chapter six
เช้าวันจันทร์ กว่าดิ๊กจะมาถึงที่ทำงานก็ เกือบ ๆ จะสิบโมงครึ่งเข้าไปแล้ว
ออกจะสายสำหรับคนอื่น แต่ไม่ใช่กับดิ๊ก..
เขาเพิ่งไปเอารถที่ซ่อมไว้ที่อู่..
บ้านที่ตกแต่งอย่างทันสมัยเพื่อใช้ทำเป็นสำนักงานของบริษัท จอนนี่-บอย เรคคอร์ด นี้
เคยเป็นบ้านของ โทบี้ มาก่อน ก่อนที่เขาจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
ตอนนี้ เข้าย้ายไปอยู่บ้านขนาดห้าห้องนอน หรูหรา กับ ภรรยาที่เป็นนางแบบของเขา
กับลูก ๆ ที่มีชื่อแปลก ๆ อีกสามคน และ พี่เลี้ยงเด็กชาวแอฟริกัน..
ดิ๊กชอบที่ทำงานของเขามาก นั่นเป็นคำตอบว่าทำไมเขาถึงทำงานที่นี่ได้นานกว่าที่อื่น
ก็เจ็ดปีเข้าไปแล้ว..เขาเริ่มจากงานผู้ช่วย ก่อน ที่จะได้มาทำเต็มตัวเพราะว่า คนก่อนหน้านี้
ลาออกไปทำอัลบั้มเพลงของตัวเอง และดิ๊กก็เลยกลายเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในแผนก
จริง ๆ ก็มีอีกหลายเหตุผล เหมือนกัน ที่ทำให้เขาทำงานที่นี่ได้นานจนถึงทุกวันนี้
อย่างเช่น
ใช้เวลาขับรถจากบ้านมาถึงที่ทำงาน ใช้เวลาแค่ห้านาที แถมยังมีที่จอดรถให้ด้วยอีกต่างหาก
ไม่มีใครว่า เวลามาสาย
สามารถ สูบบุหรี่ ที่โต๊ะ หรือที่ไหน ๆ เวลาไหน ก็ได้ ที่ต้องการ
เขาชอบโทบี้ มาก เพราะว่า โทบี้ ไม่เคยทำตัวเป็นเจ้านาย ดิ๊กนับถือเขาเหมือนกับพ่ออีกคนของเขา
เขาสามารถใช้โทรศัพท์ คุยเรื่องส่วนตัวได้ทั้งวันโดยไม่มีใครจับได้
สุดท้าย ก็เพราะว่าเขาไม่ต้องทำงานหนัก
จริง ๆ แล้วดิ๊ก เคยเป็นพวกบ้างาน ประเภท เข้าออกเป็นเวลา ทำงานแปดโมงเช้าถึง หนึ่งทุ่ม อะไร ประมาณนั้น
ออกไปตระเวน ตามผับที่มี ไลฟ์ มิวสิค แสดง คืนละสองถึงสาม แห่ง..
เพราะว่า เมื่อก่อนดิ๊ก มีหน้าที่ ที่จะต้องตระเวน หานักร้อง หรือวงดนตรี ที่มีพรสวรรค์ มาเข้าสังกัด
แล้วเขา ก็ค้นพบ Fruit ในผับแห่งหนึ่ง ใน Cheltenham ซึ่งต่อ มา อัลบั้มของ Fruit เป็นอัลบั้มเพลงร็อค
ที่ขายดีที่สุด และโด่งดังที่สุด แห่งปี..
และก็เป็นปีที่ดีที่สุดของดิ๊กเช่นกัน เริ่มมีรายได้มากขึ้นจนสามารถย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ มาซื้อแฟลตอยู่เอง
เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก นับถือ เพราะเป็นคนค้นพบ Fruit
ดิ๊กนึกไม่ออกเอาซะเลย ว่า เขาจะทิ้งบริษัท จอนนี่-บอย เรคคอร์ด ไปได้ยังไง เพราะว่ามันเหมือนกับบ้านของเขา
และเพื่อนร่วมงานทุกคน ก็เหมือนกับคนในครอบครัว..เขารู้ทุกอย่างทุกซอกทุกมุมของบริษัทเลยก็ว่าได้
"วันนี้ ดูมีความสุขจริงนะ ดิ๊ก" ชาลี ..รีเซฟชั่นของบริษัทเอ่ยทัก..
"หายเมาแล้วละซิ" ไม่บอกก็รู้ว่า วันนั้น ชาลีเห็นเขาเมา มากขนาดไหน
"ก็เกือบ ๆ แล้ว" เขาบอกยิ้ม ๆ เลือกจดหมายแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ
"ขอบใจนะ..." ดิ๊ก โบกจดหมายในมือ..ให้ชาลี..
เขาเดินไปที่โต๊ะทำงาน วางกองจดหมายไว้ตรงหน้า..
หยิบกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ..
ยังหรอก ดิ๊กคิด..เขายังไม่โทรหาเธอตอนนี้ ..
ให้เขาอ่านจดหมาย เช็คอีเมล์ ก่อน ..
แล้ว ค่อย โทรหาเธอ ดีไลล่า ลิลลี่
นาดีน มักจะรู้สึกดีเสมอ เมื่อได้มาทำงาน ทุกครั้ง อย่างแรกเลย ก็เพราะว่า เธอได้ขับรถ
สปอร์ตเปิดประทุนคันหรู ที่เธอซื้อด้วยเงินของตัวเอง ..มาทำงาน
เธอเปิดประทุนขับเสมอ..ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าหนาว ..
คิดว่ามันช่างจะเป็นเรื่องงี่เง่าจริง ๆ ที่จ่ายเงินตั้งแพงซื้อรถเปิดประทุนมาใช้
แต่เปิดมันใช้ได้แค่หกอาทิตย์เท่านั้น..
แล้วนี่ไง..เธอมาถึง สตูดิโอ ที่มีตัวหนังสือที่ไว้ที่ผนังด้านหน้า ว่า
นาดีน ไคท์ สตูดิโอ
นาดีน ทำงานอย่างหนัก กว่าจะมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง
ห้าปี ที่ทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพ ให้กับช่างภาพคนที่เรียกเธอว่า ..เน-ดีน
ไม่ว่าเธอจะเพียรบอกเขาตลอดเวลาว่า เธอชื่อ..นาดีน..ต่างหาก
เขาเป็นช่างภาพ ถ่ายรูปอินทีเรีย..ชื่อ ไมค์
นาดีนไม่เคยคิดว่าเธอจะเลี้ยงตัวเองได้ด้วยการเป็นช่างภาพ..
เธอเริ่มงานถ่ายแฟชั่นให้หนังสือ lads ตั้งแต่หนังสือ ยังไม่ดังเท่าไหร่..
ก่อนที่แฟนเก่าของเธอซึ่งเป็นนักข่าว จะแนะนำให้เธอได้รู้จักบรรณาธิการของหนังสือ Him..
และตอนนี้ เธอก็เป็นช่างภาพคนที่ได้ถ่ายปกหน้า ให้ Him
และก็เป็นช่างภาพที่ดีที่สุดของ Him ในเวลานี้
เธอรักงานนี้ ..เธอสนุกกับมันเสมอ ..แล้วค่าตอบแทนก็ดี อย่างที่ใคร ๆ ก็อิจฉา
เธอได้พบเจอคนทุกประเภท ดารา นักแสดง นางแบบ ดีเจ..
หรือแม้แต่พวกนางแบบนิสัยแย่ ๆ ที่เธอไม่อยากจะทำงานด้วย..
วันนี้ จันทร์ นี้ เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะว่าเมื่อวาน ได้ไปออกกำลังกายที่ยิม
แล้วเมื่อเช้านี้ เธอ ก็ได้รับ แบงค์ เสตทเมนท์ ..มัน โชว์ ให้รู้ว่า ตอนนี้ ธุระกิจที่เธอปลุกปล้ำ แห่งนี้
เริ่มจะทำกำไรให้เธอบ้างแล้ว...หลังจากจ่ายค่าอุปกรณ์ทั้งหมดไปแล้ว..
แล้วเธอก็ กลับมาโสดอีกครั้งนึง ..นาดีน รักชีวิตโสด
แม้ว่ามักจะเป็นโสดได้ไม่นานเท่าไหร่...แต่ตอนนี้ เธอคิดว่า เธอไม่รีบร้อนอะไร ..
เพราะว่า คราวนี้ มันจะต้องรอบคอบซักหน่อย..
นาดีนเดินเข้ามาด้านใน หยิบ จดหมาย ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา
วันนี้ ค่อนข้างเงียบจริงๆ ..ไม่มีงาน..แต่เธอแค่ต้องเข้าไปคุยกับบรรณาธิการของ Him
เรื่องคอนเซป ปกหน้าของเดือนกุมภา แล้วหลังจากนั้น ก็อาจจะไปกินอาหารกันต่อ..
แล้วก็คิดว่า จะกลับบ้านไปทำความสะอาดซะหน่อย ..
และเธออาจะโทรหาพวกเพื่อนผู้หญิงของเธอดู ว่าใครยังมีเพื่อนเหลือให้เธอยืมได้บ้าง
เพื่อที่เธอจะได้ชนะ..ที่พนันไว้กับดิ๊ก..
เธอยิ้มให้กับตัวเอง ..ยังไงซะ เธอก็ต้องเป็นฝ่ายชนะ..อย่างไม่ต้องสงสัย..
นาดีนชอบการแข่งขัน บางทีอาจจะเป็นผลมาจากการที่เธอต้องทำงานแข่งกับผู้ชายมาตั้งแต่แรก
แม้ว่าผลยังไม่ออกมา แต่เธอก็เล็งไว้แล้วว่าจะเอาเงินที่ชนะพนันดิ๊กไปทำอะไร..
นาดีน นึกถึง มิเชล ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาของบริษัทผลิตน้ำมันเครื่อง
เขาโทรหาเธอเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว..บอกว่าอยากจะดู portfolio ของเธอ
เพราะว่าทางบริษัทกำลังหาช่างภาพสำหรับถ่ายปฏิทิน ของปี 2000
เธอส่งมันไปให้เขาอย่างเร็ว และ มันก็กลับมาในวันเดียว เธอคิดว่าคงจะแค่นั้น..
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น..เป็น มิเชล ที่โทรมา
เขาโทรมาบอกนาดีน ว่า..เขาชอบงานของเธอมากแค่ไหน
และบอกคร่าว ๆ ว่าถ้าเธอตกลงรับงานนี้ เธอจะได้ใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ ที่เกาะที่สวยที่สุด
และจะได้ถ่ายรูปบรรดานางแบบชั้นแนวหน้า แล้วก็มีเช็ค จำนวนเงินมากพอที่เธอจะอยู่ได้ไปทั้งปี..
"ดีค่ะ ฉันรับงานนี้..เป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกันค่ะ ..ค่ะ ..ขอบคุณค่ะ"
นาดีนกดปิด โทรศัพท์..สูดหายใจเข้าปอดแรง ๆ เพื่อช่วยให้หัวใจไม่เต้นเร็วเกินไป..
'40,000 ปอนด์' เธอกระซิบกับตัวเองเบา ๆ
'40,000 ปอนด์ กับการทำงานแค่สี่อาทิตย์ โอ..พระเจ้า..' เธออยากจะกรี๊ด..
เห็นผลดีของการรับงานเองโดยไม่ผ่านตัวแทน
เธอต้องบอกดิ๊ก..ดิ๊กมักจะดีใจกับเธอด้วยทุกครั้งที่ได้รู้ว่า เธอประสบความสำเร็จ
และ เธอ ก็ ชอบที่จะทำให้เขาดีใจซะด้วย..เธอหยิบโทรศัพท์
"ดิ๊ก! ทายซิว่าเกิดอะไรขึ้น?"
"อื่ม...นมของ เจนนี่ แมคคาธี่ ระเบิดใส่กล้องไลก้าของเธอ, ใช่มั๊ย?"
"บ้าาาาาา"
"งั้นก็ เห็น จิล พอร์ตเตอร์ แก้ผ้า แล้วเห็นว่าหล่อนมีกุ๊กกู๋"
"นี่ เลิกบ้าซะที่เถอะน่า ..ฟังนะ..ฉันได้งานถ่ายปฎิทินของ Ruckham.."
" Ruckham! พระเจ้า..โกหก?"
"ไม่ ๆ จริง ๆ ..ฉันกำลังจะรวยแล้ว.."
"ใครสนเรื่องเงินกัน..แต่เรื่องที่เธอจะได้ไปทำงานกับยอดนางแบบ ตั้ง สิบสองคน..ถ่ายชุดว่ายน้ำด้วย..
โอย..อยากได้ผู้ช่วยมั๊ย ฉันทำอะไรก็ได้ ช่วยทาโลขั่นให้นางแบบก็ได้ นะ ..ได้โปรด ๆๆๆๆ"
"เสียใจย่ะ" นาดีนหัวเราะ
"แล้วเธอจะไปเมื่อไหร่"
"คิดว่าน่าจะเป็นกลางเดือนมกรานะ"
"น่าอิจฉาชมัด.. "
"เดี๋ยวซื้อของมาฝากน่า"
"ขอบใจ ..แต่นี่ ..ฟังนะ เราค่อยฉลองกัน วีคเอนนี้ดีมั๊ย แต่ตอนนี้ ฉันต้องไปละ ..เอ้อ แต่เดี๋ยวนะ
อยากได้คำแนะนำจากเธอหน่อยแน่ะ"
"เรื่องอะไรยะ"
"ร้านอาหาร ..แนะนำร้านอาหารให้หน่อยซิ"
"จะไปเนื่องในเทศกาลอะไร?" นาดีนสงสัย เพราะว่าปกติ ดิ๊ก มักจะไม่ออกไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารเท่าไหร่
"ฉันจะชวนผู้หญิงไปดินเนอร์" เสียงเขาดูตื่นเต้น..
"ใคร?"
"จะมีใครล่ะ ..ก็ ดีไลล่า น่ะ ซิ..ฉันเพิ่งโทรไปชวนเธอเมื่อกี้นี้เอง"
"เธอต้องล้อฉันเล่น แน่ ๆ เลยใช่มั๊ย?" นาดีนเริ่มปากคอแห้งผาก ลำคอเหมือนจะตีบขึ้นมา..
ดิ๊กเหมือนจะไม่ได้รับรู้ถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของเธอ..
" ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะ ที่เราได้เจอดีไลล่าอีกครั้ง เธอว่ามั๊ย?
จำเด็กอายุสิบเจ็ดคนนั้นได้มั๊ย..ถ้าฉันไม่นอนกับเธอ ฉันก็จะไม่รู้สึกแย่
แล้วก็จะไม่ได้ออกมากินข้าวเช้ากับเธอ ..และก็ไม่ได้ไปเดินเล่นกับเธอ
และก็ไม่ได้เจอ ดีไลล่า ! แล้วก็จะไม่ได้รู้สึกดีอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้..
เธอว่าดีไลล่าดูสวยขึ้นมั๊ย ฉันว่าเธอดูสวยขึ้นมากกกก..เลยนะ .."
นาดีนพบว่า ตัวเองท้องไส้เริ่มจะปั่นป่วน หัวใจที่พองโตจากเรื่องที่คุยกันกับดิ๊กก่อนหน้านั้น ห่อเหี่ยวลงทันที
ดีไลล่า? นี่เขายังไปชอบเธอได้ยังไงนะ ..ใช่ เธอ อาจจะสวยจนผู้ชายแทบทุกคนตาค้าง
แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะกับดิ๊ก... เธอสูงกว่าเขา..แก่กว่าเขาเก้าเดือน..
และเธอแต่งงานแล้ว!!! โถ ..เห็นแก่พระเจ้าเถอะ นะ ..นี่ดิ๊ก คิดว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่..
"ดิ๊ก.." นาดีน พยายามสะกดเสียงให้ปกติ
"เธอพยายามจะทำอะไรของเธอน่ะ ..เธอก็รู้ว่า หล่อนยังไม่ได้หย่า.."
"ใช่ ..อันนั้นน่ะฉันรู้แล้ว..ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรนี่ ..อย่างน้อย ก็ไม่ใช่ตอนนี้..ก็แค่อยากเจอเธอ อยากอยู่กับเธอ ก็เท่านั้น"
"โธ่ ดิ๊ก ..ทำไมต้องเป็นดีไลล่าด้วย..ผู้หญิงคนอื่นมีอีกตั้งเยอะ"
"พูดอะไรของเธอน่ะ"
"ฉันกำลังจะบอกเธอว่า ..เธอกับดีไลล่า เมื่อสมัยเมื่อตอนเป็นนักเรียน มันก็ โอเค หรอกนะ
แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ..แล้วถ้าเธอคิดว่า การชวน ดีไลล่า ออกเดท จะช่วยให้เธอชนะพนันกับฉันนะ ..ขอบอกว่า ..ไม่นับ!"
"พระเจ้า..เธอเป็นบ้าอะไรของเธอน่ะ ดีน..ประจำเดือนมาเหรอไง..หรืออะไร?"
"ไม่ใช่..ดิ๊ก ฉันปกติดี แต่ฉันแค่ไม่อยากเห็นเธอต้องเจ็บปวดอีกครั้งก็เท่านั้น
ฉันรู้ว่าเธอคิดยังไงกับดีไลล่า ..แล้วหล่อนก็จะทำให้เธอเจ็บปวดอีก ..ฉันพนันได้เลย.."
"ขอบใจที่เป็นห่วงนะ ดีน แต่ฉันไม่ต้องการความหวังดีของเธอ! คิดดูซิว่าดีไลล่า จะรู้สึกยังไงตอนนี้
เธอเพิ่งทิ้งสามีมา แล้วก็ไม่รู้จักใครที่นี่.."
"เอ้อ..ใช่! แล้วเธอทำไมไม่ถามหล่อนล่ะ ว่าหล่อนมาทำบ้าอะไรที่นี่..ทำไมถึงทำร้ายสามีเธออย่างงั้นน่ะ
แล้วฉันจะบอกเธอให้นะดิ๊ก ..หล่อนคงไม่ได้ทิ้งสามี แล้ววิ่งหนีกลับมาลอนดอนเพราะอยากจะมาเยี่ยมเพื่อนเก่า
อย่างที่หล่อนบอกหรอกนะ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ..แต่นี่ เธอกลับทำเป็นไม่สนใจ แล้วแถมยังชวนหล่อน
ออกเดทอีก ...ไม่สบายหรือไงดิ๊ก.."
"ให้ตายซิ..มันไม่ได้มีอะไร ซะหน่อยนะ ดีน ..แค่กินข้าว"
"โอเค! ดี! แล้วเธอจะต้องเสียใจ..เธอก็เห็นนี่ว่าหล่อนเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอต่างไปจากเรา .."
"ก็ไม่ได้เลวร้ายนี่.."
"ยังไง ก็แล้วแต่ ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว .. ไม่นับ!!และรู้อะไรมั๊ยดิ๊ก ตอนนี้ฉันไม่สนใจแล้ว..
ขอให้เธอสนุกกับเดทงี่เง่า! กับยัยดีไลล่างี่เง่า !เถอะนะ"
"ดี!" ดิ๊กบอกห้วน ๆ
"แต่เรื่องร้านอาหารล่ะ ..เธอว่าฉันจะพาดีไลล่าไปดินเนอร์ที่ไหนดี?"
"แล้วร้าน Bengal Lancer มันเป็นอะไร"
"ฉันพาเธอไปกินที่นั่นไม่ได้.."
"ทำไม .."
"ก็เพราะว่าเธอคือ..ดีไลล่า น่ะซิ..มันต้อง ..เป็นที่ ที่พิเศษหน่อย"
"งั้นก็เสียใจด้วยดิ๊ก ..ฉันนึกไม่ออก.."
"งั้นก็ไม่เป็นไร "ดิ๊กบอกโกรธ ๆ "ฉันหาเองก็ได้.."
แล้วเขาก็วางสาย..ปล่อยให้..ปลายสาย อีกข้างนึง
นาดีน ยืน นิ่ง ปล่อยให้โทรศัพท์ ร่วงหล่นจากมือ
ก่อนจะปล่อยให้น้ำตา ไหลออกมา ..อาบแก้ม..
จากคุณ :
laughingbug
- [
20 มิ.ย. 46 01:09:59
A:203.156.1.41 X:
]