"เจ้าแต้ม อายุกี่ปีแล้วค่ะ" หลานสาวตัวน้อยถามด้วยความสงสัย
"6 ปี ได้แล้วนะ ถ้าน้าจำไม่ผิด" ฉันตอบหลานสาวพลางนึกย้อนไปวันแรกที่แต้ม ได้เข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว
"วันแรกที่แต้มเข้าบ้าน"
ในคืนวันหนึ่งลูกสุนัขตัวน้อย เพศเมีย ถูกเจ้าของเดิมนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน มันตัวเล็กมาก ท่าทางยังไม่อดนมด้วยซ้ำ พ่อเจอมันที่หน้าประตูรั้วขณะกำลังจะเปิดเข้ามาในบ้าน ด้วยลักษณะอาการที่ตื่นกลัวและดูหิวโซ พ่อจึงจับมันขังไว้ท้ายกระบะรถยนต์ก่อนชั่วคราว ตอนเช้าของอีกวันแม่หาข้าวคลุกกะเศษน้ำผัดผักให้มันกิน พ่อบอกกับแม่ว่าจะเอาแต้มไปปล่อยวัด ฉันนึกสงสารอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ได้ออกความเห็นอะไรออกไป เพราะตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยนึกอยากจะเลี้ยงหมาเลย
แม่ยืนมองมันกินข้าว มันค่อย ๆ ละเลียดกินข้าวอย่างเรียบร้อย ไม่มีเศษเม็ดข้าวตกออกมานอกชามข้าวนั้นเลย มันเงยหน้าขึ้นมามองแม่ด้วยสายตาที่ไร้เดียงสา ท่าทางของมันตอนนั้นเหมือนเด็กน้อยที่ขอความรักความเห็นใจ
"ดูสิมันกินข้าวเรียบร้อยด้วยนะ ไม่ตกเลอะเทอะเลยด้วย แม่จะเลี้ยงนะพ่อ"
"แต่ลักษณะมันไม่สวยเลย สีก็กระดำกระด่างลาย ๆ เหมือนผ้าขี้ริ้ว เค้าบอกกันว่าเลี้ยงหมาแบบนี้ไว้ไม่ดีนะแม่" พ่อพูดขัดขึ้นมา
"เลี้ยงหมาถูกทิ้งมาแบบนี้ได้บุญนะพ่อ จะไม่ดียังไง แม่สงสารมันนะพ่อดูสิตามันดูบ้องแบ๊วน่ารักขนาดนั้น ถึงสีไม่สวยแต่มันก็มีชีวิตจิตใจนะพ่อ"
"ก็ตามใจแม่นะ"
"ชื่อของมัน"
เมื่อแม่ตกลงจะเลี้ยงไว้ เลยต้องหาชื่อให้มันซะก่อน แม่เรียกมันว่า "แต้ม" เพราะสีขนของมันเป็นสีดำจาง ๆ แซมเหลืองมอ ๆ เหมือนเอาพู่กันจุ่มสีเหลืองแต้มลงบนกระดาษสีดำจาง ๆ เจ้าแต้มตอนเล็กไม่ซนมากเท่าไหร่ แต่ที่ทำให้ทุกคนหงุดหงิดคือมักจะแอบมาขโมยรองเท้าไปกัดฟัดเล่นแล้วหาไม่เจอ บางคู่เป็นรอยเขี้ยวซะทั่วไปหมดจนต้องทิ้งไป หนัก ๆ เข้าพ่อจับได้เลยต้องตีให้มันหลาบจำกันบ้าง
"อาหารของแต้ม"
แรก ๆ แต้มกินแค่ข้าวคลุกกับเศษอาหารที่เหลือ แล้วก็นมข้นหวานชงให้กิน ด้วยความที่มันเป็นหมาพื้นบ้านธรรมดาทั่วไป เราเลี้ยงมันแบบง่าย ๆ ไม่ได้มีอาหารเม็ด อาหารเสริม อะไรให้เป็นพิเศษ พอโตมาอีกหน่อยมันเริ่มเบื่อข้าว กินได้น้อยเหลืออยู่ประจำ แม่จึงซื้อโครงกระดูกไก่บดที่ตลาดมาต้มใส่เกลือไว้คลุกข้าวให้มันกิน ไม่นานก็เบื่ออีก เลยเปลี่ยนจากโครงไก่บดต้ม มาเป็นโครงไก่ชุบแป้งทอดสับละเอียดหรือไม่ก็กากมันหมูที่ทอดแล้ว สลับสับเปลี่ยนอยู่แบบนี้ อย่าคิดว่าหมาไม่รู้จักรสชาติอาหารละ มันคิดเป็นรู้สึกและสัมผัสทุกอย่างได้เหมือน ๆ กับคน เพียงแต่มันพูดไม่ได้ มันจะแสดงออกด้วยท่าทางและพฤติกรรมที่ผิดปกติจากเดิม คนเลี้ยงต้องคอยสังเกตเอาเอง
เดี๋ยวนี้แต้มกินอาหารเม็ดสลับกับข้าว ด้วยเห็นว่าสะดวกแม่จึงซื้ออาหารเม็ดให้กิน เราซื้ออาหารเม็ดสำเร็จรูปที่โฆษณาขายตามทีวียี่ห้อหนึ่ง ในครั้งแรกที่ให้ "แต้มไม่กิน" ดม ๆ แล้วเดินหนี "โห หยิ่งแฮะ นี่มันไม่ใช่ราคาถูก ๆ เลยนะ หรือว่ามันไม่ชอบยี่ห้อนี้? ลองเปลี่ยนดูละกัน" เมื่อเปลี่ยนมาเป็นอีกแบบหนึ่ง แต้มกินแบบไม่มีเหลือค้างไว้ในจานเลยสักเม็ด ดูเอาเถอะนั่น หมามันมีสิทธิเลือกได้เหมือนกันนะเนี่ย แสดงว่าอาหารเม็ดแต่ละยี่ห้อคงมีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างกัน ตามที่ได้กล่าวอ้างไว้ในโฆษณานั้นจริง ไม่ได้แค่ยกเมฆชวนเชื่อไปงั้น ๆ
"นิสัยส่วนตั๊ว ส่วนตัว ของแต้ม"
เจ้าแต้มตัวนี้มีนิสัยที่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือเวลาเรียกกินข้าว แต้มจะไม่เดินมากินทันที มันจะรอให้เราเดินไปก่อนแล้วจึงลุกมากิน แต้มจะไม่ยอมกินเวลามีคนยืนดูหรือจ้องมันอยู่ แม้แต่กระทั่งว่ากำลังกินก็ตามเถอะ ถ้าเราเดินไปใกล้มันหรือเรียกมันตอนกินอยู่ แต้มจะหยุดกินแล้วเดินห่างออกไปจากจานข้าวทันที ฉันรู้สึกหมั่นไส้กับนิสัยนี้ของมันมาก ไม่รู้มันคิดอะไรของมันอยู่ หรือมันอายไม่อยากให้ใครดูตอนกินข้าว อืมมมม เดาใจมันไม่ถูกแฮะ ถ้ามันพูดได้ป่านนี้คงถามมันไปแล้วละ
"แต้ม หมาขี้ร้อน"
เวลาจับแต้มอาบน้ำ มันจะยืนนิ่ง ๆ ให้อาบน้ำโดยง่าย ไม่พยายามจะวิ่งหนีหรือคอยแต่จะสะบัดน้ำเหมือนหมาตัวอื่นที่เคยเห็นมา ท่าทางแต้มคงจะเป็นหมาขี้ร้อนนะเนี่ย ดังนั้นเวลาฝนตกปรอย ๆ แต้มจะนอนตากฝนอยู่แบบนั้นไม่ยอมลุก จนกระทั่งเม็ดฝนเริ่มใหญ่ แล้วน้ำเริ่มเจิ่งนองบนพื้นดินนั่นแหละ แต้มจึงจะยอมลุกเข้าหลบฝน ทุก ๆ วันแต้มจะชอบนอนหลบความร้อนอยู่ใต้รถยนต์ วันไหนรถยนต์ไม่อยู่ มันจะหานอนใกล้ ๆ กระถางต้นไม้ที่ดินชุ่มน้ำ ทนไม่ไหวมากจริง ๆ มันจะขุดหลุมไว้นอนโดยเฉพาะ และแล้วหลุมพรางเจ้าแต้มก็ทำเหตุให้แม่เท้าพลิก ขณะเดินรดน้ำต้นไม้ ในเช้าวันหนึ่ง
"แต้ม ขุดแล้วทำไมไม่กลบดินซะละ" แม่ตะโกนเสียงดังด้วยความเจ็บ
"แต้มเป็นหมาตัวเมีย"
แต้มสวยไหม? ฉันเคยคิดเล่น ๆ ท่าทางคงจะสวยนะ เพราะถ้าถึงฤดูกาลแห่งการผสมพันธุ์ทีไร ที่บ้านจะวุ่นวายและถูกรบกวนจากเสียงหมาตัวผู้กัดกันเพื่อแย่งแต้ม เราเลี้ยงแต้มแบบปล่อยไม่เคยขังกรงและก็ไม่คิดจะหากรงมาขัง แต้มออกไปวิ่งเล่นข้างนอกได้แบบสบาย ๆ มันคงไปหว่านเสน่ห์ไว้ไม่น้อยทีเดียวเชียว หนุ่ม ๆ จึงได้มาออกันอยู่เต็มนอกรั้วบ้าน มันทั้งเห่าทั้งกัดกันเอง ตัวไหนสู้ไม่ได้ก็ต้องเจ็บตัวเป็นแผลทั่วตัว "แบบนี้นี่เองที่เค้าว่าหมามันเกิดอาการสัด"
แม้จะไม่ชอบเลี้ยงหมาเลยสักนิด แต่เมื่อได้เลี้ยง ได้เล่น ได้อยู่ใกล้ ๆ คอยสังเกตพฤติกรรมของแต้มอยู่บ่อย ๆ สิ่งที่สัมผัสได้ คือ "มันน่ารักนะ" ถึงมันจะไม่สวยเหมือนหมาพันธุ์จากเมืองนอก ตัวราคาแพงลิบเหล่านั้น แต่มันก็รักเจ้าของ ซื่อสัตย์ ภักดี ไม่มีคิดร้าย แล้วแบบนี้ยังจะทิ้งขว้างกันอยู่ทำไมนะ
ไม่ว่าจะหมาพันธุ์จากเมืองนอก ขนสวย ดูน่ารัก แต่ราคาแพง กับหมาพื้นบ้านไทย ๆ ที่เก็บได้จากข้างถนน ยังไงแล้วมันคือสิ่งมีชีวิต ที่รู้จักคิด รู้จักความเจ็บปวด รู้จักความหิว รู้จักสัมผัส รูป รส กลิ่น เสียง ได้เหมือน ๆ กัน ถ้าเลี้ยงมันด้วยความรัก ดูแลเอาใจใส่มันอยู่ตลอดเวลา เชื่อเถอะว่าคุณจะรู้สึกสัมผัสได้ในความรักที่มันมีให้เจ้าของไม่แตกต่างไปกว่ากันเลย
ที่สำคัญถ้าไม่มีความรัก ความเมตตาสงสารให้สัตว์ อย่าซื้อมาเลี้ยงเลยนะ
แม้คุณจะเห็นว่ามันสวยน่ารักเลยอยากเลี้ยง
เลี้ยงตามเพราะเห็นคนอื่น ๆ เลี้ยง
แล้วปล่อยปะละเลย ไม่สนใจเหลียวแล
"มันคงไม่อยากเป็นหมาถูกทิ้งเหมือนเจ้าแต้มหรอกนะ"
จากคุณ :
ใบเตยหอม
- [
16 มิ.ย. 46 13:21:02
A:203.113.51.68 X:
]