กาลครั้งหนี่งยังมีนกกระจาบตัวผู้สองตัว อาศัยอยู่ในกรงทองของมหาเศรษฐี มหาเศรษฐีรักนกทั้งสองตัวนี้มาก จึงสั่งให้คนรับใช้หาอาหารดี ๆ มาเลี้ยงดูไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
หลายปีต่อมา นกกระจาบตัวหนึ่งก็เซื่องซึมลง มหาเศรษฐีจึงหาตัวตัวเมียมาให้เป็นคู่ แต่เจ้านกกระจาบตัวนั้นก็ยังไม่หายเซื่องซึมเหงาหงอย นกกระจาบอีกตัวหนึ่งพอเห็นเพื่อนซึมอย่างนั้นก็เลยทักว่า
เฮ้ย! พวก จะซึมไปถึงไหนวะ ได้คู่แล้วยังไม่พอใจรีไง
ข้าไม่ได้ซึมเพราะไม่มีเมีย เจ้านายเขาเข้าใจผิดไปเองต่างหาก อย่างนี้เขาเรียกว่าให้ยาไม่ถูกกับโรค แล้วข้าจะไปหายซึมได้ยังไง
แล้วเอ็งซึมเพราะอะไรล่ะ?
ข้าเบื่อชีวิตในกรงทองว่ะ
อะไรกัน อยู่ในกรงนี้ก็ดีอยู่แล้ว มีอาหารอร่อย ๆ กินทุกมื้อ น้ำท่าก็อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องไปดิ้นรนหาอะไรกินเอง ไม่ต้องไปเผชิญกับแดด ฝน อีแร้ง นกอินทรี แล้วก็อะไรต่อมิอะไรอีกสารพัด เจ้านายก็แขวนกรงไว้ในห้องแอร์เย็นฉ่ำตลอดเวลา สบายอย่างนี้จะไปหาอีกที่ไหน ได้แค่นี้ก็น่าจะพอใจแล้ว จะเบื่ออะไรนักหนา
เอ็งไม่เข้าใจหรอก ข้าเพียงแต่อยากได้อิสรภาพ อยากใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี ไม่ต้องให้ใครมากำหนดชีวิต ขีดเส้นทางให้ข้าเดิน ข้าอยากไปดูอาทิตย์ลับขอบฟ้าว่ะ เขาว่ามันสวยมาก ข้าอยากหนีออกไปจากที่นี่ว่ะ
ถ้าเอ็งหนีออกไป เอ็งจะเสียใจ เอ็งรู้ไหมว่าชีวิตในโลกภายนอกน่ะมีแต่อันตราย ความรู้สึกของเอ็งคงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว เชื่อข้าเถอะ อยู่อย่างนี้แหละ สบายดีอยู่แล้ว
แต่ข้าตัดสินใจแล้ว ขืนอยู่ในนี้ต่อไปข้าจะต้องบ้าตายแน่ ใจข้ามันร้องเรียกหาอิสรภาพอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นข้าจะหนีออกจากที่นี่ทันทีที่มีโอกาส
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อคนรับใช้มหาเศรษฐีเปิดกรงเพื่อวางถาดอาหารอย่างที่เคยทำอยู่ทุกวัน เจ้านกกระจาบผู้รักอิสรภาพก็บินออกจากกรงทันที ขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วก็ลับหายไปในอากาศ
หลายเดือนต่อมา มันก็บินกลับมาเยี่ยมเพื่อนในกรง
ว่าไง หายไปตั้งนาน สบายดีหรือเปล่าวะ รสชาดของอิสรภาพมันหอมหวานอย่างที่เอ็งคิดหรือเปล่า
มันก็เป็นรสน้ำผึ้งผสมมะนาวเหมือนฮอลล์ แต่มันก็ทำให้ข้าตื่นเต้นกระชุ่มกระชวย พูดง่าย ๆ ว่าถึงจะลำบาก ข้าก็มีความสุขว่ะ
จริงหรือวะ ไม่น่าเชื่อ ชีวิตข้างนอกน่ะลำบากจะตาย
แต่ความสุขของข้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสบายเป็นหลักหรอกนะ ความสุขของข้าคือการที่ได้เลือกเส้นทางชีวิตที่ตัวเองต้องการต่างหากล่ะ อิสรภาพต่างหากล่ะที่ข้าต้องการ ตอนที่ข้าบินออกไปจากกรง ข้าก็กลัว ตอนนี้ก็ยังกลัว แต่ก็ต้องเอาชนะความกลัวเพื่อให้ได้อิสรภาพที่ต้องการ พอออกไปสู่โลกกว้างแล้ว ก็ต้องเผชิญแดด ฝน ลมแรง ศัตรู แต่สิ่งเหล่านั้นก็ช่วยให้ข้าดึงศักยภาพของตนเองมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ฟ้าทั้งผืน โลกทั้งใบคือบ้านของข้า ข้าเป็นคนกำหนดเองว่าวันนี้จะทำอะไร พรุ่งนี้จะไปไหน และในอีกหลายปีข้างหน้าจะไปอยู่ที่ใด ชีวิตเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ ไม่ใช่มีแต่ความเป็นไปเหมือนตอนที่อยู่ในกรง จะทำอะไรให้เกิดขี้นก็ได้ตามความนึกฝัน แต่ชีวิตในกรงนั้นซ้ำซาก มีแต่สิ่งเดิมเกิดขึ้นทุกวัน อยู่ในกรงแล้วรู้สึกเหมือนตุ๊กตาหรือหุ่นยนต์ มีแต่จะเก่าและเศร้าหมองลงไปทุกวัน พูดอย่างนี้เข้าใจรึเปล่า
ไม่เห็นเข้าใจเลย ยังไง ๆ ข้าก็ว่าอยู่ในกรงสบายกว่าไปไหน ๆ
อืม งั้นพูดสั้น ๆ ว่า นกอินทรีหากถูกขังอยู่ในกรงก็กลายเป็นนกกระจาบ แต่นกกระจาบที่บินออกสู่อิสรภาพ แล้วต่อสู้ขวนขวายด้วยตนเอง ก็กลายเป็นนกอินทรีได้ ถ้าเอ็งปล่อยให้นกอินทรีในตัวเองหลับใหลอยู่อย่างนี้ มันน่าเสียดาย
โอ๊ย! ยิ่งงงกว่าเดิมอีก
เอาเถอะว่ะ ไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร แล้วจะกลับมาเยี่ยมใหม่
แล้วเจ้านกกระจาบผู้รักอิสรภาพก็ขยับปีกบิน ขณะที่มันบินออกไปนั้น ความเป็นพญาอินทรีของมันก็เริ่มปรากฏออกมาเล็กน้อยต่อหน้าเพื่อนของมัน มันดูสง่างามขึ้นกว่าแต่ก่อน แล้วมันก็บินสูงขึ้น ๆ ไกลออกไปเรื่อย ๆ จนลับขอบฟ้าไป
จากคุณ :
แว่วเสียงลม
- [
22 ก.ค. 46 08:39:55
A:203.185.134.4 X:10.226.103.40
]