(' >') . . . นครคนซดหมึก . . . @('_ ')@ ('_ ' )

    ผึ้งแก้ว แปลเรียบเรียงจากเรื่อง  The City of Ink Drinkers
    ของ Eric  Sanvoisin
    ภาพประกอบโดยMartin Matje

                                                     บทที่                                              

                                                       ๑

                                                รูพรุนใต้สุสาน



               คามิลลากับผมใช้หลอดสองชายซดหนังสือกันอยู่เมื่อแดร็กคูลิงค์ถลา
    เข้ามาในห้องอาหารอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงรวดเร็วราวกับพายุบุแคม

                "เด็กๆ หายนะแน่ๆแล้ว!" เขาเอ็ดตะโร แล้วล้มพับลงกับโลงเก่าแก่
    โบราณ จนเกิดเสียงดังราวฟ้าผ่า

               "คุณลุงเป็นอไรหรือเปล่าคะ?"คามิลลาถามทั้งยิ้ม

                แดร็กคูลิงสบถขรม ทั้งยังติดอยู่ในกองไม้และโครงโลงศพ "สบายดี ตัว
    ฉันไม่มีอะไรแตกหัก" เขาบ่นงึมงัมพลางปัดฝุ่นออกจากตัว

                นี่ทำให้ผมระลึกถึงครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับผู้เฒ่าซดหมึก ผมพยายาม
    หลีกเร้นหลบหนีจากเขาจนโลงร่วงหล่น

                ครั้งก่อนนั้น ผมเกลียดการอ่านหนังสือจนกลายเป็นที่อับอายไปทั้งตระ-
    กูล ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกเจ้าของร้านหนังสือ แต่ต้องขอบคุณรอยกัดคมกริบจากเขี้ยวรูป
    ปลายปากกาของแดร็กคิวลิงค์ ผมจึงได้รับรู้รสชาติหมึกไปตลอดกาล

                บัดดี้ ผมซดหนังสือจากหลอดเฉกเช่นเดียวกับเขา ผมซดเรื่องราวต่าง ๆ
    ราวหมาป่าหิวโหยตะกละตะกราม ประโยคแล้วประโยคเล่า  อย่างกับเป็นของหวาน
    ก็ไม่ปาน ประโยคต่างๆสร้างความหฤหรรษ์แก่ลิ้นผมขณะไหลสู่ปาก ผมได้ลิ้มลอง
    การผจญภัยต่าง ๆ น่าเสียดายนะที่กลายเป็นกระดาษเปล่าไปหมดหลังจากซดแล้ว

                วันหนึ่งผมเป็นอินเดียน(แดง)ออกรบกับคนขาว วันต่อมาเป็นมนุษย์ถ้ำทำ
    สงครามโหดร้ายกับสัตว์มีเขี้ยวโง้งน่ากลัว แดร็กคูลิงทำให้ชีวิตดูน่าสนใจขึ้น . . .

                เสียงประหลาดปลุกสติผมคืนมาเผชิญกับเหตุการณ์เบื้องหน้าในทันใด
    มันเป็นเสียงของคุณลุง เขาพยายามดิ้นออกมาจากท่าทางแปลกประหลาดที่เป็น
    อยู่ เมือลุกขึ้นได้แล้วเขาก็ระเบิดหัวเราะดังกังวาลลึกออกมา สงสัยว่าเขาจะเพี้ยน
    ไปเสียแล้วเพราะศีรษะกระทบพื้นเข้า

                "คุณลุงครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ "

                 เขาคงหัวเราะต่อโดยไม่ยอมเลิก

                 "ก็งั้นๆแหละโอดิลอนหลานรัก ในเมื่อโลงแตกเสียแล้ว ตอนย้ายบ้านคง
    ง่ายขึ้น"

                 "ย้ายบ้าน" คามิลลาอุทานอย่างไม่เชื่อหู "เราจะย้ายบ้านกันหรือคะ?"

                 แดร็กคูลิงค์มองเราด้วยสีหน้าเฉยชา "นี่คือเรื่องหายนะที่ฉันจะบอกกับ
    พวกเธอไง"

                 "มันเกิดขี้นได้ไงกันคะ(ครับ)" คามิลลากับผมตะโกนขึ้นถามพร้อมกัน

                 "ตามมาสิ ฉันจะให้เธอดูอะไร"

                   มัคคุเทศก์ของเราล่องลอยสูงเหนือพื้นสี่นิ้ว     พาเราไปตามชุมทางที่
    ขยายออกไปเรื่อย ๆ จนมาถึงทางเข้าสุสาน ที่ประตูทางเข้าใหญ่สนิมจับเขรอะ มี
    ป้ายตราประจำเมืองแขนอยู่  บนป้ายเขียนว่า

                                     
                                    ถึงพ่อแม่พี่น้องชาวเมืองทั้งหลาย

                                             เพื่อความปลอดภัย

                                                   เดือนหน้า

                                     สุสานจะย้ายไปอยู่ ณ สถานที่ใหม่

                                              ขอขอบคุณที่เข้าใจ

                                                 นายกเทศมนตรี


                      "คุณลุงคะ นี่เป็นเรื่องหายนะจริงๆด้วยสิคะ"  คามิลลาพูดเสียงสั่น
    เครือ มือเธอในมือผมมันเย็นเฉียบ

                       แดร็กคูลิงค์เริ่มอรรถาธิบายด้วยน้ดเสียงแบบพ่อครูอีกรอบ

                       "จะมีทางรถใฟใต้ดินแล่นผ่านที่สุสานเรานี่เอง"เขาเริ่มเกริ่น "ยังกับ
    สวิสชีสเลย! ลองนึกดูข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์คงลงว่า มีผีหลอกตามโถงรถไฟใต้
    ดิน!  เราต้องรีบเก็บของแล้วล่ะเด็ก ๆ "

                      เวรกรรมแท้ ๆ เลย! แผนการณ์ต่าง ๆ นานาของผมเป็นอันล่มหมด  
    ขณะนี้ผมอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ชั้นบนร้านหนังสือ    แวะมาหาคามิลลาวันพุธกับวัน
    เสาร์อาทิตย์  แต่ผมฝันว่าจะได้แต่งงานอยู่กินกับเธอในสุสานนี่  ตั้งแต่ผมเป็นแฟน
    กับคามิลลา ก็รู้สึกว่ารสชาติหนังสือดีขึ้นเรื่อย ๆ   เราซดหนังสือพร้อมกันทั้งคู่ด้วย
    หลอดสองปลายด้วยกัน      หมึกไหลผ่านหลอดของเราด้วยอัตราสิบคำต่อวินาที
    คามิลลาเป็นแม่ยอดขวัญจอมซดหมึกของชีวิตผมโดยแท้

                      บางครั้งยามค่ำคืนผมมักฝันว่าเป็นพ่อของเจ้าหนูซดหมึกตัวกระจ้อย
    ร่อย  เห็นตัวเองทำหลอดที่มีชาย สาม สี่ ห้า   . . . ปลาย

                     แต่การย้ายบ้านพังฝันผมแหลกละเอียดเป็นจุลไปหมด


    ****************************************************



     

     


    จากคุณ : The gl@ss Bee  - [27 ก.พ. 45 11:21:57]

    แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 46 23:28:32

    แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 46 23:27:46

    แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 46 23:26:15

    แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 46 23:25:08

     
     

    จากคุณ : Le Buveur d'encre - [ 12 เม.ย. 46 23:16:44 ]