Jimmy และ เมืองขออะไรก็ได้ ( ตอนที่4 เสียง) Part2

             จิมมี่ยังไม่ค่อยเข้าใจกับคำใบ้เท่าไหร่จริงๆเขาก็ยังไม่เข้าใจอะไรเลยทั้งคำใบ้ในขวดและคำใบ้ที่เพิ่งได้มา มันอาจจะยากเกินไปสักหน่อยสำหรับเด็กชายวัยแปดขวบเศษอย่างเขา แต่เอาเถอะทุกอย่างคงจะดีขึ้นแน่ ทุกปัญหาย่อมมีทางออกนั้นคือคำที่พ่อของเค้าพูดให้ฟังอยู่เสมอ แต่ตอนนี้เขาเองควรจะรีบเดินเสียหน่อยเพราะเมลิด้ากับบีบี้นั้นเดินนำหน้าไปไกลแล้ว

        " เฮ้ย!!!!!!! หลบหน่อยๆๆๆๆ หลบหน่อยๆๆๆๆๆๆๆ"      BOMMMMMMMMMMMM!!!เสียงซนกันอย่างแรงดังลั่นไปทั่วพืนป่า
        " โอ๊ย !...ไอ้เด็กบ้า เอ็งเล่นอะไรของเอ็งเนี่ย " บีบี้ร้องบ่นด้วยความเจ็บปวด
        " นั้นสิจิมมี่ นี้นายทำอะไรของนายนะ" เมลิด้าร้องบอกดูเหมือนว่างานนี้เขาจะเจ็บกว่าใครเพื่อน   ตอนนี้คุณผู้อ่านคงสงสัยละสิว่าเกิดอะไรขึ้น  เราจะมาย่อนดูเหตุการณ์เมื่อตะกี้กันอีกที
    <<<< Replay <<<<<  ขณะที่จิมมี่กำลังพยายามวิ่งไล่ตามบีบี้และเมลิด้าที่เดินไปไกลแล้วอยู่นั้น แต่ทว่า บีบี้และเมลิด้าเกิดพบบางอย่างที่น่าสนใจระหว่างทางทั้งสองจึงหยุดดู
             สวนทางจิมมี่ที่พยายามก้มหน้าก้มตาวิ่งอย่างไม่เห็นหูเห็นหางนั้นก็วิ่งมาด้วยความเร็วอย่างเต็มกำลัง พุงเข้าชนเจ้าลาน้อยและบีบี้เข้าเต็มแรงอัตราปานจรวดพุงเข้าหาเป้าหมาย แน่นอนว่าบีบี้และเมลิด้าที่ยืนดูสิ่งที่เพิ่งพบอย่างสนอกสนใจ ไม่ได้สังเกตเห็นจิมมี่ที่วิ่งมาเลย
             โลกหมุนๆๆๆติ่วๆๆๆๆไปหมดมีบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาทั้งหมดนอนลงไปกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่าเลยทีเดียว
        " โอ๊ย++! ทำไมอยู่ๆก็หยุดกันอย่างนี้ละครับ " จิมมี่พูดพลางเอามือลูบก้นที่ปวดระบม
        "เอ็งนะสิไอ้เด็กบ้า วิ่งมาได้ไม่ดูตาม้าตาเรือ ชนข้าสะเต็มแรง อู๊ยย!!!ไม่สงสารภูตแก่ๆอย่างข้าบางเลย อู๊ยยย...อู๊ยย..ข้าจะกระดูกหักไหมนี้ อู๊ยยยย...ตายๆๆ อู๊ย.." บีบี้พูดแล้วก็ค่อยๆบินสูงขึ้นอย่างโซซัดโซเซ พลางเอามือปัดเนื้อปัดตัวที่เต็มไปด้วยฝุ่นดิน
             จิมมี่ค่อยๆลุกขึ้นยื่นอย่างช้าๆ ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า " แล้วเมื่อกี้หยุดดูอะไรกันอยู่หรือครับ " แล้วก็เอามือปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าและผม
        " อะ อะ อะ เออ... ดะ ดะ ดะ ดู ตะตะตัว ทะทิว ทิวครับ " ---เมลิด้าพูดอย่างตะกุกตะกัก
        " ตะตะแต่จะแต่จิมมี่ช่วยดึงผมขึ้นหน่อยได้ไหมครับ คือผมลุกไม่ไหวแล้ว"
        " อ่าว....ขอโทษเมลิด้า เป็นไงๆเจ็บมากไหม มามาลุกขึ้นๆ " --จิมมี่พูดพลางยื่นมือสองข้างไปช่วยพยุงตัวเมลิด้าให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ--- " แต่เมื่อกี้มันตัวอะไรนะ ตัวทิว ทิว งั้นหรอ? มันคือตัวอะไรงั้นหรอตัวทิวๆเนี่ย ?" จิมมี่ถาม
        " ตัวทิวทิว คือสัตว์ชนิดเดียวที่สามารถอาศัยอยู่ในป่าสีส้มได้ครับ แต่ปกติเราจะไม่เห็นมันบ่อยนักหรอกครับ " เมลิด้าอธิบาย
        " ข้าว่าพวกเราเดินทางกันเลยดีกว่า ก่อนที่อะไรๆ มันจะช้าไปกว่านี้ และ เราอาจจะตาย เพราะอดอาหาร  หากงานนี้ข้าตายละก็คงไม่ต้องพูดหรอกนะว่ามันเป็นความผิดของใคร ? " บีบี้พูดพลางชำเลืองสายตามาทางจิมมี่ เหมือนตอกย่ำว่าการตัดสินใจยกผลเมเบิลลิงให้ทริปปี้นั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาด

        " แต่ว่าตัวทิวทิว ตัวนี้มันได้รับบาดเจ็บนะครับคุณบีบี้ " เมลิด้าร้องถามด้วยสีหน้าอ้อนวอนขอความเห็นใจจากบีบี้ แทนตัวทิวทิวที่กำลังบาดเจ็บอยู่
        "ไม่เราจะไม่ช่วยมัน " บีบี้ยังคงยืนยันคำตอบเดิม
        " ทำไม " จิมมี่ถาม พลางมองไปทางบีบี้ด้วยสายตาเย็นชา และตำหนิในความใจร้ายของบีบี้
        "เจ้าคงไม่รู้สินะว่า ป่าสีส้มนะโหดร้ายขนาดไหน และในเมื่อป่านี้นะมันโหดร้าย สิ่งมีชีวิตที่สามารถอาศัยอยู่ในป่านี้ได้ก็ต้องโหดร้ายไม่แพ้กัน ถ้าเจ้าไม่อยากเดือดร้อนมากไปกว่านี้ข้าว่าเจ้าอย่าไปยุ่งกับมันจะดีกว่า" บีบี้พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก ไม่แปลกที่เจ้าภูตจิ๋วจะไม่พอใจ เพราะหากออกจากป่าสีส้มช้าละก็พวกเขาทั้งหมดอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต และการนำตัวทิวทิวที่บาดเจ็บเดินทางไปด้วยในขณะที่ไม่มีสะเบียงอาหารนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย  ในการเดินทางที่มีปัญหามากพออยู่แล้ว  ในความคิดของบีบี้
             ตัวทิวทิวนี้มีลักษณะคล้ายกับเห็ดสูงราวๆ1ขอศอกแบ่งออกเป็น2ส่วนคือ หัวกับลำตัว
    ส่วนหัวนั้นเป็นวงกลมเหมือนลูกบอลสีชมพูสด ส่วนลำตัวนั้นเป็นสีขาวมีขาและแขนสั้นๆ 2 ขา  2  แขนเหมือนคน แต่รายละเอียดเกี่ยวกับอุปนิสัย ความประพฤติ และความเป็นอยู่การดำรงชีวิตนั้นเป็นปริศนา สำหรับตัวทิวทิวที่ได้รับบาดเจ็บนี้ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากจุดที่พวกจิมมี่กำลังสนทานกันอยู่ มันนอนเจ็บอยู่ข้างพุ่มไม้ริมทางเดินที่เหยียดยาว
        " เราจะทำเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ไม่ได้นะบีบี้ท่านก็เห็นว่าเขากำลังต้องการความช่วยเหลือจากเรา "  จิมมี่ทักท้วง
        "ไม่ๆๆๆๆๆ ให้ตายเถิดจิมมี่ ให้ข้าตายเสียตรงนี้ยังดีกว่า ได้โปรดเถิดเจ้าอย่าทำอะไรให้ข้าจะต้องเดือดร้อนไปมากกว่านี้เลย โอ้พระเจ้า โอ้แม่น้ำ โอ้สายฝน สายลม แสงแดด นกน้อย แมลงปอ ฝีเสื้อ เรือบิน โอ้พระผู้เป็นเจ้า จิมมี่ได้โปรดเถิดแค่นี้เราก็มีเรื่องวุ่นวายมากพออยู่แล้ว" บีบี้พูดไปพลางบินวนไปวนมาเหมือนพยายามอ้อนวอนขอความเห็นใจจากจิมมี่
             แต่น่าเสัยดายที่ทุกอย่างมันไม่เป็นแบบนั้นเพราะคำตอบยังคงเป็นเหมือนเดิมคือ "ไม่ "
    ดังนั้นไม่ว่าจะเห็นแก่แสงดาว แสงตะวัน ก็คงไม่อาจจะเปลี่ยนความคิดใดๆของจิมมี่ได้ ดังนั้นทั้งหมดจึงออกเดินทางไปด้วยกัน คือจิมมี่ เมลิด้า บิบี้ และ ตัวทิวทิว
         " ชะดะปิ โชดะบิ โฮดาบานุ อะราซาอุ มะดุดานุ คาลามุ คุรุหุรุ สาราหุรุ อาอาอาดานานุ " ตัวทิวๆกล่าว
         "สาแระๆ อาดาหิ" เมลิด้า ตอบ
    (** ภาษาข้างบนนนี้คือภาษา ณ ป่าสีส้ม จะมีเพียงคนภายในป่าแห่งการจากไปเท่านั้น ที่จะสามารถพูดได้แต่ไม่เป็นที่นิยมใช้กันนัก )
         "เจ้าพูดอะไรกันหรือ เมลิด้า " จิมมี้ถามขณะที่บีบี้นั้นบินห่างออกจากกลุ่มไปไกลแล้ว
         " ทิวทิว เขากล่าวขอบคุณที่ท่านช่วยเค้าไว้นะจิมมี่ " เมลิด้าตอบ
         "ผม อยากพูดกับเค้าบ้างจัง เจ้าสอนเราได้ไหมเมลิด้า " จิมมี้ถามพลางมองไปทางเมลิด้าด้วยสายตาอ้อนวอน
         "ได้สิ " เมลิด้าตอบก่อนจะหันไปคุยกับ ทิวๆต่อ" ซาราดานุ อเรดานุ จามี่ คุรุ บาราบารา " (แปล  จิมมี่บอกว่า เค้าอยากคุยกับท่าน )
         " ซาราหุแระ โฮหาดาหิ มาคามาหา หุรุดาหา "(แปล: เราก็อยากคุยกับเค้าเช่นกัน) ทิวๆตอบ
            ทั้งหมดออกเดินทางไปด้วยกัน เสียงพูดจาก ภาษา ณ ป่าสีส้มดังระงมในความเงียบสงัดของป่า
         "ชารุ ราหาดาหาบาริ  --ซารุราหาดาหาบาริ  --ซารุราหาดาหาบาริ "
         " โอ๊ย เจ้าหนูนั่นจะขยันท่องไปถึงไหนนะ เพราะเจ้าตัวเดียวเลยเมลิด้า ไปสอนภาษา ณ ป่าสีส้มให้เจ้าเด็กตัวยุ่ง" บีบี้พูดขณะที่ทั้งสีกำลังเดินทางพา ตัวทิวๆไปยังทะเลสาบน้ำสีรุ้ง
         " เอาเถิดท่านภูต ท่านน่าจะใจเย็นลงเสียหน่อย ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี ผมเชื่อเช่นนั้น" เมลิด้าตอบ นี้อาจเป็นครั้งแรกที่เมลิด้าพูดจาด้วยน้ำเสียจริงจัง
    มาลิด้าเดินทางคู่มากับบีบี้ที่บินอยู่บนฟ้าสูงเหนือขึ้นไปไม่มากนัก และจิมมี่ที่แบกทิวๆไว้ข้างหลังและพยายามที่จะเรียนรู้ภาษา ณ ป่าสีส้มจากเค้า.......

    จากคุณ : หมากระป๋อง - [ 8 ม.ค. 46 22:34:42 A:203.149.38.121 X: ]