ความคิดเห็นที่ 49
สวัสดีครับคุณคนละแม, หนูจังงัง, คุณหลานไกลถิ่น, คุณ สดายุ, คุณ syringe
เมื่อคืนก็ไม่ได้ขึ้นเวบอีกครับ เจอพรรคพวก (อีกแล้ว) เลย ไปหาอะไรกินกันนิดหน่อย (แต่ปริมาณมาก) โทรไปชวน ลุงพรที่ชุมพร ให้มาจิบอะไรเย็นๆที่จันท์ แกได้แต่หัวเราะ แฮ่ๆ (อนาคตนี่ถ้ามีเครื่องมือย้ายสสาร คงจะเป็นการปฏิวัติ ระบบขนส่งมวลชนทั่วโลกเลยทีเดียวนะครับ นึกจะไป ไหน กดปุ่มปั้บก็ไปโผล่ปลายทางทันที) กลับมาตาหวาน มองดูตัวหนังสือเห็นวิ่งหนีกันให้พล่าน ก็เลยคร่อกฟี้ดีกว่า
...........................................................
เคยพูดเล่นๆกับเพื่อนที่เป็นครูที่นี่ว่า ครูกับสาธารณสุขนี่ สงสัยจะไปด้วยกันไม่ได้ ครูอยากให้มีเด็กนักเรียน สาธารณสุขส่งเสริมการวางแผนครอบครัว ตอนนี้เด็กเกิด ลำบาก แทบจะไม่ค่อยมีนักเรียนแล้วบางโรงถึงกับยุบ ชมรมคนท้องเลยไม่กลัวครับ ท่านมหาฤาษีแห่งชุมพร เจอ สูตรเด็ดไม่ท้องตลอดชีวิตเลยก็มี
...........................................................
ชมรมยายหนูเรานี่ชื่ออันกลางดีที่สุด ถ้าประกวดชิงรางวัล ต้องชนะเลิศได้ถ้วยแหงๆ นึกได้ว่า-ทุเรียนดูเหมือนจะ รสนิยมเดียวกันนะ ลุงชอบชะนีเหมือนกัน รสชาติกลิ่นฉุน เฉียว บางคนถึงกับออกปากว่า ชะนีคือ "ราชันย์แห่ง ทุเรียน" เลยเชียวล่ะ ส่วนหมอนทองเป็น "ราชินี" หวาน ละมุนเหมาะกับคนกรุงรับประทาน กินแล้วว่ากันว่าตามด้วย มังคุดสักหน่อยก็จะดี ทุเรียนฤทธิร้อน มังคุดเย็น "กินผลไม้ไทยสุขภาพของเราและของประเทศแข็งแรงจ้ะ"
...........................................................
สมัยก่อนก็มีคนเคยชวนเข้าชมรมนักกลอนจ้ะ แต่ปฏิเสธ เขาไป เนื่องจากชอบเป็น "กระทิงโทน" (แต่เหตุผลจริงๆ อาก็บอกเขาไปแบบขวานผ่าซาก ไม่มีอ้อมค้อมว่า เขียน คนละแนวทาง) หลานเราไม่ต๊องส์หรอก แกล้งแหย่เล่น มี หลายบรรยากาศ เศร้าบ้าง เครียดบ้าง ขำบ้าง สนุกดีออก ชิวิตจริงๆก็เห็นมีตั้งหลายรส..เนอะ
...........................................................
แหะแหะ..เดี๋ยวชาวอาศรมเขาจะค้อนเอา ตั้งใจจะคุย กับ "ครูกลอน" ไปจนถึงวัน "รำลึก" พอให้ "ครู" ท่านได้ คลายเหงาบ้างเท่านั้นเองครับ พยายามให้เข้าหลักการ เขียนเชิงไดอารี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คือพูดความจริง ใจออกมา บางจุดเหมือนโอ้อวด แต่หากดูให้ดีจะเห็นว่า เปล่าเลยครับ (ไม่รู้จะไปอวดทำไม) สารทุกข์สุขดิบก็ หารือผู้ใหญ่ (เหมือนระบายความในใจกับจิตแพทย์) ปาก ใจให้ตรงกัน ไม่วางฟอร์ม (เพราะเบื่อการสวมยูนิฟอร์ม มาก) ผมว่าโลกวุ่นกันทุกวันนี้ อย่างหนึ่งคือปากพูดอย่าง ใจไปอย่าง แล้วก็กลับมาคอยนั่งระมัดระวังตัวแจ-ผมเบื่อ แบบนั้นกั๊บ
๐โอ้อนาถวาสนาพี่หาไม่ จึงไม่ได้ชิดเชื้อแม่เนื้อหอม เหมือนมดแดงแฝงพวงมะม่วงงอม เที่ยวไต่ตอมเต็มอยู่ไม่รู้รส....
๐เมื่อตัวต่ำน้ำใจจะใฝ่สูง เหมือนนกยูงมุ่งเมฆเมืองสวรรค์ ต้องซูบผอมตรอมใจด้วยไกลกัน ด้วยหมายมั่นมุ่งมิตรให้ผิดทาง...
ยกที่พ่อไก่แจ้นำวาง มาแสดงอีกครั้ง ด้วยอยากจะบอก ว่า..กล้าๆหน่อยครับ นึกถึงโคลงของ "ศรีปราชญ์" ประกบ ไปด้วย "คนคือกัน เท้าเหยียบดินเหมือนกัน" จะได้ เป็น "เจ้าโต้ง" มั่ง..ฮี่ฮี่
...........................................................
คุณ syringe ครับ ผมว่าเขียนตามกระทู้นี่ก็ดีนะครับ เพราะแต่ละกระทู้เนื้อหาจะหลากหลาย เราจะได้หลายมุม มอง เป็นการฝึกฝนด้วย (ผมเองก็ยังคงฝึกอยู่ทุกวัน) ใน นิยายจีนกำลังภายในหลายเรื่อง จะต้องทะลวงจุด ชีพจร "หยิม" "ต๊ก" เสียก่อนจึงจะก้าวสู่ "สุดยอด" ได้ ฉัน ใดก็ฉันนั้นครับ ชีวิตจริงๆที่เราพบทุกเมื่อเชื่อวัน มันมีทั้ง โกรธ รัก ขำ เศร้า ตั้งหลายอย่าง ต้องทะลวงจุดจำกัดและ ระบายมันออกมา ผมว่ามีเรื่องเขียนได้ร้อยสีพันอย่าง ดู อย่างคุณหลานไกลถิ่นสิ..บทขำ-ผมนั่งก็ขำก๊ากๆเอา บ่อยๆ บทเครียด-ผมก็มานั่งนึกว่าถูกลูกหลงด้วยรึเปล่า?
ผมขอยกกลอนบทนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เป็นบทกลอนชนะเลิศ จากฟ้าเมืองไทยเมื่อนานมาแล้ว โดยต้องขออภัยที่หาก คลาดเคลื่อนบ้าง และต้องขออภัยอย่างสูงสุดที่ผมจำชื่อ ท่านผู้ประพันธ์ไม่ได้ เพื่อเป็นคาถาสร้างพลังให้ตัวเองนะ ครับ
๐อยากถูกหวยรวยสตางค์ยังไม่ซื้อ อยากได้ชื่อนักประพันธ์ผลัดวันเขียน อยากได้ปริญญาต่อท้ายเจ้าไม่เรียน จวบผมเปลี่ยนสีขาวเจ้าเหมือนเดิม/.
จากคุณ :
ราม ลิขิต
- [
24 มิ.ย. 46 12:22:28
A:203.113.81.132 X:
]
|
|
|