เรื่องของรองเท้า( ? )

    รองเท้า ?

    รองเท้าไม้ลืมตาดูโลกในร้านของช่างทำรองเท้าคนหนึ่ง
    ขณะที่มันเกิด  ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดใส  แสงแดดอันอบอุ่นของแสงสีทองสาดส่องลงมา  และชายหนุ่มช่างทำ
    รองเท้าก็ฮัมเพลงอย่างเป็นสุขใจ  ขณะเคลือบผิวรองเท้าให้มันวาวด้วยแลกเกอร์

    เดิมทีชายหนุ่มคิดจะแต่งแต้มสีสันรองเท้าไม้ให้มีสีเหลืองเฉกเช่นดอกทานตะวัน  หรือไม่ก็สีครามเหมือนดั่งผืนทะเล หรือบางทีอาจเป็นสีเขียวประดุจใบหญ้า
    ครั้นแล้วเขาก็ลงมือทาสีให้แก่รองเท้าไม้คู่นั้น  แต่ปรากฏว่าไม่มีสีใดเลยที่จะทำให้รองเท้าไม้คู่นั้นสวยงามได้เท่าสีของเนื้อไม้ที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้าง

    เขาจึงลบสีเหล่านั้นออกด้วยกระดาษทราย  และปล่อยให้รองเท้าไม้เป็นสีของเนื้อไม้อย่างที่มันเป็นมาตั้งแต่ต้น
    รองเท้าไม้สีเนื้อไม้ถูกนำมาวางขายในตู้กระจกหน้าร้าน ผู้คนผ่านไปมา ต่างหยุดเพื่อชื่นชมความสวยงามของมัน  หนึ่งในบรรดาผู้คนเหล่านั้น  มีเด็กหญิงคนหนึ่งรวมอยู่ด้วย  เธอเป็นลูกสาวของชาวสวนคู่หนึ่ง ซึ่งปลูกผักบนผืนดินแปลงน้อยให้แก่พ่อค้าในเมือง  เด็กหญิงอยากได้รองเท้าไม้คู่นั้น  แต่เธอรู้ว่าพ่อแม่ของเธอไม่มีเงินทองเหลือพอที่จะซื้อรองเท้าคู่นั้นให้เธอได้หรอก  รองเท้าที่เธอสวมอยู่นั้นก็เป็นของพี่สาวของเธอซึ่งก็ได้รับตกทอดมาจากพี่สาวคนโตอีกที  เธอจึงได้แต่เฝ้ามองอยู่หน้าร้านของช่างทำรองเท้าทุกครั้งที่เธอผ่าน

    รองเท้าไม้คู่นั้นอยู่ในร้านของช่างทำรองเท้าไม่นาน  ก็มีชายชราผู้หนึ่งมาซื้อไป  “รองเท้าไม้แสนสวยเช่นนี้แหละที่ฉันตามหามานาน”  ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงดังกังวาล  เขาถือรองเท้าไม้ออกจากร้านไปยังบ้านของเขา  ตลอดระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก  รองเท้านึกแปลกใจและสงสัยที่ชายชราผู้นี้ไม่ลองสวมเธอก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ  “แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรเล่า ว่าจะสวมฉันได้พอดีหรือไม่”

    “ดูสิ ช่างเป็นรองเท้าไม้ที่สวยงามจริงๆ”  ผู้คนที่อยู่ในบ้านของชายชราร้องบอกต่อๆ กัน ขณะที่ชายชราเข้าไปในบ้านของเขา เขานำเธอไปจัดวางอย่างสวยงามไว้บนโต๊ะมุมหนึ่งซึ่งมีแสงไฟสีอำพันสาดส่องลงมาทำให้รองเท้าไม้แลดูสวยสง่ากว่าเดิมยิ่งนัก  มันหันมองดูรอบๆ ตัว  บ้านของชายชราเต็มไปด้วยของประดับตกแต่งมากมายหลายรูปแบบจากทั่วทุกมุมโลก  นี่คงเป็นคำตอบของสิ่งที่รองเท้าไม้สงสัยมาตลอดทางก็เป็นได้  นอกจากนี้บ้านของชายชรายังมีโต๊ะและเก้าอี้จำนวนมาก  มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาในบ้านของเขา  บ้างก็มาเป็นคู่ - - ชายหนุ่มและหญิงสาว บ้างก็มากันเป็นกลุ่ม  บ้างก็มาเพียงคนเดียว  ผู้คนเหล่านั้นเข้ามารับประทานอาหารในบ้านของชายชรา  เมื่ออิ่มท้องก็จากไป

    วันหนึ่งรองเท้าไม้เห็นเศรษฐีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งเข้ามาคุยกับชายชรา  เศรษฐีชี้มือมาที่มัน  มันเห็นชายชราส่ายหน้า  และโบกไม้โบกมือเหมือนว่ากำลังปฏิเสธบางสิ่งบางอย่างอย่าง  เศรษฐีควักเงินออกมาให้ชายชรา แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธเช่นเดิม  รองเท้าไม้เริ่มสงสัยว่าบางทีเศรษฐีอาจมาขอซื้อตัวมันจากชายชราก็เป็นได้ มันเห็นเศรษฐีควักเงินออกมาเรื่อยๆ  จนในทีสุดชายชราก็พายแพ้ให้กับอำนาจของเงินและกิเลสในตนเอง  เขายอมรับเงินจากเศรษฐีและเข้าไปหยิบรองเท้าไม้มามอบให้เศรษฐี  รองเท้าไม้คิดอยู่ในใจว่า ต่อไปนี้คงจะมีใครซักคนมาสวมใส่มันเหมือนเช่นรองเท้าคู่อื่นๆ  

    มันถูกบรรจุลงในกล่องของขวัญผูกโบว์สีแดง  เศรษฐีตั้งใจจะนำของขวัญชิ้นนี้ไปให้กับลูกสาวของตน ลูกสาวของเศรษฐีเปิดกล่องของขวัญออกดูด้วยความตื่นเต้น  เธอมองดูรองเท้าไม้ด้วยความยินดีและชื่นชนมันไม่ขาดปาก  แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยคิดที่จะนำมันมาสวมใส่เลย  รองเท้าไม้ถูกเก็บให้อยู่ในกล่องของขวัญใบเดิม  เวลาผ่านไปลูกสาวของเศรษฐีเติบโตเป็นสาวแรกรุ่น  เธอลืมรองเท้าไม้ที่อยู่ในกล่องไปเสียแล้ว กล่องใบนั้นกลายเป็นเพียงของชิ้นหนึ่งซึ่งไม่มีค่าและถูกทิ้งไปในที่สุด

    นั่นเป็นครั้งแรกของรองเท้าไม้ที่ถูกขว้างทิ้งอย่างไม่ใยดี  แต่มันกลับดีใจเสียอีกที่ได้ออกมาจากกล่องอันแสนเหม็นอับและอุดอู้ใบนั้น  และมันยังคงหวังว่าจะมีใครซักคนมาสวมใส่มันให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นรองเท้า ก่อนที่มันจะกลายเป็นเพียงซากไม้ที่ไร้ค่า

    วันเวลาล่วงเลยผันผ่านไป  กี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี  ไม่มีใครจดจำ  รองเท้าไม้ถูกทิ้งให้นอนจมอยู่ในกองโคลนข้างถังขยะ  มันนอนตากแดดกล้าอันร้อนแรง ตากพายุฝนกระหน่ำ ตากลมหนาวที่พัดผ่าน  ไม่มีผู้คนสนใจมันอีกต่อไป  ไม่มีใครจำได้ว่ามันคือรองเท้าแสนสวยงามซึ่งครั้งหนึ่งเคยอวดโฉมอยู่ในร้านของช่างทำรองเท้า  ไม่มีใครจำได้ว่ามันคือรองเท้าแสนสวยงามซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีแสงไฟสาดส่องในร้านอาหารของชายชรา   และไม่มีใครจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยให้หรือเคยได้รับรองเท้าไม้แสนสวยคู่นี้เป็นของขวัญ

    จนกระทั่งวันหนึ่งมีฝนตกลงมาชั่วครู่  สายฝนได้ชำระล้างคราบโคลนสกปรกออกจากรองเท้าไม้คู่นั้น  เผยให้เห็นความสวยงามที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลาของรองเท้าไม้อีกครั้งหนึ่ง  แม้ว่าจะไม่สวยงามเท่ากับตอนที่มันอยู่ในร้านของช่างทำรองเท้าก็ตามที  วันนั้นเองที่เด็กสาวเดินผ่านมาเห็นมันเข้า  เด็กสาวซึ่งครั้งหนึ่งเคยเฝ้ามองรองเท้าไม้อยู่หน้าร้านของช่างทำรองเท้าทุกครั้งที่เธอเดินผ่าน

    เธอนำรองเท้าไม้คู่นั้นกลับไปยังบ้านของเธอ  และซ่อมแซมทำความสะอาดมันเท่าที่มืออันอ่อนนุ่มของเธอจะทำได้  จนมันกลับมาสวยงามอีกครั้งหนึ่ง  เมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็ก  เธอเคยวาดฝันไว้ว่าหากเธอได้รองเท้าไม้คู่นี้มา  เธอจะสวมใส่มันเดินชมดอกไม้ในสวนทุกๆ วัน  
    บัดนี้ฝันของเธอได้กลายเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เธอค่อยๆ บรรจงสวมรองเท้าไม้  และเดินท่องไปในสวน ไออุ่นจากฝ่าเท้าที่กำลังสวมใส่มันอยู่ทำให้รองเท้าไม้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง  โลกยังคงสวยงามเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนที่มันเกิด  ท้องฟ้ายังคงเป็นสีฟ้าสดใส  ลำแสงสีทองอันอบอุ่นลอดผ่านหมู่เมฆสาดส่องลงมาบนพื้นหญ้าเขียวขจี  หมู่นกต่างส่งเสียงร้องขับขาน  ผีเสื้อบินล้อกับดอกไม้ ท่ามกลางสายลมพัดเอื่อย

    ในขณะที่รองเท้าไม้กำลังจะกลายเป็นเพียงซากไม้ที่ไร้ค่าอยู่ใต้โคลนตม  ก็มีมืออันอ่อนโยนมาช่วยไว้ได้อย่างทันท่วงที  วันนี้รองเท้าไม้ได้เป็นในสิ่งที่มันปรารถนาอยากที่จะเป็นมานานแสนนาน  ตราบใดที่เด็กสาวยังคงสวมมันอยู่  มันก็จะเป็นรองเท้าอย่างแท้จริง

    จากคุณ : phoenix_b@chaiyo.com - [ 14 ม.ค. 46 09:17:44 A:203.185.80.14 X:10.0.1.41, 203.185.99.210 ]