นิทานดวงดาว - ราศีกุมภ์

    ราศีมีนเป็นราศีที่ 12 ในจักรราศี รูปสัญลักษณ์ก็คือปลา แต่มิใช่ปลาตัวเดียว เป็นปลาสองตัว คือรูปคู่เช่นเดียวกับราศีมิถุน และตุล และมีการออกแบบรูปภาพได้อย่างน่าสนใจ

    ในแผนที่ดาว บริเวณท้องฟ้าส่วนที่เรียกว่าทะเลนั้น จะเป็นปลาในราศีมีนว่ายไปคนละทิศคนละทาง และอยู่ห่างกันพอสมควร และอยู่กันลนคะฟากของเส้นสุริยวิถี (ecliptic) พื้นที่ของกลุ่มดาวปลาคู่นี้กว้างใหญ่ไพศาลทีเดียว คือขนาดครอบคลุมประมาณ 30 องศา ทั้งสองแนว ในการรวมปลาสองตัวไว้ ผู้วาดได้รวบหางปลาไว้ใต้เส้นสุริยวิถี ในบริเวณเครื่องหมายที่มีดาวอัลริฌา (Al Risha) หรือดาว alfa Psc กำกับอยู่ และคำว่าอัลริฌานี้ก็หมายถึงเชือก ที่มัดหางปลานั่นเอง

    กลุ่มดาวนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร มีความสูงถึง 30 องศาความสว่างไม่มากนัก แต่อยู่ในเส้นทางของดวงอาทิตย์ ถัดจากกลุ่มดาวราศีมีน จึงได้รับการนับเข้าเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวจักรราศี สามารถเห็นได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนจากท้องฟ้าด้านตะวันออก จนถึงต้นเดือนมีนาคม กลุ่มดาวนี้เริ่มลับไปทางขอบฟ้าตะวันตกเนื่องจากตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนเข้าสู่กลุ่มดาวนี้ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นดาวราศีมีนได้

    ปลาตัวแรกของกลุ่มดาวที่หันไปทางเหนือนั้น อยู่ด้านซ้ายของจัตุรัสม้ามีปีก และมองไปทางอกของอันดรอเมดา หรือหากเป็นแผนที่ของชาวอาหรับ ปลายด้านขวาอยู่บนอกของหญิงสาว มีเครื่องหมายคือดาวมิราช ส่วนปลาที่มองไปทางตะวันตก ทางทิศของกลุ่มดาวคนให้น้ำ อยู่ใต้แผงคอของม้ามีปีก เกิดเป็นกลุ่มดาวรูปสี่เหลี่ยมคางหมู บางครั้งก็วาดเป็นวงกลม

    ช่วงระหว่าง 6,000 - 4,000 ปีก่อนคริสตกาล กลุ่มดาวหลักทั้งสี่คือ มิถุน, กันย์, ธนู และมีน ในช่วงนี้นักดาราศาสตร์ได้เห็นรูปแบบการจัดเรียงที่ประหลาดอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากจุดหลักทั้งสี่นี้ตลอดจักรราศีและดาวเหนือ ที่น่าประหลาดใจก็คือ สุรยวิถี แนวขอบฟ้า เมอริเดียน และทางช้างเผือก ต่างอยู่ในราศีที่อยู่ในอายัน นั่นคือ ธนู และมิถุน เมอริเดียนของวิษุวัตเคลื่อนจากกันย์ไปสู่ดาวเหนือ (สมัยนั้นคือดาวธูบันในกลุ่มดาวมังกร) เคลื่อนต่อไปสู่ศูนย์กลางของทางช้างเผือก ตัดผ่านจัตุรัสม้ามีปีก และในที่สุดก็มาถึงในกลุ่มดาวมีน ซึ่งเป็นเครื่องหมายของวสันตวิษุวัต

    ภายหลังวิษุวัตค่อยๆ เคลื่อนจุดหลักห่างออก ทำให้มีนเปลี่ยนรูปร่างไปจนเกือบจะสูญชื่อไปในศตวรรษที่สามก่อนคริสตกาล ซึ่งในเวลานั้นเรียกชื่อเพียงว่า น้ำ แต่นักดาราศาสตร์และนักเขียนเรื่องตำนานเทพยังคงเรียกชื่อเดิม มีนจึงยังคงอยู่แม้ว่าตำนานกำเนิดของมันจะเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม

    เดิมนั้น มีนเป็นปลาตัวเดียว มิใช่ปลาคู่ เรื่องนี้สอดคล้องกันทั้งของอาหรับและกรีก ซึ่งชาวอาหรับกำหนดราศีนี้เป็นกลุ่มดาวเทพธิดาเดรเคโตของซีเรีย ซึ่งเป็นที่นับถือเป็นพิเศษในเมืองอัสโคลาโน

    ในศตวรรษที่สิบเจ็ด ชื่อราศีนี้ถูกแทนที่ด้วยอัครสาวกของพระเยซูคริสต์ เรียกว่าจักรราศีของคริสเตียนโดยจูเลียส ชิลเลอร์ ตั้งชื่อว่า ราศีนักบุญ มัทธาย (Saint Matthew)

    ตำนานกรีกที่เล่ากันแพร่หลายเกี่ยวกับกำเนิดราศีนี้ก็คือเรื่องของตือภอน ผู้หมายปองเทพธิดาอะโภรดิเต เทพธิดาแห่งความรัก ซึ่งได้แบบมาจากเทพีอิชตารของตะวันออกกลาง อสูรตีฟอนหลงรักอะโภรดิเต แต่นางและเอรอส ลูกชาย กลับหนีไปตามฝั่งแม่น้ำอิวภราเตส (ยูเฟรติส) นางพรายน้ำนิมิตรให้เทพทั้งสองเป็นปลาเพื่อมิให้ตีฟอนเห็น และภายหลังปลาสองตัวนี้ก็กลายเป็นกลุ่มดาว เป็นเครื่องระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนี้

    ตีฟอนนั้นเกิดมาจากไกอา (พระแม่ธรณี) และตารตารุส นับเป็นลูกคนสุดท้องของไกอา แต่ในที่สุดก็เป็นอสูรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและน่ากลัวที่สุด ที่น่องของมันนั้นมีงูยักษ์พันอยู่ แขนนั้นเหยียดข้ามสวรรค์ได้ และศีรษะรูปร่างเหมือนลาแตะกับดวงดาว เมื่อตีฟอนเหาะเหินไปในอากาศ ปีกกระพือถึงพระอาทิตย์ และเมื่ออ้าปาก ก็มีหินไหม้ไหมกลิ้งออกมา ตีฟอนนั้นเป็นที่สะพรึงกลัวแก่สรรพชีวิตทั้งปวง แม้ทวยเทพแห่งเขาโอลิมปุสก็ไม่อยากจะต่อกรด้วย ครั้นเมื่อตีฟอนเข้ามาโจมตีขุนเขาอันเป็นที่พำนัก ทวยเทพกลับหนีไปอยู่ในแดนไอยคุปต์เสียนี่ เทพแต่ละตนแปลงกายเป็นสัตว์นานาชนิด แล้วแต่จะนึกได้ เช่น ซิวส์ก็แปลงกลายเป็นแกะ ดิออนีซุสเป็นแพะ อะโฟรดิเต และเอรอส เป็นปลา ว่ายไปในแม่น้ำไนล์ เพื่อหนีอสูรร้ายตนนี้

    ในที่สุดตีฟอนก็พ่ายแพ้ ทั้งนี้ก็เนื่องอะเธเนผู้กล้าหาญ ซึ่งสนับสนุนให้ซิวส์ให้สายฟ้าฟาด และไปประมือกับอสูรตนนี้ และตีฟอนถูกซิวส์จับได้ นำไปขังไว้ในถ้ำแห่งหนึ่ง ทว่าเฮรเมส และปัน (แพน) สามารถช่วยให้ตีฟอนเป็นอิสระได้

    ซิวส์นั้นได้จับตีฟอนขว้างไปยังเกาะซิคิลี และยังหักเอาภูเขาไอตนา (อังกฤษว่า เอตนา) ไปยังอสูรดังกล่าว และในที่สุดก็ทับร่างจนจม แต่เมื่อจมอยู่ในผืนดิน อสูรที่ถูกฝังนั้นยังคงพ่นไฟและหินร้อนออกมาเสมอๆ

    แม้ว่าตำนานนี้จะไปอยู่ในอิตาลา แต่เชื่อว่าต้นกำเนิดเดิมนั้นมาจากวัฒนธรรมชาวฮิตไทต์โบราณ และการระเบิดของภูเขาไฟในหมู่เกาะแถบทะเลเอเจียน

    ย้อนกลับถึงอะโฟรดิเตและเอรอส ที่หนีจากอสูรร้าย และแปลงกายเป็นปลา ทั้งสองได้มีภาพปรากฏในสวรรค์ เพื่อเป็นเครื่องระลึกว่าครั้งหนึ่งตีฟอนเกือบจะทำลายภูเขาโอลิมปุสได้

    ดาวเด่นในราศีนี้แทบจะไม่มีเลย  แม้จะมีดาวในกลุ่มมากมายหลายดวงก็ตาม ดาวที่สว่างที่สุดเห็นจะเป็น ดาว h Psc ที่ค่าความสว่างประมาณ 3 อยู่ค่อนไปทางกลุ่มดาวราศีเมษ เป็นดาวคู่เช่นกัน แปรค่าความสว่างระหว่าง 3.5, 11 แยกออกยาก

    สำหรับดาว alfa Psc นั้นความจริงแล้วเป็นดาวคู่ มีอีกชื่อว่า Struve 202 รอบโคจร 933 ปี มีความสว่าง 4.3, 5.2 ส่วนดาวอีกดวง คือ zeta Psc นั้นมีอีกชื่อว่า Struve 100 เป็นดาวคู่ที่สวยงามดวงหนึ่ง มีความสว่าง 5.6, 6.5

    วัตถุอื่นๆ ที่น่าสนใจในกลุ่มดาวราศีมีน ได้แก่ M74 (NGC 628) เป็นดาราจักรรูปเกลียว โดยเห็นด้านหน้า มีระยะห่างออกไปจากระบบสุริยะของเราประมาณ 22 ล้านปีแสง และมีความสว่างน้อยมาก ต้องอาศัยกล้องขนาดใหญ่ จะเห็นแขนหลวมๆ 2-3 แขนหมุนห่างออกจากใจกลาง ดาราจักรนี้อยู่ห่างจากดาว eta Psc ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ/ตะวันออก ราว 1.5 องศา

    จากคุณ : thaipoet - [ 11 มิ.ย. 46 00:08:36 A:203.113.67.71 X: ]