บันทึกไว้ในวงวรรณ......เรื่องของวรรคทอง.......

    บันทึกไว้ในวงวรรณ......เรื่องของวรรคทอง.......

    ยุคสมัยของกาพย์กลอน ตั้งแต่ยุคโบราณมาถึงสมัยปัจจุบัน อาจจะเรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ
    จนมาถึงแนวทางของกวีนิพนธ์ยุคใหม่ หรือเรียกว่ายุคแสวงหา อาจจะพูดได้ว่าในทางเนื้อหาและจุด
    มุ่งหมายของการนำเสนองานกวีนิพนธ์เปลี่ยนแปลงไปจากยุคเก่า นับตั้งแต่สมัยหลังสงครามโลกครั้ง
    ที่ ๒ เป็นต้นมาจนถึงทุกวันนี้ บทกวีทั้งหลายทั้งปวงมักจะได้รับการนำเสนอด้วยจุดมุ่งหมาย ที่จะแสดง
    ทัศนะในทางความรู้สึกของคนยุคใหม่ ด้านความรัก ความทุกข์ ความสุข ที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามสภาพ
    ที่กวียุคปัจจุบันได้ประสบ แต่ถ้าจะแบ่งแยกกันจริงๆจังๆ อ.จรูญ ทองถาวร (คัดจากคำนำเสนอใน
    หนังสือกวีนิพนธ์ชุด วรรณวจีวิจิตร ของ ภิญโญ ศรีจำลอง) แบ่งเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ๆคือ

    ๑. กวีที่ยึดถือด้านการแสดงออก เรื่องธรรมชาติ อารมณ์ ความรัก ความเพ้อฝัน ซึ่ง อ.จรูญ ทองถาวร
    ได้เรียกกวีกลุ่มนี้ว่า กลุ่มวรรณศิลป์

    ๒.บทกวีนิพนธ์ที่แสดงทัศนะทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ จัดไว้ในกลุ่ม กวีกลุ่มก้าวหน้า หรือ กวีเพื่อ
    ชีวิต

    แต่ถึงอย่างไรก็ตามผู้นำเสนองานกวีทั้ง ๒ กลุ่ม ก็มีส่วนจุดประกายให้งานกวีนิพนธ์ของไทยเฟื่องฟู
    อย่างยิ่งในยุคหนึ่ง และมีผลมาถึงยุคปัจจุบัน อันอาจทำให้หวังได้ว่า " กวีฤๅรู้แล้งแหล่งสยาม " จะต้อง
    คงความเข้มขลังอยู่ตลอดไป

    เริ่มชักแม่น้ำทั้งห้า มาอีกแล้วหนอจอมยุทธฯ จะคุยเรื่องวรรคทองในงานกวีนิพนธ์นี่นา งั้นมาเริ่มเรื่อง
    วรรคทองเลยดีกว่า ในทีนี้คงเน้นเรื่องกลอนเป็นหลัก

    วรรคทองคืออะไร? ถ้าจะพูดให้ง่ายๆ วรรคทองก็คือ กลอนบางบทที่ทำให้คนจดและจำ เป็นบทที่กินใจ
    พูดได้ว่าบทกลอนที่เป็นวรรคทองดังกล่าวมักมีคุณค่าในตัวมันเอง เป็นการเรียงร้อยคำที่ไพเราะให้ภาพ
    ทางความรู้สึกที่ชัดเจนและสะเทือนอารมณ์

    วานิช จรุงกิจอนันต์ ได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า กลอนบทเด่นๆหรือกลอนที่มีวรรคทอง อันเป็นที่จดจำของ
    ใครต่อใครนั้น มีความพิเศษอย่างไรว่า

    ประการแรก เรื่องการจับอารม์สะเทือนใจ จุดไหนอย่างไรที่จะทำให้คนเรามีความสะเทือนใจสูง ซึ่งความ
    สะเทือนใจนี้เป็นเรื่องราวของศิลปะ ไม่ได้หมายถึงความโศกเศร้า

    ประการต่อมาคือเรื่องของคำและภาษาที่ใช้ ต้องเรียบง่ายคล้องจองไพเราะกินใจเป็นคำที่คุ้นๆ แต่เมื่อนำ
    มาร้อยเรียงเข้าด้วยกันแล้วกลับแปลก และคนอ่านมักจะนึกไม่ถึง

    ประการต่อมา วรรคทองจะต้องมีจุดชนะใจคนอ่าน เมื่อคนอ่านอ่านแล้วจะเกิดความรู้สึกว่าร้อยกรองที่
    เขียนนี้ไม่ใช่ใครก็เขียนได้ คนที่เขียนได้จะต้องมีฝีมือและน่าจะแสดงให้เด่นชัดว่า มีฝีมือเหนือกว่าคนอ่าน
    ทั่วๆไป ถ้าคนอ่านอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่เห็นมีอะไร ไม่เท่าไหร่อะไรทำนองนี้ก็เป็นอันว่าคงจะจบ

    แหะ แหะ จอมยุทธฯ จะพาเพื่อนๆเข้ารกเข้าพงไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้ก้อยังงงตัวเองอยู่ ฮ่า ฮ่า เอาเป็น
    ว่าเวลาที่เราเขียนกลอนให้คอยถามตัวเองบ่อยๆแล้วกันว่า กลอนที่เราเขียนนั้นตรงไหนบ้างที่น่าจะเป็น
    วรรคทอง แล้วมันเป็นจริงหรือเปล่า ถ้าคิดว่าเป็นก็อย่าเพิ่งแน่ใจ ลองถามคนที่เขาเชี่ยวๆดูก่อน

    ความจริงแล้วกระทู้นี้ จอมยุทธฯ จะนำกลอนชุดร่วมสมัย ที่มีวรรคทอง เป็นที่จดจำของคนทั่วๆไป เท่าที่จะค้น
    หาได้มานำเสนอ ส่วนที่มั่วๆข้างบนถือว่าเป็นอารัมภบทแล้วกันขอรับ

    มาติดตามกันได้เลย

    แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 46 21:24:27

    จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 9 มิ.ย. 46 19:55:58 ]