เข้าหน้าฝนทีไร บรรยากาศที่สายฝนสร้างขึ้น ทำให้หัวใจของผมตกลึกลงไปสู่เรื่องราวเก่า ๆ ทุกที
ฟ้าสลัวมัวแสง กลุ่มเมฆสีเทาลอยอ้อยอิ่งอยู่เต็มฟ้า ยอดไม้สลดซบกับก้านกิ่งเพราะน้ำหนักแห่งหยาดน้ำที่เกาะค้างอยู่ นกกามองไม่เห็นตัว หากส่งเสียงให้แว่วยินมาแต่ไกล สระน้ำข้างบ้านถูกเจาะเป็นเม็ดพราวจากฝนพรำ กอหญ้าริมน้ำยังเอนลู่จนแตะผิวน้ำ สายลมโชยความชื่นเย็นมาเป็นระยะ อากาศบริสุทธิ์จากการชะล้างของธรรมชาติทำให้ผมหายใจได้อย่างเต็มปอด ชายคาที่ผมยืนอยู่นี้เป็นระเบียงบ้านที่ยื่นล้ำออกไปจากตัวบ้าน ผมมายืนมองสายฝนอยู่นานแล้ว ปล่อยความรู้สึกให้สัมผัสกับธรรมชาติให้มากที่สุด
บ้านหลังนี้ผมซื้อไว้นานแล้ว เป็นบ้านหลังแรกของผมที่ใช้เงินของตัวเองซื้อมันมาทุกบาททุกสตางค์ วันที่ผมไปเยี่ยมเยียนมันนั้นมันยังคงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางสายฝน บ้านเดี่ยวชั้นเดียวพื้นที่ประมาณสี่สิบตารางวาถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าที่กำลังฉ่ำฝนอยู่ในเวลานี้ ตรงประตูบ้านเป็นต้นขนุนต้นสูงที่รอการริดกิ่งที่ชะลูดสูงยื่นแผ่ออกไปทุกที ถัดมาด้านข้างเป็นดงกล้วยที่เริ่มปลูกเพียงสองต้นบัดนี้มันแยกหน่อขยายพันธุ์จนนับได้เกือบสิบต้น ก่อนหน้านั้นไม่นานจะมีกออ้อยที่ปลูกพร้อม ๆ กับต้นกล้วย แต่ด้วยความดกและรกเรื้อทำให้ผมต้องตัดรากถอนโคนมันออกไป ปล่อยเนื้อที่ให้เป็นของต้นมะม่วงสามฤดูสามสี่ต้น ที่ปลูกเรียงรายไว้เป็นแนว ซึ่งบัดนี้มันก็ออกดอกออกผล ปล่อยลูกร่วงหล่นเต็มพื้นใต้ต้นอย่างไร้คนเหลียวแล
เสียงโห่ร้องของขบวนขันหมากดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ขบวนกลองยาวซึ่งทั้งผู้ตีกลองและผู้รำตามต่างก็เมาได้ที่กำลังเถิดเทิงสร้างความครึกครื้นอย่างไม่หยุดยั้ง ชายหนุ่มหน้าเข้มในชุดสูทสีขาวไทด์แดงยืนเด่นเป็นสง่าอยู่หัวแถว สีหน้าของเขาแสดงความสุขสมในวันสำคัญนี้ หัวใจของเขายังคงรออยู่ในบ้านหลังนั้น เธอผู้เป็นเสมือนพลังแห่งชีวิตที่ช่วยผลักดันให้เขาขึ้นมาจากปลักแห่งความมืดมน สู่แสงสว่างของชีวิตด้วยการพร้อมจะครองคู่อยู่กับเขาตลอดไป
นับจากวันนี้เป็นต้นไป
ขบวนขันหมากผ่านประตูเงินประตูทองไปเป็นลำดับ ต้นกล้วยและต้นอ้อยถูกนำไปปลูกในพื้นที่ที่เตรียมไว้ บ้านหลังใหม่ถูกตกแต่งด้วยสายรุ้งและม่านระย้าอย่างงดงาม เจ้าบ่าวพาตัวเองเข้าสู่พิธีการการสู่ขอ การรับน้ำมนต์ การรับน้ำสังข์ และรับการแสดงความยินดีจากญาติพี่น้องที่มาร่วมกันอย่างคับคั่ง
งานเลี้ยงผ่านพ้นไป พิธีส่งตัวเข้าหอเป็นพิธีการสุดท้ายสำหรับวันนั้น เธอผู้แสนดียังคงนั่งยิ้มรออ้อมกอดจากเขาอยู่ เธอมีแววเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้างที่สีหน้า หากแววตานั่นเล่าฉายความสุขอย่างเหลือล้ำออกมาจนเขาสัมผัสได้ ริมฝีปากแดงสดจากการตกแต่งยิ้มแย้มเอียงอาย ชุดเจ้าสาวที่รุงรังหากสวยงามยังคงเป็นภาระของทั้งสองที่จะต้องปลดเปลื้องกันต่อไป
สายฝนหยุดตกเป็นช่วง ๆ อากาศยังคงเป็นใจให้ผมดื่มด่ำอยู่กับสิ่งรอบตัว ผมทรุดลงนั่งลงบนเตียงผ้าใบกลางเก่ากลางใหม่ที่วางอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว ตรงหน้าเป็นโต๊ะกระจกเตี้ย ๆ สำหรับวางอาหารและเครื่องดื่ม ฝั่งตรงข้ามเป็นเก้าอี้โยกที่ร้างไร้ผู้คน ผมยังคงนิ่งซึมตกอยู่ภวังค์แห่งอดีตอันหวานชื่น
เสียงเพลงจากเครื่องเสียงในห้องนอนแว่วผ่านออกมา มันเป็นบทเพลงที่คุ้นเคยหวานเศร้า ท่วงทำนองกระชับช้าหากเรียบง่ายและสื่อความหมายของความรักที่ขมขื่นผิดหวังของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังโทษฟ้าโทษดิน
เขาบอกว่าฟ้าร้องไห้ออกมาเป็นน้ำฝน อยากรู้นักฟ้าที่เบื้องบน ต้องมาร้องไห้เพราะใคร
..
ความรักอันหวานชื่นถูกปรุงแต่งด้วยรสแห่งการสัมผัสที่นุ่มนวลจากหัวใจที่อบอุ่น ทั้งสองป้อนความสุขแก่กันและกันด้วยความสุขสันต์และสุขสม วันเวลาผันผ่านไปวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งถึงจุดแห่งการเปลี่ยนแปลง..
เขาทนไม่ได้กับการเหยียดหยามและบีบบังคับจากนายจ้างหน้าเลือดที่ไม่คำนึงถึงอะไรนอกเสียจากเงินและเงิน เขาลาออกทันทีหลังจากมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง แม้เขาจะรู้ดีว่าการไม่มีงานนับจากนี้จะนำมาซึ่งการไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมันยิ่งใหญ่เกินไปที่เขาจะจำยอมให้มันผ่านพ้นโดยการไม่ได้ทำอะไรเลย
ภรรยาสาวของเขานิ่งสงบเมื่อเขาเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ฟัง เธอปลอบใจเขาด้วยถ้อยคำที่เขาต้องกอดต้องจูบเธอด้วยความซาบซึ้งและขอบคุณ ถึงอย่างไรเขาก็ยังมีคู่ชีวิตที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ คู่ชีวิตที่เข้าใจเขาเสมอ
.
หรือฟ้าสงสาร คนอย่างฉันถูกหลอกเรื่อยไป..ถูกเขาลวงเขาล้วงหัวใจ..เอาไปต้มยำทำแกง
ผมเดินไปที่ตู้เย็นที่วางอยู่ห้องนั่งเล่น จากการที่ปล่อยทิ้งไว้นานและเพิ่งจะเสียบปลั๊กทิ้งไว้ ทำให้เบียร์ที่แช่ไว้นั้นยังไม่เย็นเท่าไหร่ หากบรรยากาศเวลานี้ การมีของชอบจิบให้ชื่นใจก็เป็นแรงดึงดูดที่ทำให้ผมเปิดมันขึ้น แล้วดื่มลงคอ
.
พิมได้งานทำแล้ว เพื่อนเขาฝากให้ เราจะได้มีรายได้กันซะที.. เขายิ้มเมื่อภรรยาบอกเขาในวันหนึ่ง หลังจากที่เขาหางานทำมาได้ครบสามเดือนพอดี
เป็นงานอะไรครับ?..
งานบัญชีค่ะ .บังเอิญคนเขาขาดพอดี เพื่อนรู้ว่าพิมกำลังหางานก็เลยฝากให้..
ทำงานไกลไหม?..
แถวสุขุมวิทเอง..
งั้นพิมเอารถไปใช้ ผมไม่จำเป็นต้องใช้อะไร วันไหนเขาเรียกไปสัมภาษณ์ผมค่อยติดไปด้วย..
เธอดึงมือเขาเข้ามากอด
อย่าคิดมากนะคะ พิมแค่อยากช่วย คุณเหนื่อยมามากแล้ว ดีเหมือนกันที่คุณจะได้พักผ่อนบ้าง พิมเอาเปรียบคุณมาตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว คุณหาเงินสร้างครอบครัวของเราขึ้นมาได้ขนาดนี้ ก็นับว่าดีที่สุดแล้ว..
เขายิ้มปลื้มชื่นใจ มองหน้าผู้หญิงตรงหน้าอย่างเต็มตาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะดึงเธอเข้าไปกอดอย่างสุดรัก
ผมสิต้องขอโทษพิม ผมไม่น่ารีบตัดสินใจออกจากงานเลย อย่างน้อยก็ควรจะมีที่ทำงานใหม่ลองรับซะก่อน เราคงไม่ต้องลำบากกันขนาดนี้..
..
ฝนฟ้ากระหน่ำเสียงฟ้าคำรามดูน่ากลัว น้ำตาฟ้าหลังมารดตัว รดหัวใจฉันจนชา ฉันคงผิดหวัง มีเคราะห์กรรมไร้วาสนา เขาเลยไม่รักไม่ยอมพูดจา..หลอกลวงให้ฉันต้องตรม..
ฤทธิ์เบียร์ทำให้ผมซึมหนักขึ้น ฝนเริ่มกระหน่ำลงมาด้วยเม็ดที่ใหญ่ขึ้น หนาแน่นขึ้น มองออกไปไกล ๆ เห็นแต่ความฝ้ามัวขาวครึ้มเต็มท้องฟ้า
ผมนั่งลงตรงที่เดิม มองนิ่งไปที่เก้าอี้โยก ที่ที่เคยมีใครคนหนึ่งนั่งอยู่
..
เหนื่อยมากไหมครับ? เขาถามภรรยาในค่ำวันหนึ่ง หลังจากเวลาผ่านพ้นไปเกือบปี บัดนี้เขาได้งานทำแล้ว แม้รายได้จะไม่ดีเท่าเดิมแต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ขัดสนมากนัก
เธอส่ายหน้า ยิ้มแล้วหลบตา
ผมว่าพิมพ์ควรเลิกทำงานได้แล้ว เราควรจะคิดเรื่องมีลูกกันเสียที เราแต่งงานกันมาเกือบสองปีแล้วนะ ผมอยากมีลูกเล็ก ๆ สักคน ชีวิตของเราคงจะมีสมบูรณ์มากกว่านี้..
อีกสักพักดีกว่าค่ะ งานของพิมพ์กำลังไปได้ดี เจ้านายบอกว่าจะเลื่อนตำแหน่งและขึ้นเงินเดือนให้ จะให้พิมพ์กลับมาอยู่บ้านเฉย ๆ พิมพ์คงเบื่อตาย..
แต่หมู่นี้พิมพ์กลับบ้านดึกจังนะครับ เห็นกลับมาทีไหร่ก็อิดโรยทุกที ผมไม่อยากให้พิมเป็นอะไรไป..
โอย
พิมไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอกค่ะ อย่าห่วงเลย
ฉัน..มันคนซื่อ ไม่เคยฝึกปรือ ในเรื่องความรัก
..เพิ่งเคยได้รู้ เพิ่งเคยได้ลอง เพิ่งเคยรู้จัก
สุดท้ายต้องมาอกหัก ไม่รู้จะดามยังไง
ความทรงจำพรูพร่างเข้ามาในสมองของผมอย่างรวดเร็ว เหมือนผมตกเข้าสู่อีกโลกหนึ่งที่โหดร้าย เจ็บปวด และทารุณต่อหัวใจของผมเหลือเกิน
.
ตอนนั้นฝนพรำ ชายหนุ่มนั่งมองเวลาที่ชี้บอกเวลาห้าทุ่มเศษอย่างกระวนกระวายใจ พิมไม่เคยผิดเวลาถึงขนาดนี้ ถึงแม้งานจะเยอะเพียงไรเธอก็ควรจะกลับมาได้แล้ว เขาเองเสียอีกที่ทำงานไกลกว่า และไม่มีรถใช้ เขายังกลับมาถึงบ้านได้ตอนหัวค่ำ
โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ พิมไม่เคยให้เบอร์ที่ทำงานกับเขา ทุกครั้งพิมจะโทร.มาบอกเขาเองว่าจะกลับช้าหรือเร็วอย่างไร
วันนี้ก็เช่นกัน
พิมคงกลับค่ำหน่อยนะคะ มีงานต้องสะสางให้ทัน พรุ่งนี้ต้องส่งเจ้านายดูแต่เช้า คิดว่าไม่เกินสามทุ่มหรอกค่ะ..
เกือบเที่ยงคืนคืนนั้นที่พิมกลับมา เขาดีใจและโล่งใจที่ในที่สุดเธอก็ปลอดภัย ในทันทีที่มาถึง พิมก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมจะนอน
ขอโทษนะคะ งานที่ทำต้องแก้หมดเลยค่ะ ต้องเริ่มต้นกันใหม่ เลยต้องกลับดึก พิมเหนื่อยจังเลย..
ด้วยเพราะฝนตกพรำ บรรยากาศเย็นสดชื่น เขาตระกองกอดภรรยาของเขาด้วยความนิ่มนวล..แต่เมื่อได้ยินพิมบอกอย่างนั้น เขาก็เปลี่ยนใจ ลุกขึ้นไปปิดไฟเหมือนเช่นทุกครั้งที่จะนอน
ไฟถูกปิด ห้องมืดมิด มีเพียงลำแสงจาง ๆ ที่ลอดมาทางหน้าต่างที่ฝนพรำอยู่ภายนอก ฟ้าแลบเข้ามาเป็นระยะ ๆ เหมือนถูกถ่ายรูป
เขาหันมองที่ร่างภรรยาของเขาอีกครั้ง
เธอยังคงเป็นสาวน้อยหุ่นดีอยู่ในชุดบางเขาของชุดนอนที่สวมอย่างลวก ๆ ความสวยงามของเธอเป็นสิ่งที่ภูมิใจและหวงแหนตลอดมา
ฟ้าแลบขึ้นอีกครั้ง แสงสว่างวาบไปที่เธอ เพียงวาบเดียวเขาก็เห็นร่องรอยหนึ่งอย่างเต็มตา
มันเป็นรอยช้ำ เป็นรอยช้ำที่หน้าอกของเธอ
เขาเปิดไฟทันที
.
เขาบอกว่าฟ้าร้องไห้ออกมาให้ฉัน ฟ้าสงสารและคงผิดหวัง ที่ชักนำให้ฉันพบเธอ
.
ผมยกมือขึ้นปิดหน้า น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น รอยช้ำนั้นยังฝังลึกอยู่ในห้วงสมองอย่างชัดเจน
มันเป็นรอยที่เกิดขึ้นจากการขับเน้น จากริมฝีปากหนึ่ง ที่ตะโปมอย่างหิวโหยและเมามัน
ยังมี
ยังมีร่องรอยอื่น ๆ อีกมากมายที่ผมเจ็บจนไม่อยากจะคิดถึง
น้ำตาที่ไหลจากความตั้งใจ ไม่ได้พลั้งเผลอ
.
.ชาตินี้เข็ดแล้วนะเออ ไม่อยากเจอหน้าเธออีกเลย..
..
บทเพลงที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องนี้ครับ
เป็นอภินันทนาการจากน้องศาลาไทย ผู้ไม่เคยทำให้ผู้ขอความช่วยเหลือผิดหวังเลยสักครั้งหนึ่ง
น้ำตาฟ้า-สามโทน-เนื้อร้อง/ทำนอง-(ผมจำชื่อเขาไม่ได้ครับช่วยให้เครดิตเขาด้วยครับ)
http://www.thai.net/pongpong/010.htm
จากคุณ :
แทน
- [
26 ก.ค. 46 20:20:17
A:202.57.172.140 X:
]