ความคิดเห็นที่ 1 สักวาจะเล่าความตามกระทู้ เหตุที่หนูชวนเล่นกลอนตอนหน้าฝน พี่จอมยุทธเอ่ยขึ้นมาครายินยล จึงหน้ามนรับอาสามาเปิดงาน จากเขียนกาพย์เป็นต่อกลอนอย่าร้อนจิต ช่วยกันคิดพอคลายทุกข์สนุกสนาน กระทู้เดิมอยู่ข้างล่างอย่างวันวาน แล้วลนลานรีบแปะมาครานี้เอย อาศรมชาวโคลง ภาค ๖๗ ๏ ๏ ๏ จากโคลงสี่ถึงกาพย์ยานี ๑๑ ๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2316816/W2316816.html จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 4 ก.ค. 46 18:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สักวาเมขลามาล่อแก้ว ให้ชมแล้วก็จะลาหาทางหนี กระทู้ต่อพอให้เห็นเป็นพิธี เชิญน้องพี่บรรเลงอย่าเกรงใจ ขอแอบเที่ยวพัทยาประสายาก เบื่องานมากเซ็งคนเกินทนไหว กระทู้นี้นอกรอบมิตอบใคร แค่หวังให้เล่นกันเท่านั้นเอย จากคุณ : นางเมขลา (salathai) - [ 4 ก.ค. 46 19:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สักวาหน้าฝนคนหม่นเศร้า หมื่นเม็ดฝนหล่นเนาเหงาเหว่ว้า หมื่นเม็ดฝนหล่นร่วงท้วงวิญญา หมื่นเม็ดฝนหล่นมาผวาใจ อีกกี่ฝนคนหมองเพื่อฟ้องโลก อีกกี่ฝนคนโศกวิโยคไหว อีกกี่ฝนหล่นกระหน่ำย้ำคนไกล อีกกี่ฝนแล้งไร้กระไรเอย ฝ่าสายฝนเข้ามาขอเขียนด้วยคนครับ จากคุณ : ผู้งมงายในรัก - [ 4 ก.ค. 46 19:34:41 A:203.154.97.197 X:129.0.1.70 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สักวาหน้าฝนบนพื้นโลก ฤๅจะโศกเท่าน้ำตาบนหน้าฉัน กี่สายน้ำ-ลำธาร ผ่านคืนวัน จะเทียมทันธารน้ำตาบ่าท่วมใจ จะเปียกโชกอย่างไรในสายฝน ยังพอทนรอเวลาแล้วแห้งได้ แต่น้ำตาล้นเอ่อ...เธอทำไว้ จะซับด้วยสิ่งใดนะใจเอย... จากคุณ : ..วาวา.. - [ 4 ก.ค. 46 20:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สักวาเล่นฝนจนเป็นหวัด สะบัดร้อนสะบัดหนาวราวไฟสุม อีกทั้งงานหน้าที่ปรี่เข้ารุม ให้แสนกลุ้มหลายทุ่มไม่ได้นอน หมอบอกให้พักผ่อนนอนมากมาก ก็ลำบากยากเย็นเกินถ่ายถอน ผ่อนบรรเทาภูเขางานผ่านอาวรณ์ หนูบังอรขอถอนตัวกลัวฝนเอย จากคุณ : บังอร-บังเอิญ - [ 4 ก.ค. 46 22:50:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สักวาฝนกระหน่ำลมย้ำโบก พญาโศกขึ้นเพลงครวญพาหวนไห้ เอาน้ำฝนปนน้ำตา..เพื่อยาใจ เขาจากไกลไปอื่นไม่คืนมา รอกี่ฝนกี่ฟ้ามาไม่ถึง หัวใจจึงเหงาเหงาเฝ้าห่วงหา เพลงนางครวญขานขับรับน้ำตา เพลงอำลา เพลงสุดท้าย..อาจตายเอย จากคุณ : คุณหนูนา - [ 5 ก.ค. 46 00:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สิบแปดฝนสิบแปดหนาวรวดร้าวจิต สุดจะคิดดิ้นรนผจญไหว เพิ่งเป็นหนุ่มแตกพานเบิกบานวัย ก็ถึงคราวต้องมาม่ายในความรัก โอ้ตัวเราโตมาเล่าก็เท่านี้ มองหาหญิงดีดียากยิ่งนัก ล้วนมีแฟนคอยตามปราการหนัก ไม่มีโสดให้เรารักซักคนเอย จากคุณ : ป๋มเองคับ - [ 5 ก.ค. 46 13:03:32 A:202.57.176.99 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... สักวามิรู้เลย ทั้งเคยรู้ ตอนนี้ดวงใจอยู่ดีไฉน พบกับพรากซากความจริงยิ่งสิ่งใด จะจดจำดวงใจไว้ทุกคืน   หากพระพรหมประทานพรจะวอนว่า อธิษฐานแม้นชาติหน้าข้าฯจะฝืน อุปสรรคนานา จะกล่ำกลืน เพียงได้ยืน ต่อหน้าเจ้า เท่านั้นเอย ... จากคุณ : แงะ.. - [ 5 ก.ค. 46 21:33:15 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ...สักวาหน้าฝนทนอดกลั้น แม้เหน็ดเหนื่อยก็บากบั่นมิหมดหาย ไม่คลายคลอนร้อนใจให้มลาย ให้ห่างหายความหวังที่ตั้งใจ จะเหน็ดเหนื่อยก็จะฝันถึงวันพรุ่ง จะหมายมุ่งด้วยใจแกร่งแรงที่กล้า จะฝ่าฟันมุ่งไปไม่คลายครา แล้วเวลาจักพาไปให้พบเจอ.... ..... แฮะๆๆๆๆ   แบบว่ามาป่วน   จากคุณ : ยัยไหม (กรวี) - [ 5 ก.ค. 46 21:51:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สักวาหน้าฝนคนหม่นหมอง ก็ให้ลองคิดดูคูู่อยู่ไหน ถ้าีมีคู่ก็จงอยู่คู่กันไป ส่วนที่ไม่มีอยู่ให้คู่ตัว หากฝนนี้ไร้คู่มาสู่้เจ้า ก็อย่าเฝ้าเพียรหามาปวดหัว หากเจ้าดีแต่ไร้ไม่ต้องกลัว เทพทั้งทั่วจะมอบให้หนึ่งใจเอย จากคุณ : ม้าไม้ไผ่ - [ 5 ก.ค. 46 23:08:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สักวาหน้าฝนของคนฝัน มาร่วมกันบรรเลงตามเพลงขาน ผสมโรงโยงย้อนเป็นกลอนกานท์ ให้เบิกบานหวานชื่นโต้คลื่นลม อาจเปียกปอนเป็นหวัดคัดจมูก ถึงจะถูกไข้หากินยาขม ยังสดชื่นชุ่มฉ่ำฝนพรำพรม มาตามชมคมคำคนนำเอย จากคุณ : Daosaddha - [ 5 ก.ค. 46 23:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12  สักว่าหน้าฝนคนขี้เกียจ.. ซุกหมอนเบียดเจ่าจุกไม่ยอมตื่น.. อากาศเย็นน่านอนทั้งวันคืน ไม่อยากฝืนตื่นมานั่งบ้างาน นาฬิกาอัลปังแมนแสนขยัน ส่งเสียงลั่นพลันกระชากจากฝันหวาน ตบดังพลุ๊ก ปลุกได้ไง คิดพาลพาล เอื้อมมือควาน มุดใต้หมอน นอนต่อเอย. อิอิ :) จากคุณ : คิมมี่ (*CriMy*) - [ 6 ก.ค. 46 08:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สักวาศาลาไทยหนีไปอู้ เปิดกระทู้ทิ้งไว้แล้วหายหน้า แต่มากมายสหายกานท์ขานสักวา ไพเราะคำงามภาษาหาใดปาน พาให้ลืมปัญหาอันน่าหมอง จึงร่วมร้องบรรเลงเพลงขับขาน เป็นสักวาทำนองของโบราณ ร่วมสืบสานครรลองของร้อยกรองเอย จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 6 ก.ค. 46 14:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สักวาฝนแล้งก็แห้งร้อน ครั้นฝนย้อนชุกติดก็มิดพื้น ความพอดีที่ฝันทุกวันคืน ปลุกให้ตื่นจริงพร่างกระจ่างตา เป็นชีวิตใช่ความตายสหายเอ๋ย จงคุ้นเคยกับทุกข์และสุขหนา จงยิ้มรื่นหากสุขจักบุกมา จงยิ้มร่ารับทุกข์ที่รุกเอย หวังว่าเจ้าของกระทู้จักไม่เดินตากฝนเพียงเดียวดาย ... ฮิฮิ. จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 6 ก.ค. 46 16:51:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จอมยุทธฯ ขอคัดอะไรมาให้เพื่อนๆอ่านกันเหล้นๆดีกว่าขอรับ กราว : สักวา "สักวา" หรือที่คนโบราณเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "สักรวา" เป็นการเล่นอย่างหนึ่งของไทย มีมาตั้งแต่ สมัยโบราณ นิยมเล่นกันในฤดูน้ำเหนือหลาก เช่นในเดือน ๑๑-๑๒ อันเป็นเทศกาลทอดกฐิน ผ้าป่า หรือการเที่ยวเรือตามท้องทุ่ง สถานที่เล่นมักจะเป็นแม่น้ำ ลำคลอง หรือสระน้ำกว้างๆ กล่าวกันว่า ในฤดูเช่นนี้ ผู้มีบรรดาศักดิ์มักพาบริวารมีวงมโหรีและนักร้องพร้อมด้วยลูกคู่ มีโทน ทับ กรับ ฉิ่ง รำมะนา ลงเรือไปเที่ยวตามลำน้ำ เมื่อไปพบกับเรืออื่น เจ้าของคณะแต่ละลำก็คิดผูกบทกลอนขึ้นสดๆ ให้นักร้องของตนร้องเกี้ยวพาราสี หรือเชิญชวนเรือลำอื่นมาเล่นกลอนร้องโต้ตอบกันเป็นที่สนุกสนาน เรื่องที่จะมาร้องโต้ตอบกันอาจเป็นเชิงสังวาสคือเกี้ยวพาราสี หรืออาจยกเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาแบ่ง หน้าที่กันว่าก็ได้ การเล่นกลอนสดโต้ตอบกันเช่นนี้มีใกล้เคียงกัน ๒ วิธี คือสักวาและดอกสร้อย แต่ดอกสร้อยนั้นมัก จะมีเพียง ๒ วง หรือ ๒ คณะ คือวงชายและวงหญิง เนื้อร้อง ก็เป็นทำนองเกี้ยวพาราสีเท่านั้น บท กลอนไม่กำหนดความยาว อาจเป็น ๔ คำ ๖ คำ หรือ ๘ คำกลอน วรรคต้นเป็นบทตัด เช่น วันเอยวันนี้ ตอบเอยตอบถ้อย ฯลฯ คำสุดท้ายก็ไม่ลงเอย ปล่อยให้อีกฝ่ายแต่งรับสัมผัสไปเรื่อยๆ จนกว่าจะ เลิกกัน ส่วนสักวา จะเล่นกี่ลำเรือหรือกี่วงก็ได้ แล้วแต่จำนวนผู้เล่นหรือจำนวนตัวละครในเรื่องที่จะเล่น ความ ยาวเพียงบทละ ๔ คำกลอน (ยกเว้นบทแจกตัวอาจยาวถึง ๘ คำกลอน) ขึ้นต้นด้วย "สักวา" เช่น "สักวามาเล่นเป็นอิเหนา" และจบลงท้ายด้วย "เอย" เช่น "โปรดอย่ายิงตัวประกันอย่างฉันเอย" เป็นต้น เมื่อกวีแต่งบทแล้ว นักร้องประจำวงก็จะร้องส่งและดนตรีก็จะรับ สมัยโบราณจะร้องส่งและรับกัน ด้วยเพลง "พระทอง ๓ ชั้น" ซึ่งเป็นเพลงที่มีท่วงทำนองช้า พอที่กวีจะคิดกลอนได้ทันช่วงหนึ่งๆ แต่ ปัจุบันมักร้องส่งและรับด้วยเพลง ๒ ชั้น ซึ่งมีจังหวะเร็วปานกลาง ทันอกทันใจคนฟัง และผู้ร้องก็ใส่ เพลงให้เข้ากับบรรยากาศของบทกลอนในตอนนั้นๆ เช่น บทไหว้ครูอาจเป็นเพลง "เทวาประสิทธิ์" บทเศร้าก็ส่งด้วยเพลง "นกจาก" บทตลกหรือคึกคักก็จะส่งด้วยเพลง "เขมรไล่ควาย" หรือ "นาคราช" หรือ "เทพทอง" หรือ "ลิงโลด" บทลาอาจส่งด้วยเพลง "พม่าเห่" หรือ "เต่ากินผักบุ้ง" เป็นต้น เพื่อ กันความติดขัด นักกลอนจะแต่งกลอนจนจบบทแต่ละคน แล้วเขียนส่งบทให้คนร้องด้วย พอนักร้อง ร้องส่งจบลง คนรับบทต่อไปก็แต่งกลอนจบได้ทัน การเล่นมักจะเริ่มด้วยไหว้ครูบาอาจารย์และเทพเจ้าเสียก่อน (หากเล่นหน้าพระที่นั่งก็มีบททูลเบิกและขอ พระราชทานอภัยเสียก่อน) แล้วจึงมีบทเชิญชวนกันและกัน คือชายเกริ่นและหญิงตอบรับ ถัดจากนั้น จึงเล่นเป็นเรื่อง โดยมีคนว่ากลอนแจกบทหรือเรียกว่า "แจกตัว" ให้แต่ละวงเป็นตัวละครในเรื่องที่จะ เล่นบทต่างๆกันไป เมื่อสมควรแก่เวลาแล้วก็จะว่ากลอนลาด้วยการร่ำลาและอวยพรกัน ซึ่งเรียกว่า "ลำลา" การเล่นสักวามาซบเซาในสมัยรัชกาลที่ ๔ เนื่องจากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีละครผู้หญิงกันได้ ทั่วไป คนจึงหันความนิยมไปหัดละครและปี่พาทย์กันมาก รัชกาลที่ ๕ ทรงรื้อฟื้นขึ้นมาอีกและเฟื่องฟู มาก มีผู้บอกสักวาที่มีชื่อมากมายหลายท่าน ซึ่งเรียกกันเป็นวง เช่น วงผู้ชายมี วงทูลกระหม่อม (ของ สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระจักรพรรดิพงศ์) วงอาลักษณ์ (ของกรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ) วงท่าพระ หรือ วงพระองค์เจ้า (ของพระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์) วงช่างเขียน (ของกรมขุนเจริญผลภูลสวัสดิ์) วงหม่อมเจ้าเจริญ (ในกรมขุนราชสีหวิกรม) วงพระตำรวจ (ของเจ้ากรม ปลัดกรมและนายตำรวจ) เป็นต้น ส่วนวงผู้หญิงก็มี วงของหลวง วงสมเด็จกรมพระยาสุดารัตน์ราชประยูร วงมหาสงคราม หรือวงกรมนา (ของพระมหาสงคราม) เป็นต้น  หรือในสมัยรัชกาลที่ ๒ นั้น กวีที่มีฝีปากลือลั่นอย่าง สุนทรภู่ คุณพุ่ม (ธิดาพระราชมนตรี - ภู่) นั้นมีชื่อลือเลื่องมาก คู่โต้สำคัญ เช่น กรมหลวงภูวเนตร- นรินทธิ์ (ในสมัยรัชกาลที่ ๓) แม้พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และ พระบาทสมเด็จพระนั่ง- เกล้าเจ้าอยู่หัว (สมัยทรงพระอิสริยยศเป็น กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์) ก็นับว่าทรงเป็นกวีที่เคยฝากฝี พระโอษฐ์คารมคมคายอย่างยิ่งมาแล้วด้วย สักวามาเลิกร้างห่างเหินไปภายหลังรัชกาลที่ ๕ อาจมีบ้างเป็นครั้งคราวในงานรื่นเริง ในสมาคม แต่มิได้ จริงจัง มาเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๐๒ กรมศิลปากรได้รื้อฟื้นขึ้นมาแสดง ณ สังคีตศาลาอีกครั้ง โดยมี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หลวงอิศราภรณ์ประพันธ์ นายเปลื้อง ณ นคร นายมนตรี ตราโมท คุณหญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา นางสาวชยศรี สุนทรพิพิธ (นางชยศรี ชาลี) เป็นผู้บอกสักวา ในเรื่องสังข์ทอง เป็นที่ชื่นชอบของผู้ฟังเป็นอันมาก จากนั้นมักมีการแสดงเป็นครั้งคราวตามงานการ กุศลหรือในสถาบันเป็นการภายในเป็นส่วนมาก จึงไม่สู้จะเป็นที่แพร่หลายนัก คัดจาก หนังสือ "สักวาวิวิธ" รวมบทกลอนสดเชิงปฏิภาณกวียุคใหม่ สมัยรัตนโกสินทร์ รวบรวมโดย ประยอม - อรฉัตร ซองทอง จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 6 ก.ค. 46 17:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สักวาเรื่องของหวยรวยลำบาก อยากจะฝากคำกลอนถึงคอหวย อันน้ำพักน้ำแรงนั้นพารวย หากลุ่มหลงเล่นหวยหวยพาจน ช่างลำบากชีวิตไทยสมัยนี้ ความมั่งมีเสาะแสวงทุกแห่งหน ทรัพย์สมบัติเสมือนทิพย์บันดาลดล ทุกข์ฤๅสุขแท้ผลแต่อกเอย . . . . . แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 46 16:21:05 จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 6 ก.ค. 46 21:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สักวาแวะมาว่ายังอยู่ ให้เพื่อนรู้จะได้ไม่ต้องห่วงหา ด้วยงานมากจึงจากจรไปไกลตา แล้วแวะมายามพบว่าเวลามี เจอกระทู้ภาคใหม่ใจอยากร่วม แม้งานท่วมแต่ขอส่งหนึ่งบทนี้ เป็นกลอนสดด้นเร็วเร็วห้านาที แล้วก็ต้องจรลีจากไปเอย... (หมายเหตุ: ถ้าว่างกว่านี้จะแวะกลับมาใหม่ค่ะ ^_^) จากคุณ : ไร้นาม - [ 7 ก.ค. 46 01:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สักวาหน้าฝนคนนอนหนาว ไม่มีสาวเคียงคู่อยู่หน้าฝน ถามกับฟ้าฟ้าไม่หาให้สักคน จึงต้องทนหม่นหมองไม่เป็นไร   ถามถึงฝนคนไทยรู้ไหมเล่า ที่นี่เขาฝนน้ำแข็งเป็นฉไน เจอเข้าวันสองวันเข้าเป็นไร หกองศาเข้าให้หนาวสั่นเอย จากคุณ : (S)wing - [ 7 ก.ค. 46 11:41:23 A:210.86.32.224 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 สักวาไกลบ้านร้าวรานจิต ให้หวนคิดถึงไทยให้ใจหาย ให้หวนคิดถึงคนเคยข้างกาย ให้หวนคิดถึงสหายที่เคยมี มาอยู่ไกลถึงนี่ถึงมีเพื่อน ก็ไม่เหมือนเพื่อนไทยที่ไม่หนี มักร่วมสุขร่วมทุกข์ทั้งชีวี สักวาบทนี้ให้เพื่อนเอย แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 46 12:16:41 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ค. 46 12:15:40 จากคุณ : ม้าไม้ไผ่ - [ 7 ก.ค. 46 12:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สักวาแวะมาว่ากลอนสด ไม่งามงดถ้อยคำนำเสนอ แบบว่าปู่คิดถึงจึงพร่ำเพ้อ อยากพบเจอสรวลเสเฮฮากัน ยังจดจำคืนหนึ่งซึ้งไม่หาย มิตรหญิงชายเคยรวมร่วมสังสรรค์ "ลานร่มไม้"ต่างสนุกสุขใจครัน คอยคืนวันผ่านมา"ศรีราชา"เอย ๚ จากคุณ : Augustman (Augustman) - [ 7 ก.ค. 46 13:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาแจมค่ะ  สักวาฝนพรำ ยามฟ้าสาง อรุณรางดูมืดมัว สลัวแสง คนใจล้ายิ่งโหยอ่อนโรยแรง ฟ้าดั่งแสร้งหลั่งน้ำตามาเย้ยกัน ด้วยฝันร้ายเสียจนใจหม่นหมอง รอแสงทองจากฟ้ามาปลอบขวัญ วาดหวังแสงแจ่มจ้าของตาวัน มาสร้างฝันวันใหม่สดใสเอย จากคุณ : แม่ไก่ - [ 7 ก.ค. 46 13:21:30 A:203.113.51.103 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 สักวาอ่านไปแล้วใจหาย ผู้งมงายในรักมักทุกเข็ญ อีกกี่ฝนทนไปใช่ฉ่ำเย็น มีแต่เค้นหน่วงเหน็บยิ่งเจ็บนาน เหมือนวาวาว่าไว้ไม่มีผิด เพียงน้อยนิดคำรักกลับหักหาญ ถึงมากมายสายน้ำกี่ลำธาร ฤๅเปรียบปานน้ำตาเอ่อเธอทำเอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 7 ก.ค. 46 18:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สักวาบังอรพักผ่อนน้อย บังเอิญบ่อยเจอกันวันฝนตก พอเป็นหวัดฮัดเช้ยเฮ้ยเดี๋ยวชก ว่าแล้วยกหยูกยามาให้พลัน แม่หนูนามาด้วยช่วยกันหน่อย งานคงกร่อยหากทูนหัวมัวขยัน พักนิยายแต่งกลอนตอนกลางวัน แถมรู้ทันอีกแล้วแก้วตาเอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 7 ก.ค. 46 19:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สักวา ปลอบใจ ใครช้ำรัก ก็จงพักหักใจในทุกข์ขม เพราะช้ำรักช้ำโศกวิโยคตรม เวลาข่มผสมใจให้คืนมา เจ้าเสียอกเสียใจเสียไปเถิด แต่จงเปิดดวงใจใฝ่ฝันหา ว่ารักใหม่ที่ดีจะมีมา สมควรค่ากับน้ำตาที่เสียเอย จากคุณ : ม้าไม้ไผ่ - [ 7 ก.ค. 46 19:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 25     สักวาฟ้าพรมพิรุณพร่าง แจ่มกระจ่างสาดเม็ดเป็นเพชรใส กลั่นหยาดฝนหล่นมาจากฟ้าไกล สาดไสวสู่สินธ์แผ่นดินธาร     เล่นน้ำฝนจนหนำตามใจคิด แสนเปรมจิตติดลมสุขสนาน จนเป็นหวัดคัดจมูกคอยรำคาญ หมดสำราญหน้าฝนทนป่วยเอย ------ แหะๆ หลังจากไม่ได้แต่งกลอน 8 มาแสนนาน จากคุณ : นักเดินทาง - [ 7 ก.ค. 46 21:00:19 A:202.28.179.1 X:unknown ]

ความคิดเห็นที่ 26 ...สักวาบอกว่าใจจข้าเหงา แสนปล่าวเปลี่ยวเหน็บหนาวหาใดไหน เมื่อหยาดฝนจากโค้งรุ้งผ่านฟ้าไกล หยาดหยดในใจข้าคราฝนพรำ เหน็บหนาวหนาวเหน็บทนเจ็บนัก ด้วยคนรักมาจากพรากแล้วก็หาย ยิ่งรับรู้ยิ่งกลืนกล้ำเกลือบวางวาย แสนเสียดายความดีเราคนเขลาเอย..... แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 46 06:01:48 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 46 05:59:49 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 46 05:57:09 จากคุณ : ยัยไหม (กรวี) - [ 8 ก.ค. 46 05:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สักวาฟ้าหม่นใจคนหมอง พิลาปร้องร่ำไห้เป็นสายฝน น้ำตาฟ้าไหลหลั่งถะถั่งชล น้ำตาตนต้องแอบเก็บเจ็บภายใน คำรามเปรี้ยงเสียงทะลุอสุนีบาต คำรณฟาดหน่วงหนักให้ตักษัย ดังคำเจ้าเข้าทิ่มแทงแสลงใจ ตัดเยื่อใยเย็นชาท่าทีเอย แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 46 12:50:15 จากคุณ : Noppy B. Good (สายลมคิมหันต์) - [ 8 ก.ค. 46 11:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สักวาแมงมุมสาวผู้หนาวเหน็บ รักเกินเก็บอยากถักใยผ่านใจหนุ่ม พบเห็นเขาอยากอ้อนใจร้อนรุม ทอใยนุ่มแน่นเหนียวไปเกี่ยวใจ มันก็เหมือนรักต้องห้ามข้ามเผ่าพันธ์ จะกระสันต์รักแท้ไปแค่ไหน เป็นแมงมุมมาปะปน..คน ทำไม ขอจากไกล...เข้าพรรษา ลาก่อนเอย จากคุณ : มารแมงมุม - [ 8 ก.ค. 46 12:38:21 A:202.57.185.161 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 สักวาป๋มเองคับรับคำน้อง พี่จะลองเขียนกลอนสดกำหนดเรื่อง ที่ไหนเล่าเอามาเล่นเห็นคำเปลือง ทำคุยเขื่องสิบแปดคนคงจนทาง จะมางัดหรือมาแงะมาแคะค่อน อย่าเพิ่งหย่อนทดท้อใจไปทุกอย่าง พยายามเถิดเจาะจิตคิดแนบนาง คงมีบ้างจะถึงคราวสาวมองเอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 9 ก.ค. 46 12:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ๏ ขุนโคลงขาดหมึกแต้ม            เติมฝัน แก้วกาพย์มัวแสงอัน                  เอกอ้าง อาศรมศักดิ์สิทธิ์พลัน                  อาเภท   เสียงแค่นสักวาค้าง                     ขุ่นคล้ายวายปราณ ๚ะ จากคุณ : สังคโลก - [ 9 ก.ค. 46 17:46:14 A:203.146.73.88 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 โคลงฉันท์กลอนกาพย์ล้วน .ธารกวี จินตนาการมี แต่งแต้ม จากแบบสู่แบบวจี จารแบบ กว้างแคบคนรู้แย้ม ..ใช่เย้ยหยามสาร สักวาโคลง-ฉันท์-กลอน-จรถึงกาพย์ ตามประสา คนหยาบ จึงกราบฐาน ค่อยฝึกเขียน เรียน“แบบ” แอบมานาน ค่อยค่อยผ่าน ธารถ้อย ร้อยลำนำ จึงฝากตัว หัวใจ ให้อักษร เขียนโคลง-กลอน-กาพย์-ฉันท์ ให้ใจฉ่ำ เขียนความฝัน สรร ”สาร” จารถ้อยคำ ตามตัวบท จดจำ แล้วทำเอย สวัสดีครับ ฝ่าสายฝนและลมร้อน มาเขียนอีกแล้วครับ น้ำฝนหล่น คนหม่น ลมร้อนเผา คนเศร้า หม่น-เศร้า เคล้าลม-ฝน ครับ จากคุณ : ผู้งมงายในรัก - [ 10 ก.ค. 46 15:12:55 A:203.154.97.197 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 สักวาพี่ยัยไหมไม่เห็นป่วน แถมยังชวนม้าไม้ไผ่ให้ช่วยปั่น Daosaddhaมาพร้อมล้อมวงกัน คิมมี่ขันมุดใต้หมอนแล้วนอนกรน พี่จอมยุทธหาว่าอู้หนูเปล่าคร้าน คุณวิญญาณอสัญญาอย่าสับสน โน่นดูสินิรนามตามมาชน ไร้นามบ่นไม่ค่อยว่างห่างนานเอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 ก.ค. 46 19:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สักวา (S)wing หญิงหรือเปล่า ม้าไม้ไผ่แอบเย้ากระเซ้าต่อ ปู่ออกัสเรื่องสีชังยังต้องรอ แม่ไก่พ้อเป็นกลอนสดรสดีจัง ม้าไม่ไผ่มาอีกรอบตอบที่ค้าง นักเดินทางไม่ค่อยเห็นเป็นงัยมั่ง พี่ไยไหมอย่าคิดมากยากจีรัง ศาลาฯ นั่งตอบเหนื่อยเมื่อยจริงเอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 ก.ค. 46 19:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ๏ หาเรื่องย่อมได้เรื่อง          ธรรมดา หาเรื่องเรื่องย่อมมา            เรื่องได้ หาเรื่องเรื่องกลับหา            เห็นเรื่อง หาเรื่องเรื่องฤๅไร้                เรื่องร้างเราหา ๚ะ สักวาว่าวอนแล้วค้อนส่ง แรกใจจงนอกรอบมิตอบไผ เห็นมวลมิตรคิดเพลินเกินห้ามใจ จึงแต่งไปตามแต่ว่างห่างจากงาน พอกิจรุมสุมอีกปลีกตัวยาก แสนลำบากเสกถ้อยเรื่องร้อยสาร แวะมาหน่อยค่อยเห็นไฟไล่ลนลาน รีบร้องขานแอบยั่วยิ้มอิ่มเอมเอย แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 46 17:43:30 จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 ก.ค. 46 19:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สักวาเร่งเครื่องหน่อยค่อยได้ที่ โน่นนพผีบีจุดกุดฉุดไม่อยู่ หนีเรียนไกลไปแอบแฝงแกงการู มะลิสู้เลี้ยงให้เห็นเป็นบอนไซ ฟังกลอนรักสักวาพาใจหาย เถิดพี่ชายดามอกยกเครื่องใหม่ โบราณว่าตัดบัวยังเหลือใย ขุ่นเก็บในรีบง้อเร่งต่อเอย ...นะพี่นะ... จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 ก.ค. 46 19:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ค่อนขุนคุณขุ่นข้อง ......... อันใด คำค่อนความอย่างไร ....... ไฉนนั้น ปรายโปรยโหยโอยไป ..... ไยสร่าง อึดอัดอุดอูอั้น ................ อาจอ้วน อาจม จากคุณ : หญ้า.. - [ 10 ก.ค. 46 20:19:50 A:202.133.163.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 สักวามารแมงมุมแม่นุ่มเนื้อ ไม่น่าเชื่อว่าแม่หลบไม่พบหน้า คอยชะเง้อเก้อทุกทีกี่เพลา แม่จึงมาให้พี่เห็นเป็นบุญใจ เข้าพรรษาจะลาจากพรากอีกแล้ว แถมยื่นแห้วออกมาฟ้องเสียกองใหญ่ นี่กระมังโบราณว่าอย่าเล่นไฟ จึงมอดไหม้เพราะเพลิงรักมิพักเอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 ก.ค. 46 20:20:15 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ...สักวาฉันนี้ไซร้ใช่แมงมุม แค่คนกลุ้มถักทอฝันอันหลากหลาย พอหนาวเหน็บพอทุกข์ร้อนใจมลาย จึงผ่อนคลายด้วยถักร้อยสร้อยบทกลอน ฟังเปล่ง..เปล่งก็ยังเพียรจะขียนอ่าน จนหลายคนขานตอบรับกลับสดใส ขอขอบคุณแม่น้องนางศาลาไทย ที่ทนไปอ่านไปจนได้ความ.... .... แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 46 21:48:31 จากคุณ : ยัยไหม (กรวี) - [ 10 ก.ค. 46 21:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สักวาหน้าฝนคนโคลงหาย ไม่มากรายอย่างเก่าแสนเหงาหงอย ศาลาเศร้าบ่นพร่ำย้ำว่าคอย ลูกลิงน้อยมาป่วนชวนแต่งโคลง ฤๅวสันต์ซัดสาดอาศรมนี้ จนไร้ที่พำนักชักเหรงโหรง แอบมาอ่านนงเยาว์เฝ้าอยู่โยง บ่งจรรโลงสักวาหน้าฝนเอย ฯ จุ๊กกรู๊ จิ๊บจิ๊บ เจี๊ยกเจี๊ยก ... รู้นะ ว่าคิดถึงอยู่  อะโห ...ผู้คนมากมาย ขุนโคลงทั้งหลาย ที่พลิกผันหัวใจตนเอง ไปลองเขียนกาพย์ ฉันท์ กลอน สักวา ... อั่นแน่ ..  แต่ยังไงซะ หัวใจยังเป็นของคนโคลง เอ๊ย..! หัวใจยังคงโคลงอยู่ .. แน๊ .. เกือบเป็นข่าวแล้วประไร ..ก๊ากๆๆ อืมม .. ความคิดเห็นที่สามสิบ ช่างบาดใจแท้ ทำเอาลูกลิงที่แอบอ่านอาศรม ปวดไส้ติ่งทันใด และแปล๊บที่ถุงน้ำดี หนึบหนับที่ตับอ่อน ..  เอาน่า .. สักวานอกรอบ นี่นา ... เอาแล้วสิ หวานใจจ๋า... ลิงจะขย่มอาศรมอีกแล้ว 55555 แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 46 11:21:37 จากคุณ : จังงัง - [ 11 ก.ค. 46 11:07:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ๏ ปีวันผันผ่านพ้น.....................กมลหมาย ฝนหลั่งยังอาจหาย....................ใช่ยั้ง สุริเยศเดชแสงสาย....................คลายเลื่อม- เรืองนา โสมส่องอาจหมองครั้ง...............เมฆซ้อนตอนแรม ฯ ๏ ขุนโคลงคงคิดค้น...................ความฝัน แก้วกาพย์กาจรำพัน...................สืบถ้อย อาศรมเฉกอภินันท์.....................ลานเอนก อารักษ์อักษรร้อย.......................สื่อได้นัยหมาย ๚ะ จากคุณ : จังงัง - [ 11 ก.ค. 46 11:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สักวาคุณยายขาหนูมาหา หนูอยู่บ้านเมตตาราชวิถี กำพร้าพ่อกำพร้าแม่มานานปี มาวันนี้ขอสมัครเป็นหลานยาย ฟังเขาว่าพ่อแม่รักลูกนัก พระคุณหนักเกินเปรียบเทียบความหมาย หนูอาภัพอับจนต้องเดียวดาย ขอคุณยายรักหลานสักนิดเอย สักวาหลานเอยขอเชยหน้า ช่างน่ารักคะขาพาใจชื่น คิดถึงลูกถึงหลานทั้งวันคืน เขาจะสุกรึกล้ำกลืนยายไม่รู้ ที่บ้านพักคนชรายายมีเพื่อน แต่ความหลังใช่เลือนยังชัดอยู่ ลูกน้อยน้อยเคยสอนแลอุ้มชู เหมือนกับหนูน่ารักมาเถิดเอย . . . . . แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 46 16:30:01 จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 11 ก.ค. 46 13:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ...คางคกจิ้งจกจ้วง........................เงาจันทร์ "โคลง-" ไก่,ต้มโคล้งอัน.................กร่อยลิ้น อวดโคลง "เศษโครง" สรร..............มิสุก ปลอบปลุกยังปร่าสิ้น.....................ใช่แสร้งแถลงไข ...โทษไยว่ากาพย์ด้อย....................รสกวี ฤๅว่า "เศษโคลง" ดี.........................เลิศล้ำ กว่าสักวาซึ่งลางที...........................อนรรฆค่า ถ้ามิใช่ก็อย่าย้ำ..............................ยั่วให้อางขนาง แด่ความเห็นที่ ๓๐ ด้วยรัก ;-) จากคุณ : ..วาวา.. - [ 11 ก.ค. 46 17:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จ๊าก ... ยาย วันก่อนไปหาที่บางแค ไม่เจอ อ่ะ   จากคุณ : จังงัง - [ 11 ก.ค. 46 17:06:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ๏ ขุนโคลงขาดหมึกแต้ม            เติมฝัน แก้วกาพย์มัวแสงอัน                 เอกอ้าง อาศรมศักดิ์สิทธิ์พลัน                อาเภท   เสียงแค่นสักวาค้าง                  ขุ่นคล้ายวายปราณ ๚ะ ๏ ใดปานหมึกหยดนี้                  ระอุฝัน เหมือนยั่วเขียนคำพลัน              พากย์โต้ "อาเพศ" ฤ เพ่งพลัน                  มิตรตอบ  โคลงแฮ ฉันทลักษณ์ใช่อวดโม้                จิตล้าอย่าฝืน ๚ะ ๏ ค่อนคืนถึงบ่ายคล้อย              ครึ้มฝน เอกเจ็ดโทสี่ดล                        ออกอ้าง เกินนับผ่านกี่หน                      เขียนลบ  เขียนเฮย มอบมิตรอารมณ์ค้าง                เผื่อรู้รสโคลง ๚ะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 ก.ค. 46 18:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ฉันรู้ฉันทลักษณ์ใช้.................ฉันใด ฉันชอบฉันพอใจ....................เฉกนั้น ฉันเอื่อยเฉื่อยฉันไป.................เรื่อยเรื่อย ฉันเหนื่อยฉันง่วงงั้น...............หลับแล้วนะนาย ฮิฮิ...วันหยุดขอให้ท่องเที่ยวพักผ่อนกันเยอะๆ นะครับ ขอให้มีความสุขทุกท่านครับผม จากคุณ : วิญญาณอสัญญา - [ 12 ก.ค. 46 04:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 45 คางคกตระหวัดลิ้น                       แมลงวาย โฉมพลิกลิ้นสยบชาย                    เฉกนั้น จิ้งจกร้องทักหมาย                        มีสติ ไยแบ่งแยกชื่อชั้น                          ต่ำช้าเชิงกวี ...โทษตนมาก ว่าจ้อย....................  กระจิดนึง โทษเพื่อนน้อยว่า:-).........................ผิดล้ำ อัตตาคือข่ายขึง......................... ..โครงครอบ  กวีเวย ปลดปล่อยตัวตนกล้ำ.......................โกรธได้คือกวี ๏ ใดปานหมึกหยดนี้                ระอุฝัน เหมือนยั่วเขียนคำ ”พลัน”         พากย์โต้ "อาเพศ" ฤ เพ่ง “พลัน”              มิตรตอบ โคลงแฮ ฉันทลักษณ์ใช่อวดโม้                จิตล้าอย่าฝืน ๚ะ ๏ ใดเปรียบว่าปราชญ์นี้            เนือยฝัน เหมือนเพ่งจับผิดฉัน-                ทลักษณ์โต้ อารมณ์ระอุพลัน                       พลันตอบ โคลงแฮ ฉันใช่พาลพล่อยโม้                    พลาดแม้นเหมือนกัน ๚ะ สักวา “อา”  วางอยู่ข้าง:-)ยความว่า “ทั่วไป” ใคร่แถลง “เภท” คือแตกแยกย่อยค่อยตะแคง ขอตะแบงแบบว่าคนบ้าบอ ความจริงคือมือไวกว่าใจคิด จึงพิมพ์ผิดเป็นครูนะหนูศอ. ฉันอวดเขาสี่ขามาชูคอ ใครสีซอเป็นมั่งอยากฟังเอย จารกาพย์ประจงกราบ          รอคมดาบแต่โดยดี พลัดหลงดงกวี                      คงมิรอดจะวอดวาย หวังร่มอาศรมรื่น                  ได้หยิบยื่นพอเย็นกาย ด้นโคลงมาเดียวดาย             ระอุเดือดทุกดวงแด นกเปลี่ยวยามปีกหัก             มาจมปลักอารมณ์แปร ขอหลบไปเลียแผล                 สำนึกผิดโดยลำพัง จากคุณ : สังคโลก - [ 12 ก.ค. 46 09:16:22 A:203.146.98.20 X:172.16.7.23 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ...โทษตนมาก ว่าจ้อย....................  กระจิดนึง โทษเพื่อนน้อยว่าม.อึง.........................ผิดล้ำ อัตตาคือข่ายขึง......................... ..โครงครอบ  กวีเวย ปลดปล่อยตัวตนกล้ำ.......................โกรธได้คือกวี จากคุณ : สังคโลก - [ 12 ก.ค. 46 09:23:26 A:203.146.98.20 X:172.16.7.23 ]

ความคิดเห็นที่ 47 +++ เพลงบทโศก +++ -๑- ๏ พญาครวญครวญโศกเศร้า......เสียงซอ พญาโศกโศกใครพอ................พี่ได้ พญาตรึกตรึกใดหนอ................น้องหน่าย รักสร่างสร่างสิ้นไร้...................รสแล้วฤๅไฉน ฯ -๒- ๏ แขกโอดครวญโอดอ้อน.........โอดสาร เรียมขับเพลงขับขาน................ขับร้อง เสียงกลอนหลากกลอนกานท์......กลอนคร่ำ-.....ครวญเอย พร่ำเอ่ยพร่ำเอื้อนพร้อง..............พร่ำร้องพร่ำขาน ฯ -๓- ๏ เพลงทะแยเพียงทิ่มย้ำ..........ยอกใจ ซอสะอึกสะอื้นไข...................ข่าวแจ้ง เธอเถือบ่เหลือใย....................ยึดเกี่ยว จึงห่างหายคล้ายแสร้ง..............ซ่อนเร้นหลีกหนี ฯ   -๔- ๏ พญาครวญครวญโศกเศร้า......เสียงวอน พญาโศกโศกเจ้าจร.................จากพ้น พญาตรึกตรึกทั้งนอน...............นั่งตื่น นึกโศกโศกใดท้น....................เทียบแม้นเราเสมือน ๚ะ๛ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๔๖ สวัสดีครับ แอบเอาโคลงมาวาง ก่อนจะหายไปอีกครา ช่วงนี้งานยุ่ง... ขอรับ จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 12 ก.ค. 46 11:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สัก วาหน้าฝนฝนไม่ฝน (กะ) ทั่งชาวนาทนแทบไม่ไหว   วา นเทพาอารักษ์รักษ์ไผท- นอก และในไม้จ้าวพราวประกาย รอบ รอบทิศฤทธิ์แรงแถลงฟ้า มา เมียงมองแหล่งหล้าอย่าหนีหาย มอบ ความรักกรุณาบ่าฝนพราย- รัก และสายใยค้ำชาวนาเอย ฯ แด่..หน้าฝน เมืองไทย แหะ ๆ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 12 ก.ค. 46 12:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอคุยเรื่อง "อาเภท" และ "อาเพศ" หน่อย ขอรับ บาลี บอก "อาเภท" แจ้ง          จับจิต "อาเพศ" สันสกฤต                  ว่าไว้ ทั้งสองคำลิขิต                       ต่างอรรถ- เดียวแล อัญขยมว่าใช้                         ถูกถ้อยความดี นะเอย ฯ แหะ ๆ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 12 ก.ค. 46 12:07:22 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แหะ แหะ ... ยิ้มกันหน่อยดิ ยิ้มแล้วโลกนี้จะสดใสยิ่งนักแล้ว ... น่า คุณสังคโลก เดี๋ยวจังงัง ทำการบ้านเสร็จก่อน ตอนนี้ต้องคัดลายมือส่งครู น่ะ แล้วจะมาเขียนโคลงเป็นเพื่อน แต่บอกซะก่อนนะ ว่าจังงังอ่ะเขียนไม่ค่อยเก่ง นา ... ดำน้ำ ผุดโผล่ แบบกบ อ่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ทิ้งกันไปอย่างงี้ได้งัย เค๊าจะร้องไห้แล้วน๊า ... .....ดีฤาคือรับรู้........................มิตรภาพ เคยเอ่ยเฉลยทราบ...................ตราบฟ้า ปรีดาใฝ่เคียงทาบ.....................เทียมเพื่อน เยือนใจ เพียงจิตคิดเอื้อมคว้า.................ไขว่น้อมถนอมนาน ฯ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 46 14:57:26 จากคุณ : จังงัง - [ 12 ก.ค. 46 14:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ....แวะเวียนเพียรสู่ห้อง.................มองความ   สังคโลกเล่าตาม..........................ตรึกถ้อย แยบยลประพนธ์งาม.....................งำเงื่อน   หวังจิตพินิจคล้อย........................ห่อนแคล้วแนวโคลง ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 12 ก.ค. 46 15:01:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ....ตามรสบทฟ่องฟ้า................เฟือนฝัน ร่ายเรื่องลิขิตอัน......................อะคร้าว คำครูแต่ปางบรรพ์....................เพียรบ่ง  สอนเฮย โคลงร่ำลำนำน้าว......................เนื่องซร้องสืบสาน ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 12 ก.ค. 46 15:03:03 ]

ความคิดเห็นที่ 53 .....พระพายคลายรุ่มร้อน..............ตอนตรม-  ตรอมเฮย กาพย์เห่ทะเลลม.........................ข่มไข้ ตรึงจิตวิจิตรชม...........................สมคู่ เคียงนา หลงรักประจักษ์ใว้.......................ใส่ช้องประคองขวัญ ฯ ......คืบวาเกินกว่ายั้ง.....................ดังจริง งันเงียบเปรียบควรติง.....................สิ่งเร้น กลบกลืนคลื่นประวิง......................สิงสู่  ภัยนา อาจดับลับชีพเว้น..........................สู่บึ้งชลธาร ฯ พักก่อน ... เหนื่อยแล้ว .. ให้คนอื่นเคยสักวาบ้าง ... เนอะ จากคุณ : จังงัง - [ 12 ก.ค. 46 15:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ๏ ใดปานหมึกหยดนี้                ระอุฝัน เหมือนยั่วเขียนคำ ”หยัน”         พากย์โต้ "อาเพศ" ฤ เพ่ง “พลัน”           มิตรตอบ โคลงแฮ ฉันทลักษณ์ใช่อวดโม้              จิตล้าอย่าฝืน ๚ะ ๏ โทษคืนรับแต่ด้วย                 โดยดี คำติย่อมประโยชน์มี                 มากล้น ขอบคุณมิตรไมตรี                    ตามตรวจ ใช่จักหมายด้านด้น                   อวดดื้อถือใด ๚ะ ๏ เปิดใจฟังเสนาะซึ้ง                เสียงซอ ไยสรรพนามมิตรหนอ               เยี่ยงนั้น มาดีเพื่อนคิดขอ                       ดีตอบ ฤๅข่มค่อนชื่อชั้น                      ย่อมรู้อยู่เอง ๚ะ ๏ เลือกเลบงสี่สุภาพตั้ง              แต่งตาม เอกเจ็ดโทสี่งาม                        แน่วเน้น พลาดผิดคิดทวงถาม                 ทวนเถิด ลางแห่งยังหลบเร้น                   ฤ แกล้งวางกล ๚ะ สักวาประสาชอบจึงตอบถาม เหตุด้วยความสงสัยเพียงใคร่เห็น แสนยินดีมียกถกประเด็น ย่อมจักเป็นแบบอย่างวางร่องรอย ฉันทลักษณ์ประจักษ์ชัดคนหัดเขียน หมายพากเพียรยึดผังใช่พลั้งพล่อย มิอวดโอ่โวว่าข้าเลิศลอย รู้มากน้อยจำแนกแลกเปลี่ยนกัน อาศรมมีคมดาบ                    อันอิ่มอาบด้วยไออุ่น คำติงยิ่งขอบคุณ                    คือแนวใหม่ให้ติดตาม เปิดใจใช่คิดแคบ                    หลากบทแบบบุราณความ เสกสร้างอย่างงดงาม              ใช่หยัดเย้ยเอ่ยอวดดี เขียนโคลงโยงสู่กาพย์            พร้อมซึมซาบแทรกวิถี ทบถ้อยร้อยพันมี                    รู้เปรียบเทียบระเบียบวาง           สักวามานอกรอบ                    มิตรแต่งตอบล้วนแตกต่าง ผองเพื่อนเกลื่อนแนวทาง        มิหวาดกลัวมั่วปิดตน จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 ก.ค. 46 17:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สักวาว่าวอนไว้ในยาม ... เช้า ... สรรพสิ่ง ... แลราว ภาพฝัน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 12 ก.ค. 46 18:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สักวาประสาฉันมันแบบนี้ เขาว่าดีก็เอาด้วยช่วยกันใหญ่ เขาว่าชั่วก็มั่วบ้างช่างปะไร เขาเป็นใครก็เป็นเขาเงารอยเดิม ว่าแล้วก็ขอทักทายสหายต่อ ใครกันหนอ ไยไหม ใส่บทเริ่ม คอยแวะเขียนกลอนอักษรเติม ให้ยอดเพิ่มครบร้อยพลันวันนี้เอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 ก.ค. 46 18:06:11 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สักวา จังงัง นั่งไม่นิ่ง เจ้าลูกลิงทำอ้อนเดี๋ยวค้อนส่ง นิรนาม เร่เข้ามาอย่ามัวงง บางเรื่องปลงเสียบ้างสายกลางมี ฉันทลักษณ์แตกต่างทางคนชอบ จึงคำตอบมิถูกใจไปทุกที่ ค่อยผลัดเวียนเขียนเล่าพอเข้าที ใครว่าดีแวะมา วาวา เอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 ก.ค. 46 18:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ๏ อาศรม'โคลง-โคล่งโคล้ง                   โคลงโขลง ฉันท์,กาพย์,กลอน,ร่าย-โยง                  สลับบ้าง ใช่เล่นแต่เพียงโคลง                          เคียดพ่อ เปิดประตูอ้ากว้าง                        จึ่งซึ้งเสน่ห์ศิลป์ ๚ะ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 46 19:45:18 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 46 19:44:37 จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 12 ก.ค. 46 19:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แว๊ก ..ปู่ คำหยาดอยู่ที่ทำงานอ่ะ ค้นทั้งวันไม่เจอ ที่ให้คัดน่ะ ติดไว้ก่อนนะปู่ ... ยี้ๆๆๆ หวานใจของจังงัง ยิ้มหน่อยซี่ .. จากคุณ : จังงัง - [ 12 ก.ค. 46 20:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สักวาคราง่วงห่วงอาศรม เห็นบ่นขรมเอ็ดอึงตะบึงใส่ ขว้างค้อนขวับขอรับประทับใจ ศาลาไทยตั้งแง่..แม่แสนงอน เขียนเล่นเร้นเค้นความตามประสา เหมือนลิงบ้าเห็นพระจันทร์ดันเห่าหอน หมายจิตเพียรเจียรสักวาห้าหกตอน แต่จำจรด้วยกำหนดสองบทเอย แหม๊ ..เล่นง่ายจังเนอะ สองบทเนี่ย ...๕๕๕ จากคุณ : จังงัง - [ 12 ก.ค. 46 22:57:44 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ๏ มือโคลงมาคึกซ้อม                สักวา เริงรื่นชื่นอักขรา                       อะคร้าว มิตรเก่ามิตรใหม่มหา                มิตรภาพ คงครึกครื้นอีกก้าว                    ก่อแก้วกวีสยาม ๚ะ สวัสดีครับทุกท่าน ซำบายดีบ่ จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 12 ก.ค. 46 23:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ๏ มือโคลงมาคึกซ้อม                สักวา เริงรื่นชื่นอักขรา                       อะคร้าว มิตรเก่ามิตรใหม่มหา                มิตรภาพ คงครึกครื้นอีกก้าว                    ก่อแก้วกวีสยาม ๚ะ สวัสดีครับทุกท่าน ซำบายดีบ่ จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 12 ก.ค. 46 23:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เล่นด้วยจ้า... ^__^ สักวาสายน้ำรินไหลเอื่อย ไหลเนือยเนือยเฉื่อยล้าช้าสุดสาย สดับยินย้อยหยาดราดรองราย กลิ่นโชยชายไม้ป่าพารื่นรมย์ นกกระจิบจิ๊บดังฝั่งปลายป่า สลับปลาสะบัดหางอย่างสุขสม ค่อยค่อยย่างเหยียบพื้นยืนชื่นชม จางจ่อมจมลมหวิวใจปลิวเอย จากคุณ : ไกลถิ่น - [ วันอาสาฬหบูชา 10:15:20 A:67.162.190.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63                       <...ไฟ....ไฟ.....ไฟ.....>                 มนุษย์โลกร้อนเป็นไฟเต้นเร่าเร่า                 ความทุกข์เศร้าโศกอาลัยไม่เลือนหาย                 ในส่วนลึกใจอ้างว้างสุดเดียวดาย                 จวบจนตายก็ไม่สิ้นจิตดิ้นรน                 ไฟโลภะลามตะกละฉะไปทั่ว                  ดีหรือชั่วกลัวบ่พอข้าบ่สน                  อยู่เพื่อกินลิ้นยาวเฟื้อยเลื้อยม้วนวน                  เล่นเลห์กลลวดลายลอดกอดเงินตรา                  ไฟราคะเผาผลาญจิตใจร่านร้อน                  เปลวยอกย้อนโลมชอนไชใฝ่ฝันหา                  รูปหล่อสวยพิศวาสบาดอุรา                  ชักนำพาผิดเมียผัวมั่วเกมกาม                  ไฟโทสะลนดีดดิ้นบินพยศ                  ช้างเป็นมดใหญ่แค่ไหนใยต้องถาม                  ใครถูกเผาใจร้อนวูบทุกรูปนาม                  สุดท้ายงามในโลงใหม่ให้หลับนอน                  ไฟสุดท้ายร้อนลึกสุดนึกคิด                  หลงเห็นผิดเป็นถูกปลูกฝังสอน                  พุทธศาสน์เพียงปรัชญาบาลีกลอน                  หยิบใช้ตอนวางหมากกลคนศรัทธา                  เข้าพรรษาผ่านมาเยือนเตือนใจจิต                  ไฟชีวิตโคมชีวาพาหรรษา                  สุขเร่าร้อนเปลวไฟจรดเมฆนภา                  ภัยแฝงมาบ่เห็นตัวบ่กลัวเกรง                  ควรหันมามองดูไฟใจเราท่าน                  สร้างเกราะกั้นกำแพงวัดตัดข่มเหง                  ท้าพิสูจน์สวรรค์นรกด้วยตัวเอง                 เชิญบรรเลงแกะรอยธรรมตามลายแทง         จากคุณ : Indiana Jones jr. - [ วันอาสาฬหบูชา 12:51:35 A:203.209.15.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 .......ขุนโคลงครุ่นคิดค้น.....................คำคม ใครขุ่นเคืองคงข่ม...........................ขัดแข้ง ( ขา ) ขึงขังคลั่งขื่นขม..............................ความขาด ขบคิดโคลงคะแคว้ง*.......................คลุกเคล้าโคลงเขลา ฯ .......ขุนโคลงโยงผูกถ้อย.................สักวา ใช่หมดซึ่งปัญญา...........................คิดค้น ปราศเมฆเบื้องนภา.........................ใช่หมด-  วสันต์นา ความสื่ออาจมากพ้น........................เล่ห์นี้คงเฉลย ฯ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 46 19:16:36 จากคุณ : จังงัง - [ วันเข้าพรรษา 10:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สักวาพฤกษาคราบานเบ่ง ดูรีบเร่งคราที่สุรีย์ฉาย บ้างกลีบแย้มเย้ายวนล้วนมากมาย ได้ผ่อนคลายเคืองขุ่นว้าวุ่นทรวง หอมระรื่นชื่นชมยามดมดอก ต่างสีออกพรรณงามนำให้ห่วง ครั้นแมลงภู่หมู่ผึ้งซึ่งเคล้าควง เกรงจะร่วงโรยรา...นะเจ้าเอย  ฯ จากคุณ : จังงัง - [ วันเข้าพรรษา 10:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ....ศรีปราชญ์ปราศนิ้วขีด...........................โคลงขยาย หากแต่จิกบาทหมาย...............................มุ่งแย้ง ตรวนโซ่มัดตรึงกาย.................................เกินขยับ ยังบ่งความแจ่มแจ้ง................................จากเท้าจารสาส์น ฯ ....เพียงสื่่อเพื่อส่อเค้า...............................โคลงเปรย เห็นแผกแปลกดังเคย................................คลาดบ้าง เราต่างร่วมเจตนาเผย-..............................แผ่บท-  โคลงนา ไยข่มดุจมือง้าง......................................ดาบจ้วงจิตกวี ฯ จากคุณ : จังงัง - [ วันเข้าพรรษา 19:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เพิ่งข้ามาเห็นเล่นด้วยคน สักวาศาลาไทยชวนไขขาน มากรองกานท์สักวาให้ว้าหวาม จึงมาร่วมสักวาแม่ตางาม ร่วมเรียงร้อยถ้อยความตามครรลอง ด้วยเหินห่างร้างลาสักวาบท ให้รันทดเขียนได้ไม่แคล่วคล่อง ลีลากลอนอ่อนไปในทำนอง ขอพี่น้องช่วยเขียนให้ได้ดีเอย ขอบคุณครับ จากคุณ : นักอ่านชั้นอะ - [ วันเข้าพรรษา 21:24:21 A:158.108.2.2 X:158.108.8.51 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ๏ สักวา อาศรมโคลง มิหลงหลัก ลงทบทวนฉันทลักษณ์ กาพย์-กลอน-ฉันท์ ฝึก-คิด-เขียน เรียนโคลงมาหลายวัน ทำอย่างอื่นสักอันคลายคันมือ ต่างผ่อนคลายจากงานที่ปวดเศียร เฝ้าแวะเวียนมาฟังหนอนหนังสือ ถกแถลงเรื่องราวให้ฝึกปรือ ถูกผิดถือเอาสนุกคลายทุกข์เอย ๚ะ สวัสดีครับชาวอาศรมฯ ทุกท่าน อกนิษฐ์ ติดอยู่กลางทะเลหลายเพลา พึ่งมีเวลามาทักทาย เข้าพรรษาแล้ว ขอให้มีความสุขทุก ๆ ท่าน นะครับ จากคุณ : :::อกนิษฐ์::: - [ 15 ก.ค. 46 00:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 69 สักวาหน้าฝนที่นี่ร้อน อยากพักผ่อนหนีแดดไปแรดหลาย (กลอนพาไปค่ะ) แต่การงานสุมอยู่มิรู้วาย คงได้ตายงานทับรับไม่ทัน เมื่อสำเร็จเสร็จงานตามกำหนด จึงกระดกแก้วใสในความฝัน ตื่นขึ้นมาถีบจักรรีบปั่นพลัน เป็นแค่หนูตัวนั่นทุกวันเอย (ไม่ได้เขียนกลอนนาน ยังฝืด ๆ เช่นนี้ โคลงไม่ต้องไปพูดถึงเลย จะโดนไล่ออกจากสำนักไหมเนี่ย) จากคุณ : รสา รสา - [ 15 ก.ค. 46 00:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ....เค...โระโอ้กบน้อย....................ตัวเขียว ดีด...โดดกลางบึงเหลียว.................เหยื่อใกล้ ดี...ใจมากจริงเชียว........................ดำผุด ธารเฮย ติด...หนึบกลางใบไม้......................หลบเร้นพลางตา ฯ ....ตัว...นิดบึงใหญ่กว้าง...................มโหฬาร ไป...เถิดมุ่งโจนทะยาน....................โลกกว้าง จน...กว่าจักถักสาน.........................ฝันใหญ่ เสร็จนา ตาย...ดับโดยอ้างว้าง.......................แต่พร้อมเพลินฝัน ฯ จ๊ะเอ๋ นายอกไข่ดาว ... นึกว่าออกอ่าวตังเกี๋ยไปซะแล้ว .. แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 46 00:22:42 จากคุณ : จังงัง - [ 15 ก.ค. 46 00:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 71 +++ ขุนโคลงขาดหมีกแต้ม       เติมฝัน +++ ๏ ขุนโคลงขาดหมึกแต้ม.....เติมฝัน ขอดจิตคิดประพันธ์...........ประภาพสิ้น สร่างรสแต่งบทบรรณ........เบาเสื่อม ถึงสุดหยุดดื้อดิ้น..............ดับร้างวางศิลป์ ฯ ๏ พลโคลงฤๅเก่งกล้า........เกินขุน เสียทัพยับเซซุน..............ซ่อนเร้น ซอกไหนส่งเสริมจุน-........เจือวิท-......ยานา ขุดหมึกฝึกมือเค้น............คิดแต้มแต่งฝัน ๚ะ๛ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๖ =============================================== เก็บกระทู้ไปอ่าน off line จึงเห็นสมาชิกใหม่ คุณสังคโลก (#30,45,46) ชอบบาทขึ้นต้นโคลงมากครับ..... "ขุนโคลงขาดหมึกแต้ม         เติมฝัน" จึงขอต้อนรับ และขอเอาบาทนี้มาเล่นด้วย ขอบคุณมากครับที่ข่วยเติมหมึก วฤก ...เป็นเพียงเบี้ย เอ๊ย ไพร่พลโคลง ขาดหมึกมานานแล้ว ได้เติมหมึกอย่างนี้ ... ดีจริง ๆ อย่าห่างหายไปไหนนะครับ มาช่วยกันสรรค์สร้างอาศรมฯ กันเถอะ จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 15 ก.ค. 46 07:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 72 +++ กาฝาก +++ -๑- ๏ กาฝากแฝงกิ่งไม้...........หลบร่มในใบกาหลง หอมกลบตลบดง..............ลงเลปน์แต้มแต่งกลิ่นไพร ฯ ๏ กาฝากแฝงเกาะก้าน.......กาหลง ฉมกลิ่นโฉมบุษบง............เบ่งแย้ม หอมกลบตลบดง..............ดอมกลิ่น การย์ฝากกาฝากแต้ม........แต่งสร้างไพสัณฑ์ ฯ -๒- ๏ พิศพรรณเถาวัลย์เวี่ย.....นมตำเลียเรี่ยโรยเถา ดอกเด่นเห็นพริ้งเพรา.......เกลากรองสร้อยร้อยผกา ฯ ๏ นมตำเลียไต่เลื้อย........ลอดเถา ทอดหลบแฝงคบเงา.........ง่ามไม้ เผยดอกเด่นพริ้งเพรา.......พาดกิ่ง เพียงสอดสวมสร้อยไว้.....หว่างก้านกาหลง ฯ -๓- ๏ เรียมฝากใจฝากไว้.......หวังชิดใกล้ใฝ่ถนอม ชมแก้มกลิ่นชวนดอม......หอมสนิทนาสิกเชย ฯ ๏ เรียมฝากใจฝากไว้.......วานถนอม หวังชิดสนิทชอม............ชื่นน้อง ชมแก้มกลิ่นชวนดอม.....ดมกลิ่น หอมติดนาสิกคล้อง........ค่ำเช้าเชยสม ฯ -๔- ๏ กาหลงหลงกลิ่นชู้.......กาฝากคู่ชูไฉน เรียมหลงยิ่งหลงใจ........ใคร่แนบชู้อยู่นิรันดร์ ฯ ๏ กาหลงหลงกลิ่นชู้.......ชูใจ กาฝากฝากคู่ใคร...........ใคร่ชี้ เรียมหลงยิ่งหลงใหล......หลงกว่า อยากอยู่คู่ชู้นี้...............แนบน้องนิรันดร์ ๚ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๖ ================================= กลับบ้านศรีสะเกษ พบนมตำเลียบานหลงฤดูอยู่ ๑ ดอก เลยเก็บภาพมาฝากครับ น้องหนู ศ. กลับถึงกทม. แล้วหรือ ผ่านขอนแก่นคราวหน้า ... ถ้าไม่แวะมาให้เลี้ยง ล่ะก็ .. ฮึ่ม จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 15 ก.ค. 46 08:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ...พลโคลงโยงเรื่องเย้า.............สักวา ขุนเคียดขุ่นเคืองครา................ขบถ้อย ฤๅลายกลบพยัคฆา...................แมวข่วน พรางนา เพียงป่วนอาศรมน้อย...............สั่นสะท้านโยกไหว ฯ อาหมอ ดอกไม้สวยจัง ..นมตำเลีย จากคุณ : จังงัง - [ 15 ก.ค. 46 09:11:40 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สวัสดีพี่น้อง                     ผองโคลง ขอร่วมเดินเคลงโคลง        คลุกข้าง รักษ์โคลงเพราะรักโคลง    เกินกล่าว หากจักสักวาบ้าง              กาพย์บ้างพร้อมตาม ฯ สักวาเคยผ่านลานอาศรมฯ กวีบทรสนิยมภิรมย์ศิลป์ ศิลปะฉะฉานงานกวิน ลือระบิลถิ่นถนนฯคนกันเอง ชุมนุมปราชญ์วาดฝันวันงานหนัก แวะมาพักผ่อนคลายหายโหวงเหวง อ่านและเขียนเวียนขานบรรสานเพลง คุยโขมงโฉงเฉงเครงครื้นเอย ฯ สวัสดีครับ จากคุณ : ขอ...ด้วยคน (seer) - [ 15 ก.ค. 46 21:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ยินดีที่ได้รู้จักฮับ ... คุณเซียร์.. แบบว่าหวานใจเปิดกระทู้ แต่ทว่าไปซักผ้า ยังไม่กลับมาเฝ้ากระทู้เลย ปล่อยลิงเพ่นพ่าน (ลิงในที่นี้ คือ ลูกลิงจังงังอ่ะ ไม่ใช่ที่หนีบไว้กับราวตากผ้านะ ..) แวะมาบ่อยๆนะ อยู่เฝ้ากระทู้เนี่ย ผีจะบีบคอตายแย้วววว.. จากคุณ : จังงัง - [ 15 ก.ค. 46 23:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ๏ ขุนโคเขาฆ่าเนื้อ            เอาขาย ขุนหมากอริหมาย              ฆาตจ้อง ขุนโคลงก็คงวาย               วอดหมด แล้วพ่อ เหลือเหล่าเบี้ยเพื่อนพ้อง      พี่น้องอาศรม ๚ะ ๏ ขิงแก่รสเผ็ดเพี้ยง            เพลิงลาม เติมพริกขี้หนูตาม               ยิ่งร้อน ลายโคลงบ่งลายคราม         ดังชื่อ คำขบคารมข้อน                 อ่านคล้อยครางฮือ ๚ะ ๏ ประดาบฤๅเปรียบคล้าย     ประคำ ประดิยุทธด้วยลำนำ             ยั่วแย้ง ดังมหรสพสำ-                    ราญเหล่า มิตรนา เบาะเบาะใช่เบาะแว้ง            วากย์ไว้ในวรรณ ๚ะ๛ จากคุณ : โมโน - [ 16 ก.ค. 46 01:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 77 สักวาชลเนตรล้น......หลั่นริน ไหลเอ่อท่วมธานินทร์....จรดฟ้า เจ็บนักเมื่อยุพิน.......ตีจาก มันอ่อนแรงอ่อนล้า.....หมดสิ้นโรยแรง แหะ ๆๆๆ ช่วงนี้มะมีเวลาเลย แง้ว แง้ว งานตรึม มาและเวียนเท่านั้นนะครับ แห ะๆๆ กลัวลืมกัน จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 16 ก.ค. 46 12:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สักวาชลเนตรล้น......หลั่นริน ไหลเอ่อท่วมธานินทร์....จรดฟ้า เจ็บนักเมื่อยุพิน.......ตีจาก มันอ่อนแรงอ่อนล้า.....หมดสิ้นโรยแรง แหะ ๆๆๆ ช่วงนี้มะมีเวลาเลย แง้ว แง้ว งานตรึม มาแวะเวียนเท่านั้นนะครับ แห ะๆๆ กลัวลืมกัน จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 16 ก.ค. 46 12:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สักวาศาลาไทยไปอีสาน                       แสนสำราญไหว้พระดีที่ลือเลื่อง เขาเล่าว่าจึงชวนเพื่อนเยือนต่างเมือง          อยากคุยเฟื่องแต่ยังเหนื่อยเมื่อยขาจัง อุตสาห์นัด หมอวฤก เพราะนึกถึง             พี่หมออึ้ง...บอกเลี้ยงเหล้าเราก็หวัง แต่สุดท้าย...ม่ายด้ายเจอ เฮ้อ! ร้องดัง        ไว้คราวหลัง เอ้ยคราวหน้าไม่ช้าเอย ศาลาไทยทิ้งกระทู้หนีเที่ยวอีสาน  เพิ่งกลับมาเมื่อคืนวานค่ะ เขาว่ากันว่า ... แถบอีสานมีเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่านนัก เลยถือโอกาส ช่วงแห่เทียนเทศกาลเข้าพรรษาท่องอีสานกับเพื่อน เดี่ยวจะค่อยๆ ตอบเพื่อนๆในกระทู้ตามแต่โอกาสจะอำนวยนะคะ ฝากถึงพี่หมอวฤก ว่า ... ขอบคุณมากๆ ค่ะ  อุตส่าห์โทรไปนัดไว้แล้ว  แต่พอดีถึงขอนแก่นก็มืดแล้ว ประกอบกับพี่หมอติดงานพอดี  เลยอดเจอกัน  ไว้คราวหน้าไม่พลาดแน่ค่ะ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 16 ก.ค. 46 12:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 80 นัวเนียร์แสนซนนี่ครายกันหว่า    ครายจำได้บ้างอ่ะ  5555555555555555  มะมีใครลืมหรอกเดียร์มะต้องห่วง....แต่โดนใครหักอกมาป่าวถึงได้แต่งกลอนได้เศร้าขนาดนั้น  .....สาวคนไหนน่ะยุพินของตาเดียร์  อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ยัยไหม (กรวี) - [ 16 ก.ค. 46 23:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 81 สักวา สังคโลก ฤๅโศกเศร้า                       มิยอมเข้าต่อกลอนเหมือนตอนต้น วาน วิญญาณอสัญญา ช่วยหาคน                มาช่วยด้นสักวาอย่าร้างนาน เพลงบทโศกจาก วฤก ยิ่งนึกถึง                    จิตซับซึ้งบทโคลงโยงผสาน พิราบเงิน ค้น "อาเพศ" เหตุก่อนการ             แต่คำขานยังข้องใจไม่แจ้งเอย สักวา จังงัง เริ่มนั่งพัก                        งานคงหนักเฝ้ากระทู้อยู่เช้าค่ำ ศาลาไทยแสนยินดีมีคนทำ                   ช่วยน้อมนำอยู่โยงจรรโลงกลอน เห็น แมวเหมียวพุงป่อง มาท่องเล่น          คงยามเย็นจึงเขียนน้อยสร้อยอักษร เพียงหนึ่งบาทสองวรรคทักทายตอน          หรือหลบร้อนจากไหนมาแล้วลาเอย สักวา จอมยุทธฯ ฉุดไม่อยู่               ช่วยน้องหนูเขียนโคลงชั่วโมงเร่ง เหล้ากี่จอกบอกมาอย่าคิดเกรง           พี่นักเลงร่ำสุราเคยท้าชน อกนิษฐ์ คิดถึงจึงเพียรต่อ                 บ่ายดีบ่ ตอบความยามสับสน สบายตัวแต่กลัวใจให้วกวน               ยังพร่ำบ่นสักวาเจ้าข้าเอย สักวา ไกลถิ่น คงบินเหนื่อย                      หากแม้นเมื่อยเชิญมา ณ อาศรม ฉันทลักษณ์สลักร้อยถ้อยคารม                  ช่วยติชมตามเห็นควรชวนเพื่อนเรา Indiana Jones jr. ว่ากลอนสด         ทุกบาทบทเตือนไว้ไฟจักเผา แม้นละเลิกดับไฟให้ผ่อนเพลา                    เริ่มต้นเอาจากตรงนี้ที่ใจเอย สักวาใครมาด้วยช่วยประสาน                    เชิญ นักอ่านชั้นอะ อย่าละหาย พี่รสา บอกถีบจักเร่งทักทาย                     ช่างละม้ายเหมือนเรางานเร้ารุม แม้ขุนโคลงขาดหมึกแต้มมาแต่งฝัน               วฤก นั้นทุกคำวางช่างสุขุม ช่างร้อยรัดรึงใจให้เกี่ยวกุม                        แสนฉ่ำชุ่มในหัวอกยกพี่เอย สักวามาด้วยคนใช่จนแต้ม                 ช่วยแทรกแซมโคลงกลอนอักษรเสริม เชิญคุณ seer แต่งวางต่างใจเติม        ยิ่งจักเพิ่มน้ำมิตรสนิทนาน โคลง โมโน เข้มคมสมชื่อชั้น                ยังฝากฝันเร้าแรงเช่นแสงฉาน พร้อม นัวเนียร์แสนซน คนล้างาน         เห็นคำผ่านของ ไยไหม ให้งงเอย จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 17 ก.ค. 46 12:39:02 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สักวาฉันรักสระอวย แต่มิใช่คำส่วยกระหึ่มแฉ จากโรงนวดถึงโรงพักอื้อฉาวแท้ ท่าจะแย่ครานี้กากีกรม สาวโรงนวดติดดาวพราวเล่ห์รัก หนุ่มโรงพักติดดาวบนบ่าข่ม อันตัวฉันติดดาวจึงชื่นชม ดวงดาราพร่างพรมบนฟ้าเอย . . . . . จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 17 ก.ค. 46 16:15:45 ]

ความคิดเห็นที่ 83  คลังโคลงฤาเหือดแห้ง.....หมึกฝัน กาพย์ก่องยังผ่องพรรณ.....พร่างแพร้ว อาศรม ฤ อาเพศ  ............แปรเปลี่ยน เพียงเล่นสักวาแก้ว...........ชั่วครั้งชั่วคราฯ นาน ๆ แว่บมาทีค่ะ ขอเพิ่มเติมสักวาเข้าพรรษาอีกสักบท คงมิช้าเกินการ สักวาหน้าวสันต์เข้าพรรษา หมู่เมฆาคล้อยต่ำแล้วพรำฝน เราชาวพุทธทั่วหน้าสาธุชน เร่งฝึกตนปฏิบัติด้วยศรัทธา ลด ละ เลิก สิ่งชั่วที่มัวติด ชำระจิต ตนให้ผ่องใสหนา ประพฤติแต่ดีใดในมรรคา น้อมบูชาธรรมะ พุทธะเอย จากคุณ : แม่ไก่ - [ 17 ก.ค. 46 17:05:18 A:203.113.51.103 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 สักวา สระอวย มาช่วยเล่น เขาว่า ”น้ำ” มันเย็น กระเซ็นใส่ กินตามน้ำ กินน้ำ ให้คร้ามใจ น้ำบ่อใกล้ ใส่กา มาให้ชิม อันว่าน้ำ ตามเนื้อ อาบเหงื่อไหล รีดจากเนื้อ ขุ่น-ใส หนอใครลิ้ม กากีบ่น คนบ้า กากีริม สระอวย ส่วยจิ้ม ชิมส่วยเอย สวัสดีครับ เห็น คุณนิรนาม ณ ถนน เล่นสักรวา สระอวย ก็เลยมาขอเล่นด้วยครับ จากคุณ : ผู้งมงายในรัก - [ 17 ก.ค. 46 18:50:33 A:203.154.97.197 X:10.13.1.30 ]

ความคิดเห็นที่ 85 Oops! ขออนุญาตแก้ไขโคลงในความเห็นที่ 83 ค่ะ (นี่คือโทษของการทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อม ๆกัน) คลังโคลงฤาเหือดแห้ง.....หมึกฝัน กาพย์ก่องยังผ่องพรรณ.....พร่างแพร้ว อาศรม ฤ แปรผัน  ...........อาเพศ เพียงเล่นสักวาแก้ว...........ชั่วครั้งชั่วคราฯ ขอคารวะค่ะ จากคุณ : แม่ไก่ - [ 17 ก.ค. 46 19:21:16 A:202.129.35.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 สักวาทำไฉนนอนไม่หลับ กระส่ายกระสับพลิกตัวอยู่ไหวไหว เหตการณ์อื่นปกติดีมีเงินใช้ มีงานให้ทำทุกวันไม่ขาดตอน อาจเป็นเพราะคนใกล้ใจลึกลับ เห็นข้อความส่งกลับไปมาสลอน(sms) อยากตัดใจตัดขาดปาด(ฮึ่ม) ..นิวรณ์(หรอกนะ) เมื่อถ่ายถอนหายหงุดหงิดนิทราเอย ขอบ่นบรรเทาอาการหงุดหงิด ไม่ว่ากันน้า จากคุณ : บังอร-บังเอิญ - [ 18 ก.ค. 46 00:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ถึงน้องศาลาไทย พี่ยัยไหมแถลงการณ์ . อย่างงเลยศาลาไทยจะไขบอก ใช่ย้อนยอกบอกให้น้องใจหาย แต่จะบอกให้น้องได้ใจคลาย ความงงหายได้ยิ้มกริ่มออกมา ด้วยวันก่อนเจ้าเสือ(นัวเนียร์ฯ)เจอเจ้าลิง(จังงัง) เจ้าเสือสิงถามเจ้าลิงจำได้ไหม เจ้าลิงบอกจำไม่ได้เลยขัดใจ แล้วแต่งกลอนอกหักไว้ให้ได้ชม ว่ายุพินตีจากแล้วพรากหาย จำไม่ได้พี่ยาพาให้ขม น้ำตารินหลั่งไหลพาให้ตรม ในทรวงขมตรมใจให้ได้อาย พี่ได้รู้หัวเราะดังก๊ากใหญ่ ทำได้ไงอย่างนี้เหล่าพี่หญิง เจ้านัวเนียร์จะเสียใจไม่ประวิง โอ้พี่หญิงทำได้ไงใจร้ายจัง อยากจะบอกนัวเนียร์ว่าน้องนี้ อยากช่วยซับน้ำตาคนดีจะได้ไหม ถึงสาวสวยจำไม่ได้ไม่เป็นไร แต่สาวไม่สวยคนไกลจำได้ดี ใจ  เย็น เย็น เถิดพี่ ดี ดี ไว้ ใช่เขาจำไม่ได้อย่างที่หวัง(อ้าว .ไรว่ะ) เขาแค่ล้อพี่เล่นใช่จริงจัง อย่าพินพังไปเลยใจอย่าได้ตรม จากคุณ : ยัยไหม (กรวี) - [ 18 ก.ค. 46 13:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เอ๊ย ...เกี่ยวไรกับลูกลิงอ่ะ นายจันทรคราส เนี่ยนะ ... วู้ ..แบบนี้เรียกว่า เอาลูกลิงมาเป็นกันชน  นี่หว่า .. ยัยไหมขี้มูกโป่ง .. จากคุณ : จังงัง - [ 18 ก.ค. 46 20:59:01 ]

ความคิดเห็นที่ 89 จังงัง ช่วงนี้เค้าเข้าเอ็มเอสเอ็นมะได้เลยมะรู้เป็นไรดิ  เลยอดคุยกับลูกลิงเลย  หากคิดถึงเค้าก้อทำจายหน่อย   เดี๋ยววันดีคืนดีคงได้ไปป่วนเจ้าลูกลิงอีก... ปล.  เค้ามะได้ขี้มูกโป่งนะเฟ้ย  เพราะเช็ดเรียบร้อยแล้ว  อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 46 23:10:27 จากคุณ : ยัยไหม (กรวี) - [ 18 ก.ค. 46 23:04:06 ]

ความคิดเห็นที่ 90 สักวาสระอวยอำนวยหน่อย ให้พบรัก หมวย น้อยที่คอยหนอ อรชรเฉิดฉันพรรณละออ อึ๋มมิอึ๋มก็มิขอตั้งข้อติง ตามตำราหน้าไข่ไม่กินเส้น ควรจะเป็นหน้ากลมแบบหนมผิง ทุกเนินเนื้อหน้าแก้มชวนแอบอิง จะเปลือยวิ่งกลางถนนแก้บนเอย . . . . . คุณ ผู้งมงายในรัก มาเล่นสระอวยด้วย นิรนามเลยแต่งต่ออีกบท บทนี้ สระอวย พาไปอีกแล้วเด้อ . . . . . จากคุณ : นิรนาม ณ ถนนฯ - [ 19 ก.ค. 46 15:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 91 สักวา สระอวย สวยไม้เอก แล้วก็เสก ไม้เอกใส่ ให้กับหวย หนอไม้เอก เป๊กให้ ใส่ที่ปวย คนเลยชวย ไม้เอกใส่ ไม่ได้การ ก็พี่เล่น ขายมวย ใส่ไม้เอก โขยกเขยก เสกไม้โท ให้ที่หลาน กากีกิน กากี สีสำราญ กากีบาน สวยไม้เอก เรียงเลขเอย สวัสดีครับ กลับมาเล่นสระอวย กับคุณนิรนาม ณ ถนน อีกครั้งครับ จากคุณ : ผู้งมงายในรัก - [ 21 ก.ค. 46 19:41:38 A:203.154.97.197 X:129.0.1.70 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ของท่านอานิรนาม มี คำว่า หมวย เป็นสระอวยอันเดียว เองนี่นา ... ไม่ค่อยเข้าใจเลย แต่ของ ผู้งมงายในรัก..พอจะเข้าใจนะ .. เอ๋ เล่นแบบนี้ เป็นงง จากคุณ : จังงัง - [ 21 ก.ค. 46 21:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ......สักวามาดึกนึกฉงน แสนกังวลจนใจคล้ายเพลิงผลาญ เหยียบคันเร่งเข้าเกียร์เสียลนลาน ยามแล่นผ่านด่านตรวจตำรวจมอง ......เมาไม่ขับหลับไม่ตื่นไม่ขืนดอก อยากจะบอกโปลิศให้จิตผ่อง เคารพกฏคนรถเก่าเราช่ำชอง แต่ขอร้องหลีกหน่อยคนคอย...เอย...ฯ แหะ แหะ ที่มาช้า เพราะว่าต้องถ่อรถไม้มาน่ะ ...ป๊าดธ่อ .. จากคุณ : จังงัง - [ 21 ก.ค. 46 22:51:47 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ...สักวาสระอวย...น่าขวยเขิน แหมฟังเพลินเกริ่นด้วยคำสวยเสียง เลี่ยงคำศัพท์รับคำส่งตรงสำเนียง เดินคอเอียงเยี่ยงแนบมาแอบฟัง ...เกล้าผมมวยสวยไหมใช่น้องหมวย ผมสลวยนวยนาดอาจเหลียวหลัง แสนงงงวยสระอวยฮ่วยยากหยั่ง เจ้าจังงังนั่งป่วยหวยกินเอย ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 21 ก.ค. 46 23:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ...สักวาอาศรม ฯ รื่นรมย์แท้ ชายตาแลหลังคาท้าแดดฝน อีกฝาเฟี้ยมเอี่ยมอ่องผ่องกมล งดงามจนเหลือใจให้พักพิง ...เป็นสถานกาพย์กานท์ฉันท์โคลงร่าย มิตรสหายเสวนาเฮฮายิ่ง ทั้งด้นคำย้ำโคลงบ่งความจริง อีกอ้างอิงแบบท่านโบราณเอย ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 22 ก.ค. 46 00:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ...สักว่าชาวโคลงคงนั่งหลับ ลิงขยับฤๅขยาดอาจทำเฉย มาหยอกเย้าท่วงถ้อยร้อยความเปรย อย่าละเลยเอ่ยมาหาไมตรี ...เป็นนักกลอนนอนเปล่าก็หนาวจิต เป็นบัณฑิตนั่งหง่าวเศร้าจริงนี่ เป็นขุนโคลงลืมคำย้ำพาที เป็นกวี...ไร้กลอนอาวรณ์เอย ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 22 ก.ค. 46 00:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ....สักวาค้าขายใช้เกวียนลาก ข้าวของมากหนักหนาคราขนเข็น ใช้โคเทียมเกวียนทาบขนาบเป็น ผู้ลำเค็ญคือโค...โธ่เวรกรรม ....กำไรมีเงินมาพ่อค้าสุข แต่ความทุกข์ท่วมทบพฤษภต่ำ- ต้อยจริงหนอเคราะห์มากวิบากนำ ดุจผลกรรมตามติดผู้ผิดเอย  ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 22 ก.ค. 46 00:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ...สักวาหอมหวลมวลดอกไม้ รื่นรมย์ใจคลายทุกข์สุขนักหนา ดอกขาวล้วนผ่องผุดพุชพิชญา ช่างงามตาครามองต้องฤทัย ...เอื้อมมือเด็ดเกรงดอกจะชอกช้ำ ภู่ผึ้งย้ำแอบยลจนหลงใหล กลีบดอกแยกห้าแฉกแปลกเหลือใจ พริ้มพิไลหมายปองต้องใจเอย ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 22 ก.ค. 46 01:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ...สักวาลาก่อนค่อนคืนแล้ว คงคลาดแคล้วขอเคลื่อนเขยื้อนหาย แล้วนอนราบหลับใหลให้ใจคลาย ลืมวุ่นวายสับสนอลเวง ...ครั้นวันพรุ่งมุ่งงานการใหญ่น้อย. มิท้อถอยยามใครหมายข่มเหง เปล่งท่วงคำย้ำถ้อยคล้อยตามเพลง แล้วขอเค้งเด้งกายไปนอนเอย ฯ จากคุณ : จังงัง - [ 22 ก.ค. 46 01:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สักวาขอแสดงคคหที่หนึ่งร้อย ปวงชนคอยชมแถลงการเปิดโปงส่วย ใครเอี่ยวด้วย,ไม่เอี่ยว?แต่พลอยซวย เดี๋ยวก็สวยตำรวจรวยโดนสอบสอน เคยอ่านพบ"คนไหนคนไทย" "ถ้าโกงบรรลัยล่ะคนไทยแน่นอน" ยิ่งอ่านยิ่งคิดยิ่งยอกย้อน ความซับซ้อนวุ่นวาย..นิยายเอย จากคุณ : บังอร - [ 22 ก.ค. 46 07:26:17 A:202.183.228.67 X:203.170.132.127 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สักวาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ คนคลาคล่ำโคลงกลอนเต็มฟ่อนฝา กระบวนถ้อยร้อยเรียงเสียงนานา กระบวนท่าสารพัดสะบัดคำ สังคมไทยไม่สิ้นจินตพจน์ อรรถรสสดซ่าน่าดื่มด่ำ ล้วนหลากหลายอารมณ์คมลำนำ จารจดจำย้ำนิยมอาศรมเอย จากคุณ : Daosaddha - [ 22 ก.ค. 46 17:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ๏  สักวาขาประจำร่ำลาจาก เคยถางถากทบถ้อยมาร่อยหรอ ปล่อยพี่ทุยเขาทู่มาชูคอ ฟังเสียงซอเสียดสีย่ำยีใจ นิรนาม โมโน ยังโผล่ผลุบ ศอ.ศาลา บ่นอุบ ถูกควายไล่ จะควายดำควายด่างถึงอย่างไร ก็คงไถนาเป็น เช่นกันเอย   ๚ะ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 23 ก.ค. 46 10:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ช่วงนี้วุ่นจริงๆค่ะ ต้องขอโทษชาวอาศรมฯ ด้วยที่หลังไม่ค่อยได้เข้ามาทักทายเลย แอบแวบเข้ามาเห็นใครไม่แว้บๆ ยังกะได้กลิ่นธูปหรือกลิ่นโคลนสาบควายก็ไม่รุ ! สักวาแสนดีใจใครมาโน่น                    อยากกระโจนไปกอดพรอดคำหวาน ติดอยู่ที่เรื่องล้นจนด้วยงาน                  ต้องจัดการเช้าเย็นเข็ญใจจริง งอน คัมภีร์โบราณ ฐานทิ้งขว้าง            ปล่อยคนคว้างชอกช้ำน้ำใจหญิง เถิดแวะแล้วนั่งก่อนตอนพักพิง              อย่าหยุดนิ่งรีบกู้กระทู้เอย เดี๋ยวเย็นๆมาใหม่ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 23 ก.ค. 46 12:55:31 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ๏  สักวาคนจรจะนอนไหน นี่อาศรมจะพักใจได้ไหมหนอ เห็นศาลาเย็นใจใครจะรอ เป็นต้องขอพักกายแลใจตน ด้วยหน้าที่มีนับภารกิจ ไปทุกทิศถิ่นแคว้นแสนขัดสน เพื่อรักษาถิ่นไทยไร้กังวล หวังเพียงชนชาวไทยสดใสเอย  ๚ะ จากคุณ : อกนิษฐ์ (:::อกนิษฐ์:::) - [ 24 ก.ค. 46 01:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอเชิญลูกเขียนถึงแม่ ที่อาศรมชาวโคลง ภาค ๖๙ "กราบแก้วกรองคำ"   ตามนี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2382160/W2382160.html จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 24 ก.ค. 46 02:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 106 กว่าเล่าเรียนจนจบพบทำงาน ครูอาจารย์อบรมบ่มนิสัย ถ้าจะคิดวิดไหว้บอกอาลัย จงทำไปนั่นแหละดีมีมากเอย จากคุณ : คุณสวัส - [ 1 ก.ย. 46 20:40:11 A:202.133.160.235 X: ]