ความคิดเห็นที่ 1 ใช่แต่ข้าวคอยรอขอคลื่นฝน กบเขียดทนเหือดแล้งแห้งเหลือหลาย อีกขาดข้าวเปล่าท้องต้องตาลาย นิเวศน์หมายคล้ายให้จบครบวงจร ^-^ลองแจมนิดนึง จากคุณ : ไกลถิ่น - [ 8 ม.ค. 46 11:56:54 A:12.255.171.47 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 นิดหนึ่งก็ยังดีครับ...คุณไกลถิ่น จากคุณ : สดายุ - [ 8 ม.ค. 46 14:03:14 A:213.68.98.21 X:unknown, unknown ]

ความคิดเห็นที่ 3 ข้าวคอยฟ้าหลั่งน้ำตามาเป็นฝน ใจแสนหม่นทนเศร้าเหงาทรวงหา พิรุณเคยหยาดสายกลายลับลา อกชาวนาครวญพร่ำร่ำอาลัย แอบตามอ่านมาทุกกระทู้ แต่ไม่เคยลงชื่อไว้เลย คราวนี้เลยเข็นกลอนที่ไม่ค่อยได้เรื่องออกมาบ้าง  จะได้ขอลงชื่อเป็นกำลังใจให้ค่ะว่าชอบ  @^_^@ จากคุณ : ธราธร - [ 9 ม.ค. 46 03:45:34 A:194.80.32.12 X:10.38.47.73 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข็ญออกมาเถอะครับคุณ...ธราธร....จะอย่างไรก็ชื่นใจอยู่ครับ จากคุณ : สดายุ - [ 9 ม.ค. 46 07:24:29 A:213.68.98.21 X:unknown, unknown ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข้าวแล้งแตงชื่นกลับขื่นขม ข้าวซมซบอยู่เจ้ารู้ไหม ข้าวล่มน้ำเจิ่งท่วมทั่วไป ข้าวไทยนาล่มลงจมดิน ใช่แค่ว่านาแล้งแห้งเป็นผง นาที่ล่มน้ำท่วมร่วมหุบเขา น้ำลดข้าวหมดราคาใครทำเนา น้ำเข้าราคาตกแทบหมกดิน มีปัญหาน้ำ..นา..เวลาเก็บ รอยตะเข็บเก็บอยู่มิรู้หรือ ข้าวขึ้นศาลประจานคนจนร่ำลือ ใครจะถือสิทธิ์ข้าว"จัสมาตี้"ที่มีมา จากคุณ : มายา(ไร้ตัวตน) - [ 9 ม.ค. 46 16:50:26 A:203.149.40.58 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 นั่นสินะครับ....คุณมายา....แค่เรื่องข้าวอย่างเดียวก็แตกประเด็นเขียนได้มากมาย.....ทั้งด้านบวกและลบ....ยินดีที่ได้อ่านครับ จากคุณ : สดายุ - [ 10 ม.ค. 46 07:15:10 A:213.68.98.20 X:unknown, unknown ]

ความคิดเห็นที่ 7 ๐ สาดซัดเสียงซ่ากับห่าฝน ฝังหยาดหยดรดบนยอดหญ้า เหยียดใบไล้ไหวเอนไปมา เปียกชื้นเฉกเช่นว่าชะลารอย ๐ ล้านเม็ดสะเก็ดน้ำฉ่ำลึก ยอดหญ้าตรึกโน้น้าวเหงาหงอย จูบแก้มดินแดน ในดงดอย กระซิบค่อยค่อย ปลอบขวัญให้ฝันคืน ๐ เพื่อรออโณทัยในวันรุ่ง ตะวันพรุ่งเรืองรองคะนองผืน อาบฟ้าล้างหม่นกร้านเมื่อวานซืน กล่อมฝันตื่นชีวิตใหม่ในพิรุณ ไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไหร่ค่ะ แต่เมื่ออ่านบทกลอนของคุณสดายุแล้ว มือมันพาไปเรื่องฝนๆต่อค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก จากคุณ : ตะวัน - [ 13 ม.ค. 46 13:21:27 A:210.4.132.62 X:unknown ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยินดีมากครับคุณตะวัน....ที่ได้มีโอกาสอ่านบทกลอนด้วยกันครับ จากคุณ : สดายุ - [ 14 ม.ค. 46 07:19:54 A:213.68.98.21 X:unknown, unknown ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอแจมเรื่องข้าวๆ... ด้วยคนจ้า... เป็นกระดูกสันหลังจวนพังผุ อยู่ในกรุนิยายเศร้าให้เล่าขาน เป็นบุคคลข้นแค้นมาแสนนาน และจะผ่านไปอย่างนี้อีกกี่ยุค? เลี้ยงชาวโลก แต่โลกไม่แลเหลียว มือกำเคียวด้วยหัวใจไม่เคยสุข ทั้งหนี้สินท่วมท้นต้องทนทุกข์ อยู่ในคุกเขตคามแห่งความจน ผืนนาแล้งแห้งฝนพอทนได้ แต่คนแล้วน้ำใจให้หมองหม่น คนขายข้าว คนขายควาย คนขายคน ทนทุกข์ทนจนน้ำตาจะแห้งตา ต้องลงแรงจนแรงจะแห้งเหือด หรือจะต้องลงเลือดชโลมหล้า จึงจะได้ “ความเท่าเทียม” นั้นคืนมา สร้างคุณค่าชดเชยที่เคยรอ ท่านมีเงิน มีเกียรติ มีอำนาจ มีในสิ่งที่เขาขาดเสียทุกข้อ ท่านมีมากเท่าไร ไม่เคยพอ เขาทนท้อ น้อยเท่าไร ไม่เคยมี ยังคงเป็นนิยายเศร้าให้เล่าซ้ำ ถูกเหยียบย่ำหยามหมิ่นสิ้นศักดิ์ศรี ทำความดีแต่ต้อยต่ำไร้ความดี หรือว่าข้าวที่ปลูกนี้ ไม่มียาง จากคุณ : Pen (จันทร์เพ็ญ จันทนา) - [ 18 ม.ค. 46 19:43:22 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อีกสักบท...อิๆๆ ลมหนาวโชยโรยตัวกลั้วรวงข้าว เม็ดเหลืองพราวน้าวไกวลมไล้หวน ช่ออ่อนโอนโงนเงนเอนลู่ทวน ไหวกระเพื่อมเหลื่อมรวนม้วนใบเรียว เสียงไก่ป่าพาขันกันเจื้อยแจ้ว จากริมแถวแนวป่าพนาเขียว ปลุกหนุ่มสาวก้าวจับขยับเคียว ร่วมแรงเหนี่ยวเกี่ยวข้าวแต่เช้าวัน ลมกรูเกรียวเรียวข้าวก็พราวไหว เลื่อมลามไหลไกวผืนเป็นคลื่นขั้น โอบสาวหนุ่มกุมเคียวเหนี่ยวรวงกัน ร่วมแรงปันมั่นตัดตวัดพวง ข้าวสุมกองท้องนาท้าลมหนาว ฟางปลิวว่อนร่อนหาวคราวลมล่วง โบกกระจายชายแนวผะแผ่วควง และโชยพ่วงรวงฟางหล่นพร่างพา ควันฟืนคล้อยลอยเย้าเคล้ายอดไม้ กรุ่นกลิ่นไอไล้ลมบ่มทวนหา กระท่อมหลังตั้งเอียงอยู่เถียงนา เป็นเวลามาพร้อมนั่งล้อมวง ชายป่าลั่นสั่นเสียงเรียงร้องขรม หริ่งระงมบ่มทุ่งให้มุ่งหลง คีตะไพรไล้ล้อมคอยกล่อมดง หึ่งหึ่งพงส่งเพลงบรรเลงดัง จากคุณ : สดายุ - [ 21 ม.ค. 46 09:06:33 A:213.68.98.21 X:unknown, unknown ]