@@เขาเป็นใคร มาจากไหน เขาคือสองหนุ่มหล่อคู่หูดูโอ ที่จะมากระชากใจสาว ๆ ให้ปั่นป่วนรัญจวนจิตด้วยนิยายรักหวานจ๋อย 12 @@

    หวัดดีคร้าบบบบบบบบบบบ …

    ช่วงนี้หากเรื่องอืด ๆ ไปล่ะก็ .. ขออภัยคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายนะครับ ..
    พอดีมีเรื่องอะไรก็ไม่รู้ .. สุมกันเข้ามาวุ่นวาย  ทำให้ออกอาการตื้อ..

    จะมีอะไร  เอาแต่แร่ด ๆ ไปจีบสาวน่ะซี๊ ..  ถ้ากระเฉดน้อยว่างเข้ามาคงจะว่าอย่างนี้ ..

    นั่นดิ ..เฮียก็อยากจะแร่ด ๆ ไปอย่างที่หนูว่าเหมือนกัน  อายุก็เฉียดเลขสามเข้าไปเต็มที
    ป่านนี้ยังไม่มีแควน .. คิดแล้วมันก็น่าน้อยใจในวาสนา .. ซิก .. ซิก .. ซิก …

    ยุ่งเรื่องอื่นจริง ๆ ครับ .. บ่อไจ้เรื่องหญิงแน่ ๆ  .. ขอคุกเข่าสาบานต่อหน้าเจ๊อ้อ ..แฮ่..!! ..

    แล้วสมัยวัยสะรุ่น  ย้อนไปไม่กี่ปีสมัยเรียนมอชอพวกเฮียจีบสาวมั่งไหม .. น้อง ๆ ถาม

    .. มีครับ .. แต่ ..ฮิ..ฮิ .. ไม่อยากจะเซด .. ถ้าไม่มีอะไรฮา ๆ ก็ไม่ใช่พวกผมสิ ..

    แก๊งค์ของผมนั้นรวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น  และก็ใช้ชีวิตกันอย่างสนุกสนานมาก  
    สนุกจนไม่มีใครคิดแยกตัวออกไปคบเพื่อนหญิง  ..  อย่าเก่งก็แค่ไปกุ๊กกิ๊ก ๆ สักพัก
    แล้วก็ต้องกลับมาตายรัง .. ไปไหนไม่รอด ..   … ลองมาดูกันสักตั้งดีไหม ....

    คนแรกคือ ไอ้หน่องจอมลามกกวนตีน   มันเป็นคนที่เร่ออกไปจีบสาวมากที่สุด
    อย่างที่บอกไปว่ามันหล่อเหลา มาดเท่ห์คล้ายซาเอบะ  เรียว เลยแร่ดเป็นพิเศษ ..
    แต่ไอ้นี่ดันเป็นโรคประสาทอยู่อย่างหนึ่ง  คือถึงแม้ว่าตอนจีบจะยากเย็นแสนเข็ญ หรือ
    ลงทุนขนาดไหนก็ตาม   แต่หากรู้ว่าจีบสำเร็จ เขาพอมีใจให้แล้ว  มันก็จะเผ่นหนีทันที

    ย้อนไปถึงขณะที่เพิ่งจบมอหกได้สักสองเดือน   อีกไม่นานจะต้องไปเป็นเฟรชชี่ที่มอชอ ..
    วันนั้น  .. ไอ้หน่องปั่นจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์คู่ใจ   ผ่านไปแถวตลาดกลางเมืองเชียงราย ..
    ขณะที่มองสองข้างทางไปเพลิน ๆ  สายตาก็สะดุดเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่งอย่างจัง ..
    หุ่นบาง  ขาว หมวย  สวยน่ารัก  ถูกสเป็คของมันอย่างยิ่ง  นั่งอยู่หน้าร้านขายขนมปัง

    ไอ้จอมกวนเบรครถพรืด  เลี้ยวกลับเข้าไปเทียบแถวข้างร้านขายขนมปังเพื่อสืบข้อมูล  
    ได้ความมาเล่าให้ผมฟังว่า  ร้านขนมปังนั้น  เป็นโรงงานผลิตด้วยอยู่ทางด้านหลัง
    สาวน้อยคนนั้นเป็นหลานสาวเจ้าของร้าน   เรียนมอห้าอยู่ในกรุงเทพ   ปิดเทอมเลย
    มาเที่ยวเชียงราย ..    ก่อนเล่าจบมันทิ้งท้ายไว้ว่า ..

    “สเป็คข้าจริง ๆ  … ต้องหาทางจีบให้ได้..”

    มันหาทางจนได้ครับ .. แม้กระทั่งผมยังงง ..   คือพยายามไปหาคนมาฝากมันเข้าทำงาน
    ในร้านขนมปัง  เพื่อเข้าไปใกล้ชิดเด็กสาวดวงซวยคนนั้น ..

    แน่นอนครับที่หนุ่มน้อยหน้าใส   กลิ้งไปได้รอบตัวอย่างมัน    จะต้องหาวิธีให้อาหมวย
    จากกรุงเทพสนใจในตัวมันจนได้ ..   หลังเลิกงานแทนที่มันจะไปเที่ยวเตร่หรือพักผ่อน
    แบบคนงานคนอื่น ๆ มันกลับมาช่วยขายขนมหน้าร้าน จนได้พูดคุยกัน .. ยกตัวอย่าง..

    “หน่องเรียนหนังสือถึงชั้นไหนน่ะ .. “

    “ผมเรียนจบปอหกมาหกปีแล้วครับ .. “

    ดูมันว่า .. แต่ก็จริงของมัน ..  และสาวน้อยก็ไม่ได้เฉลียวคิด ..

    “เสียดายนะ  หากได้เรียนต่อเหมือนคนอื่น  อาจได้เรียนมหา’ลัยเลยก็ได้..”

    “คนอย่างผมในตอนนี้ .. คงไม่มีโอกาสได้เข้าไปเรียนในมหา’ลัยหรอกครับ .. “

    “ก็แน่ละสิ ..   ก็ยังไม่เปิดเทอมนี่หว่า .. “

    ผมพูดแทรกขึ้นขณะที่มันมาเล่าให้ฟัง ..  คำพูดชวนให้คันมือคันเท้าไหมครับ ..

    ตอนเย็น ๆ ไอ้หน่องจะเอากีตาร์มาดีดติ๊ง ๆ       พลางทำเป็นอ้อนสาวน้อยให้ช่วยเขียนคำร้อง
    ของเพลงสากลให้เป็นภาษาไทย พร้อมกับแปลให้ด้วย . เป็นฟอร์มของมันแหละ
    แน่นอนที่แต่ละเพลงที่เอามานั้นเป็นเพลงรักทั้งสิ้น  ..

    ในที่สุดสาวน้อยก็หลวมตัวจนได้   คือไปร้องเพลงคลอกีตาร์กับมันบนดาดฟ้าทุกวัน  
    พอเห็นว่าสาวน้อยมีใจให้แน่  จอมกวนก็ลาออกมาเฉย ๆ นั่นแหละ เงินเดือนเงินดาวน์
    ก็ไม่รับ  ขอแต่ขนมมากินเป็นเข่ง  .. ประสาทดีไหม ..

    พอเข้าไปเรียนในมอชอ   วันหนึ่งผมชวนมันไปหาป้ารหัสของผม  ซึ่งเป็นพี่ปีสาม  เพื่อไป
    เอาของอะไรสักอย่าง   นัดเจอกันที่ม้าหินอ่อนใต้หอเจ็ดหญิง  ปรากฏว่าป้ารหัสของผม
    นั่งอยู่กับพี่หญิงดาวเด่นของเมเจอร์บัญชี ..

    พอเห็นพี่หญิงเข้าไอ้หน่องก็ออกอาการกระดี๊กระด๊าเลยครับ     อาศัยความเป็นเฟรชชี่    
    ถามโน่นถามนี่  พูดจ้อไม่หยุดปาก  พอเสร็จธุระของผมก่อนจากกัน  ปรากฏว่ามันได้
    ฝากเนื้อฝากตัวขอเป็นน้องชายของพี่หญิงได้เรียบร้อย ..

    หลังจากนั้นไอ้ตัวจอมกวนก็เทียวไล้เทียวขื่อไปหาเขาทุกวัน     แต่สงสัยว่าวันแรกจะจีบ
    ออกนอกหน้ามากเกินไปจนเขาจับไต๋ได้ว่าริจะข้ามรุ่น    พี่หญิงเลยคอยหลบ ๆ เลี่ยง ๆ
    มันมาโดยตลอด  แต่ไอ้หน่องก็ไม่ละความพยายาม ตามหาจนเจอทุกครั้ง   และก็เริ่มต้น
    ด้วยการชวนเขาไปกินข้าวด้วยกันสองต่อสองทุกครั้ง ..    ซึ่งพี่หญิงก็ตอบสนองด้วยการ
    ปฏิเสธทุกครั้งเช่นกัน ..

    คนหนึ่งคอยชวน  คนหนึ่งคอยปฏิเสธ  เป็นอยู่อย่างนี้ได้ประมาณสามเดือน  วันหนึ่งผม
    กับไอ้หน่องก็ไปเจอพี่หญิงโดยบังเอิญที่ข้างสนามวอลเล่ย์   กำลังเดินงุด ๆ อยู่คนเดียว  
    คาดว่าจะกลับหอเจ็ดหญิง ..

    ไอ้หน่องรี่ไปทัก   ส่วนผมยืนสังเกตการณ์อยู่ห่าง ๆ  ..   ทั้งคู่คุยอะไรกันบ้างในขณะนั้น
    ผมจำไม่ได้ ..  แต่จำได้แม่นคือพี่หญิงคุยกับมันอย่างอารมณ์ดี   ผิดไปจากที่ผ่าน ๆ มา  
    มีหัวเราะคิกคักขณะคุยกัน  ..  ปิดท้ายด้วยประโยคที่ผมยังจำได้ติดหูมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ..

    “หิวจังเลย  หน่องกินอะไรมาบ้างรึยัง ..”

    ผมแทบไม่เชื่อหูของตัวเองเมื่อได้ยินประโยคนั้นหลุดจากปากของพี่หญิง    มองไปทาง
    เพื่อนผมเห็นมันตีหน้าตาย   ตอบกลับไป ..

    “กินมาแล้ว .. ตั้งแต่เล็กจนโต ..”
    พี่หญิงอ้าปากค้างเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง   พูดคำว่า ..”..ดี !! ..”  คำเดียวแล้วก็สะบัดหน้า
    เข้าหอเจ็ดหญิงไป  ส่วนไอ้จอมกวนผิวปากหวิว ๆ ชวนผมเดินต่อ ..
    ……..
    ……..

    มาที่คนอื่นบ้าง .. ไอ้เล่ตัวดำเคยหลงรักน้องแพรสาวเชียงราย .. น้องจังหวัดของผมเอง ..
    ผมเห็นน้องเขาท่าทางคล่องแคล่วดี  เลยดึงให้มาช่วยงานในชมรมปาฐกฯ   เป็นเลขา..  
    ไอ้เล่แวะมาหาผมที่ชมรม เจอเข้าถึงกับเอาไปนอนเพ้อ เซ้าซี้ให้พาไปรู้จัก  ผมเตือนไปว่า
    น้องแพรเปรี้ยวยังกะอะไรดี  ไอ้หนุ่มนักปีนมะพร้าวจากเขื่อนสามเงาก็ไม่ยอมฟัง  

    ตกลงผมเลยได้กรรมกรชมรม  (กรรมกร  นะครับ  ไม่ใช่กรรมการ) มาอีกหนึ่งคน  
    สามารถใช้งานได้ทุกอย่างผ่านทางน้องแพร   สะบายแฮไป ..

    วันหนึ่งเห็นมันบรรจงหวีผมที่หยิกหยองเหมือนนิโกร  ใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่ง  ทำท่า
    เหมือนจะมีนัดสำคัญ  

    “จะไปไหนวะ ..”  .. ผมถาม ..

    “จะไปรับน้องแพรกินข้าว ..นัดไว้แล้ว ..  “ .. มันบอก ..

    แต่งตัวเสร็จแทนที่จะออกไป  มันกลับนั่งทอดหุ่ย  มองออกไปนอกระเบียงอย่างใจเย็น ..

    “อ้าว ..!! .. นัดน้องแพรไว้ไม่ใช่หรือ.. ทำไมไม่ออกไปสักที .. “  ผมอดสงสัยไม่ได้ ..

    “รอเดี๋ยว ..”  มันบอกมา ..  ทำท่ายิ้มมีเลศนัย

    “รออะไรวะ .. “

    “เอ็งเห็นก้อนเมฆโน่นไหม .. “    

    มันชี้ไปที่ก้อนเมฆที่เห็นอยู่ลิบ ๆ  .. ผมบอกว่าเห็น ..

    “เอ็งเชื่อข้า .. เมฆก้อนนี้เป็นเมฆฝนแน่ ๆ   เห็นไหม .. มันลอยมาทางนี้เรื่อย ๆ    คาดว่า
    อีกไม่นานนักต้องมาจ๊ะเอ๋กับดอยสุเทพ   แล้วฝนก็ต้องตก   .. แต่ถ้าขืนรีบออกไปตอนนี้  
    ถึงกินข้าวช้าขนาดไหนก็เสร็จก่อนฝนตกแน่ ๆ .. รอจังหวะอีกสักประเดี๋ยวให้เมฆมาใกล้
    กว่านี้แล้วค่อยออกไป   ระหว่างที่นั่งกินข้าว  ฝนก็จะตก  บรรยากาศก็จะดี  ที่สำคัญคือ
    ข้ากับน้องแพรก็จะกลับไม่ได้ ..ฮะ..ฮะ.. ได้อยู่ต่อให้ข้าจีบจนเคลิ้มโน่นแหละ .. ”

    โห .. มันพูดไว้ประมาณนี้แหละครับ .. ยอมรับว่าเป็นขงเบ้งกลับชาติมาเกิด  ถึงขั้นเอา
    ดินฟ้าอากาศมาช่วยจีบสาว   .. มันคิดได้ไง ..

    และฝนก็ตกขณะที่กำลังกินข้าวอยู่จริง ๆ  อย่างที่มันคาดไว้ .. ผมยกนิ้วให้ .. แต่เผอิญ
    มันคาดผิดอยู่อย่างหนึ่งคือน้องแพรดันชวนเพื่อนไปด้วยอีกคนหนึ่ง แถมเลือกร้านซะหรู  
    พอฝนตกให้นั่งกันนาน ๆ กระเป๋าไอ้เล่ก็ฉีกสิครับ ..เห็นว่ามื้อนั้นจ่ายไปหกร้อยกว่าบาท
    ขณะที่เงินเดือนของมันแค่พันสอง .. โธ่ .. เล่เอ๋ย ..

    มาถึงไอ้โด้บ้าง  ถึงจะเหมือนผีตายซากขนาดไหนก็ดันจะลองจีบสาวกับเขาเหมือนกัน ..
    มันมีนกคู่ใจอยู่ตัวหนึ่งชื่อสมศักดิ์   ซึ่งเหมาะกันอย่างกะผีคู่โลงเพราะเป็นนกเค้าแมว  
    เชื่อเถอะครับ .. นี่เป็นเรื่องจริง  ไม่ได้ใส่ไข่  .. นกเค้าแมวเพิ่งหัดบินตัวนี้หลงบินเข้ามา
    ในห้องของพวกผม  ขณะเล่นไพ่กันอยู่ดึก ๆ   เลยจับเอาไว้  พอเห็นว่าเป็นนกเค้าแมว
    ต่างคนต่างก็เบือนหน้าหนี  มีแต่ไอ้โด้ซึ่งอ้าแขนรับอย่างเต็มใจ     ตั้งชื่อให้ว่าน้องเชอรี่
    พวกผมได้ยินแล้วก็ส่ายหัว   เปลี่ยนให้เป็นสมศักดิ์ซึ่งเอามาจากชื่อจริงของไอ้โด้นั่นเอง

    เจ้านกตัวนี้เชื่องมากและก็ฮามาก   ฮาแม้กระทั่งวันที่มันตาย    ผมเคยเล่าไว้ในกระทู้
    ของใครไม่รู้   สมัยยังเขียนเรื่องสมิง  เอาไว้จะมาเล่าใหม่อีกที ..

    ช่วงเย็น ๆ พวกผมจะชอบยกโขยงไปนั่งเล่นกีตาร์กันที่ริมอ่างแก้ว  วันไหนมีตังค์ก็จะติด
    แม่โขงหรือเหล้าขาวไปด้วย  แล้วแต่กระเป๋า ..  วันหนึ่งขณะนั่งเล่นกันอยู่  ก็เห็นสาวสวย
    กลุ่มหนึ่งเดินมานั่งเล่นอยู่ห่างจากแก๊งค์ผมพอประมาณ   …

    ไอ้หน่องนึกปิ๊งอย่างไรไม่รู้   คว้าเจ้าสมศักดิ์ออกจากมือไอ้โด้    เอามาเกาะไว้ที่ไหล่  
    แล้วก็เดินเร่เฉียดไปทางสาว ๆ ..ได้ผลครับสาว ๆ กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่  เพราะดู ๆ ไป
    เจ้าสมศักดิ์ก็พอน่ารักเอาการ   ขนยังอ่อนเป็นปุย ๆ   .. พวกเธอเข้ามาเขี่ย ๆ เล่นกับมัน
    กันทั้งกลุ่ม  สักพักไอ้หน่องก็กลับมา  พร้อมชื่อและห้องหอของสาว ๆ ทั้งกลุ่ม ..

    ไอ้โด้กระดี๊กระด๊าใหญ่ที่เห็นสมศักดิ์ของมันเป็นสะพานเชื่อมให้ไปรู้จักสาว ๆ ได้ขนาดนี้  
    รีบแย่งลูกรักของมันกลับคืน  วางบนบ่าแล้วเดินออกไปมั่ง ..




    ……. สามรอบอ่างแก้ว .. แม้แต่หมาก็ยังไม่มอง .. ……
    ……..
    ……..

    จากคุณ : ส.สัตยา - [ 10 พ.ค. 46 13:17:41 ]