บทนำ
ข้าคือมหาเทพ ..ข้าคือมหาเทพที่ผู้ใดได้แว่วยินนามต้องร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความกลัว ข้าคือมหาเทพผู้สร้างเหล่ามนุษย์ขึ้นมา ..หากแต่ข้าคือมหาเทพที่หลงรักมนุษย์เช่นกัน รัก..รักดังเช่นที่พวกมนุษย์ต่ำศักดิ์นั่นรักกัน ..หากว่าพวกมนุษย์ที่เกิดความรักแก่กันต่ำศักดิ์แล้วไซร้ ข้าคงต่ำศักดิ์กว่ามันยิ่งนักจากการที่รักบุคคลอันไม่สมควรรัก ..ด้วยเหตุใดกัน ..เหตุใดที่ข้าต้องรักมนุษย์ด้วยเล่า เหตุใดที่ข้าต้องเกิดอาการร้อนข้างในกายดุจดั่งถูกไฟเผายามนางอยู่ข้างบุรุษอื่น ..เหตุใดข้าต้องการนางมากอดกระชับไว้ในอ้อมแขนยามนางร่ำไห้ แลเหตุใดเล่า..ดวงตาข้าจึงชื้นขึ้นด้วยของเหลวอุ่นจนแทบจะหยาดหยดออกมายามนางจากไป
~*`~*`~*`~`*~`*~`*~`*~`*~`*~`*~
ตอนที่ ๑ มหาเทพ
ก่อนที่ข้าจะขึ้นเป็นมหาเทพนั้นได้มีมหาเทพ ๒ พระองค์ที่ยิ่งใหญ่นัก
องค์แรกนั้นคือท่านมหาเทพเมลเฟรย์ผู้สรรสร้างทุกสรรพสิ่งในจักรวาล แน่นอน ว่ารวมทั้งโลกใบนี้ด้วย โลกที่ข้าแสนจะชื่นชอบและชิงชัง
เมื่อเดิม มหาเทพเมลเฟรย์ได้นฤมิตสร้างฟ้าและดิน ดินนั้นก็ว่างเปล่าอยู่ ..มีความมืดมิดสำแดงอยู่เหนือน้ำ และดวงจิตของพระองค์ก็ได้ปกคลุมอยู่เหนือน้ำนั้น มหาเทพจึงตรัสให้เกิดมีแสงสว่าง ..ความสว่างก็บังเกิดขึ้น องค์มหาเทพทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี จึงได้แยกความสว่างนั้นออกจากความมืด มหาเทพทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และทรงเรียกความมืดนั้นว่าคืน
มหาเทพเมลเฟรย์ได้ตรัสให้มีพื้นอากาศในระหว่างน้ำ ให้เป็นที่แยกน้ำออกจากน้ำ พระองค์ได้ทรงสร้างพื้นอากาศ แล้วได้แยกน้ำที่อยู่ใต้พื้นอากาศออกจากน้ำที่อยู่เหนือพื้นอากาศนั้น ..ก็เป็นดังนั้น พระองค์จึงตรัสเรียกพื้นอากาศนั้นว่าฟ้า
มหาเทพเมลเฟรย์ได้ตรัสให้น้ำที่อยู่ใต้ฟ้านั้นรวบรวมเข้าแห่งเดียวกัน ให้ที่แห้งปรากฏขึ้น ..ก็เป็นดังนั้น พระองค์ทรงเรียกที่แห้งนั้นว่าผืนแผ่นดิน ..และที่รวบรวมน้ำนั้นว่าทะเล และพระองค์ทรงเห็นว่าดี มหาเทพตรัสให้ต้นหญ้าต้นผักที่มีเมล็ด และต้นไม้ที่มีผลที่มีเมล็ดอยู่ในผลตามชนิดของมันงอกขึ้นในแผ่นดิน ..ก็เป็นดังนั้น ต้นหญ้าต้นผักที่มีเมล็ดตามชนิดของมันทุกอย่างก็งอกขึ้นที่แผ่นดิน
มหาเทพเมลเฟรย์ตรัสให้มีดวงสว่างบนพื้นฟ้าเป็นอากาศ เป็นที่แบ่งวันออกจากคืน ..ให้ดวงสว่างนั้นเป็นที่กำหนดฤดูวันปี ให้อยู่บนพื้นฟ้าอากาศเพื่อที่จะได้ส่องแสงจรัสบนแผ่นดิน ..ก็เป็นดังนั้น พระองค์ได้ทรงสร้างดวงสว่างไว้ ๒ ดวง ..ให้ดวงใหญ่นั้นครองรักษาวัน ดวงเล็กนั้นครองรักษาคืน และยังได้ทรงสร้างดารากรด้วย มหาเทพทรงตั้งดวงสว่างเหล่านี้ไว้ในพื้นฟ้าอากาศ ให้ส่องกระจ่างบนผืนดิน ให้ครองรักษาวันและคืน และให้แบ่งความสว่างออกจากความมืด
..สิ่งมีชีวิตทั้งหลายย่อมมีการดับสูญสลาย ไม่เว้นแต่ผู้สร้างเยี่ยงพระองค์..
หลังจากที่ปฐมมหาเทพผู้ใหญ่ยิ่งได้ทรงบันดาลให้โลกเกิดขึ้นตามหฤทัยแห่งองค์เองแล้ว พระองค์จึงได้สรรสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาเป็นตัวแทนองค์ พระองค์ทรงรังสรรค์สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เทพ ขึ้นมาองค์หนึ่งเพื่อดูแลทุกสิ่งอย่างแทนองค์เอง ด้วยเหตุว่าพระองค์นั้นทราบอย่างแน่ชัดว่าอีกไม่นานพระองค์คงต้องสูญสลายไปตามกำหนด แล้วสิ่งที่พระองค์ทรงก่อให้เกิดขึ้นมาเล่า ปล่อยร้างเอาไว้โดยไร้การปฏิบัติต่อหรือ?
พระองค์ทรงลูบกายครั้งหนึ่งและบั่นเกศาองค์เองมาปอยหนึ่งแล้วจึงถอดดวงจิตบรรจุเข้าไปเพื่อบันดาลให้เกิดสิ่งนั้น
แล้วพระองค์จึงทรงตรัสว่า จงลุกขึ้นมาเถิด เจ้าผู้เปี่ยมด้วยกายของเรา แลสิ่งที่องค์เองปรารถนาก็ได้บังเกิดขึ้น จากปอยเกศาสูงค่าแห่งมหาเทพได้ร่วมประสานกันสู่การเป็นสิ่งหนึ่งผู้เป็นทายาทแห่งองค์เอง จากนั้นพระองค์จึ่งได้ตรัสกับสิ่งมีชีวิตนั้น
เราจะเรียกเจ้าว่า เราว์เมลเฟรย์ ซึ่งถอดความหมายได้ว่า กายาแห่งเมลเฟรย์
สิ้นคำพูด องค์ปฐมมหาเทพทรงกลายเป็นแสงสว่างจ้าบาดสายตาพร้อมกับการค่อยๆ เลือนลับไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งไร้ซึ่งแสงหรือเงาทาบแสดงการมีตัวตนอยู่แห่งมหาเทพเมลเฟรย์ รวมพระชนมายุได้ 360 ปีสวรรค์
..ใช่ ดังที่เจ้าคิด สิ่งที่มหาเทพเมลเฟรย์ได้สรรสร้างขึ้นมานั้นก็คือ มหาเทพเราว์เมลเฟรย์นั่นเอง หลังจากที่มหาเทพองค์แรกได้สูญสลายไปนั้นไม่นานนัก องค์มหาเทพองค์ที่ ๒ ก็เริ่มแต่งเติมโลกให้น่าดูยิ่งขึ้น ด้วยพระองค์ทรงเห็นว่าบนโลกนั้นปราศจากสิ่งมีชีวิตโดยสิ้นเชิง หากจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ พระองค์คือสิ่งมีชีวิตอย่างเดียวที่อยู่บนโลก มหาเทพองค์ที่ ๒ เกิดความเหงานักจึงตรัสให้ฝูงสัตว์ที่มีชีวิตเกิดเผ่าพันธุ์ทวีขึ้นบริบูรณ์ในน้ำ และให้มีนกบินไปมาในอากาศเหนือพื้นดิน มหาเทพได้ทรงสร้างปลาใหญ่และสารพัดสัตว์ที่มีชีวิตไหวกายได้ให้บังเกิดขึ้นในน้ำเป็นอันมากตามชนิดของมันทุกอย่าง และบรรดาสัตว์ที่มีปีกบินได้ตามชนิดของมันทุกอย่าง แล้วพระองค์ทรงเห็นว่าดี องค์มหาเทพจึงทรงอวยพรให้แกสัตว์เหล่านั้นว่า จงบังเกิดมากทวีขึ้น ให้น้ำในทะเลบริบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำ และให้นกเพิ่มมากขึ้นบนแผ่นดิน
มหาเทพเราว์เมลเฟรย์ตรัสให้ฝูงสัตว์มีชีวิตบังเกิดขึ้นที่แผ่นดินตามชนิดของมัน คือสัตว์ใช้ สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าทั้งปวงตามชนิดของมัน ..ก็เป็นดังนั้น องค์มหาเทพทรงสร้างสัตว์ป่าตามชนิดของมัน สัตว์ใช้ตามชนิดของมัน และสรรพสัตว์ที่เลื้อยคลานบนผืนดินตามชนิดของมันทุกอย่าง
มหาเทพเราว์เมลเฟรย์ทรงดำริว่า จงให้เราสร้างเทพตามแบบฉายาแห่งเรา ..ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ และฝูงสัตว์ใช้ ..ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไป และสรรพสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินทั้งสิ้น ..และให้เป็นบริวารแห่งองค์ พระองค์ทรงสร้างเทพตามแบบฉายาของพระองค์โดยการตัดเกศาองค์เองมาและบรรจุดวงจิตเอาไว้ และตามแบบฉายาของพระองค์นั้นพระองค์ได้ทรงสร้างเทพขึ้น ..และได้ทรงสร้างเป็น ๒ เพศ เพศหนึ่งเป็นดังเช่นพระองค์ แข็งแกร่ง หยาบ และกำยำ เรียกว่า บุรุษเพศ ส่วนอีกเพศหนึ่งนั้นเป็นเพศที่อ่อนหวาน ละเอียดละมุน และร่างงามระหง เรียกว่า สตรีเพศ ให้พวกเขาอยู่เคียงกัน เป็นคู่กัน องค์มหาเทพได้ทรงอวยพระพรแก่เทพนั้น ตรัสแก่พวกเขาว่า จงบังเกิดทวีมากขึ้นทั่วทั้งแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน ..จงครอบครองฝูงปลาในทะเลและฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตไหวกายได้ซึ่งอยู่บนพื้นดิน มหาเทพตรัสว่า นี่แน่ะ สารพัดผักที่เกิดเมล็ดมีอยู่บนพื้นแผ่นดิน และต้นไม้ทั้งปวงที่เกิดผลมีเมล็ด เรายกให้เป็นอาหารของเจ้าทั้งสอง ..ฝ่ายสัตว์ทั้งหลายที่แผ่นดินและนกทั้งปวงบนนภากับบรรดาสัตว์เลื้อยคลานที่มีชีวิตอยู่บนแผ่นดิน เรายกต้นผักเขียวสดทั้งปวงให้เป็นอาหารแก่สัตว์เหล่านั้น ..ก็เป็นดังนั้น
มหาเทพทอดพระเนตรดูสิ่งทั้งปวงที่พระองค์สร้างไว้นั้นแล้วทรงเห็นว่าดี จนกระทั่งสายเนตรองค์เองนั้นสะดุดกับสิ่งหนึ่ง พระองค์ได้ทรงทำการสังเกตมาหลายวันจนได้ข้อสรุปที่แน่ชัดแล้วจึงไปหาเทพที่พระองค์ได้ทรงรังสรรค์ขึ้นมาด้วยองค์เองและตรัสถามด้วยอาการฉงนพระทัยแกมกริ้วว่า เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่รับพืชพันธุ์เหล่านั้นเป็นอาหารเล่า?
ทางด้านเทพทั้ง ๒ นั้นแจ้งแก่ใจว่าขณะนี้องค์มหาเทพกำลังโกรธาอยู่ การที่จะให้บุรุษเพศผู้มีนิสัยโผงผางเป็นผู้ตอบนั้นไม่เป็นการควรนัก ดังนั้นเทพที่เป็นอิสตรีเพศจึงเป็นผู้ที่แก้ข้อข้องใจนั้นเสีย นางได้ตอบอย่าฉะฉานเจือละมุนว่า เหตุว่าข้าพระองค์ทั้ง ๒ ถือกำเนิดมาจากดวงจิตแห่งพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์เดชายิ่ง หากพระองค์ยังชีวิตอยู่ด้วยการรับเอาพืชผลมาทานแล้วนั้น ข้าพระองค์ทั้ง ๒ คงต้องรับเอาสิ่งเหล่านั้นมาเป็นเครื่องยังชีพด้วยอย่างแน่แท้
เมื่อทรงรับฟังคำตอบที่ต้องพระทัยเช่นนั้นก็เกิดความพิสมัยในเหล่าเทพทั้ง ๒ นี้ จึงอวยพรแก่พวกเขาว่า นับแต่นี้ต่อไป พวกเจ้าคือผู้สำคัญในการให้กำเนิดเทพต่อไปชั่วกาลนาน เมื่อเทพ ๒ องค์ได้ยินคำตรัสเช่นนั้นก็เกิดความยินดีขึ้นอย่างสุดประมาณมิได้ และได้พยายามมีบุตรให้มากที่สุดเพื่อเป็นการสดุดี สรรเสริญ และแซ่ซ้องแด่องค์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่
ครั้นเทพทั้ง ๒ มีบุตรครบ ๑๐,๐๐๐ องค์ มหาเทพเราว์เมลเฟรย์ก็ทรงพระชนมายุได้ 355 ปีสวรรค์ไม่ขาดเกิน องค์มหาเทพจึงได้จัดการประลองเพื่อค้นหาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถจะเป็นผู้ปกครองเหล่าทวยเทพได้ก่อนที่พระองค์จะทรงสิ้นอายุขัย ..และนั่นก็คือข้า
พวกเจ้าอยากฟังเรื่องราวในอดีตของข้าหรือไม่? ..อยากหรือ งั้นจงหลับตาซะแล้วฟังดีๆ สิ่งที่ข้ากล่าวออกมาจะไม่มีเป็นครั้งที่ ๒ อีก
ก่อนที่ข้าจะขึ้นเป็นมหาเทพนั้นข้าเป็นบุตรองค์ที่ ๓,๒๖๙ ของเทพทั้ง ๒ ที่องค์มหาเทพเราว์เมลเฟรย์ทรงสรรสร้างขึ้น องค์มหาเทพให้ข้าและพี่น้องเรียกเทพทั้ง ๒ ว่าพ่อและแม่ และให้เทพทั้ง ๒ ตั้งชื่อให้พวกข้า พวกท่านตั้งชื่อข้าว่า เคิน ซึ่งแปลว่าไม้ปักที่มีกลิ่นหอม ชีวิตของข้าเรียบง่าย จนกระทั่งถึงวันที่ประลองเพื่อการเป็นมหาเทพรุ่นต่อไป ข้าไม่รู้ว่าพลังมาจากไหนเสียมากมาย มันมารวมในร่างกายของข้าจนรู้สึกว่าอุ่นสบายเหลือเกิน จากนั้นก็กลายเป็นพลังที่ออกมาจากมือข้าสู่ผู้ประลองชัยผู้อื่นซึ่งก็คือพี่น้องของข้านั่นเอง ภายในชั่วระยะหนึ่ง อาจไม่ถึงวันหนึ่งเลยด้วยกระมัง ข้าก็ล้มพวกพี่น้องของข้าได้อย่างราบคาบ ทุกองค์ยอมรับข้า และหลังจากนั้นเพียง 5 ปีสวรรค์ มหาเทพองค์ที่ ๒ เราว์เมลเฟรย์ก็ทรงดับ และข้าก็ขึ้นเป็นมหาเทพองค์ที่ ๓ ..มหาเทพเคิน
หลังจากที่ข้าขึ้นเป็นมหาเทพได้ประมาณ 3 เดือนสวรรค์ ข้าก็บังเกิดความคิดที่จะสร้างสิ่งที่เหมือนกับเทพขึ้นมา หากว่าไม่ใช่เทพ สิ่งมีชีวิตนั้นไม่จำเป็นต้องมีพลังเฉกเช่นเทพ ยามที่ข้าคิดจะสรรสร้างนั้น คือยามที่ข้าเบื่อและคิดหาของรับใช้พวกพี่น้องข้า ข้าจึงก้มลงหยิบดินขึ้นมาหย่อมหนึ่งและตัดผมของข้าออกมาปอยหนึ่งโดยที่ไม่ใส่ดวงจิตเข้าไป แล้วสร้างสิ่งมีชีวิตที่เป็นสตรีเพศขึ้นมา ข้าเรียกมันว่า มนุษย์
..และข้าก็ต้องเสียใจที่รังสรรค์มันขึ้นมา..
เมื่อแรก ข้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพียงคนเดียว มนุษย์ที่เป็นหญิง ข้าตั้งชื่อให้นางว่าเชคเอน นางไร้เดียงสานัก แต่ละวัน ข้าขลุกอยู่กับนางเกือบตลอดเวลาเพื่อสอนสิ่งต่างๆ ให้ จนเกิดความรู้สึกแปลกๆ เข้ามาที่จิตใจ ความรู้สึกที่ไม่อาจขาดนางได้แม้แต่เสี้ยวเวลา ..แต่ทุกอย่างนั้นไม่มีอะไรจีรัง ในเมื่อนางคือของที่ข้าสรรสร้างขึ้นมาเป็นสิ่งแรก อายุไขย่อมน้อยตามความชำนาญ นางได้จากข้าไปกลับคืนสู่ดินในระยะเวลาไม่ถึงปีสวรรค์ ..นั่นทำให้ข้าสร้างมนุษย์อีก ๒ คน โดยที่เป็นชายและหญิง ทำให้อายุของพวกมันยืดยาวให้ได้มากที่สุด นั่นก็คือ ๓ ปีสวรรค์ และข้าก็ทำให้พวกมันจำต้องกินเหล่าพืชพันธ์เพื่อการดำรงชีพอยู่ต่อไปได้เสีย ..ทว่า จิตใจมนุษย์ช่างเข้าถึงยากนัก เมื่อผ่านไปได้ 6 ชั่วโคตร เหล่ามนุษย์ก็ก่อการกบฏ ..เจ้าคิดหรือว่ามนุษย์ไร้ความสามารถจะสู้เทพผู้มีมีพลังเปี่ยมล้นได้ ..ย่อมไม่ การต่อสู้คือมนุษย์จำนวนประมาณแสนเศษบุกรุกมาบริเวณศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ ข้าส่งพี่น้องข้าไปในจำนวนพันกว่า ..กบฏถูกปราบลงอย่างไร้ซากภายในเวลา ๕ วันสวรรค์ ..อย่างไร้การสูญเสียเทพ พวกที่ยังศรัทธาในตัวพวกข้ายังคงเหลืออยู่ หากข้าก็ต้องจำที่บั่นชีวิตพวกมันให้เหลือแต่ ๑/๓ ปีสวรรค์และยกระดับเหล่าเทพขึ้นไปอยู่เหนือนภา อยู่ ณ มิติที่มนุษย์ไม่อาจเข้าถึงได้
..และนั่นล่ะคือประวัติช่วงสำคัญในชีวิตข้า
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
ฟู่! ยาวแปลกๆ แฮะ
จากคุณ :
Carina
- [
29 มิ.ย. 46 12:43:38
A:161.200.255.161 X:
]