ตอนที่ IV : เสียง
หลังจากที่ทั้งสามเริ่มออกเดินทางกันมาได้พักใหญ่ ทุกคนเริ่มอ่อนล้า และเริ่มหมดแรงกันเสียแล้ว ตอนนี้พวกเขาได้เดินเข้ามาสู่เขตป่าสีส้มได้ครึ่งระยะทางและยังเหลือหนทางอีกไกลกว่าจะพ้นเขตป่า บริเวณของป่าสีส้มนี้ต้นไม้และพีชพันธุ์ต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นสีส้มตลอดทั้งปลายรากจดปลายใบไม่มีแม้นแต่พื้นที่ซักกระเบียดนิ้วที่เป็นที่สีอื่น หรือมีสีอื่นเจือปนมา ทั้งพืนดิน พืนฟ้า เม็ดฝน หรือแม้นแต่มูลนก ก็เป็นสีส้ม
"โอ๊ย จิมมี่ข้าไม่ไหวแล้วละ ขอข้าพักสักประเดี๋ยวเถอะนะ" เมลิด้าพูดด้วยน้ำเสียงหอบเหนื่อยและอ่อนล้าจากการเดินทาง
"ไม่ได้นะ เมลิด้า เราจะพักไม่ได้ ขืนพวกเราอยู่ในเขตป่าสีส้นนานกว่านี้ละก็มีหวังหาชีวิตไม่แน่ เราต้องรีบเดินทาง หากปล่อยค่ำมืดเสียก่อนก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเจ้าก็น่าจะรู้อยู่แกใจนิจริงไหม? "--จิมมี่พูดและถึงแม้นตัว จิมมี่ก็อ่อนล้าแต่ความปลอดภัยของเพื่อนฝูงนั้นยิ่งสำคัญกว่าสิ่งใด
จิมมี่รู้ว่าหากเค้าทำตัวอ่อนแออีกสักคนละก็การเดินทางคราวนี้ย่อมไม่เป็นไปอย่างราบรื่นแน่ บีบี้ย่อมต่อว่าและโทษเขาเรื่องที่ให้ผลเมเบิลลิงแกทริปปี้ไป ดังนั้นเขาจะอ่อนแอไม่ได้เด็จขาด
" ไปเร็วเมลิด้าลุกขึ้นเถอะนะ เพื่อนข้าเราจะออกเดินทางไปด้วยกัน อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง"-จิมมี่พูด
"อืม...ก็ได้จิมมี่ไปก็ไป "เมลิด้าค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ คำพูดของจิมมี่ช่วยปลอบประโลมใจเจ้าลาน้อยได้บ้าง ถึงแม้นมันจะไม่สามรถทำให้ท้องอิ่มแต่กำลังใจก็ทำให้เจ้าลาน้อยฮึดสู้อีกครั้ง
"โอ++แย่จริงๆอีกนานแค่ไหนนะกว่าเราจะถึงทางออกและจะพ้นจากเขตป่าแห่งนี้เสียที ตอนนี้ เมลิด้าเริ่มอ่อนล้าแล้ว และตัวเราเองก็เช่นกัน คืนนี้พวกเราคงเดินออกไปไม้พ้นเขตป่าสีส้มแน่ " จิมมี่คิดในใจ
จากการเกิดทางมาเป็นเวลานาน แล้วท้องที่ว่างเปล่าปราศจากอาหาร ในตอนนี้เจ้าหนูเริ่มท้อขึ้นมาหน่อยๆแล้ว
"ท้อเสียแล้วหรือหนูน้อย "
"เจ้าพูดว่าอะไรนะ บีบี้ " จิมมี่ถาม
"อะไรของเจ้า นะเจ้าหนูข้ายังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลย" บีบี้ตอบด้วยความมึนงงกับคำถามของจิมมี่
"เจ้าพูด หรือเมลิด้า " จิมมี่พูดพลางหันไปถามเมลิด้า
"ข้าเปล่าพูดอะไรนะ จิมมี่ข้าสาบานได้ ข้าเปล่าพูดจริงๆ" เมลิด้าตอบพลางสบัดหัวยกใหญ่
" โอเคๆ ข้ารู้แล้ว เจ้าหยุดสบัดหัวเถอะมันทำให้ข้าปวดหัว แล้วเมื่อกี้พวกเจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่านะ " จิมมี่ถาม
แทบไม่น่าเชื่อที่เมลิด้ากับ บีบี้ตอบพร้อมกันว่า "ไม่!! "
"แล้วเมื่อกี้เสียงใครละ" จิมมี่พูดเบาๆกับตัวเอง
"ข้าว่าเจ้าหิวจนเพี้ยนไปแล้วมากกว่านะเจ้าหนูน้อย " บีบี้พูดด้วยเสียงปนหัวเราะพร้อมยิ้มตรงมุมปากเหมือนหัวเราะเยาะเย้ยจิมมี่ในใจ
และถึงแม้นจิมมี่จะรู้ถึงความประสงค์ที่ไม่ดีนักของบีบี้ แต่จิมมี้ก็ไม่ว่าอะไรเพราะเหตุการณ์ตอนนี้ การไม่พูดอะไรดูเหมือนจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
" คิดอะไรอยู่หนูน้อย"
" เฮ้ย++! ใครนะ นั้นใครพูด " จิมมี่ตะโกนออกไปสุดเสียง ในขณะที่บีบี้และเมลิด้านั้นเดินห่างจากบีบี้ไปมากแล้ว เขาทั้งสองหันมามองทางจิมมี่ด้วยสายตาไม่น่าไว้ว่างใจเท่าไหร่นัก เขาคงคิดว่าจิมมี่คงหิวและเสียสติไปแล้วแน่ๆ
" อะ++ ไม่ต้องโวยวายไปเจ้าหนูน้อย ข้าเนี่ยละคนที่เจ้าตามหาไง" เสียงนั้นตอบกับมา
" คนที่ข้าตามหางั้นหรือ ? " จิมมี่พูดพลางหันไปมองรอบๆตัวเพื่อพยายามหาต้นตอของเสียงประหลาด
"ใช่ ก็เจ้ากำลังต้องการพบข้าอยู่ไม่ใช่หรอไง หนูน้อย" เสียงนั้นตอบด้วยน้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่เหมือนอยากจะยั่วโมโหจิมมี่
" คนที่ข้าหางั้นหรือ! แต่เฮ้ย!! ข้าไม่ได้ชื่อหนูน้อยนะ ข้าชื่อจิมมี่ " จิมมี่ยังคงตะโกนราวคนบ้าและหมุนไปรอบๆตัวราวกับลูกหมาที่ไล่ตามกระป๋องที่ผูกอยู่ที่หาง
"ใช่แล้วๆ คนที่เจ้าหานั้นละ ก็เจ้ากำลังหาใครอยู่ละหนูน้อย เอ้ย! ไม่ใช่ จิมมี่ " เสียงนั้นตอบมาปนกับเสียงหัวเราะ
" หรือ....ว่าท่านคือพระราชาแห่งเมืองขออะไรก็ได้??!!! " เสียงของจิมมี่นั้นฟังดูมีความหวังขึ้นมาทันทีทันใด
" อืมม อาจจะใช่ละมั้งละนะ " เสียงนั้นตอบกลับมา
"งั้นไงกันแน่ละ ท่านไปใคร " จิมมี่พูดตอนนี้เขาเริ่มมีน้ำโหขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว
"อ่าวๆๆๆอย่าเพิ่งโมโหหนูน้อย จริงข้าก็มองดูเจ้าจนเบื่อแล้วนะ เบื่อจริงๆเอาๆข้าจะบอกวิธีง่ายๆให้มาทีเมืองของข้าให้ดีกว่านะ เพราะหากเจ้าจะเดินไปคงต้องอดอาหารตายก่อนถึงเป็นแน่แท้เลยทีเดียว" เสียงนั้นตอบ
"วิธีง่ายๆ งั้นหรือ ทำยังไงละ" จิมมี่ถามตอนนี้เขาหยุดตะโกน และหยุดมองไปรอบตัวแล้ว เพราะเขามึนหัวเกินกว่าจะหมุนได้อีก
" ใช่ คำใบ้มีว่า ให้เถิดจงให้ในสิ่งที่ยากแก่การให้ เมื่อใดที่ดอกไม้แดงแย้มบาน แสงทองจะนำทางสู่นครแห่งความฝัน ข้าไปละนะแล้วเจอกันหนูน้อย เอ้ย ไม่ใช่ จิมมี่" สิ้นสุดเสียนั้นก็หายไป และไม่ว่าจิมมี่จะร้องตะโกนถามสิ่งใดก็ไม่มีเสียงใครตอบกับมาอีกเลย
จากคุณ :
หมากระป๋อง
- [
5 ม.ค. 46 12:02:17
A:203.149.35.30 X:
]