลอยน้ำของหนูลิง #43 น่ะครับ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ จากคุณ : วฤก - [ 15 พ.ย. 45 09:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ((( สมัคร-สมาน-เสมอ-สมร ))) สมัคร-ใจดื่มดิ้น                       ทุกข์ขม สมาน-ชีพด้วยบาประบม         โศกเศร้า             เสมอ-โลกมืดระบม                 ระเบิดบ่า สมร-หมกนรกเร่งเร้า               ซากซึ้งกรรมเผา. ๐๙๔๘-๑๑๑๔๒๕๔๕ จากคุณ : Ar@p - [ 15 พ.ย. 45 09:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 97 แว๊ก..เจ้าลิงแก้มป่อง(ไอดาโฮ่)..จะตีหนึ่งอยู่แล้วไม่ยอมนอน เป็นจั๋งได๋หว่า ..ฮ่วย ข้อยสิมึนเด้อ .. .. บทกลอนของคุณ: jinnivan ไพเราะค่ะ กระทงตอง น่ะดีที่สุดจ้า..ไม่ทำลายธรรมชาติด้วย .. แหะ แหะ ปู่ก๊อง ..ว้า ของเก่า ลูกลิงยังไม่ได้แก้โคลงเลยอ่ะ เอามาอีกชุดแย้ว เบิ้ลสองเลยอ่ะ อย่างนี้ไม่ตอบไม่ได้แล้วอ่ะ รอก่อนนะ ก่อนปีใหม่แน่นอนอ่ะ ..กิ..กิ.. .. ฮ่า ฮ่า ฮ่า..อาหมอ(โหดอ่ะ) จาเอาลิงลอยน้ำ  เด๋วจะเฉาน๊า ไม่มีใครคอยป่วนอ่ะ เลี้ยงลิงไว้ซักตัวกินไม่เปลืองหรอกน่ะ ..คิก คิก.. .. อั่นแน่ แอบดูมานานแย้ว ดช.อาพี นี่เอง สงสัยในบาทที่สองกับบาทที่สามจัง ..ระบม น่ะ  ..แบบว่าคงต้องแจงให้ลูกลิงรู้หน่อยน๊า เพื่อเป็นวิทยาทานอ่ะ ..แล้วจะแบ่งกล้วยน้ำว้าให้นะ ดีป่ะ จากคุณ : จังงัง - [ 15 พ.ย. 45 11:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 98 นู๋จังฯ นู๋จังฯ เวลาเขียนโคลงแบบใช้คำสวยๆ จะเหมือนซือม่วยซือเจ๊อย่างหนึ่งคือ อ่านเข้าใจยาก หมายความว่า เข้าใจความหมายละเอียดแบบคำต่อคำยาก (ความหมายกว้างๆเข้าใจไม่ยาก) นิรนามลองวิเคราะห์ดู คิดว่า สาเหตุมาจากการใช้คำที่ "บิด" ความหมายของคำไปนิดๆ คือ ไม่ได้ "บิด" แบบใช้คำบิดความหมาย แต่ "บิด" นิดๆ แบบถ้าอ่านผ่านๆ ก็พอผ่านได้ แต่จะรู้สึกสะดุดกับการใช้คำอยู่นิดหน่อยแบบไม่ค่อยแน่ใจ ต้องเอากล้องจุลทรรศน์มาส่องถึงจะแน่ใจ (เปิด พจนก. ตรวจความหมายของคำไง) เช่น แซ่ซ้อง นิยามคำตาม พจนก. คือ แซ่ซ้อง ก. เปล่งเสียงแสดงความนิยมยินดีหรือสรรเสริญกันทั่วไป. ในบาท ๒ ที่นู๋จังฯ เขียนว่า "สมาน...มั่นศัพท์ผสาน........................แซ่ซ้อง" แซ่ซ้อง ตรงนี้เข้าใจว่า ตั้งใจสื่อว่า . . . ร้อง (ซ้อง) เสียงเซ็งแซ่ (แซ่) คือทั้งบาทเดาว่าหมายถึง . . . สมานมั่น ขับคำประสาน ร้องเซ็งแซ่ (เซ็งแซ่ ว. ดังอื้ออึงแซ่ไปหมด) แต่ แซ่ซ้อง ความหมายจะออกไปในทางสรรเสริญ โดยมีสำนวนติดปากคือ "แซ่ซ้องสรรเสริญ" ก่อนจะดูกันต่อไป นิรนามอยากบอกก่อนว่า การวิจารณ์ครั้งนี้ก็ยังเป็นแบบอัตวิสัยของนิรนาม เอาความพอใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง ซึ่งคนอื่น หรือเจ้าตัวอาจเห็นแย้งได้ อันนี้ต้องบอกกันไว้ก่อน แต่ยังไงก็ตาม การวิจารณ์บทนี้ จะใช้มาตรฐานสูงๆ แบบที่ใช้วิจารณ์ซือเฮียซือเจ๊ในอาศรมเลยทีเดียว เอาละ มาดูทีละบาท บาท ๑ - คงไม่มีปัญหา บาท ๒ - ติดตรง "แซ่ซ้อง" อย่างที่วิจารณ์ไปแล้ว   บาท ๓ - "เสมอ...สืบสิทธานต์สนาน...................โศลกท่วง" อ่านเขาใจยากทั้งวรรค ต้องเปิด พจนก. หลายคำเลย สิทธานต์ น. ลัทธิหรือความเห็นที่ตกลงกันแล้ว สนาน น. การอาบน้ำ. โศลก น. คำประพันธ์ในภาษาสันสกฤต ๔ บาท เป็น ๑ บท เรียกว่า โศลกหนึ่ง, คำขับร้องสรรเสริญ.              ,เกียรติ. ท่วง, ถ้วง ไม่พบคำใน พจนก. เข้าใจว่า "สนาน" ไปตัดคำมาจากคู่คำ "สนุกสนาน",  "ท่วง" ตัดคำจาก "ท่วงทำนอง" บาทนี้คงพยายามสื่อว่า . . . สืบทอดร้อยกรองแต่โบราณ แต่การใช้คำ ยังไม่ได้พาเข้าสู่ความหมายที่ต้องการ โดยเฉพาะการตัดแยกคู่คำ บาท ๔ - "สมร...มาตรอาจรัดคล้อง...................เกี่ยวใกล้สนิทสนม" สมร ๑ - น. การรบ, การสงคราม สมร ๒ - น. นางงามซึ่งเป็นที่รัก ความหมายของบาทนี้ ขึ้นกับ "สมร" คำเดียวว่าหมายถึงอะไร เพราะคำอื่นๆ แปลไม่ยาก แต่ไม่ว่า สมร จะแปลว่า ความบาดหมาง หรือ คนรักกัน บาทนี้ก็ดูจะอ่อนทางด้านความหมาย เพราะเขียนทำนองว่า "อาจช่วยให้สนิทสนมกันยิ่งขึ้น" ซึ่งไม่ค่อย สอดรับ กับ บาท ๑-๓ พรรณาอย่างให้ความสำคัญไว้สูง คือ คล้องโคลงกานท์-ผสานแซ่ซ้อง-สืบสิทธานต์โศลกท่วง บาท ๔ เป็นบาทสำคัญ แต่บาท ๔ ของโคลงบทนี้ นิรนามว่า ความหมายออกจะอ่อนไปหน่อย คิดว่างั้นนะ . . . . . จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 15 พ.ย. 45 12:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เย้ ..จะครบร้อยแย้ว ดีจังเลย ดีจังเลย คุณนิรนามค่ะ .. เดี๋ยวจังงังไปคิดบทโคลงซ่อมมาก่อนนะคะ ตอนนี้ขอปั่นงานแป๊บนึงค่ะ ดึกๆจะย่องมาค่ะ ประชุมมารับมาอีกสองproject ลิงเดินเฉาออกมาจากห้องประชุมเลยค่ะ .. แต่ก็ยิ้มได้เสมอน๊า เพราะว่า ที่นี่ยังอบอุ่นมิเสื่อมคลาย ยิ่งหวานใจมาดูแลขนาดนี้แล้ว บ่ยั่นแน่นอนเจ้าค่ะ .. จุ๊ๆๆ ปู่ก๊องเคยบอกว่า เจ้าลูกลิง ใครๆเขาแต่งโคลงบทนึงได้กันสี่บาท แต่เจ้าลูกลิงมันแต่งโคลงได้สองสลึง บาทเดียวยังไม่ครบความเลย ก๊ากๆๆ รู้แล้วล่ะ  บาทที่สี่คนละเรื่องกับสามบาทแรกเลย สมร..ในที่นี้หมายถึงนางผู้เป็นที่รักเจ้าค่ะ ... คิก คิก ..หากใครมาเรียกแบบนี้ แทบจะถอดหน้ากากลิงออกแล้วกระโดดกอดเลยนะเนี่ย ก๊าก..อาย เผ่นก่อนล่ะ โดนต้อนเข้าห้องประชุมอีกแย้ว .. จากคุณ : จังงัง - [ 15 พ.ย. 45 14:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 100 .....สมัคร...รักร่วมคล้อง...................โคลงกานท์ สมาน...มั่นศัพท์ผสาน........................แซ่ซ้อง เสมอ...สืบสิทธานต์อุทาร...................โศลกท่วง-  ทีนา สมร...มาตรอาจเพรียกพ้อง..............เกี่ยวใกล้สนิทสนม ฯ ส่งการบ้านค่ะ แก้ไขโคลงต้นกระทู้ ค่ะ คุณนิรนาม ... จากคุณ : จังงัง - [ 15 พ.ย. 45 15:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 101 หวา หวา จะครบร้อยซะแล้วรวดเร็วจังเลย ไร้นามจะส่งโคลงกอไก่เลียนแบบศิษย์พี่ทันไหมเนี่ย ^^' (แต่งตั้งนาน แต่งมะออก มั่วเป็นแบบนี้ไปละกัน) ๏ เกรงกลกอไก่กล้อน             เกียรติกานท์ กริ่งกฎเกณฑ์ก่อการ             กักกั้น เกิดกรงเก็บกุมกานต์            ก็กร่อย กางกรอบกีดเกินกลั้น            กลัดกลุ้มกับกลอน ๚ (แต่งมะค่อยออกเลยเขียนความรู้สึกออกมา ฮือๆ) จากคุณ : ไร้นาม - [ 15 พ.ย. 45 17:36:13 ]

ความคิดเห็นที่ 102 สุร เสียงหลอมซาบเนื้อ     หทัยขวัญ   พล โลกแลพลสวรรค์       แซ่ซ้อง สมบัติ อนรรฆอนันต์        ลูกทุ่ง ไทยแล         เจริญ คีตกระหึ่มก้อง        เกียรติ์กั้งกัปกัลป์ ฯ แฮ่ เข็นโคลงวันลอยกระทงไม่ขึ้น ก็เลยฝึกกระทู้นามบุคคล มาอีกบท แหะ ๆ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 45 21:52:47 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 15 พ.ย. 45 19:00:17 ]

ความคิดเห็นที่ 103 แว๊กกกกก เจี๊ยกกกกกกก แหะ แหะ ขอรับ   อีตาหมอเถื่อน นิ-รา-นาม ใช้มีดฆ่าโคมาฆ่าไก่ อีตาทิวา กลายเป็นไก่สับเสียแหล้ว ฮือ ๆ ๆ  ๆ เปลี่ยนจาก "กำสรวลเกษียณสมัย" มาเป็น "กำสรวลเกษียณอายุตัวเอง" ดีฝ่า แหะ แหะ ขอรับ ว่าจะขอชี้แจงเรียงบท แต่ท่าทางคงจะยืดยาว ยกยอดไปก่อนแล้วกัน แหะ แหะ แบบว่า ขอขอบคุณ ทั่น นิ-รา-นาม ขอรับ แหะ แหะ ช่วยชำแหละ มีประโยชน์มากมาย ขอรับ ตอนนี้ ขอตัว ไปหา หมอ โมโน หรือว่า  หมอ วฤก ให้ช่วยเย็บแผลให้หน่อย ขอรับ แหะ แหะ ขอแรวงใจมาเยี่ยมด้วยนะขอรับ ทั่น XXX(เฒ่า) พี่ ครูเล็ก น้อง ศโซดาซ่า. และ สหายชาวอาศรมฯ แหะ แหะ แบบว่า ไก่สับ อะ-หร่อย ขอรับ สวัสดี ขอรับ แหะ แหะ ปล. ขอบคุณทั่นนิรนาม หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ คงบ่ว่าเน้อ ขอรับ (แบบว่า ไก่สับแบบข้าพเจ้า อาจทำเอาลิง เบิ่งตาค้างนะขอรับ อิอิ) ปล.๒ ถกโคลง ท่องทะเล รอ หนูศ.มาแจงรายละเอียดนะขอรับ หรือส่งเมล์มาหน่อยสิ ขอรับ ข้าพเจ้าจะ ตอ-รา-สับ ไปหา แหะ แหะ ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 15 พ.ย. 45 19:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 104 แบบว่า ตอนนี้เอางัยดีหนอ กระทู้เกินร้อยแล้วน๊า ..อาทิวา นั่นแหล่ะ แว๊ปๆๆๆ มา ที่งี้ล่ะ กลายเป็นนินจาเลยน๊า .. ศิษย์น้องไร้นาม แหะ แหะ ก.ไก่เอ๊กๆๆๆ โห..รุ่นไหนเนี่ย สุรพล สมบัติเจริญ ..งั่กเชียวนะ คุณนกพิราบ ..เอ้ย คุณพิราบเงิน..(แบบว่าหวานไว้ก่อน เผื่อจะรับเผือกไปอ่ะ ..) จากคุณ : จังงัง - [ 15 พ.ย. 45 21:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 105 อ่านโคลงหวานผ่านนิราศ (๑๐) ๏ กรมวงษาสนิทผู้.........................ปรีชา เชี่ยวแฮ เรียบรจเรขกถา..............................เพราะพร้อง เนืองเนกคณเมธา..........................ทุกทั่ว อ่านเอย ควรจักยอยศซร้อง..........................แซ่ซั้นสรรเสริญ ๚ โคลงบทนี้เป็นโคลงบทสุดท้ายจาก โคลงนิราศพระประธม ถ้าใครได้อ่านแล้วไม่ทราบว่าเป็นโคลง พระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรสทรงเติมลงข้างท้ายนิราศเรื่องนี้แล้ว ก็คงจะเข้าใจ ว่า กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ผู้นิพนธ์โคลงนิราศพระประธมนี้ ทรงยกย่องหรืออวดพระองค์เอง แต่ทำไมสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส จึงทรงโคลงเติมลงข้างท้ายนิราศเรื่องนี้ต้องมาอ่านและ ศึกษากันหน่อยแล้ว ขอรับ โคลงนิราศพระประธมนี้ พระเจ้าบรมวงศ์ กรมหลวงวงษาธิราชสนิททรงนิพนธ์ไว้ เมื่อ พ.ศ.๒๓๗๗ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ขณะนิพนธ์โคลงนิราศเรื่องนี้มีพระชนม์ ๒๖ พรรษา เวลานั้นยังทรงพระยศเป็น กรมหมื่นฯ มีบทโคลงช่วงท้ายๆ บทหนึ่งจากโคลงนิราศเรื่องนี้ กล่าวไว้ว่า ๏ กำสรวลศรีปราชญ์ทั้ง.....................ทวาทศ มาศฤๅ อีกพิพิธสาลีพจน์................................พร่ำพร้อง ตรังนิราศนรินทร์รจ............................เรจเรื่อง ครวญพ่อ สารโศกเรียมแรมน้อง.........................ยิ่งถ้อยทั้งมวล ๚ ตรงนี้ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงระบุชื่อนิราศ ซึ่งนิยมกันว่าดี คือ กำสรวลศรีปราชญ์ ทวาทศ มาศ นิราศของพระพิพิธสาลี นิราศพระยาตรัง แลนิราศนรินทร์ ซึ่งจอมยุทธฯ ชวนอ่านมาแล้วทั้งหมด แต่โคลงนิราศพระประธมนี้ ก็พยายามฉีกแนวจากโคลงนิราศดังกล่าว หรือไม่พยายามเอาแบบอย่างใคร ดังโคลงตอนท้ายบทหนึ่งที่ทรงกล่าวอย่างภาคภูมิว่า ๏ ซึ่งนิพนธ์นิราสร้าง...........................แรมสถาน ไป่ลักเทียบคำบุราณ.............................อื่นอ้าง สริรักษรวบรวมสาร..............................รจเรจ เรื่องเอย ประสงค์แต่จริงจิตร้าง...........................รักให้ขนิษฐ์ฟัง ๚ ซึ่งพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงกล่าวไว้พอสรุปโดยสังเขปว่าการแต่งโคลงนิราศ มักดำเนินตามรอยทางเก่าเป็นทอดๆ แต่ผู้แต่งใหม่จำจะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เหมือนของเก่า ต้องให้ ดีกว่า หรืออย่างน้อยไม่ให้เลวกว่า มิฉะนั้นขายหน้า กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงพระนิพนธ์ก็ทำนอง นี้แต่ไม่ทรงดำเนินตามรอยทางเก่าที่เอาอย่างกันเป็นทอดๆ เช่น บทฝากนาง ( โคลงบทฝากนางนี้ จอมยุทธฯ ตั้งใจจะรวบรวมมาสรุปปิดท้ายการอ่านโคลงอีกครั้งหนึ่ง) แต่ทรงกล่าวว่า " ไป่ลักเทียบ บุราณ........อื่นอ้าง " ซึ่งเป็นความจริงโดยประการที่มิได้ทรงเพ่งเล็งเอาอย่างใคร เป็นแต่ทรงเดินรูป ตามแบบนิราศ แลถ้าไม่ทรงเช่นนั้นก็ไม่เป็นนิราศ ตามประวัติกล่าวไว้อีกอย่างว่า เมื่อกรมหลวงวงษาธิราชสนิท ทรงพระนิพนธ์นิราศนี้แล้ว ได้ทรงนำ ถวายพระอาจารย์คือ สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส ให้ทอดพระเนตรและแก้ไข จะได้ทรงแก้บ้าง หรือไม่ไม่ทราบ แต่ที่ต้นฉบับเขียนเขียนตัวบรรจงมีรอยขีดฆ่าแล้วเขียนตัวหวัดแก้เปลี่ยนไปหลายแห่ง ที่แก้นั้นดีขึ้นกว่าเดิมทุกแห่ง ผู้แก้จะเป็นสมเด็จกรมพระปรมานุชิตหรือกรมหลวงวงษาธิราชสนิท จะทรงเองก็ทราบไม่ได้ ทราบได้แต่ว่าเมื่อสมเด็จกรมพระปรมานุชิตทรงอ่านตลอดแล้ว ก็ทรงโคลงเติม ลงข้างท้าย ก็คือโคลงบทแรกที่จอมยุทธฯ ยกมา โม้มาเสียเยอะอีกแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านจริงจังซะที มาเริ่มกันเลยดีกว่าขอรับ จอมยุทธฯ คงขอผ่านโคลงบทชมเมือง พรรณนาความรุ่งเรืองของพระพุธศาสนา พระมหากษัตริย์ มาเริ่มที่โคลงพรรณนาถึงการจากนางตามแบบนิราศ อันเป็นจุดประสงค์หลักของการอ่านโคลงครั้งนี้ ดังโคลงบทที่ว่า ๏ เสร็จสารขานยศเผ้า.........................อยุธยา ภพแฮ ห่อนวิถารกฤษฎา................................บ่ยั้ง จักเริ่มเรื่องรจนา................................นิราศพร่ำ พจน์พ่อ ไปภิวาทมหาธาตุ์ตั้ง.............................ชื่ออ้างประธมประโทน ๚ โคลงนิราศเรื่องนี้ไม่มีบทฝากนาง แต่เริ่มต้นมีบทพรรณนาถึงนางในนิราศ ขอยกตัวอย่างสักหลายบท ดังนี้ ๏ ถวิลวันเรียมร้างรัก...........................แรมโรย ไปแต่กายใจโหย..................................ห่วงน้อง จักพาสุดสวาดิ์โดย...............................ใดสดวก แดนา เพราะแม่อยู่แยกห้อง............................ห่อนได้สมประสงค์ ๚ ๏ สุดาดวงดื่นห้องห่อน.........................พาไป เลือกภักตร์จักเสียใจ.............................โศรกเศร้า เมื้อหมดทุรัศสถานไกล...........................เรือมาก ลำแม่ ลำบากบ่าวไพร่เต้า.................................ต่างต้องติดตาม ๚ ๏ ประสงค์แต่สุดสวาดิ์สร้อย...................สายสมร เดียวแม่ คิดใคร่พากนิษฐจร................................เพื่อนพร้อง แรมเรือเมื่อหนาวนอน............................แนบอุ่น อกเอย ยุงกัดหวังวานน้อง................................ปัดเบื้องปฤษฎางค์ ๚ ๏ สายัณห์สุริเยศเยื้อง............................อัษฎงค์ นายมหาดขนเครื่องลง............................เสร็จแล้ว พลพายบ่ายเรือตรง...............................ประทับน่า* รับแฮ ...*(หน้า) หวนห่วงสุดสวาดิ์แก้ว.............................เกษน้องนางเดียว ๚ ๏ โอ้ศรีเสาวภาคย์ผู้................................เพ็ญภักตร์ พี่เอย ยามนิราศรศรัก......................................เรอศร้าง ปรานีนุชนงลักษณ์.................................ลาญเทวศ เดียวแม่ ใครจักแนบแอบข้าง................................คู่เคล้าคลึงถนอม ๚ ๏ เอ็นดูเยาว์อยู่ห้อง................................โหยหวล ภักตร์ที่ผ่องผิวนวล...............................จักคล้ำ รันทวยรทดครวญ..................................ใครปลอบ เปลื้องแม่ เสวยสุชลต่างน้ำ.....................................เนตรน้ำนองเขนย ๚ การเสด็จไปพระประธม (พระปฐมเจดีย) ของกรมหลวงวงษาธิราชสนิทครั้งนี้ ขอสรุปคร่าวๆ คือ เสด็จโดยทางชลมารคก่อน เมื่อออกจากท่าที่ประทับ แล้วผ่าน สะพานมอญ สะพานช้าง ออกคลองตลาด เข้าคลองบางหลวง ผ่านวัดอรุณ เข้าคลองนครบาล วังหลัง มาบางกอกน้อย วัดอมรินทร์ บางขวาง วัดแก้วฟ้า บางใหญ่ บางโสน งิ้วราย นครไชยศรี เข้า๕ลองบางแก้ว ถึงบ้านธรรมศาลา เสด็จขึ้นบก ทรงช้าง เสด็จไปสู่พระปฐมเจดีย์ ขอคัดตัวอย่างการกล่าวถึงสถานที่บางส่วน มาให้อ่านขอรับ ๏ วิไชเยนทรก่อป้อม..............................ปราการ ป้อมก็ปรากฎนาม...................................อยู่ช้า เรียมก่อรักสมัครสมาน............................เสมอชีพ ขออยู่คู่ดินฟ้า.......................................อย่ารู้เสื่อมสลาย ๚ ๏ วัดอรุณคิดนิ่มเนื้อ..............................นามอรุณ เรียมเอย เคยประทับทรวงลมุน.............................แนบน้อง ยามหนาวแม่มีคุณ..................................แอบอก อุ่นเอย เฉกอรุณเรืองห้อง.................................ส่องให้หายหนาว ๚ ๏ มาดลฉนวนน้ำพระ..............................บัณฑูร ประทับเฮย ตำหนักก็ร้างแรมสูญ..............................เสื่อมเศร้า เสมอแดพี่อาดูร....................................เด็ดสวาดิ์ มาแม่ ชมแต่ชื่อต่างเจ้า...................................จากแล้วแลหาย ๚ ๏ บางรมาดนามแม้นมาด.........................หมายมิตร ประมาณสี่ห้าปีคิด..................................มาดน้อง มาดนุชหนึ่งสุจริต..................................เรียมมาท ห่อนมากรักอื่นพ้อง................................เพราะสร้อยสุดาเดียว ๚ ๏ เรือถึงวัดไก่เตี้ย.................................ตาแสวง หาไก่ป่าปู่แปลง.....................................แต่กี้ พาลอลิลาศสมแพง................................เพื่อนพี่ น้องนา วานช่วยนำนุชชี้......................................ช่องเต้าตามเรียม ๚ ๏ บางใหญ่ใหญ่เท่านี้...............................ไหนปาน รักพี่ใหญ่ฤประมาณ.................................ใหญ่แท้ ดินฟ้าทั่วนทีธาร......................................ใหญ่เท่า ไฉนฤๅ รักแม่สุดใหญ่แล้.....................................ใหญ่ล้ำรำพรรณ ๚ ๏ งิ้วรายรายงิ้วเรียด..............................เรียงริม เฉนียรฤๅ ดอกดั่งสีทับทิม.....................................แถบจ้า คิดอรอ่าองค์ถนิม...................................ภรณ์ผ่อง ผิวเอย ศรีจับศรีนวลหน้า...................................เนตรหน้าจับศรี ๚   ๏ วัดไทรไทเทพยท้าว..............................เทพา รักษ์ฤๅ อุ้มอนิรุทธ์สมอุษา...................................สร่างเศร้า เรียมบำราศสมรอา..................................ดูรประดาษ เดียวพ่อ เชิญช่วยอุ้มอรเต้า..................................สู่ข้อยคอยสม ๚ มีต่อขอรับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 15 พ.ย. 45 22:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 106 อ่านโคลงหวานผ่านนิราศ (๑๐) ต่อ ขอคัดโคลงนิราศเรื่องนี้มาให้อ่านกันอย่างจุใจ เพราะโคลงนิราศเรื่องนี้มีถึงสองร้อยกว่าบท มาอ่านบทที่ พรรณนาถึงความงามธรรมชาติกันบ้างดีกว่า ๏ แม้แม่มาด้วยพี่....................................เป็นสอง จักมุ่งจักเมิลมอง...................................แมกสล้าง ชี้ชวนชื่นชมผอง....................................พรรลอก หลายแฮ น้องจักชวนชมบ้าง.................................พี่บ้างชมชวน ๏ โฉมหอมหอมยิ่งไม้...............................ดอกหอม กลิ่นยิ่งกลิ่นประยงพยอม........................รศเร้า รฦกกลิ่นเกษแก้มตรอม............................ทวีเทวศ ถึงแม่ ฉุนกลิ่นบุหงาพาเศร้า...............................โศกซ้ำกำศรวญ ๚ ๏ ลำดวนอวลอบฟุ้ง................................สุคนธ์ขจร คนึงกลิ่นลำดวนอร..................................อบเนื้อ นมสวรรค์นึกนมสมร................................เคยอุ่น อกเอย หวลภิรมย์รศเกื้อ.....................................กลิ่นกล้ำลำดวน ๚ ๏ เรียมยินมยุเรศร้อง..............................เรียกนาง ยูงเอย ฟังยิ่งเสียวอุรภางค์................................ผ่าวเศร้า โอ้แต่สัตว์ยังคราง..................................ครวญใคร่ กันนา เสมอพี่แรมเสน่ห์เต้า.................................แต่ตั้งครวญสมร ๚ ๏ ตับคาคาคาบแคล้ว................................คลารัง กระลุมพุกกระลุมภูผัง..............................พักพร้อง กระทุ่มกระทาประนัง.................................ศัพท์แซ่ แก้วเกาะกิ่งแก้วซร้อง................................สื่อถ้อยแถลงสาร ๚ ในโคลงนิราศพระประธม พบโคลงแบบถึง ๕ บท คือ ( โคลงแบบหมายถึงโคลงที่ไม่ใช้คำตายแทนเอก และมีเอกจำเพาะ ๗ มีโทจำเพาะ ๔ นอกนั้นไม่มีเลย ) ๏ นาวาคลาท่องท้อง................................แถวชล มารคเฮย หลายล่องบางตำบล................................เคลื่อนคล้อย หวงโหยห่างนฤมล..................................มาเปลี่ยว อกเอย โศกยิ่งสุมทรวงสร้อย..............................หลั่งล้นชลไนย ๚ ๏ คำนึงนุชอยู่ร้าง...................................แรมวัง จักซื่อสนิทเนาหลัง..................................ห่อนรู้ ยังคงต่อสัจจัง......................................จริงแน่ ไฉนนา ฤๅแม่หลงลมชู้........................................ชื่นแล้วลืมเรียม ๚ ๏ แรมชมเรียมแต่เช้า...............................ชำงือ รุมรุ่มอุระฤๅ...........................................สร่างเศร้า โศกทรวงพี่หนักคือ..................................เททุ่ม ทับเฮย รอาอ่อนศรโศกเร้า....................................เร่งร้อนแรงรุม ๚ ๏ ถับถึงบางแก้วถิ่น.................................ธานี เสนอชื่อนครชัยศรี...................................ท่านตั้ง ขวาแขวงแห่งนที.....................................คลองหนึ่ง แวะนา เรียมเร่งเรือฤๅยั้ง....................................ด่วนเลี้ยวคลองไคล ๚ ๏ คลาคลามาเคลื่อนคล้อย...........................คลองบาง แก้วนา ทุกข์พี่พรากพลัดนาง................................หนุ่มเหน้า อาวรณ์ห่อนจืดจาง...................................ใจจี่ โศกเอย กลืนแต่ทุกข์แทนเข้า...................................คั่งแค้นคาคอ ๚ ชักโม้เพลิน จนกู่ไม่กลับซะแล้วจอมยุทธฯ ขอยกตัวอย่างโคลงมาให้อ่านอีกสี่ห้าบทแล้วกัน ๏ งามพักตร์งามพิศน้อง.............................งามผิว โฉมแม่งามดุจปลิว.....................................จากฟ้า งามนิ้วหัตถ์จิ๋วมหวิว...................................เรียวรัด นาแม่ งามโอษฐ์เมื่ออรอ้า.....................................ออกเอื้อนสารเสนอ ๚ ๏ เรียมลุโรงเล่าแล้ว...................................ลอยเรือ กลิ่นเล่ากำจรเจือ.......................................จิตร์กลุ้ม เมารักพี่เมาเหลือ........................................เมาเล่า อีกเอย เมามืดดินฟ้าคลุ้ม........................................คลั่งเคล้าฤๅคลาย ๚ ๏ เมาเล่าฮึกฮักให้......................................เฮฮา เมาถั่วโปมักพา..........................................สัปปลี้ เมายศยิ่งยศหา..........................................ฤๅเหลือ หยิ่งแฮ เมารักเช่นพี่นี้............................................นั่งเพ้อนอนพึม ๚ ๏ ถวิลรเด่นเทวศร้าง..................................หมันหยา โศกรักแรมจินตหรา....................................เร่าร้อน อนงค์นางสการวา......................................ตีสุด สวาดิ์เอย รฦกรเด่นหมันหยาข้อน................................อกไห้ดุจเรียม ๚ คงจบการอ่านโคลงนิราศพระประธม ของกรมหลวงวงษาธิราชสนิทไว้ด้วยบทโคลงบทที่ ๒๑๒ ของ พระองค์ท่าน ว่า ๏ เสร็จเรื่องนิราศร้าง.................................แรมสมร นิพนธ์พจนกลกลอน...................................กล่าวแกล้ง เฉลิมพระเกียรติอดิศร..............................เกศมกุฎิ สยามแฮ กับจักให้อรแจ้ง.........................................เรื่องร้างไปประทม ๚ ตอนหน้าจะนำไปอ่านโคลงนิราศที่ยาวที่สุด คือโคลงนิราศสุพรรณ ของสุนทรภู่ ขอรับ หมายเหตุท้ายบท สมัยกรุงรัตนโกสินทร์นั้น กวีที่แต่งนิราศพระปฐมไว้ปรากฎแล้ว ๓ สำนวน คือ กลอนนิราศพระประธม ของสุนทรภู่แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๕ โคลงนิราศพระประธมของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราช สนิท ทรงแต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๗ และกลอนนิราศพระปฐมของหลวงจักรปราณี (มหาฤกษ์) แต่งในสมัย รัชกาลที่ห้า แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 45 08:16:42 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 45 23:02:57 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 15 พ.ย. 45 22:57:04 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เห็นศิษย์น้องไร้นามแล้ว ขอมั่วตามศิษย์พี่มหัพภาค และศิษย์น้องจังงังบ้างเจ้าค่ะ กอกากอไก่กล้า............................กรีดกราย เกิดแก่ก็กลับกลาย..........................กัดก้อน กฎเกณฑ์เกียรติกินกาย.......................กลก่อ กรงกรอบกรรมกลัวกล้อน.....................เกี่ยวกล้องเกร็ดกลอน   จากคุณ : รสา รสา - [ 15 พ.ย. 45 22:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 108 หลานลิง ติดเรื่องโคลงลอยกระทงไว้ก่อนนะ พรุ่งนี้จะโพสท์ให้จ้า ใครช่วยรับอาสาเปิดกระทู้ใหม่หน่อยนะ น่าจะเป็นตาดุกเผา หรือ นบปี้ นะขอรับ จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 15 พ.ย. 45 23:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 109 จังงัง(๙๐) ขอบคุณมากที่ช่วยตรวจทานให้        บทที่ ๓ ไม่แก้ เนื่องจากความหมายคือวิถีวัฒนาธรรมไทย สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองของไทย และคำว่า "ท้อน" สัมผัสกับ "เทอด"       บทที่ ๑๐ อกนิษฐ์รีบไปหน่อยเลยลืมตรวจทาน ที่เขียนไว้บนกระดาษก็เหมือนกับที่จังงังแก้ให้นั่นแหละ ว้า ว้า ว้า ฮิฮิ ป.ล. โคลงดั้นบาทกุญชรส่งสัมผัสระหว่างบทสองที่ คือ           ๑. คำที่ ๗ บาทที่ ๓ ของบทแรก สัมผัสกับคำที่ ๔ บาทแรก ของบทที่สอง            ๒. คำที่ ๗ บาทที่ ๔ ของบทแรก สัมผัสกับคำที่ ๕ บาทที่สอง ของบทที่สอง จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 15 พ.ย. 45 23:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 110 แหะ แหะ นายปลาดุกอุย ท่าจะดีแฮะ น้ำนองอย่างนี้ปลาน่าจะเริงร่า นะปู่นะ ..55555 อะโหย๋ คุณรสา ..กิ กิ ..ช่วยกันหน่อย รุมปู่กันหน่อยเร้ว ก๊ากๆๆๆ จากคุณ : จังงัง - [ 15 พ.ย. 45 23:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 111 วุ้ย ..ตาอกไข่ดาว พิลึก ..ไหงในกระดานดันมาเขียนเหมือนที่ลูกลิงบอกหนอ เด๋วตกเป็นข่าวน๊า ..มั่วๆๆๆ แข็งอ่ะ ...ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ .. อย่างนี้ต้องขอดูกระดาษแล้วอ่ะ คิก คิก ..นายปลาดุกอุยไปไหนหนอ แหม พออาศรมจะร้อย ล่ะ ว่ายน้ำมุดหนีไปเลยนะ กลัวรับมรดกกระสือสาวอะดิ .. จากคุณ : จังงัง - [ 15 พ.ย. 45 23:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 112 .......คำนางหวานเลอล้ำ..................อัลมิตรา โฉมเจ้ากัลยา................................แน่งน้อย นุชน้องนวลต้องตา........................เคียงคู่ ดุจเพชรแพรวพราวพร้อย.............เรื่อยต้องคำโคลง ......เสน่ห์น้องตราบฟ้า...................ดินสลาย มิตรภาพมิกราย............................คู่หล้า กวีสื่อสิ่งใน...................................ใจอยู่ เสนอคำเจิดจ้า..............................เพริศพร้อมเสมอมา จากคุณ : idaho (idaho) - [ 15 พ.ย. 45 23:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 113 แว๊ก..อะ จ๊าก ...เจ้าลิงแก้มป่อง เอาเรื่องแล้วประไร เอามาแปะทำมายตรงนี้อ่ะ ขายหน้าเขาอ่ะ อาย อาย อาย ...ป๊าดธ่อ ..เผากันนี่หว่า เจ้าไอซ์ เด๋วโยนเผือกให้ซะเลย ดีป่ะ จากคุณ : จังงัง - [ 15 พ.ย. 45 23:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ไม่ทราบว่ามีใครจะเป็นผู้เปิดอาศรมต่อไปเอ่ย แต่ถ้ายังไม่มี ข้าพเจ้าขออาสาเป็นผู้เปิดอาศรมเอง จะได้ป่าวเอ่ย.... แต่ถ้าหากมีใครจะเป็นผู้อาสาเปิดอาศรม ช่วยแสดงความจำนงค์ด้วยขอรับ จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 16 พ.ย. 45 11:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 115 อะฮ้า ...และแล้วนายจันทรคราสก็น่ารักจังแฮะ ปิบปิ๊ววววว ...แหม นายช่างมาทั้งที มีหรือจะไม่รีบยกอาศรมให้อ่ะ ..ว่าแต่ว่า ต้องผูกเปลเลี้ยงลูกไป เฝ้าอาศรมไปหรือเปล่าเนี่ย ..มือหนึ่งไกวเปล อีกมือคีย์ไป อ่ะ ..กั๊กๆๆๆ ..ตกลงนายเดียร์เปิดอาศรมใหม่ได้เลยนะ .. แล้วจะให้รางวัล (กล้วยสามหวี..) เฮ้อ ..ต่อไปก็นอนหลับสบายได้ทุ๊กคืนแล้วเรา ...โล่งงงงง ไป เลยยยยย อ่ะ .... เย้ เย้ เย้ จากคุณ : จังงัง - [ 16 พ.ย. 45 12:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 116 กระสากลิ่นธูปอยู่...เลยเข้ามาดู... แฮ่ แห้...ท่านพี่จอมยุทธฯ เรียกตัวนี่เอง... แต่งานนี้รอดตัวไปครับเพราะมีซามูไรพ่อลูกอ่อนขันอาสารับหน้าเสื่อแล้ว... รบกวนพี่เดียร์เปิดกระทู้ใหม่ก่อนก็แล้วกันนะครับ ส่วนผมกับท่านดุกขอเป็นกระทู้ถัดไปหลังจากพี่เดียร์แระกัน (ดีไหมครับท่านดุก??) จากคุณ : Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) - [ 16 พ.ย. 45 19:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 117 แว๊ก ..มัวไปหลีสาวที่ไหนเนี่ย ซามูไรพ่อลูกอ่อนเนี่ย บอกว่าจะมาเปิดกระทู้ใหม่ให้ รอจนคางย้อยแล้วนะ ยังไม่มาอีก ..ป๊าด ธ่อ เดี๋ยวส่งพัสดุไปบางกอกน้อยเลยนิ ..ตู๊ม ๆๆๆ จากคุณ : จังงัง - [ 16 พ.ย. 45 21:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ว่างัยว่าตามกัน อิอิ... จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 16 พ.ย. 45 22:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เอาน่า นายปลาดุก รับๆไปเหอะ หุ้นกันกับNoppy B. Good (สายลมคิมหันต์) ก็ได้นะ .. แล้วจะมาป่วนอ่ะ อยากป่วนเต็มที่แล้วน๊า ครั้นจะป่วนกระทู้ที่ตัวเองดูแลอยู่ เด๋วเค๊าจะเข้าใจว่ายังไม่ได้ฉีดยามาอ่ะ ..๕๕๕ จากคุณ : จังงัง - [ 16 พ.ย. 45 22:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 120 อ่าน่า....ใจร้อนจังเยยย ตั้งให้แย้วนะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W1887560/W1887560.html กาดึ๋ง กาดึ๋ง ดุ่ม ดุ่ม จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 17 พ.ย. 45 05:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ใครก้อได้ ช่วยแต่งโคลงสี่สุภาพเกี่ยวกับลอยกระทง ที่ไมซ้ำกับที่ post อยู่ให้หน่อยได้มั๊ยคะ คือว่าต้องส่งอาจารย์อะค่ะ ที่มีอยู่เค้าเอาไปส่งกันหมดแล้ว โคลงเก่าที่เอาไปส่งได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง ผู้ใดมีจิตเมตตา จักขอบคุณอย่างสูงค่ะ จากคุณ : 69 - [ 19 พ.ย. 47 10:44:49 A:192.168.1.153 X:202.129.16.130 ]

ความคิดเห็นที่ 122 เจ้าบทเจ้ากลนอทั้งหลาย จากคุณ : เหอะๆ - [ 13 ก.พ. 48 19:20:27 A:203.113.60.71 X:203.150.217.119 ]