เสียดายเนอะ ที่มีเวลาแค่คืนนี้เอง พรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปทำงานแล้ว เสียงเก๋บ่นเบาๆอยู่หน้าเตาบาร์บีคิว ทำเอาเหมียวซึมไปเหมือนกัน
อือ... นั่นนะสิ... นึกๆแล้วคิดถึงตอนเรียนอยู่เนอะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้เลย หญิงสาวมองแขนเล็กๆของตัวเอง ก่อนจะมองแขนอีกฝ่ายที่ผอมกว่าเสียอีก
เก๋ผอมตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว นี่ยิ่งผอมไปอีก งานหนักเหรอ เก๋มองไปทางเพื่อนๆที่นั่งเฮฮากันอยู่ที่โต๊ะ ก่อนจะยิ้ม
ก็ได้หนักน้อยไปกว่าพวกนั้นหรอก... ว่าแต่เหมียวเหอะ เป็นไงบ้าง หญิงสาวถอนหายใจเบาๆอย่างรู้ดีว่าอีกฝ่ายถามถึงเรื่องอะไร
ก็ไม่รู้สิ ตอนแรกเหมือนกับว่าจะเสียใจมาก....ก แต่ว่าพอผ่านไปสักพัก เหมือนโล่งใจมากกว่าน่ะ สองสาวมองหญิงสาวอีกสามคนที่ทยอยเดินเข้ามาคุยด้วย โดยมีสองหนุ่มนั่งดื่มกันเงียบๆอย่างรู้หน้าที่
แปลว่าอะไรว่ะ กุ้งยื่นแก้วน้ำส่งให้ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ
ก็แปลว่า เราเพิ่งจะรู้ตัวว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้รักพี่ชาติเลยน่ะ เพียงแต่ว่าพอคบกันไป เราก็เลยปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้นเรื่อยๆ นี่ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้น ถ้าเค้าขอแต่งงานก็คงแต่งไปแล้วมั๊ง
แสดงว่าตอนนี้ไม่เสียใจแล้วสิ เหมียวมองแป๋วที่ถามก่อนจะยิ้มให้
อือ... คงงั๊นมั๊ง เสียงเล็กๆตอบ ก่อนที่จะนิ่งไป เมื่ออีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม
แล้วตอนนี้เสียใจ เรื่องนั้น ไม๊ คราวนี้ทั้งวงเงียบกริบหันมามองทั้งคนถาม และคนถูกถามตาค้าง
ไอ้แป๋ว... เมาเปล่าว่ะ
เหมียวยิ้มเศร้าๆกับคำถามนั้น
ไม่รู้สิ เราคิดมาตลอดแหละ แม้กระทั่งตอนที่เลือกพี่ชาติ ว่าเราทำถูกไม๊
เฮ้อ... เรื่องรักนี่พูดยากจริงๆเลยนะ มันมักจะมาผิดจังหวะเสียทุกทีไป ปุ้ยเปรยออกมาเบาๆ ก่อนที่จะหัวเราะร่า
จริงๆเป็นสาวโสดอย่างเราก็ดีเนอะ ไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องพวกนี้ เหมียวหันไปยิ้มกับปุ้ยจนตาหยี
ก็ปุ้ยไม่ยอมเลือกใครนี่นา
คราวนี้แกก็ลองคิดใหม่สิ... แล้วเลือกใหม่ ตอนนี้ก็โตๆกันแล้ว อาจจะคิดอะไรดีๆออกก็ได้ หญิงสาวมองปุ้นที่พยักเพยิดไปยัง อีกคน ที่นั่งคุยกับเพื่อนอยู่เงียบๆ
ตั้งแต่คราวนั้น ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเลย เหมียวมองตามไปยังคนที่คุ้นตา ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
ไม่รู้สิ ตอนนี้มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกมั๊ง
~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~
เหมียวนั่งทอดสายตาไปในความมืดของทะเลยามค่ำ เสียงหัวเราะที่ดังมาเป็นระยะจากบนตัวบ้านทำให้อดนึกถึงที่แห่งนี้ เมื่อสี่ห้าปีก่อนไม่ได้
ตอนนั้น หล่อนยังเป็นเพียงนักศึกษาชั้นปีที่สอง และในปีนั้น เป็นปีที่พวกหล่อนต้องเป็นแม่งานเรื่องการรับน้องทั้งหมด และแน่นอนว่าสถานที่ยอดฮิตก็คงไม่พ้นทะเล...
ยังจำได้ว่ากว่าจะออกรถกันได้ ก็เรียกได้ว่าจับปูใส่กระด้ง แล้วปัญหาก็ไม่ได้เกิดจากเฟรชชี่ ที่ยังเป็นเด็กหน้าใส ไม่ได้มีปากมีเสียงอะไร แค่การได้ไปเที่ยวก็ดีใจกันแล้ว แต่ปัญหามันเกิดจากพวกซีเนียร์ทั้งหลายที่มักจะคิดว่าตัวเอง เจ๋ง แล้ว
นี่จะตีหนึ่งแล้ว เสด็จมากันครบหรือยังเนี่ย ปุ้ยที่นั่งพัดยุงอย่างเซ็งๆ อดถามออกมาไม่ได้ หลังจากเลยเวลานัด สิบเอ็ดโมงครึ่ง มาพักใหญ่ๆ
แป๋วมองไปมองมา ก่อนจะรับน้ำจากมือก้องที่นั่งพัดให้มาดื่ม แล้วยักไหล่เหมือนไม่รู้จะทำอย่างไร
ก็มีพี่อีกกลุ่มนึงมายังไม่ครบน่ะ เสียงเก๋บอกอย่างเซ็งไม่แพ้กัน
เหมียวได้แต่มองเพื่อนๆอย่างขำๆ
ก็จะหงุดหงิดไปทำไม... รอได้ก็รอ... รอไม่ได้ก็ทิ้งเอาไว้นี่แหละ
ก็อยากทำอยู่หรอก... แต่แกกล้าเหรอไอ้เหมียว กุ้งถามอย่างขำๆกับคำพูดที่ฟังดูดุเดือดของสาวน้อยตรงหน้า
ทำไมล่ะ... เวลานัดก็บอกอยู่ชัดๆ ถ้ามาสายแปลว่าไม่อยากมา... เป็นเราออกรถไปตั้งแต่สิบเอ็ดโมงสี่สิบห้าแล้ว... ตอนนี้ก็เหมือนกัน ถ้าจะไปกัน เราจะไปบอกคนรถให้ เหมียวตั้งท่าจะลุกไปจริงๆ หากแต่พอดีซีเนียร์กลุ่มที่รออยู่กำลังเดินทางมาถึง
ไม่มีคำขอโทษ หรือคำอธิบายใดๆของการมาสายในครั้งนี้ ทั้งหมดได้แต่ขึ้นรถไปเงียบ เสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตลอดทางพี่ ซีเนียร์ กลุ่มนี้และเพื่อน ดื่มกันไปตลอดทาง ส่งเสียงเอะอะโวยวาย สร้างความกังวลให้กับคณะผู้จัดงาน นั่นคือชั้นปีของหล่อนโดยถ้วนหน้า
น้องๆเฟรชชี่ผู้หญิงได้แต่นั่งเงียบ และพยายามที่จะหลับ หากแต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เหมียวได้แต่ปลอบใจน้องผู้หญิงบางคนที่เริ่มจะร้องไห้อย่าง ไม่สนุก แล้ว ขณะที่หนุ่มและเพื่อนผู้ชายหลายคนผลัดกันไป ขอร้อง กันดีๆ ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นัก จนเพื่อนผู้ชายของหล่อนหลายคน ต้องคอยนั่งกั้นระหว่าหลังรถและหน้ารถ เพื่อไม่ให้หลายคนที่เริ่มไม่ได้สติ ก้าวล้ำเส้นเข้ามาก่อกวนน้องๆที่นั่งกันอยู่ด้านหน้า
จุดแตกหักของเรื่องมาถึง เมื่อรถเข้าที่พัก และมีซีเนียร์ กับ เพื่อนซีเนียร์บางคนเมาจนไม่ได้สติ และส่งเสียงเอะอะจนกระทั่ง ปุ้ยและกุ้งต้องเข้าไปเจรจากับเจ้าของที่พัก
เสียง โวยที่ดังลั่นอย่างไม่เกรงใจใคร ทำให้ทั้งเหมียวและแป๋วหมดความอดทน
หญิงสาวประกาศกร้าวต่อหน้าทั้งสี่ชั้นปีว่าไม่อนุญาตให้ เพื่อนซีเนียร์ เข้าพักในที่พักที่จัดเตรียมไว้ เนื่องจากเป็น คนนอก ที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของหลายๆคน
เหมียวเดินหันหลังกลับโดยไม่สนใจสายตานับสิบๆคู่ที่มองตาม พร้อมทั้งหันไปบอกพนักงานรักษาความปลอดภัยของรีสอร์ทถึงรายชื่อของคนทั้งหกคนที่มิได้รวมอยู่ในกลุ่มของบ้านพัก ก่อนที่ทั้งหล่อน แป๋วและก้อง จะเดินเลี่ยงไปทางบ้านพักของสต๊าฟอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น
ขณะที่หล่อนกำลังจัดเตรียมชุดปฐมพยาบาลสำหรับเช้าวันใหม่ที่จะมาถึงในอีกสองสามชั่วโมงข้างหน้า เสียงเคาะประตูห้องหล่อนก็ดังขึ้น
เดี๋ยวเหมียวไปเปิดเอง หล่อนบอกแป๋วที่สาละวนอยู่ไม่แพ้กัน
หญิงสาวเปิดประตูก่อนจะพบตัวแทนพี่ซีเนียร์สองสามคนที่มา เจรจา ด้วย โดยมีแป๋ว ก้อง และหนุ่มออกมาร่วมรับรู้
พี่รู้สึกว่าเหมียวกับแป๋วทำไม่ถูก พี่ซีเนียร์ชายร่างใหญ่เริ่มต้นด้วยประโยคที่หล่อนฟังแล้วดูเหมือนกล่าวโทษปนข่มขู่อย่างไรบอกไม่ถูก
เพื่อนพี่มากับพวกเรา พี่ก็อยากให้เราต้อนรับเหมือนเขาเป็นแขก ไม่ใช่ให้ไล่ไปอย่างนี้ หญิงสาวยังคงเงียบ ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดต่อ
เราทำอย่างนี้ รู้ไม๊ว่าพี่เสียหน้าแค่ไหน คนตัวเล็กยิ้มหวานให้คนตรงหน้า ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
พี่พูดพอหรือยังคะ ถ้ายังไม่พอก็ควรพอได้แล้ว ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันหายอึ้ง เสียงใสๆก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงไพเราะหากหนักแน่น
งานนี้เป็นงานภายใน ซึ่งพวกหนูก็บอกไว้ชัดเจนแล้วว่า...ปีนี้... เราไม่ต้อนรับคนนอก... เพราะมักจะมีปัญหาแบบนี้อยู่ทุกครั้ง หญิงสาวนิ่งสักครู่ เงยหน้ามองคนที่มีท่าที สร่างอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเอ่ยต่อ
พี่ก็ยังพา เพื่อน พี่มา แล้วยังไม่มาธรรมดา แต่ยังมาสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเราโดยถ้วนหน้า หญิงสาวยิ้มให้คนตรงหน้า
ถ้าน้องสาวพี่ไปรับน้อง แล้วต้องมาเจอสภาพเมาเหมือน... อะไรดี... แบบนี้ พี่คิดว่าพี่จะทำอย่างไรคะ คนพูดพยายามกล้ำกลืนคำหยาบคายที่ดูเหมือนจะพยายามหลุดออกมาจากปากอย่างยากเย็น
คราวนี้พี่ซีเนียร์ถึงกับตาถลน เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัด หลังจากที่ยืนอึ้งมานาน คนที่ตัวโตกว่าเกือบเท่า ตะคอกคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่สะทกสะท้าน
ถ้าอย่างนี้ซีเนียริตี้จะมีไว้ทำไม หนุ่มที่เป็นฝ่ายรอมชอม และแก้ปัญหาต่างๆเงียบๆมานานเป็นฝ่ายตอบเองด้วยน้ำเสียงสุภาพ หากหนักแน่น
ซีเนียริตี้ มีไว้สำหรับพี่.... ที่น่าเคารพครับ หนุ่มก้าวเข้ามายืนขวางระหว่างชายร่างใหญ่ที่ดูว่าดีกรีในเลือดจะมีมากพอที่จะทำอะไรโดยปราศจากการยั้งคิด กับหญิงสาวที่ดูว่าความโกรธก็ทำให้อาจจะทำอะไรที่ไม่ยั้งคิดได้พอๆกัน ดวงตาคู่สวยแข็งกร้าว สบตาซีเนียร์ร่างใหญ่ที่แม้ว่าจะเตี้ยกว่าเล็กน้อย หากเทียบความหนาแล้ว ดูหนากว่าชายหนุ่มมากนัก และก่อนที่พี่ซีเนียร์จะหายอึ้งอีกรอบ ชายหนุ่มก็หันไปบอกสองสาวที่ยืนอยู่
เหมียวกับแป๋วไปนอนเถอะ ดึกแล้ว เดี๋ยวทางนี้หนุ่มกับก้องจัดการเอง
หลังจากนั้นหล่อนก็ได้ยินเสียงทุ่มเถียงกัน ก่อนจะเงียบไปโดยไม่ทราบว่าชายหนุ่มทั้งสองจะจักการกับคนที่มีอาการไม่ได้สติเต็มร้อย รวมไปถึงคิดว่าตัวเองเหนือกว่าได้อย่างไร หากแต่ตลอดทริปนั้น ทั้งซีเนียร์เจ้าปัญหาและเพื่อน ก็ดูเหมือนจะสงบเสงี่ยมลง และไม่ได้ทำตัวก่อให้เกิดปัญหาใดๆขึ้นอีก
~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~
จากคุณ :
ปริญญ์
- [
1 เม.ย. 46 18:05:35
A:203.170.151.63 X:
]