ในฤดูเวลาที่หมู่คนทำงานนา
พากันอยู่นาอยู่ทุ่ง นี่เป็นเดือนเป็นฤดูเร่งงาน
เร่งมือต่องานไถดำปลูกข้าวกล้ากันอย่างรีบเร่ง
แล้ว แต่ละคนแต่ละครัวต่างมุมานะทุ่มเทแรง
กายและแรงใจต่อเนื้อนาแห่งตนแห่งครอบครัว
ต้นกล้าไม่พอสำหรับจะปักดำ..........โน่นที่นา
ลุงใหญ่ทุ่งนาตีนภูโน่นยังพอมีเหลือ พ่อมันไป
ไวๆเข้าประเดี๋ยวคนอื่นนาอื่นเขาจะไปขอไปปัก
ดำนาเขาก่อนเรา ไปเลยวางไว้ก่อน ธุระใดๆ
ให้ไปขอพันธุ์ข้าวกล้ากับลุงมาก่อนเหอะ ที่จ้าง
เพื่อนบ้านมาช่วยปักดำนี่จะได้ต่อเนื่อง ไม่ติด
ขัดหยุดชะงัก วันนี้จ้างแรงงานเพื่อนบ้านมาทั้ง
หมดแปดคนวันละร้อยสิบบาทถ้วนต่อคนราคานี้
เจ้านาเลี้ยงข้าวปลาอาหารเสร็จสรรพทุกคนข้าว
กล้าไม่พอปักดำก็ต้องจำเป็นแหละที่ จ้างๆมา
เพื่อช่วยปักดำนานี่ต้องผันแรงงานของเพื่อนไป
ถอนกล้ากันต่อ ถอนข้าวกล้าเสร็จ ค่อยมาปัก
ดำกันต่อ นาทุ่งนี้ปักดำเสร็จก็ยังเหลืออีกทุ่ง
หนึ่ง โน่นแหละติดกับผืนนาลุงใหญ่ตีนภูโน่น
เร่งเข้าเร็วเข้าหมู่เฮาเอ๋ยธุระข้างหน้า มีอีกเยอะ
แยะรัดตัวกันแทบทุกคน อย่างแม่(เมีย)ผู้ใหญ่
บ้านนี่เสร็จนาแล้ว ต้นเดือนก็จะเข้าจังหวัดไป
อบรมโครงการแม่บ้านมหาดไทย ทางโรงเรียน
ที่ลูกสาวคนสุดท้องเรียนอยู่นั่นเขาจัดขึ้นสองวัน
ต้องไปให้ได้เพราะเป็นงานของลูก ลูกที่แม่เป็น
ห่วง หวง และหวังในอนาคตก้าวหน้าเป็นนักหนา
เห็นว่าอยากให้ลูกคนนี้เอ็นติดแพทย์ ติดหมอให้
ได้ ต้องไป
".....แม่ไปแน่ลูกเอ๋ย"
เพื่อลูก เพื่ออนาคต เพื่อเกียรติยศชื่อ
เสียงหน้าตาวงศ์ตระกูลของลูกผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนตาชู ยายจันทร์นั่น แม้วัยจะเลย
เกษียณคนทำงานนาตั้งหลายปีแล้วก็ตาม แต่
ทั้งคู่ยังเรี่ยวแรงแข็งขันสู้งานปักดำรับจ้างช่วย
แรงงานกับวงศ์หมู่เพื่อนนาเพื่อนทุ่ง อย่างขมี
ขมันไม่มีทีท่าจะอ่อนแรงอิดล้าเอาเลย เสร็จ
จากงานรับจ้างปักดำทำนาเพื่อนนาแล้ว ตาชู
ยายจันทร์พร้อมเขยและสะใภ้ ก็จะพากันห่อ
สัมภาระข้าวถุงลงไทยลงล่าง ไปยังไซท์งาน
ก่อสร้าง เป็นกรรมกรก่อสร้างต่อไป สิ้นปีนี้
หนี้กองทุนเงินล้านสองหมื่นเงินต้น กับดอก
เบี้ยร้อยละหกรอให้ครอบครัวตาชู เอาทั้งต้น
และดอกไปชำระเต็มมูลค่าอยู่ ณ ที่ทำการผู้
ใหญ่บ้านโน่น
"เร่งเข้าสูเอ๋ย.....เร่งเข้าแม่มัน"
ขณะที่แดดแผดเปรี้ยงอยู่กลางนานั่น
ผู้คนชาวนา ไม่หวาดหวั่นย่อท้อ ไม่พักเพราะ
เหมารายวันกันมาแล้วแปดโมงเช้า เลิกงานก็
โน่นห้าโมงเย็นทำกันไปหลายคนหลายคำพูด
เย้าหยอก ปลอบประโลมกันไปที่ร้อนกายก็
ได้หย่อนคลายเย็นใจด้วยคำพูดสู่กันและกัน
"โอย..ย.....นุ่นเอ้ยนุ่น เอ็งไปเฮ็ดไป
สร้างอันใด๋อยู่...... เก็บเกี่ยวเสร็จเอ็งมาขน
เอาข้าวไปกิน อีตอนปักดำทำนาอยู่นี่ไม่โผล่
หน้ามาช่วยเหยียบนาเลยนิ...โอย..ย"
แม่เฒ่าลุนผู้แม่โอดโอยอยู่กลางบิ้งนา
แกบ่นถึงลูกสาวที่ไปทำงานโรงงาน ในเมือง
หลวง หลายคนทั้ง ลูกชาย ลูกสาวพอโตขึ้น
เป็นหนุ่มสาวปลดจากวัยเรียน ก็พากันเตลิด
เข้าเมืองหลวงศรีวิลัยเมืองที่พวกดาราในทีวี
พากันพำนักพักอยู่ ตกตอนเย็นย่ำค่ำแลงลง
หมู่พวกดาราก็พาเหรด สู่หน้าจอทีวีทุกช่อง
ให้หมู่ชาวนาได้ชื่นชมกัน จวบเหมาะกับวัย
ของหนุ่มสาวผู้แสวงหา มุ่งหมายนัก ที่อยาก
เป็นอยากอยู่เยี่ยงนั้น แบบนั้น ต้องไป......
ไปให้ได้เพื่อความเป็นอยู่ที่สวยสง่า ดูดีผู้คน
ห้อมล้อมสะดวกสบายแท้ แบบนั้นแบบดารา
ชอบ.....อยากเป็น
"โอย..ย.ปวด..เด้.ปวดหลาย นุ่นเอ้ย?"
ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ แต่
วันนี้ชาวนาปวดสันหลัง........อย่างแรง.........
เวลานี้พวกชาวนาส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่ม
พวกวัยปลายแรงงานกันทั้งนั้น พวกต้นกำลังต้น
แรงงานนั้นพากันกรูเกรียวไปห้อมแหน แซ่สร้อง
ยังเมืองดารากันหมด
จากคุณ :
จุมมะลี คำภมัย
- [
28 ก.ค. 46 11:39:25
A:202.183.130.145 X:
]