ซินเดอเรล่า รีโหลด


      และแล้ว  เจ้าชายกับเจ้าหญิงก็ครองรักอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
      ........ซะเมื่อไหร่ล่ะ

      ควีนเริ่มเก็บความไม่พอพระทัยในตัวลูกสะใภ้ไร้ศักดินาคนนี้ไว้ไม่อยู่  พระนางเริ่มวางท่าเมินเฉย  เย็นชากับซิลอย่างออกนอกหน้า  แม้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ตาม  บางครั้งพระนางถึงกับลุกออกไปจากโต๊ะเสวยเสียอย่างนั้นโดยไม่มีเหตุผล  และเริ่มตรัสกระแนะกระแหนซิลแบบผู้ดี  ซึ่งก็ทำให้หล่อนรู้สึกสะอึกไม่น้อย  แต่ก็ได้แต่ก้มหน้าอดทน  เพราะไม่รู้จะทำยังไงได้  มิวายหนีเสือปะจระเข้  หนีแม่เลี้ยงใจร้ายหวังมาพึ่งใบบุญเจ้าชาย  กลับมาเจอแม่ผัวตัวแสบ  เล่นสงครามเย็นให้หล่อนประสาทกิน

           ความจริงการที่เธอตกหลุมรักกับเจ้าชายในงานเลี้ยงวันนั้น  ไปจนถึงงานอภิเษกสมรส  ใช้เวลาในการศึกษาครอบครัวนี้ได้ไม่ถึง 2 เดือนเท่าไหร่เลย  ก็ต้องมาอยู่ร่วมวังเดียวกันเสียแล้ว  แรกๆควีนก็ดูเข้าใจอะไรๆดีอยู่  แต่พอนานๆเข้าคงเก็บความรู้สึกเหยียดชนชั้นไว้ไม่ไหว  เลยแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาจนได้  ที่จริงตอนแรกก็ทรงทัดทานเจ้าชายอยู่เหมือนกันเรื่องจะเอาสาวใช้(อดีตลูกเศรษฐี) มาตกแต่งเป็นเจ้าหญิง  ให้กำเหนิดเชื้อสายผู้ที่จะมาสืบบัลลังก์ต่อไปจากพระบิดาและพระนาง  แต่ด้วยช่วงนั้นเจ้าชายทรงหน้ามืดตามัวหลงเสน่ห์ของซิล  จนใครขวางไม่อยู่  พระนางจึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนใจตัวเองตามใจลูกชายคนเดียว  ด้วยก็ตามใจมาแต่อ้อนแต่ออกอยู่แล้ว  อยากได้อะไรไม่เคยขัด  คราวนี้จึงยอมให้ทั้งคู่แต่งๆกันไปก่อน  ด้วยพระองค์เล็งการณ์ไกลว่าหากวันหน้าเจ้าชายเริ่มมีปัญหากับซิลเมื่อไหร่  พระองค์ก็มีสาวงามสูงศักดิ์ที่หมายมั่นปั้นมือไว้มาคอยเป็นมือที่สามระหว่างทั้งคู่อยู่แล้ว  แต่หากทางเจ้าชายนั้นเล่า  กลับคิดไปว่าแรกๆเสด็จแม่คงไม่พอพระทัย  แต่หากได้รู้จักซิลมากกว่านี้พระนางคงนึกเอ็นดูหล่อนขึ้นมาแน่นอน  ปรากฏว่า  ทั้งแม่ลูกคิดสวนทางกันไปคนละเรื่อง

           ซิลเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นในวังนี้ได้อย่างชัดเจน  หากคงมีแต่หล่อนกับควีนเท่านั้นที่รู้สึกเรื่องนี้ดีกว่าใครๆ  เพราะเจ้าชายเองก็ไม่ได้สนใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่  เพราะทรงสำราญพระทัยดีในทุกๆเรื่อง  โชคดีในความรัก  ที่ได้แต่งงานกับหญิงที่ตนรัก  ชีวิตทั่วๆไปก็ไม่ได้ลำบากลำบนอะไรนอกจากช่วยพระบิดาในเรื่องต่างๆที่ท่านเรียกใช้  แต่ซิลเองกลับกล้ำกลืนทุกสิ่งไว้ผู้เดียวไม่กล้าบอกเจ้าชาย  เนื่องจากความเป็นคนเก็บกดตั้งแต่เด็กที่ถูกแม่เลี้ยงกดขี่  มันจึงส่งผลให้เธอก็ยังเป็นเหมือนตอนเด็กๆแม้ว่าเธอจะโตขึ้นและแต่งงานแล้วก็ตาม

          หล่อนเริ่มรู้สึกเสียใจที่ใจเร็วเกินไป  ไม่ศึกษาอะไรๆให้ดีเสียก่อน  เพราะมัวแต่ลุ่มหลงอยู่ในความรักแรกพบ  คิดว่าทุกอย่างในโลกเป็นสีชมพูไปหมด  คิดว่าชีวิตที่เลวร้ายคงจบเพียงเท่านั้นนับตั้งแต่วันที่เดินออกจากอกแม่เลี้ยงผู้บ้าอำนาจออกมาสู่ปราสาทราชวัง  อันที่จริง  การตัดสินใจแต่งงานกับเจ้าชายของเธอนั้น  ก็เป็นการตัดสินใจที่ผิดอยู่ครึ่งหนึ่งเหมือนกัน  คือนอกจากเธอแต่งงานกับเจ้าชายเพราะรักพระองค์แล้ว  อีกเหตุผลก็คือ  เธอต้องการแต่งงานกับเจ้าชายเพื่อหนีจากชีวิตอันเหนื่อยยากของลูกเลี้ยงที่เป็นทาสรับใช้  เธอต้องการไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าที่ไฝ่ฝันมานาน  และคิดว่าเจ้าชายก็คือทางออก  เธอจึงตกปากรับคำทันทีที่เจ้าชายคุกเข่าลงจุมพิตที่มือเธอ  แล้วขอเธอแต่งงาน  แต่ทั้งหมดนั่น  ไม่ใช่เพราะเธอรักเจ้าชายอย่างแท้จริงหรอก  เธอต้องการเพียงคนดีๆสักคนที่สามารถพาเธอออกไปจากชีวิต[^_^]เหล่านั้น  ซึ่งโชคดีที่เธอถูกรางวัลใหญ่เสียด้วย  ที่คนๆนั้นเป็นถึงเจ้าชายรัชทายาทของประเทศที่เธออยู่

               แต่แล้ว  พระเจ้าก็มีบททดสอบใหม่ที่โหดหินยิ่งกว่าเดิมมาทดสอบเธอจนได้  เมื่อวันหนึ่ง  ควีนทรงจัดงานเลี้ยงต้อนรับพระราชินีจากประเทศทางใต้  ที่เป็นพระสหายเก่ากันมาตั้งแต่เป็นสาวรุ่นๆ  ซึ่งทั้งสองประเทศนี้มีการเจริญสัมพันธไมตรีกันมายาวนาน  และข้างๆพระที่นั่งของพระราชินีองค์นั้น  มีสาวสูงศักดิ์แต่งกายอย่างราชนิกุลชั้นสูงอยู่เคียงข้าง  หล่อนมีผมสีน้ำตาลเข้มถักเปียเกล้าขึ้นสูงและสวมเทียร่าประดับเพชรสีชมพูแพรวพราว  ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยเพชรวูบวาบเต็มยศ  หล่อนคือพระราชนัดดาในสมเด้จพระราชินีองค์นั้น  และควีนก็กำลังแนะนำให้หล่อนรู้จักกับเจ้าชาย   ทั้งคู่คุยกันถูกคอและสนิทกันอย่างรวดเร็ว  ในขณะที่ซิลรู้สึกมึนงงกับภาพที่ปรากฏอย่เบื้องหน้า  ควีนตั้งใจจะทำอะไรแน่ๆ  ซิลคิด  โลกรอบๆตัวเริ่มหมุนเอน  สายตาเธอเริ่มพร่ามัว  ท้องไส่เริ่มปั่นป่วนจนไม่สามารถทนอยู่ได้  เธอวิ่งออกไปในสวนตรงพุ่มไม้ท่ามกลางแขกเหรื่องมากมายที่ตกตะลึง  และเริ่มอาเจียนไม่หยุด    หมอหลวงรีบเข้ามาพยุงเธอไปพักและตรวจดูอาการ
          " เจ้าหญิงเป็นอะไร"  เจ้าชายผลุนผลันเข้ามาทันทีที่ทราบข่าว
         " มิเป็นไรพะยะค่ะ" หมอหลวงทูลความ
         " ไม่เป็นไร  ไม่เป็นไรได้ยัง  ท่านก็เห็นอยู่ว่าชายาเราอาเจียนจนนอนซม" เจ้าชายตวาดเสียงดัง  หมอหลวงถอยออกไปค้อมหัว
         " พระอาญาไม่พ้นเกล้า  พระชายาทรงพระครรภ์พะยะค่ะ" หมอหลวงทูล
         " ครรภ์  เจ้าหญิงทรงมีพระครรภ์งั้นเหรอ" เจ้าชายทรงตื่นตะลึง  ก่อนจะวิ่งตะโกนไปทั่ววังด้วยความดีใจไปหาพระมารดาที่ทรงพระสรวลสำราญอยู่กับเกลอเก่าในงานเลี้ยง
         " อะไรนะ  ชายาเจ้าตั้งครรภ์อย่างนั้นเรอะ" พระนางตรัสถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง  พระหัตถ์จิกพัดงาช้างจนเล็บหัก  


              -   แล้วค่อยต่อนะคะ  ไปนอนแล้วค่ะ

    จากคุณ : รองเท้านารี - [ 5 เม.ย. 46 00:32:31 A:203.170.143.125 X: ]