เธอ (2)

    ตอนที่5: คำขอโทษ

    ตั้งแต่วันนั้น ก็เกือบสามเดือนแล้ว ที่ฉันพยายามหลบหน้าเขา ฉันไม่ต้องการจะพูดกับเขาอีก เวลาที่บังเอิญเจอกัน ฉันก็ไม่เคยคิดแม้แต่จะเงยหน้ามองสักครั้ง ทุกครั้งเวลาที่มีงานฉันที่ต้องเช็คกับเขา ฉันก็จะฝากวัลย์หรือเพื่อนคนอื่นๆถามแทนให้  และแน่นอนคำพูดที่เขาคุยกับคนอื่นๆ มักจะดีกว่าเขาพูดกับฉันมากมายเลย แต่ฉันไม่สนใจหรอก ไม่พูดกับเขาก็ไม่เห็นตาย ดีเสียอีกจะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียด้วย ในเวลานี้ฉันรู้สึกแบบนี้จริงๆนะ

    สุดท้ายวันที่ฉันหนีความจริงไม่พ้นก็มาถึง วันนี้วัลย์ไม่มาทำงาน ฉันก็เลยวุ่นวายตั้งแต่เช้าเพราะต้องทำงานในส่วนของวัลย์ด้วย
    กริ๊ง!!!!!!
    “สวัสดีค่ะ” ฉันรีบร้อนมารับโทรศัพท์ที่โต๊ะของวัลย์
    “ขอสายวัลย์ครับ”
    “เอ่อ วันนี้วัลย์ไม่มาทำงานค่ะ มีอะไรฝากไว้ไหมค่ะ”
    “แล้วใครพูดอยู่ครับ” เสียงทางปลายสายถามกลับมา
    “กรค่ะ แล้วคุณเป็นใครล่ะค่ะ”
    “ผม ผมปืนครับ”
    “…………….”
    “กร งานที่วัลย์ตามเมื่อวาน พี่ทำให้แล้วนะ ถ้าพรุ่งนี้วัลย์มาบอกเขาด้วยนะ” พี่ปืนกรอกเสียงลงมาตามสาย ฟังดูจากน้ำเสียงแล้ว เขาก็คงรู้สึกแปลกๆที่คุยกับฉัน
    “ค่ะ” ฉันตอบรับเขาสั้นๆ
    “ เอ่อ กร พี่……”
    ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด  
    เหมือนเขาต้องการจะพูดอะไรต่อสักอย่างแต่ฉันไม่ทันได้ฟังเพราะฉันกดวางสายไปแล้ว

    “อ้าวมีเมลล์ใหม่เข้ามาอีกแล้ว ใครส่งมานะ เช็คก่อน” ฉันเหลือบไปเห็นเมลล์เข้าพอดี ฉันไม่รอช้าที่จะเปิดมันเดี๋ยวนั้น “ว้าว ออเดอร์เพิ่ม เย้! เดือนนี้ได้ขายได้เกินแพลนแล้ว เก่งจังเลยเรา เดี๋ยวเช็คก่อนมีงานเปล่า” ฉันอ่านเมลล์จากลูกค้าพร้อมกับหันไปหยิบStock list มาเช็ค “ไอ้หยา ไม่มีสต๊อกด้วย ต้องรีบแจ้งฝ่ายผลิตซะแล้ว” ฉันรู้สึกตื่นเต้นหลังจากที่รู้ว่าไม่มีงานที่จะขายให้ลูกค้า ด้วยนิสัยค่อนข้างจะไฮเปอร์ของฉันทำให้ฉันต้องหาทางที่จะแจ้งพี่ปืนทันที แต่ฉันจะทำยังไงดีล่ะ วัลย์ไม่มาทำงานด้วย ฝากใครไปบอกดีนะ “เฮ้อเจ้านายก็ไม่อยู่ซะด้วย” ฉันจึงตัดสินใจที่จะโทรไปฝากเรื่องไว้กับพี่โยที่นั่งโต๊ะข้างๆพี่ปืนให้เป็นคนบอกแทน ฉันไม่รอช้าที่จะโทรไปทันทีหลังจากที่นึกขึ้นได้
    “ฮาโหล” โทรศัพท์ดังอยู่นานสองนาน ก่อนที่จะมีชายหนุ่มรับตอบรับปลายสายด้วยน้ำเสียงเบาๆ
    “พี่โยเหรอ หนูวานอะไรหน่อยสิจ๊ะ” ทันทีที่ฉันได้ยินเสียงตอบรับ ฉันก็เริ่มพูดทันทีโดยไม่ได้ฟังเสียงให้ดี “พอดีหนูได้ออเดอร์เพิ่มมา หนูฝากพี่บอกพี่ปืนให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ”
    “ทำไม ต้องฝากโยด้วยล่ะ บอกพี่เองไม่ได้หรือไง” เพียงแค่นี้ฉันก็รู้แล้วว่าคนที่รับสายเป็นใคร
    “อ้าวทำไมเงียบล่ะครับ จะเอาอะไรบอกมาสิครับ” พี่ปืนถามกลับมาหลังจากที่ฉันเงียบไม่พูดอะไรอยู่พักนึง “เถอะน่าบอกมาเถอะครับ เดี๋ยวพี่เช็คให้”
    ฉันไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้จึงจำใจคุยกับเขา ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหวาดกลัว เขาเองก็น่าพอจะจับความรู้สึกจากน้ำเสียงฉันได้
    “ครับแล้วพี่จะเช็คให้” พี่ปืนตอบรับฉันสั้นๆหลังจากที่ฉันพูดจบ
    อีก5นาทีต่อมา
    กริ๊ง!!!!!!! เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะฉันดังขั้น
    “ขอสายกรครับ”
    “พูดสายอยู่ค่ะ” ฉันตอบรับและรู้ได้ในทันทีว่าใครโทรมาหา
    “พี่เช็คงานให้แล้วนะ ได้ตามที่ขอนะครับ” พี่ปืนโทรมาบอกเรื่องงานที่ฉันถามเอาไว้
    “ค่ะ”ฉันตอบรับพร้อมทั้งวางสาย
    กริ๊ง!!!!!!! เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะฉันดังขั้นอีกครั้ง
    “กรเหรอ”
    “ค่ะ”
    “พี่ขอโทษนะที่ทำไม่ดีกับกรไว้เยอะ หายโกรธพี่เถอะ” พี่ปืนโทรมาอีกครั้งพร้อมกับกล่าวคำขอโทษที่มันค่อนข้างจะช้าไปสักหน่อย
    “.......................”
    “พี่รู้ว่าพี่ผิด ต่อไปนี้พี่จะพูดกับกรดีๆ นะครับ”
    “ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมค่ะ แค่นี้นะคะ สวัสดีค่ะ” ฉันจบประโยคสนทนาด้วยการขอตัววางสายโดยที่ยังไม่ได้ตอบรับว่าหายโกรธหรือยัง
    ฉันอดแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมเขาถึงมากล่าวทำขอโทษฉัน หรือว่าเขาเพิ่งจะคิดได้ว่าเขาผิด สงสัยว่าเขาจะเป็นคนประเภทความรู้สึกช้า(มาก) แต่ก็เอาเถอะจะลองให้โอกาสในการแก้ตัวสักครั้ง

    ตอนที่6: ความสัมพันธ์ที่กลับมา

    “กร แกพูดกับพี่ปืนแล้วเหรอ เห็นเขาถามหาแกแต่เช้า แหมฉันไม่มาวันเดียวความสัมพันธ์คืบหน้านะ” วัลย์กล่าวทักฉันทันทีหลังจากที่เดินเข้ามาในแผนก
    “ยังไม่ได้คืนดีกันหรอก แค่เมื่อวานเขาโทรมาขอโทษ”
    “แล้วแกจะยกโทษให้เขาหรือเปล่าล่ะ เมื่อวานแกยังไม่ได้บอกเขาไม่ใช่หรือ” วัลย์ยังคงถามฉันต่อไปด้วยความอยากรู้
    “ยกมั้ง” ฉันพูดพร้อมเดินหนีออกมาเข้าห้องน้ำ
    “ถ้าฉันรู้ว่าขาดงานหนึ่งวัน แล้วแกคืนดีกับพี่เขาได้ รู้อย่างงี้ฉันขาดงานไปตั้งนานแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเป็นล่าม ให้ซะตั้งนาน” วัลย์พูดพร้อมกับเดินตามฉันมา
    “แกก็ ช่วยเพื่อนแค่นี้ทำบ่น”ฉันพูดพร้อมกับหันไปค้อนเพื่อนซะหนี่งที

    “หายโกรธพี่แล้วใช่ไหมกร เห็นวัลย์บอก” พี่ปืนเอ่ยทักฉันขณะเจอฉันที่โรงอาหาร ฉันไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้า
    “ต่อไปนี้พี่จะไม่ว่ากรแรงๆแล้ว เราจะคุยกันดีๆนะ”
    “ค่ะ” ฉันตอบรับพร้อมกับเดินไปซื้อข้าวกลางวัน

    ตั้งแต่วันนั้นพี่ปืนก็ไม่เคยตะคอกหรือว่าฉันแรงๆอีกเลย บางครั้งที่เขาหงุดหงิดฉันเรื่องออเดอร์ที่เพิ่มมากระทันหัน เขาก็ยังคงพูดดีกับฉัน  ฉันรู้ว่าเขาพยายามที่จะข่มความรู้สึกเอามากๆ  แม้ว่าเขาจะทำตัวดีขึ้น แต่ฉันก็คุยกับเขาแค่เรื่องงานเท่านั้น ฉันไม่เคยชวนเขาคุยหรือพูดเล่นกับเขาเหมือนก่อนที่เราจะทะเลาะกัน  บ่อยๆครั้งที่เขาพยายามจะสนิทกับฉัน โดยการพูดเล่นกับฉัน ชวนฉันนั่งทานข้าวกลางวันด้วยกัน ชวนฉันไปเที่ยวบ้างแต่ฉันก็ปฏิเสธเสมอมา ฉันไม่ยอมที่จะสนิทสนมกับเขาเหมือนก่อนเพราะกลัวประวัติศาตร์จะซ้ำรอย

    ฉันทำงานที่นี่มาได้สองปีแล้วสินะ เร็วจังเลย ตอนนี้ฉันมีความสุขมากๆ ในการทำงาน ฉันเปลี่ยนเจ้านายใหม่ที่ดีขึ้น ไม่ดุด่า ไม่หลอกแต๊ะอั๋ง และให้อิสระในการทำงานมากขึ้น  ฉันสนิทสนมกับเพื่อนร่วมงานทุกคน ฉันสามารถพูดเล่น ไปเที่ยวกับพวกเขาได้ และที่สำคัญฉันไม่เคยต้องทะเลาะกับพี่ปืนอีกเลยตั้งแต่วันนั้น  ฉันคิดเสมอว่าเพียงพอแล้ว ฉันไม่เคยคิดที่จะต้องการอะไรที่มันมากไปกว่านี้อีกเลย แต่แล้ว...

    จากคุณ : Mindnat - [ 22 ก.ค. 46 22:26:11 ]