อาศรมชาวโคลง ภาค ๖๖ ๏ ๏ ๏ กาพย์ประชันโคลง ๏ ๏ ๏

    กระทู้นี้เปลี่ยนบรรยากาศจากเดิมนิดหน่อยคือนอกจากจะเขียนโคลงตามปกติแล้ว
    ยังชวนมาแต่งกาพย์ฉบัง ๑๖ ด้วย
    รูปแบบกาพย์ฉบัง ๑๖ ดูได้ที่ลิ้งก์นี้จ้าน
    http://thaiarc.tu.ac.th/host/thaiarc/poetry/kaap/index.html

    นิรนามไม่เคยแต่งกาพย์ฉบัง ๑๖ ก็เลยขอเอากาพย์ฉบังของผู้ที่เคยแต่งไว้มาวางไว้พอเป็นแนวทาง
    ของนู๋ศอเจ้าเก่านั่นเอง (ใครมีต้นฉบับกาพย์ฉบังที่น่าอ่าน ช่วยคัดมาลงเป็นแนวทางด้วยจ้าน)

        คำเอยเคยคุ้นอุ่นนัก                        งดงามยามรัก
        หวานแว่วแผ่วพจน์รดริน

        น้อยหนึ่งพึงเพียงเสียงพิณ              หยาดดลยลยิน
        กล่อมจิตจับใจไหวหวาม
           
        อิ่มอาบซาบซึ้งตรึงตาม                   คารมคมความ
        ผูกมัดรัดเกี่ยวเกลียวใจ

        ห่อนแจ้งแฝงเล่ห์เสน่ห์ใน                เจตน์จงหลงใหล
        ติดบ่วงลวงแล้วแก้วตา

        ราวสรวงห้วงรักชักพา                    คร่ำครวญหวนหา
        หอมกรุ่นอุ่นอ้อมถนอมนาน

        คืนวันผันลับกับกาล                       จืดจางทางผ่าน
        ถ้อยคำทำเหน็บเจ็บใน

        เสียแรงไว้เนื้อเชื่อใจ                        น้ำตาบ่าไหล
        หลั่งล้นท้นทบกลบทรวง

        หักจิตติดตามถามทวง                   ขอลืมคนลวง
        ใจลาญผลาญยับกับมือ

        เสียทีชี้ชัดสัตย์ซื่อ                          ที่แท้แค่คือ
        คมมีดกรีดซ้ำย่ำยี

        กรวดน้ำคว่ำขันวันนี้                      ไม่ขอต่อตี
        ยอมโกรธโทษตัวชั่วเอง !
    . . . . .

    ปลายกระทู้ที่แล้วจอมยุทธเมรัยบอกว่าจะ พลีเซ่น เอ๊ย พรีเซ้นต์ อภิมหาเปลเปล้อ
    แปลว่า กระทู้นี้นอกจากจะมีกาพย์ฉบังและโคลงแร้ว ยังอาจแซมด้วยเปลเปล้อด้วย

    ใครที่อ่านเจออะไรดีๆ                 โปรดจงปราณี
    ทำเปลเปล้อเสนอโดยพลัน
    อันว่าตัวฉันใฝ่ฝัน                       รู้สิ่งสำคัญ
    เป็นเครื่องประเทืองปัญญา

    ว่าเข้านั่น เขียนได้บทสองบทแร้ว หิ๊หิ๊
    . . . . .

    อ้อ ลิ้งก์กระทู้ก่อนอยู่ที่
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2216931/W2216931.html
    . . . . .

    จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 16 พ.ค. 46 21:50:30 ]