ความเดิมตอนที่แล้ว
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2181827/W2181827.html
เรเนต ที่เริ่มรู้สึกเบื่อขึ้นมาบ้างจากการต้องอยู่บ้านเฉยๆ ได้รวมกลุ่มกับแม่บ้านคนอื่นๆ เพื่อทำการทดลองหาวิธีให้การศึกษาแบบใหม่ๆ สำหรับลูกๆ ของพวกเธอ ดังนั้น ทุกวันหลังกลับมาจากโรงเรียนอนุบาลแล้ว ฮันส์ในวัยห้าขวบจึงต้องมาเข้าร่วม "คินเดอร์เลเดน" โรงเรียนทดลองสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน ที่มีลักษณะไม่แตกต่างจากโรงเรียนแนวมอนเทสซอรีในสหรัฐอเมริกา พ่อแม่ของเด็กในโรงเรียนนี้ เป็นพวกที่เห็นดีเห็นงามด้วย กับกระแสต่อต้านการปกครองในช่วงเวลานั้น และเชื่อว่าลูกๆ ของพวกเขาควรจะมีสิทธิเลือกได้ด้วยตนเองว่า จะกินอะไร จะเริ่มรู้จักใช้ภาชนะในการกินเมื่อไหร่ หรือแม้แต่จะเปลี่ยนผ้าอ้อมของตัวเองเมื่อไหร่ด้วย กอตฟรีด์กับเรเนตเป็นหนึ่งในผู้ปกครองที่ชอบให้ลูกของตนแสดงออกอย่างอิสระ พวกเขาสนับสนุนให้เด็กรู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวเอง และกล้ายืนยันในเหตุผลของการกระทำสิ่งที่พ่อแม่สั่งห้ามไว้
จากนั้นไม่นาน ครอบครัวฮูบเนอร์ก็มีอันต้องแตกแยกจากกันไป ซึ่งเมื่อตอนที่พ่อแม่หย่ากันนั้น ฮันส์ยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลย สุดท้าย เขาก็ได้อยู่กับเรเนต ในขณะที่เฟอร์ดินานด์ น้องชาย ไปอยู่กับกอตฟรีด์ เรเนตได้งานเป็นผู้ช่วยทำฟันปลอมให้กับทันตแพทย์ ทำให้ไม่อยู่ติดบ้าน ฮันส์จึงไม่ได้พบหน้าแม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน
การเรียนของฮันส์ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เมื่อตอนสิบขวบ เขาเป็นเด็กร่างท้วมสวมแว่นตา ที่ค่อนข้างเชื่องช้า เขาไม่ได้ฉายแววทางด้านการขีดเขียน ด้านภาษาอังกฤษ หรือด้านศิลปะออกมาแม้แต่น้อย รวมถึงด้านกีฬาด้วย การแตกแยกของครอบครัวมีผลกระทบต่อพัฒนาการในด้านต่างๆ ของเขา ในรายงานของคุณครูที่ส่งไปถึงที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ มักเน้นถึงศักยภาพที่ฮันส์มีอยู่ แต่ก็กล่าวถึงข้อเสีย คือความเกียจคร้าน และความไม่มีระเบียบของเขาด้วย ส่วนวิชาที่เขาทำคะแนนได้ดีนั้น มีเพียงคณิตศาสตร์กับฟิสิกส์เท่านั้น ทุกครั้งที่รายงานจากโรงเรียนส่งมาถึงบ้าน ฮันส์จะโทรไปบอกเรเนต ซึ่งเธอก็จะบอกให้ลูกไม่ต้องอ่านผลการเรียนวิชาต่างๆ ให้ฟัง เพราะเธอไม่สนใจ แต่ขอให้อ่านเฉพาะรายงานที่คุณครูเขียนมาเท่านั้นพอ
อย่างไรก็ตาม ฮันส์ก็มีลักษณะพิเศษบางอย่างที่มาชดเชยความอ่อนด้อยของเขา ได้แก่ อารมณ์ขันเบาๆ แต่มุขลึกแบบตลกหน้าตาย ซึ่งเขาแสดงออกมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ แล้ว และหากต้องตกอยู่ในสถานะการณ์ลำบาก เนื่องมาจากปัญหาที่เขาก่อขึ้น เขาก็สามารถใช้วาทะศิลป์เป็นเครื่องช่วยนำตัวเองหลุดพ้นจากการถูกลงโทษได้ทุกที นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อนร่วมรุ่น ที่ล้วนแล้วแต่เรียนเก่งกว่าเขา ต่างยอมรับนับถือในตัวเขา ฝ่ายคุณครูที่มองเห็นความพิเศษที่เขามีอยู่ ก็ลงความเห็นว่า เด็กคนนี้น่าจะได้รับการกระตุ้นในทางการศึกษามากขึ้น จึงจัดการให้เขากระโดดข้ามชั้นเรียน ไม่ต้องเรียนชั้นเกรดแปด แต่นั่นกลับก่อเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะเขาไม่ได้สนใจการเรียนมากขึ้นเลย แม้จะถูกจับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมการเรียนการสอนที่โตขึ้น เขาหลบลี้เพื่อนร่วมชั้น ที่เขามีปฏิสัมพันธ์ด้วยน้อยมาก เข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวของเขาเอง
เมื่ออายุได้สิบสองปี ฮันส์มีกิจกรรมที่ชื่นชอบอย่างหนึ่ง คือการทำตัวเป็นคนเร่ร่อน มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเบอร์ลินเป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษที่เจ็ดสิบ เมื่อพวกศิลปิน พวกพังค์ และเด็กวัยรุ่นที่หนีออกจากบ้าน ต่างพากันเข้าไปจับจองตึกโรงงาน อพาร์ตเมนต์ หรือร้านรวงที่ไม่มีเจ้าของ เป็นที่กินอยู่หลับนอนสำหรับตน พอถึงปี 1980 ตึกในเบอร์ลินตะวันตก ที่ถูกพวกเร่ร่อนถือวิสาสะเข้าไปประกาศความเป็นเจ้าของ ก็มีอยู่ถึงหนึ่งร้อยกว่าตึก ฮันส์กับกลุ่มของเขามีแหล่งสิงสู่เป็นร้านค้าเก่าแห่งหนึ่งในโชนเบิร์ก ที่ซึ่งถูกใช้เป็นที่ซ้อมดนตรีของวงพังค์ของพวกเขาด้วย ด้วยเหตุที่ฮันส์ก็ไม่ได้มีฝีมือทางดนตรีมากมายนัก เขาก็เลยหันไปใส่ใจกับรูปลักษณ์ที่ปรากฎออกมามากกว่า โดยมีจุดเด่นอยู่ตรงทรงผม ที่เป็นรูปเดือยแหลมชี้โด่ขนาดความยาวหกนิ้วพุ่งตรงออกมาจากศีรษะ ซึ่งเขาต้องเปลืองสบู่ไปอักโขอยู่กว่าจะได้ทรงนี้มา ส่วนเครื่องแต่งองค์หรือก็เต็มยศ ทั้งรองเท้าบู๊ตทหารสีดำ กับสายโซ่เส้นใหญ่ที่พันรอบเอว
เขาโตเร็วขึ้นมาก และเปลี่ยนแปลงไปจากวัยเด็กชนิดเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่นำความทุกข์ใจมาให้กับพ่อแม่มากกว่าจะเป็นเรื่องที่ดี อย่างเช่น การเริ่มขโมยของตามร้านค้า โดยอาจจะเป็นโคลาสักขวด หรือชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคสักชิ้น ที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องขยายเสียง เมื่อตอนที่เรเนตไปสถานีตำรวจ เพื่อรับตัวฮันส์ซึ่งถูกจับจากการขโมยโคลา สายตาของตำรวจที่มองเธอนั้น มีทั้งความสงสารระคนกับความเหยียดหยามที่มีลูกเช่นนี้ เธอตบหน้าฮันส์ด้วยความโกรธจัด แต่นั่นก็มีความหมายแค่เธอเจ็บมือไปเปล่าๆ เท่านั้น อีกครั้งหนึ่ง กอตฟรีด์ต้องรุดไปโรงพยาบาล เพื่อดูอาการลูกชายที่สติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จากการที่ไปดูร็อคคอนเสิร์ต แล้วดื่มเหล้าเกินพิกัด แถมยังได้เสพกัญชาเข้าไปเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วย
จากคุณ :
SuperU;-)
- [
22 เม.ย. 46 23:51:34
]