2.11 บทที่ 11 โรซานน่า
"กำเเพงมีหู" คัฟพูดพลางชมดอกกุหลาบ "ในธุรกิจของผม...เรานิยมงานกลางเเจ้ง...อย่างเช่นความงามเเบบนี้"
เขาถอนหายใจ "ผมตัดสินใจที่จะสำรวจความคิดเเละการกระทำของคนรับใช้ทุกคนเเทนที่จะเป็นตู้ของพวกเขา เเต่ก่อนที่ผมจะทำอย่างนั้น...ผมขอถามคุณว่ามีพวกเขาคนไหนมั้ย ที่ทำตัวเเปลกๆตั้งเเต่เพชรหายไป?"
ทันใดนั้น ชื่อโรซานน่าก็เข้ามาอยู่ในความคิดของผม เเต่ก่อนที่ผมจะตอบอะไร ผมเห็นดวงตาของคัฟมองไปที่พุ่มไม้
"เกิดอะไรขึ้นครับ?" ผมถาม
"โอ้...ก็เเค่อาการปวดหลังของผมเท่านั้น" เขาตอบเสียงดัง...ราวกับว่าต้องการให้บุคคลที่สามได้ยิน
เราเดินต่อไปที่ระเบียง
"สาวน้อยโรซานน่ามีคนรักหรือยัง?" เขาถาม "ถ้าเธอไม่มี...เธอกำลังทำตัวน่าสงสัย ตอนนี้เธอซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้นั่น"
ทางพุ่มไม้ที่นำไปสู่สวนกุหลาบเป็นทางเดินโปรดของคุณเเฟรงคลิน เขาอาจจะใช้มันเป็นทางผ่านขากลับจากสถานีก็ได้ หลายครั้งที่เพเนโลพเห็นโรซานน่าวนเวียนอยู่เเถวนั้นเมื่อเขากลับมา
ผมอธิบายเรื่องนี้ให้นายสิบฟัง เเละบอกเขาว่าเด็กสาวที่น่าสงสารคนนั้นตกหลุมรักคุณเเฟรงคลิน
"ผมดีใจ...มันช่วยอธิบายทุกสิ่ง" เขาพูด "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาไม่เคยสังเกตเห็นเด็กคนนั้นใช่มั้ย?"
"ใช่ครับ" ผมตอบ "ผมกลัวว่าผู้หญิงขี้เหร่จะต้องประสบช่วงเวลาที่เลวร้ายบนโลกใบนี้"
เขามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นเขาก็จับมือผมเเล้วเขย่ามัน
"คุณเบทเทอริจ" เขาพูด "ผมชอบคุณ"
หลังจากที่กลับเข้าไปในห้องทำงานของผม เขาให้ผมเรียกคนรับใช้เข้ามาทีละคน
คนครัวเป็นคนเเรก จากนั้นก็หญิงรับใช้ของเลดี้ของผม จากนั้นก็เพเนโลพ
โรซานน่าเป็นคนถัดไป เธออยู่นานมากกว่าคนอื่นเเละออกมาด้วยใบหน้าซีดขาวราวกับคนตาย
ซามูเอลเข้าเป็นคนต่อไป เเละเเนนซี่เป็นคนสุดท้าย
เมื่อเธอจากไป ผมเข้าไปข้างใน "ห้องพิจารณาคดี" ของคัฟ เเละพบว่าเขากำลังผิวแปกเป็นเพลง "กุหลาบดอกสุดท้ายเเห่งฤดูร้อน"
"ถ้าโรซานน่าขอออกไปข้างนอก" เขาพูด "ปล่อยเเม่สาวที่น่าสงสารนั่นไป...เเต่ช่วยบอกผมก่อน"
คนครัวเข้ามา
โรซานน่าขอออกไปสูดอากาศข้างนอกเพราะเธอปวดหัว
ผมบอกว่าได้สิ
เมื่อคนครัวกลับไปเเล้ว ผมนำคัฟไปที่ประตูทางเข้าของคนรับใช้ เเละเขาก็หายไป
ผมคุยกับคนครัวเเละหญิงรับใช้ของเลดี้ของผม ทั้งคู่ไม่เชื่อว่าวันก่อนโรซานน่าป่วย พวกเขาเคาะประตูห้องของเธอหลายครั้งจนกระทั่งเที่ยง ไม่มีเสียงตอบ...เเละมันก็ถูกล็อค พวกเขาเห็นเเสงลอดออกมาจากด้านล่างของประตูเมื่อตอนเที่ยงคืน ได้ยินเสียงจุดไฟเมื่อตอนตีสี่...ในเดือนมิถุนายน! เเละเเน่นอนพวกเขาบอกเรื่องทั้งหมดนี่เเก่คัฟ
จากนั้นในตอนบ่าย ผมพบคุณเเฟรงคลินที่ทางเดินพุ่มไม้
เมื่อเขากลับมา เลดี้ของผมบอกเขาเรื่องการปฎิเสธไม่ยอมตรวจค้นตู้ของคุณราเชล
ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง
"โรซานน่า สเปียร์เเมนเข้าเมืองฟริทซิ่งฮอลล์อย่าลับๆ" เขาพูด "เธอเผาชุดเปื้อนสีของเธอ เธอต้องขโมยเพชรไปเเน่ ผมต้องบอกคุณป้าโดยเร็ว"
"ได้โปรดอย่าเพิ่งพูดครับ" น้ำเสียงหดหู่ของคัฟดังมาจากข้างหลังของพวกเรา เราหันกลับทางเขา
"ทำไมถึงยังบอกไม่ได้?" คุณเเฟรงคลินพูด...ท่าทางรำคาญ
"เพราะว่าถ้าคุณบอกมายเลดี้ เธอก็จะบอกคุณเวอรินเดอร์"
คุณเเฟรงคลินเดินตรงไปยังนายสิบเเละมองเขาอย่างคุกคาม
"คุณกำลังห้ามผมหรือ?" เขาถาม
"ผมกำลังบอกว่าถ้าคุณบอกเลดี้เวอรินเดอร์หรือใครก็ตามก่อนที่ผมจะอนุญาต ผมจะหยุดสอบสวนคดีนี้"
โดยไม่มีทางเลือก...คุณเเฟรงคลินหันกลับด้วยความโมโหเเละเดินจากเราไป
"คุณเบทเทอริจ" คัฟเรียก "ปล่อยให้งานสืบสวนเป็นหน้าที่ของผมจะได้ไหม?" เขารั้งเเขนของผมไว้
"ตอนนี้คุณต้องการอะไรจากผมล่ะครับ?" ผมถาม
"ข้อมูล...เหมือนเดิมนั่นเเหละ" เขาตอบพร้อมทั้งส่งยิ้มอ่อนๆให้
เขาชี้ไปที่ชิเวอริ่ง เเซนด์ "พาผมไปดูหาดนั่นหน่อย"
เมื่อเราเข้าใกล้อ่าวในยามเย็น คัฟพูดว่า "ผมเข้าใจความรู้สึกกรุณาของคุณที่มีต่อเด็กสาวที่น่าสงสารนั่น เธอจะไม่ตกอยู่ในอันตรายเเม้เเต่น้อย...ไม่...ถ้าผมพิสูจน์ได้ว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับการหายสาบสูญของเพชร ผมมีหลักฐาน...ชัดเจนเหมือนจมูกบนหน้าของคุณ...ว่าเธอตกเป็นเครื่องมือของใครบางคน"
"คุณบอกชื่อคนนั้นได้มั้ย?" ผมถาม
"เเล้วคุณล่ะ...คุณเบทเทอริจ?"
ผมสั่นศีรษะ
เขามองผมด้วยความสลด
"เธอเข้าเมืองฟริทซิ่งฮอลล์อย่างลับๆเมื่อวานเพื่อซื้อผ้ามาทำชุดที่เหมือนกับตัวที่มีรอยเปื้อน ไฟในห้องของเธอใช้อุ่นเตารีดเพื่อจับจีบชุดใหม่...ไม่ใช่ไว้เผาตัวที่มีรอย เธอรู้ว่าคนครัวเเละหญิงรับใช้ของเลดี้เวอรินเดอร์สงสัยเธอ...ดังนั้นเธอยังคงต้องซ่อนชุดนั่น...ใช่มั้ย?"
ผมพยักหน้า
"เมื่อตอนเย็น...ผมตามเธอไปที่หมู่บ้านชาวประมง...ไปที่กระท่อม เธอออกมาพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ถูกซ่อนอยู่ใต้เสื้อโค้ทของเธอ ผมตามเธอขึ้นเหนือเลียบชายฝั่งไปเรื่อยๆ...โชคร้ายที่บริเวณนั้นไม่มีที่ให้ซ่อนอีกต่อไปเเล้ว ผมหวังว่าเราจะพบเธอมาเเถวๆนี้ ถ้าไม่พบ...รอยทรายอาจจะบอกเราได้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่"
ผมรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที ผมได้ยินโรซานน่าพูดกับผมว่า...ดูเหมือนทรายดูดกำลังจะดึงเธอลงไปข้างใต้นั่น เเสงสว่างค่อยๆเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เเละเมื่อกระเเสน้ำเริ่มไหลกลับ...ความเงียบอันน่ากลัวก็ได้เเผ่ไปทั่วอ่าว ความกลัวเย็นเยียบวิ่งผ่านกระดูกสันหลังของผมเมื่อผมเห็นผิวหน้าดุจผืนกระจกของทรายเริ่มสั่นไหว
"เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฆ่าตัวตายอย่างที่สุด" นายสิบพูด...เสียงของเขาสะท้อนถึงความคิดของผม "เเละไม่มีร่องรอยของเธอที่ไหนเลย"
เราเดินลงไปที่หาดทราย
"ทางเดียวที่จะมาที่นี่จากหมู่บ้านชาวประมงคือเข้ามาทางหน้าผาในช่วงกระเเสน้ำลด" ผมพูด
เราเดินไปทางใต้ร้อยหลา เเล้วคัฟก็คุกเข่าลงทันที
"ของผู้หญิง" เขาพูดในขณะที่ตรวจสอบรอยเท้าบนผืนทราย
พวกเราเดินไปรอบๆเป็นวงกลมจากนั้นก็จบตรงที่น้ำทะเล
"เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามซ่อนจุดสิ้นสุดระยะการเดินของเธอ...ซ่อนอะไรก็ตามที่เธอเก็บไว้ใต้เสื้อโค้ทของเธอ บางทีถ้าเราไปที่กระท่อม เราอาจจะรู้ว่ามันคืออะไร"
เราไปถึงหมู่บ้านตกปลาก่อนมืด กระท่อมเป็นของครอบครัวที่ชื่อว่าโยลเเลนด์ ลูกสาว...ลูซี่...ผู้มีเท้าพิการ...เป็นเพื่อนกับโรซานน่า คุณนายโยลเเลนด์เชิญเราเข้าไปข้างใน ชาวประมงเเละลูกชายของเขาออกไปข้างนอก ลูซี่...ผู้มักจะเหนื่อยเเละอ่อนเเอ...อยู่ข้างบน
คัฟเเสดงความอดทนอย่างน่าประหลาด...นำเข้าสู่การพูดคุยเรื่องโรซานน่าอย่างสบายๆ เขารับประกันกับเธอว่าจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวของเขาก็คือขจัดข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมที่โรซานน่าได้รับจากคนรับใช้คนอื่นที่กังวลเรื่องมูนสโตน
"พวกเขาเกลียดเด็กสาวที่น่าสงสารนั่น!" คุณนายโยลเเลนด์เเทรก "เธอกำลังจะจากไป...ในไม่ช้า"
"ผมเข้าใจ" คัฟพูดอย่างเศร้าๆ "ดังนั้นเธอเลยไม่มีเพื่อนคนอื่น...ยกเว้นคุณ?"
"โอ้...ใช่ค่ะ!" คุณนายโยลเเลนด์ตอบ "เย็นนี้ เธอขึ้นไปข้างบนด้วยตัวเองคนเดียว"
"ฉันต้องการเขียนจดหมายถึงเพื่อน" เธอพูด
เเละจากนั้นเธอนำอะไรบางอย่างที่เธอต้องการในการเดินทาง เธออวดกล่องโลหะให้เราดู
"เรามีสองกล่อง ฉันขายมันให้เธอหนึ่งกล่อง ทหารเรือใช้มันเก็บของที่ไม่ต้องการให้เปียก เเละฉันขายโซ่ตรวนให้เธอสองชุด"
คัฟเริ่มผิวปากเพลง "กุหลาบดอกสุดท้ายเเห่งฤดูร้อน" เบาๆ
จบบทที่ 11 โรซานน่า
--------------------
จากคุณ :
Silvermoon
- [
29 พ.ย. 45 00:53:10
A:202.133.167.48 X:
]