Oh my hummingbird
หลาย ๆ คน อาจรู้สึกอิจฉาฉัน
ฉันไปทำอะไรหรอ?? เปล่าเลย
ฉันเพียงมีคนที่ดีมากคนหนึ่งผ่านเข้ามาในชีวิต คนที่ตอนนี้กลายเป็นเป็นพี่ชายคนแรกของฉัน
เขา คนที่คอยห่วงใยฉันเสมอ
เขา คนที่พร้อมจะเงียบเพื่อที่จะนั่งฟังเรื่องของฉัน
เขา คนที่คอยปลอบใจฉันทุกอย่าง
และ เขา คนที่เต็มใจจะเป็นที่ระบายให้กับฉันเมื่อยามที่ฉันไม่สบายใจ
คุณสมบัติที่ดูเหมือนจะเป็นของคนที่คุณเรียกว่า แฟน แต่มันไม่ใช่
มันกลับเป็นสิ่งที่คุณมองข้าม บางคนอาจต้องการคน ๆ นี้มานาน แต่เขาก็ยังไม่พบสักที ผิดกับบางคนที่มีคน ๆ นี้อยู่ แต่ไม่เคยที่จะให้ความสำคัญกับเขาเพียงสักนิด กลับทุ่มเทความสำคัญทั้งหมดให้กับคนที่คุณเรียกว่าแฟน
แต่คุณหารู้ไม่ว่าเมื่อคนคน นี้ยังอยู่ เขาก็พร้อมที่จะยืนเคียงข้างคุณ และพร้อมที่จะห่วงใยคุณได้มากกว่าคนที่คุณเรียกว่า แฟน นั้นเสียอีก
ฉันอยู่บนโลกนี้ ด้วย สองชีวิตของฉัน
หนึ่ง
ชีวิตในความเป็นจริง และ สอง
ชีวิตที่คุณ ๆ กำลังหยุดเพื่ออ่าน หรือ ดูสิ่งที่มันเป็นเพียงจินตภาพ หรือ สิ่งที่ถูกประกอบกันขึ้นมาจากพลังงานเพียงเล็กน้อย ที่ทำให้คุณ อิน ไปกับมันได้ และ ดูเหมือนว่าตัวฉันเองจะมีความสุขมากกว่าบนชีวิตในสังคมที่ สอง ของฉัน
บางคนอาจจะ คิดว่า ฉันอาจจะหมกมุ่นเกินไป
นำความรู้สึกหรือความคิดที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในชีวิตที่ สอง ของฉันมาคิด จนประสมกันไปมั่วกับ ชีวิตในความเป็นจริง
แต่ถึงแม้ มันจะเป็นเช่นนั้นจริง ฉันก็ยังคิดว่า มันก็ไม่ได้ผิดตรงไหนนี่
ฉันไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย ฉันอยากใช้ชีวิตของฉันอย่างนี้
เพราะมันทำให้ฉันมีความสุข และสบายใจได้มากกว่าชีวิตในความเป็นจริงของฉันเสียอีก
วันแรกที่ คนที่ตอนนี้ฉันเรียกได้อย่างเต็มปากว่า พี่ชาย ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตฉันนั้น ฉันไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลย
ไม่มีใครบอกให้ฉันได้ทราบ
ฉันกำลังนั่งแชทอยู่กับเพื่อนคนหนึ่ง แล้วเพื่อนคนนั้นก็ได้ ให้เพื่อนของเขามาร่วมสนทนาด้วย
ฉันไม่ค่อยสนิทกับใครนักหรอก โดยเฉพาะตอนแรก ๆ ที่จะทำความรู้จักเพื่อน ๆ ในชีวิตที่สองของฉันนี่แหละ
ก็เพราะฉันคิดไปว่า คุยกันวันเดียว ก็จบ พรุ่งนี้ก็ลืมแล้วล่ะ แต่กับคนนี้สิ ไม่
มันไม่ใช่
เราคุยกันมาเรื่อย ๆ
มาวันหนึ่งเขาก็ถามถึงวันเกิดของฉัน ตอนแรก ฉันตั้งใจจะไม่บอกหรอก
แต่เขาก็แสดงท่าทางน้อยใจ
ไม่ไว้ใจพี่หรอ
ไม่เป็นไร
ไม่ต้องบอกก็ได้ ก็ทำไมเราจะไม่ไว้ใจล่ะ สุดท้าย ฉันก็ใจอ่อนบอกไป
แล้วเขาบอกว่าเขาสัญญานะว่าเมื่อถึงวันเกิด เขาจะส่งการ์ดวันเกิดมาให้พร้อมกับคำอวยพรเล็ก ๆ น้อย ฉันไม่ได้สนใจอะไรมาก ขอแค่ความจริงใจที่เขามีให้ฉันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ในช่วงนั้นเราคุยกันมาตลอด เขาอยู่ ปี 3 จะจบแล้วล่ะ บางครั้งที่เขามีงานหรือ Project ที่ต้องทำเป็นภาษาอังกฤษ ในบางครั้ง เขาจะเอางานของเขามาให้ฉันดู และลองแก้ ในบางส่วน (แม้จะฉันจะอายุน้อยกว่าเขาอยู่มาก แต่เนื่องจากภาษาอังกฤษของฉันถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แต่ภาษาอังกฤษของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปสักเท่าไรเลยนะ นับว่าเก่งล่ะ เขาจึงให้ฉันลองอ่าน แล้วพิจารณาดู) วันรุ่งขึ้น ฉันจึงส่ง อีเมลล์ ไป พร้อมกับแนบไฟล์ที่ฉันลองแก้ (ผิดแก้ถูก) ไปให้ด้วย เมื่อถึงเวลาส่ง เขาก็ได้เอาฉบับ original ของเขา พร้อมตบแต่งด้วยข้อความของฉันลงไป งานที่ออกมาเมื่อเขาส่งมาให้ฉันได้อ่านอีกครั้ง มันออกมา เพอร์เฟ็กต์ มาก ๆ เลยล่ะ
เราแชทกันเป็น ภาษาอังกฤษ บ้าง ไทยบ้าง ฉันเริ่มที่จะคิดว่า บนโลกอินเตอร์เน็ต ที่มีพลังงานวิ่งผ่านไปมาอยู่นี้ เป็นสังคมที่เสมือนว่า ฉันได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นแล้ว ฉันมีความสุขกับมันเหลือเกิน ในบางครั้งเมื่อในชีวิตในความเป็นจริง ฉันเศร้า ฉันไม่สบายใจ บ้านหลังที่สองของฉัน ก็จะทำให้ฉันรู้สึกดี ขึ้นมาได้ทันที
และแล้ว ก็ถึงวันเกิดของฉัน ในวันนั้น ฉัน เช็ค อีเมลล์อยู่หลายรอบมาก เพื่อหา จดหมายของเขา และแล้ว พระเจ้าก็เข้าข้างเรา ครั้งสุดท้ายที่ฉันเข้าไปเช็คใน อินบ๊อกซ์ นั้น มีชื่อเขาจริง ๆ ด้วย! ฉันดีใจมากที่ได้รับจดหมายจากเขาในวันเกิดวันนี้ซึ่งดูเหมือนจะเงียบเหงาเสียเหลือเกิน เขาส่ง อีการ์ดถึงฉันพร้อมกับข้อความที่ว่า
Dear sister
ตามสัญญานะ เพื่อจะได้ยืนยันได้ว่าพี่ไม่ได้ลืม วันนี้เป็นวันเกิดของ "เรา" ก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่า สิ่งที่พี่ชายคนหนึ่งจะให้ได้ คือความรักและความห่วงใย จากพี่ชายคนนี้ ไม่รู้ว่าจะไปถึงน้องสาวคนนี้หรือเปล่า ขอให้มีความสุขมากๆ สมหวังอย่างที่คิด หากมีความรัก ก็ขอให้เป็นอย่างที่เราตั้งใจ อืม ก็คงมีแค่นี้มั้ง พี่คงให้อะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ แต่ว่า บางที ของขวัญที่คนเราควรจะให้และได้รับ คือความรุ้สึกที่จริงใจ มันอาจจะมีค่ามากกว่า ของที่ซื้อขายกันใน gift shop ก็ได้ Happy Birthday sister
Your bros.
ฉันอ่านข้อความใน อีการ์ดนั้นอยู่หลายรอบทีเดียว อ่านกี่ครั้ง กี่ครั้ง รวมกับ ความผูกพันที่มีมา น้ำตามันก็ร่วงโดยไม่รู้ตัว ฉันได้ส่งอีการ์ดอีกฉบับแทนคำขอบคุณไปให้เขา ขอบคุณมากนะคะที่ทำให้รู้สึกดี
ครบ 8 เดือนแล้วที่เราได้รู้จักกัน และอยู่มาวันหนึ่ง เขาบอกกับฉันว่า
เป็นอะไรไป
ดูเราเปลี่ยนไปนะ
เปล่านี่คะ
แต่พี่รู้สึกได้ ดูพักนี้เราห่างเหินไป
ได้ไงกันคะ
เปล่านะ ไม่ได้ห่างเหินหรอก อย่าคิดมากเลยค่ะ
ก็เพราะอะไรกันล่ะ?
ฉันแท้ ๆ เชียว ในตอนนั้น ฉันกำลังสนุกสนาน เพลิดเพลินกับการคุยกับคนคนหนึ่ง แล้วเขาก็มา ออนไลน์ ประจำทำให้ฉันคุยกับพี่ชายคนนี้ได้ไม่ราบรื่นนัก
และก็รู้สึกได้ว่าเราดูห่างเหินไป
มันก็คงอาจจะจริงนั่นแหละ
แต่เราเปลี่ยนไปอย่างนั้นจริง ๆ หรอ?? ฉันเฝ้าแต่ถามตัวเอง เพราะความผูกพันที่มีให้ระหว่าง เขากับฉันนั้น มันมีมากมายเหลือเกิน
ต่อมา ฉันก็เจอะเอาข่าวร้ายขึ้นมาจนได้ เขาบอกกันฉันว่า เขาคงไม่ได้แชทอย่างนี้บ่อย ๆ อีกแล้ว และคงไม่ได้เจอฉันบ่อย ๆ อย่างที่เคยเป็นอีกด้วย เพราะ ปี 3 แล้ว เขาต้องไปฝึกงาน ฉันที่เพิ่งได้รู้ข่าวก็เศร้าทันที
วันต่อมา ฉันก็เข้าไปออนไลน์อีกครั้ง เขาได้เข้ามาในช่วงท้าย ๆ ซึ่งขณะนั้นอินเทอร์เน็ตของฉันกำลังจะตัดลงไปไม่ช้า เราคุยกันไปเรื่อย ๆ จนถึง
อย่างที่บอกนะ คงไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ อีกแล้ว
ค่ะ
และยิ่งนับวัน พี่ก็อดคิดไม่ได้ ว่ายิ่งห่างกันมากขึ้น มากขึ้นทุกที ๆ
So
Ill keep writing to you na
และขอให้เป็นพี่น้องกันอยู่นะ
ไม่ต้องขนาดหรอก แค่อยากบอกว่า คิดถึง น่ะ
แค่นี้แหละ
และแล้วเน็ตของฉันก็ได้หลุดไป
ฉันนั่งดูดาวบนท้องฟ้า
ในวันนี้
ดาวหลาย ๆ ดวงไม่ดูกระจ่างสว่างไสวเหมือนแต่ก่อน
ดูมันหมอง ๆ จัง ฉันคิด และยิ่งนับวัน พี่ก็อดคิดไม่ได้ ว่ายิ่งห่างกันมากขึ้น มากขึ้นทุกที ๆ ประโยคประโยคนี้ กำลังวิ่งวนอยู่ในสมองของฉัน
นั่นสิ เราจะห่างกันจริง ๆ หรอ หรือว่า ฉันจะเสียพี่ชายคนนี้ไป เฮ้อ ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้านะ อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด แต่ฉันภาวนา อย่าให้สิ่งที่ฉันได้ร่วมสร้างมากับคน ๆ นี้ต้องถูกพายุพัดไป โดยไม่เหลือแม้แต่ซากเลย ขอเพียง เศษทรายเพียงเล็ก ๆ น้อยกองไว้อยู่ตรงนั้น เพียงแค่นั้นฉันก็พอใจแล้ว
จากคุณ :
invisible_TJ
- [
วันภาษาไทยแห่งชาติ 21:10:44
]