*** THE IVORY CHILD *** เทวรูปงาช้าง *** บทที่ ๑๙ อัลลัน ควอเตอร์เมน ยิงไม่ถูก

    บทที่ ๑๙
    อัลลัน ควอเตอร์เมน ยิงไม่ถูก


    ข้าพเจ้าตรวจกองกำลังเล็ก ๆ ที่ตั้งชื่อให้อย่างตลกว่า "หน่วยแม่นปืน" เป็นครั้งสุดท้าย        แม้จะต้องบอกความจริงว่ายิงปืนนะพอได้แต่เรื่องความแม่นยำไม่ต้องไปพูดถึง        และได้เห็นว่าแต่ละคนเข้าประจำที่ข้างหลังกำแพงพร้อมกับคนยิงสำรองนั่งขัดสมาธิ์อยู่ข้างหลังในแต่ละคู่ของพวกเขา        รอที่จะรับช่วงปืนไรเฟิลเมื่อคู่ของเขาตายไป          อีกทั้งตรวจให้แน่ใจว่าทุกคนมีลูกกระสุนยี่สิบนัดพร้อมอยู่ในกระเป๋าหนังของเขา       ข้าพเจ้าไม่สำรองให้พวกเขามากไปกว่านั้นกลัวว่าในความตื่นเต้นหรือตื่นตระหนกพวกเขาจะยิงส่งเดชออกไปจนหมดลูกกระสุนโดยเปล่าประโยชน์อย่างที่รู้กันมาแล้วแม้แต่กองทหารของคนขาวที่มีระเบียบวินัยก็เคยทำเช่นนั้น        ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเตรียมคนสูงอายุที่ไว้ใจได้ว่าจะรออยู่ในที่ปลอดภัยในแนวหลังถือลูกปืนสำรองเอาไว้        ด้วยจำนวนที่เคยใช้ในการซ้อมว่าปืนแต่ละกระบอกใช้ลูกกระสุนเกือบหกสิบนัด        คนพวกนี้ได้รับคำสั่งให้เอาลูกปืนจากถุงของเขาส่งให้กับแนวยิงด้วยจำนวนเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นว่าจำเป็นแต่ไม่ก่อนหน้านั้น

    ข้าพเจ้ายอมรับว่าการเตรียมการอาจเกิดการผิดพลาดในยามฉุกระหุกเมื่อการต่อสู้อยู่ในภาวะล่อแหลม         แต่ข้าพเจ้าคิดอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ออก         เพราะว่ามันเป็นความจำเป็นอย่างที่สุดว่าจะไม่มีการยิงอย่างสูญเปล่า

    หลังจากให้คำแนะนำและตักเตือนกับคนที่ทำหน้าที่เหมือนกับจ่าของกองร้อยแล้ว        ข้าพเจ้ากลับมายังที่กำบังใต้คบไม้ที่สร้างไว้ให้พวกเราหลังก้อนหินเพื่อนอนหลับสักสองสามชั่วโมงถ้าเป็นไปได้ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น

    ที่นี่ข้าพเจ้าพบกับลอร์ดแรกนอลซึ่งเพิ่งกลับมาจากการตรวจตรา        หน้าที่นี้ต้องใช้เวลามากกว่าข้าพเจ้า        เพราะต้องเดินไปตรวจกำแพงหยาบ ๆ และสนามเพลาะที่เขาทุ่มเททั้งความคิดและระมัดระวัง        และพบว่าพวกแคนด้าห์ขาวเตรียมพร้อมที่จะทำหน้าที่ของเขาที่จะป้องกันพวกมันเอาไว้

    เขาเหนื่อยล้าและค่อนข้างตื่นเต้นสมควรอย่างยิ่งที่จะนอนพัก       เราจึงพูดจากันเล็กน้อย       เรื่องแรกเกี่ยวกับโอกาสของการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้ที่เรามีส่วนร่วมอยู่ด้วย        อย่างน้อยก็พูดถึงมันบ้างด้วยความสงสัย        และหลังจากนั้นก็พูดกันถึงเรื่องอื่น ๆ        ข้าพเจ้าถามเขาว่าขณะที่เขาอยู่ที่นี่ในระหว่างที่ข้าพเจ้าลงไปที่เมืองเขาได้ยินหรือพบเห็นภรรยาของเขาบ้างไหม

    "ไม่มีเลย"     เขาตอบ   "พระพวกนี้ไม่พูดถึงเธอเลย    ถ้าพวกเขาจะพูดถึงก็มีฮารุตคนเดียวเท่านั้นที่ผมจะเข้าใจ       มากไปกว่านั้นผมรักษาคำพูดอย่างเคร่งครัด      แม้ว่าผมจะมีโอกาสไปตรวจสิ่งกีดขวางของถนนทางด้านใต้และสามารถลัดไปทางยอดเขาเพื่อหลีกเลี่ยงผู้ที่ดูแลบ้านหลังนั้นที่ผมเชื่อว่าเธออาศัยอยู่      โอ!  ควอเตอร์เมนเพื่อนรัก    เรื่องนี้ผมทำได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน       คุณคงนึกออกถ้าผู้หญิงที่คุณรักอย่างหมดหัวใจถูกกักขังอยู่ห่างไปไม่กี่ร้อยหลาโดยไม่สามารถจะติดต่อกับเธอได้หลังจากที่พลัดพรากกันมาอย่างปวดร้าว       สิ่งที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นเมื่อผมได้รับเธอคืนมาจากฮารุต       เธอยังคงหลงลืมตัวเองอยู่"

    "แต่เรื่องนั้นก็ยังทำให้อุ่นใจขึ้นบ้าง"      ข้าพเจ้าตอบ      "เพราะว่าจำอะไรไม่ได้ก็ไม่เจ็บปวด        แต่ถ้ามันเป็นเช่นนั้น         คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่คุณและเซาเวจเห็นในคืนนั้นที่ในเมือง ?       ไม่ใช่ฝันพร้อมกันไปทั้งสองคนแน่     เพราะว่าชุดที่คุณบรรยายถึงเป็นชุดเดียวกับที่เราเห็นว่าเธอสวมในพิธีบูชาพืชผลแรก"

    "ผมไม่รู้จะอธิบายว่าอย่างไรดีคุณควอเตอร์เมน         นอกเสียว่ามีเรื่องราวแปลกประหลาดมากมายที่บังเกิดขึ้นในโลกนี้ที่เราหัวเราะเยาะอย่างดูหมิ่นในความรู้อันจำกัดของเราเพราะเราไม่เข้าใจมัน"    (อีกไม่นานข้าพเจ้ามีข้อพิสูจน์อย่างอื่นสำหรับความเห็นนี้)      "แต่ว่าคุณกำลังหาอะไรอยู่หรือ ?     คุณเก็บเรื่องบางอย่างไว้หรือ"

    "มีแค่เรื่องนี้ ลอร์ดแรกนอล       ถ้าภรรยาของคุณเสียสติไปจริง ๆ ผมนึกไม่ออกว่าเธอมาหาคุณได้อย่างไรและพูดกับคุณแม้ว่าจะเป็นเพียงภาพมายา       เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่การฝันไปคนเดียวเพราะทั้งคุณและเซาเวจเห็นเธอ      แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวของเธอจริง ๆ ที่มาหาคุณเพราะว่าประตูไม่ได้เปิดและใยแมงมุมที่พาดขวางอยู่ก็ไม่ขาด         มันจึงอาจเป็นอย่างนี้จิตใจของเธอบางส่วนยังไม่ได้สูญเสียไปแต่ยังสามารถควบคุมได้และมีพลังพอที่จะส่งกระแสมาถึงคุณ        หรือเธอตายไปแล้วดวงวิญญาณที่แยกออกจากร่างทำเรื่องนี้ขึ้น       ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเธอยังไม่ตายเพราะเราได้เห็นเธอและฮารุตก็สารภาพออกมาแล้ว       ดังนั้นผมจึงเชื่อว่ามันอาจเป็นสภาวะชั่วคราวของเธอ     เธอยังคงมีจิตสำนึกของตัวเองอยู่เพราะร่างกายยังเป็นของเธออยู่       ตัวอย่างเช่นเธอเพียงอาจถูกสะกดจิตอยู่ถ้าเป็นอย่างนั้นมนต์ต้องคลายลงสักวันหนึ่ง"

    "ขอบคุณที่คิดเช่นนั้นเพื่อนยาก      มันจะไม่เกิดกับผมอีกและมันทำให้ผมมีความหวังขึ้นมาใหม่        ตอนนี้จงฟัง !     ถ้าผมพบกับหายนะในเรื่องนี้ซึ่งมันเป็นไปได้ค่อนข้างมาก        และถ้าคุณรอดไปได้      คุณใช้ความสามารถให้มากที่สุดพาเธอกลับไปบ้านได้ไหม ?      นี่คือพินัยกรรมฉบับแก้ไขของผมซึ่งผมเขียนขึ้นหลังจากคืนที่ฝันไปนั้น       มีพยานอย่างถูกต้องโดยเซาเวจกับฮานส์        อนุญาตให้คุณเรียกค่าใช้ที่จำเป็นในเรื่องนี้และสำหรับตัวคุณเอง       รับเอาไว้รักษาเอาไว้ให้ดีที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณถูกฆ่าไปมันจะไม่มีค่าเลย"

    "แน่นอนผมจะทำให้ดีที่สุด"      ข้าพเจ้าตอบพร้อมกับยัดพินัยกรรมลงไปในกระเป๋า      "และตอนนี้อย่ามาเสียเวลาคิดว่าจะถูกฆ่าอยู่เลยซึ่งมันจะทำให้เรานอนไม่หลับทั้ง ๆ ที่เราต้องการ      ผมไม่ต้องการที่จะถูกฆ่าถ้าผมป้องกันได้      ผมหมายความว่าจะให้เจ้าพวกวายร้ายแคนด้าห์ดำได้รับการตอบแทนอย่างที่พวกมันไม่เคยได้รับมาก่อนเลย     จากนั้นเดินทางกลับไปยังชายฝั่งทะเลพร้อมกับคุณและคุณหญิงแรกนอล        ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าเราจะทำได้   ราตรีสวัสดิ์"

    หลังจากนั้นข้าพเจ้านอนหลับสนิทไปหลายชั่วโมง        ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าลอร์ดแรกนอลก็นอนหลับไปด้วยเช่นเดียวกัน       เมื่อข้าพเจ้าตื่นขึ้นและรู้สึกตัวโดยทันทีอย่างสมบูรณ์         สิ่งแรกที่ข้าพเจ้าเห็นคือร่างของฮานส์นั่งอยู่ตรงทางเข้าเพิงที่พักหลังน้อยของข้าพเจ้ากำลังสูบกล้องยาสูบทำจากซังข้าวโพดของเขา           และประคองปืนไรเฟิลลำกล้องเดี่ยว ดรุณีน้อยไว้บนตัก          ข้าพเจ้าถามเขาว่าเวลาเท่าไหร่แล้ว        เขาตอบว่าเหลืออีกสองชั่วโมงอรุณจะรุ่ง         จากนั้นข้าพเจ้าถามเขาว่าทำไมไม่ไปนอน      เขาตอบว่าได้นอนหลับไปแล้วและฝันไป       เหลวไหลพอดูข้าพเจ้าถามว่าฝันอะไร       ซึ่งเขาตอบว่า

    "ค่อนข้างแปลกมากเจ้านาย      สำหรับคนที่กำลังจะเข้าสู่สนามรบ       ฉันฝันว่าไปอยู่ในสถานที่กว้างใหญ่ซึ่งเงียบสนิท        มีแสงสว่างอยู่ที่นั่นแต่ฉันไม่เห็นดวงอาทิตย์หรือว่าดวงจันทร์สักดวง       อากาศนุ่มนวลมากและมีรสเหมือนกับอาหารและเครื่องดื่ม         มากไปกว่านั้นอีกเจ้านาย       ถ้าใครสักคนเอาเหล้าดีที่สุด เคปสโมก เต็มแก้วมาให้ฉันจะบอกให้เขาเอามันไปให้พ้น       จากนั้นเจ้านาย        โดยทันทีฉันเห็นคุณพ่อนักเทศน์ของเจ้านายมายืนอยู่ข้าง ๆ ตัวฉันมองเห็นตัวเขาปกติอย่างที่เคยเห็น         เพียงแต่ว่าหนุ่มกว่าและแข็งแรงกว่าและมีความสุขมาก       และฉันรู้โดยทันทีว่าฉันตายไปแล้วอยู่ในนรก      ฉันเพียงแต่สงสัยว่ากองไฟที่ไม่มีวันดับอยู่ที่ไหนเพราะฉันมองไม่เห็นมัน         ในไม่ช้าคุณพ่อนักเทศน์ของเจ้านายพูดกับฉัน     "สวัสดีฮานส์    แกก็ได้มาที่นี่ในที่สุด        ตอนนี้บอกฉันหน่อยซิ      เจ้านายอัลลัน  ลูกชายของฉันไปอยู่ที่ไหน ?      แกดูแลเขาอย่างที่ฉันสั่งเอาไว้หรือเปล่า ?"

    "ฉันตอบว่า     ฉันดูแลเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  โอ คุณพ่อนักเทศน์       ฉันทำให้เขาไม่น้อยเลย      ไม่ครั้งหนึ่งก็สองครั้งหรือว่าสามครั้งฉันสละชีวิตให้เขาเพราะมันเป็นหน้าที่ของฉัน        และเราทั้งคู่ก็รอดชีวิต        และฉันอยากให้แน่ใจว่าท่านได้ฟังเรื่องดี ๆ จากฉัน        เหมือนอย่างเคยฉันโม้เรื่องราวมากมายให้ท่านฟัง    เจ้านาย        เล่าเรื่องใหญ่โตจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ      แม้ว่าตลอดเวลาฉันจะเห็นว่าท่านรู้อย่างชัดเจนว่าตรงไหนฉันโกหกและตรงไหนที่ฉันหยุดโกหก         แต่ท่านก็ไม่ได้ตำหนิฉันเลย  เจ้านาย     ที่จริงแล้วเมื่อฉันจบเรื่องแล้ว    ท่านพูดว่า

    "ทำได้ดีมาก     โอ เจ้าคนใช้ผู้ซื่อสัตย์"    ถ้อยคำที่ฉันคิดว่าฉันเคยได้ยินท่านพูดเมื่อตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่   เจ้านาย      อย่างที่ท่านชอบเทศนาเราเป็นเวลานาน ๆ ในบ่ายวันอาทิตย์        จากนั้นท่านถามว่า   "และตอนนี้เจ้านายอัลลัน  ลูกชายของฉันไปไหนหรือฮานส์ ?"      ซึ่งฉันตอบว่า

    "เจ้านายอัลลันกำลังไปต่อสู้ในสงครามครั้งใหญ่มากซึ่งเขาอาจจะตายได้        และถ้าฉันรู้สึกเสียใจได้ที่นี่     ซึ่งทำไม่ได้       ฉันอยากจะร้องไห้      โอ คุณพ่อนักเทศน์       เพราะว่าฉันตายเสียก่อนที่สงครามจะเริ่มขึ้นฉันจึงไม่ได้ยืนเคียงข้างเขาในสนามรบและตายแทนเขาอย่างที่คนรับใช้ควรทำเพื่อเจ้านายของเขา"

    "แกจะได้ยืนเคียงข้างเขาในสงคราม"     พ่อของเจ้านายพูด (ดูหมายเหตุท้ายบท)       เพราะเป็นสิ่งเหมาะสมสำหรับแก        และหลังจากนั้นนะ ฮานส์      แกจึงมารายงานฉันว่าผลของการต่อสู้เป็นอย่างไรและลูกชายของฉันได้รับชื่อเสียงแค่ไหนในชัยชนะที่นั่น        มากไปกว่านั้นจงรู้สิ่งนี้เอาไว้ ฮานส์      ว่าตลอดเวลาที่แกมีชีวิตอยู่ในโลกแกดูเหมือนว่าจะได้เห็นเรื่องราวมากมายแต่ว่าทั้งหมดนั้นเป็นแค่ความฝัน          เพราะว่าทั้งโลกนี้มีสิ่งจริงแท้เพียงสิ่งเดียว       มีชื่อว่าความรัก      ถ้าความรักนี้แข็งแกร่งพอเพียงเหล่าดวงดาวต้องเชื่อฟัง          เพราะความรักเป็นราชาของพวกมันทั้งหมด        และผู้คนทั้งหมดที่อาศัยอยู่บนเหล่าดาราบูชาความรักทุกวันทุกคืนในหลาย ๆ ชื่อตลอดกาล   สาธุ"

    "ท่านจะหมายความว่าอย่างไรฉันแน่ใจว่าฉันไม่รู้เรื่องเลย  เจ้านาย        เห็นอยู่แล้วว่าฉันไม่เคยคิดถึงผู้หญิงมากนัก        อย่างน้อยก็หลายปีมาแล้วหลังจากที่เมียเก่าแก่คนสุดท้ายกินเหล้าจนตายหลังจากที่นอนหลับทับลูกที่ฉันรักมากกว่าตัวเธอ เจ้านาย

    "แต่ว่าก่อนที่ฉันจะได้ทันถามท่าน      หรือว่าจะทันได้ถามถึงนรก      ท่านก็หายตัวไปเหมือนกับกลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาจากปากลำกล้องของปืนไรเฟิลในสายลมแรง"

    ฮานส์หยุดพูด      ดูดกล้องยาสูบของเขา       ถ่มน้ำลายลงพื้นตามปกติเวลาที่เขาใช้ความคิด     แล้วถามว่า

    "เจ้านายเบื่อเรื่องความฝันหรือยัง      หรือว่าอยากจะฟังเรื่องที่เหลือ ?"

    "ฉันอยากจะฟังเรื่องที่เหลือ"     ข้าพเจ้าพูดด้วยเสียงต่ำ ๆ เพราะรู้สึกแปลก ๆ

    จากคุณ : Sv - [ 22 ธ.ค. 45 12:46:45 ]