อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๐ องค์อิลราชา ....................ทศนาดุรงค์เรือง
คร่าวในหทัยเคือง .............มนครุ่นและขุ่นตรอม
๐ แท้ธรรมดาขัต- ................ติยรัฐดิลกจอม
อาณาถนอมออม ..............วรอาสน์ฉกาจรณ
๐ เกรียงไกรกเรนทร์รัตน์....... วรอัศวมงคล
โยธินทรพฤนท์พล............. พรสัตย์กระพัดใจ
๐ ท้าวแลดุรงค์ราช ...............วรอาสน์ก็อาลัย
คราวกรรมจะทำไฉน........... สละเพื่อพิธีพลี
๐ ปางดลวิถีงาม ...................ศุภยามอุดมดี
ปล่อยราชพาชี ..................อุปการพลีกรรม
๐ กองทัพกำกับยาตร............. ปรราชบเกรงยำ
ถับถิ่นประเทศทำ ...............บมิรู้ก็จู่ตี
๐ แตกพ่ายกระจายยับ........... พลทัพ ธ ย่ำยี
ด้าวใดผิไมตรี ...................ธุระต้อนก็ผ่อนผัน
๐ รับทัพและรับอัศว์ ..............ปฏิบัติบำรุงครัน
แต่งทัพ ธ ส่งสัญ- ..............จรสุดสิมาเมือง
๐ ดลแดนสะดวกสม ..............อนุกรมนครเนือง
ทุกด้าวบเปล่าเปลือง........... ประดิพันธไมตรี
๐ แดนใดบไกลเกิน ...............ก็เผชิญขบวนกรี-
ธาทัพธิราชมี .....................มนช่วยอำนวยการ
๐ ใดราชผิยาตรยาก.............. จะลำบากเพราะกันดาร
ไป่จำประจากสถาน............. ธ ก็รับดุรงค์พล
๐ บรรดาพระราชา .................จรมา ณ มณฑล
เทียบทัพก็สับสน................ จตุรงคเสนา
๐ พร้อมสรรพพยู่ห์ยาตร.......... พลยุทธโยธา
เมือมุ่ง ณ เสมา ..................พลหินทธานี ฯ
ฉบัง ๑๖
๐ เดินทัพสะเทือนท้องธรณี ..............ทุ่มฆ้องกลองตี
ก็เซ็งก็แ๋ซ่แตรสังข์
๐ เพียงผลาญแผ่นพื้นภพพัง .............นฤโฆษอันดัง
ในแดนในด้าวดงดอน
๐ คล่ำคล่ำพลคชางางอน.................. เหมหัสดาภรณ์
ก็แพรวก็พรายข่ายกรอง
๐ สองหูพู่ขาวดาวทอง .....................รัตคนคาดซอง
หางสมสองพลุกสุกพรรณ
๐ ขุนคชคุมคอขี่กัณฐ์....................... ควาญท้ายนายอัน
ประจำ ณ บาทยาตรา
๐ พลพร้อมล้อมเชิงคชา ....................พิศดูตรูตา
อันตกอันแต่งตัวดี
๐ กำแหงแห่งหัตถ์ครวี .......................อาวุธอันมี
มหิทธิเดชเวทขลัง
๐ คล่ำคล่ำส่ำแสะกำลัง .....................เหยาะยาตรผาดผัง
ลำพองสง่าร่ารณ
๐ เหลืองแดงหมอกขำดำปน ................ลางกระเลียวขน
ทั้งผ่านและขาวพราวพราย
๐ พิศตาบทาบหน้าพรรณราย.............. สายง่องถ่องสาย
อันถืออันถ่วงหน้าหลัง
๐ อานทองกล่องโกลนเนื่องพนัง ..........พู่ขาวดาวฝัง
แฝงขลุมประเจิดจินดา
๐ สารถีขี่ขับอาชา .............................อาตม์โอ่โสภา
พันลึกสลอนฟ้อนทวน
๐ ทายธนูหอกง้าวงามขบวน................. พาชีเชิงชวน
ก็เชี่ยวในเชิงอาชา
๐ คล่ำคล่ำส่ำบทพลา .........................กำยำกำยา
บย่อประยุทธ์อยู่คง
๐ อะเคื้อเสื้อผ้าอ่าทรง........................ อาวุธธำรง
ทำลายริปูปลดเปลือง
๐ หลายเหล่าเข้ากันบรรเทือง................ ทิวแถวแนวเนือง
นิกรอันแกล้วกลางณรงค์
๐ คล่ำคล่ำส่ำรถอลง-.......................... กตแก้วกำกง
ประกอบกนกแนมงอน
๐ ริ้วริ้วทิวธงสลอน.............................. ลิ่วลิ่วเล็งงอน
ก็เงื้องสง่าโง้งงาม
๐ ครึกครื้นตื่นไพรไต่ตาม...................... พ้นพนาราม
บรรลุ ณ แฟล่งพลหินท์
๐ ทวยเท้าเฝ้าบาทธิบดิน- ......................ทรเอกองค์อิล
อำรุงพิธีพลีกรรม์ ฯ
สุรางคนางค์ ๒๘
๐ ณ คราวประกอบ .............พิธีก็ชอบ
มโนอนันต์...................... นิกรนรา
ทิชาจรัล .........................ณ ฐานอัน
กระทำพิธี
๐ ก็สับก็สน....................... ปะป่วนปะปน
สถลวิถี.......................... นำหลานและบุตร
บุรุษสตรี ........................กะจอกกะจี
สนั่นสำเนียง
๐ สนุกสนาน...................... พินิจสะคราญ
ระบำจำเรียง ....................สนิทสำนาน
ผสานสำเนียง ..................ก็พริ้งเพราะเพรียง
จะเผลอจะเพลิน
๐ ละผู้ละคน .......................ประไพพิมล
คละคล่ำดำเนิน................. ก็แซงก็แทรก
ผิแขกเผชิญ ....................มิก้ำมิเกิน
มิก่อมิกวน
๐ ธชีทิชา ......................ลุทักษิณา
อเนกคำนวณ ...............และอิ่มและหนำ
พระทำก็ควร ................ประมาณประมวล
ก็มากอนันต์
ฉบัง ๑๖
๐ ปางถ้วนปฏิทินถึงวัน .............บรรจวบขวบขัน
อีศวพ่าห์มาเมือง
๐ คืนสู่มาฬกมลังเมลือง ...........นักสิทธ์วิทย์เรือง
ก็รับก็รองปรองใจ
๐ จำเริญวรเวทตรัสไตร............. ตรีวารล่วงไป
ก็ปลงชีวาพาชี
๐ แล่เนื้อนำเครื่องในพลี ............ยางเหนืออัคนี
สังเวยศิวาสาทร
๐ โหมเพลิงเริงโรจน์อัมพร............ พากกลิ่นกำจร
จรูงสวรรค์กรรหาย
๐ ฉิวฉิวชื่นหวนอวลอาย................ รสกล้ากำจาย
ก็เจื่อนกระเจิงจักรพาล
๐ ท้าวทรงมูรธาภิเษกสนาน ...........พราหมณ์พฤฒาจารย์
ก็เจิมด้วยจุรณจวงจันทร์
๐ ถวายโสมทรงเสพเสริมขวัญ........ มิ่งมงคลอัน
พิพัฒน์พิพิธสิทธิชัย
มาณวกฉันท์
๐ ปางศิวเจ้า ............เนา ณ พิมาน
บรรพตศานต์ ........โสภณไกร
๐ ลาสรโห ...............โอ่หฤทัย
ทราบมนใน............ กิจพิธี
๐ ทวย ธ กระทำ .........กรรมพิเศษ
อัศวเมธ................. ปูชยพลี
๐ เคลื่อนวรองค์........... ลงปฐพี
สู่พระพิธี ................สาทรกรรม
๐ พอพระหทัย ............ในวรกิจ
อามิสคิด .................อัน ธ กระทำ
๐ ท้าว ธ ประนอม .........ออมกุธอำ
นวพรคำ ..................ควรจะประสงค์
๐ เอออิลราช ...............ปราศทุรการณ์
เราก็ประทาน ............โทษกะองค์
๐ แต่ขณะนี้.................. มีสิริทรง
รูปและคง ..................เดิมบมิกลาย
๐ กล่าวพรสิทธิ์.............. อิศวรางค์
เหิน ณ นภางค์ ............โฉมพระก็หาย
๐ เหิมหฤหรรษ์............... พลันมึนิผาย
องค์อิลวาย................. ทุกขระทม
๐ ลาพุธเข้า.................... เนาพระนคร
คืนดุจก่อน ..................กาลนิยม
๐ ราษำร์ก็เกษม ..............เปรมสุขรมย์
เริงมนชม.................... โพธิสุภาร
๐ ท้าว ธ รำพึง................. ถึงวรองค์
โอสรทรง...................... นามขนาน
๐ คือสสพินทุ์................... ปิ่นพระกุมาร
ควรจะประทาน.............. รัฐธำรง
๐ รังอภิเษก .....................เอกปิยบุตร
พงศพิสุทธิ์ ....................สืบสุรวงศ์
๐ รัชถวัลย์ .......................ทันพระประสงค์
มอบ ธ ธำรง ..................รั้งพลหินท์ ฯ
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
๐ ครั้นเสร็จการอภิเษกองคสสพินทุ์
จอมราชบิดาจิน- .......................ตนา
๐ ถึงหน่อพุธปุรุพรพิพิฒน์ชนมนา
ควรแก่พระราชา........................ ภิเษก
๐ จึ่งรังสฤษฏ์ปฏิฐานนครรุจิเรข
อวยแก่พระองค์เอก.................... อุรส
๐ สองราชสองพระนครขจรพระกิติยศ
เดชาก็ปรากฏ ............................กระจาย
๐ ร่มรัฐราษฏร์อภิรมย์อุดมสุขสบาย
ผองภัยมิใกล้กราย....................... ประชา ฯ
ฉบัง ๑๖
๐ ประพันธ์ฉันทพากย์พรรณนา ...................อิลราชอิลา
ก็ลุดังจิตจงเพียร
๐ โดยฉบับบ่อเกิดรามเกียรติ์ ......................พระราชนิพนธ์เธียร
ธิราช ธ เริ่มรังสรรค์
๐ หลวงสารประเสริฐ(ผัน............................ สาลักษณ)ทรงธรรม์
ประสาทสกุลบิดร
๐ ข้าบาทบพิตรมหิศร .................................สัตยาสาทร
ภักดีต่อใต้บทมาลย์
๐ ใช่ปราชญ์อาจปรุงปรับสาร........................ เฉลิมเกียรติ์ภูบาล
ธิเบศวร์กษัตริย์ฉัตรชัย
๐ พระมงกุฏเกล้าเกศไทย ............................ที่หกรัชสมัย
มหิทธิเดโชผล
๐ พระคุณพระคือสายชล............................... ชื่นแช่มชมผล
พระชุบพระย้อมย่อมเย็น
๐ พระการุณภาพบำเพ็ญ................................ แผ่หล้าเล็งเห็น
ประจักษ์แก่จิตนิจกาล
๐ เดชะสุจริตไตรทวาร ..................................จุ่งพลันบันดาล
ได้เสพแต่สรรพ์สวัสดี ฯ
-----------------------จบบริบูรณ์ ฯ------------------------
รบกวนคุณ song982 ช่วยแปลศัพท์ให้อีกสักครั้งนะครับ
จากคุณ :
ช่วยคุณ song982 พิมพ์ครับ
- [
17 เม.ย. 46 16:38:52
A:203.150.11.11 X:203.113.76.71
]