หากจะรักอีกสักครั้ง / ภาคพิเศษของ คือความรักในใจ(เก็บไว้เพียงเธอ) ตอนที่ 2

    ตอนที่ 2

    เมื่อคามิและนันท์นทีเดินเข้าไปยังตัวบ้านนั้นปรากฏว่านิลกานต์กำลังยกจากกับข้าวมาวางที่โต๊ะอาหารที่จัดไว้หน้าระเบียงบ้าน เมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามาเธอก็ส่งยิ้มหวานมาให้ ทำให้ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ตอบ

    “คามิมาช้าจัง” เธอเอ่ยปากบอก

    “ก็นายนันท์นะซิ มัวแต่เห่อของฝากยังกะเด็ก ๆ” คามิฟ้องทันที แต่คนโดนฟ้องก็โวยกลับเหมือนกัน

    “อะไรฟ่ะ นายอาบน้ำช้าเองนะ มาโทษกันได้ไง”

    “ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็มาช่วยนิลยกกับข้าวออกมาก่อนเถอะพี่นันท์” หญิงสาวลากแขนคนเป็นพี่ชายเข้าไปในครัวทันที ส่วนคามินั้นเดินตามมาอย่างสบายอารมณ์

    “นิล นี่ของฝากของนิล แล้วก็นายน้ำน่ะ ส่วนของนายนนท์ กับ นายนัฐ พี่วางไว้ตรงนี้เลยนะ เขียนชื่อไว้ให้แล้ว” คามิบอกพร้อมวางของทั้งหมดไว้ตรงเคานเตอร์  เสียงหญิงสาวตะโกนออกมาจากในครัวด้านหลัง

    “ขอบคุณค่ะคามิ นี่ ๆ น้ำผลไม้ที่คามิชอบนะนิลทำวางไว้ด้านนอกแล้วนะ ไปตักเองก่อนนะขอทำกับข้าวอีกสองสามอย่างแล้วยืมตัวพี่นันท์ไว้ด้วย”

    “จ๊ะ ไม่ต้องรีบหรอก” แล้วคนพูดก็เดินออกไปยังเทอเรซด้านนอกที่หญิงสาวจัดโต๊ะอาหารไว้อย่างน่ารัก

    ยังไม่ทันที่แก้วน้ำที่บรรจุน้ำผลไม้สีสวยจะหมดแก้วแรก หญิงสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์ ด้านในใส่เสื้อแขนกุดสีขาวไว้ ผมซอยสั้นติดต้นคอ หากดวงหน้าหวาน ๆ นั้นยิ้มแย้มอยู่กับคนที่เดินตามเข้ามา นายนัฐธพงษ์ น้องคนสุดท้องของบ้าน

    และไม่นานนัก หญิงสาวผมยาวสลวย ดูเก๋ในชุดสูทสีครีมก็โผล่เข้ามาพร้อมกับพี่ชายคนโตของบ้าน ซึ่งคราวนี้เองที่ไอ้คนที่บรรยาลักษณะก็โผล่ยกอาหารออกมาพอดีกับที่หันมาสบตาชายหนุ่มแถมยังยักคิ้วหลิ่วตาให้คล้ายจะถามในทีว่า

    ….เป็นไงเหมือนที่ข้าบรรยายไหมล่ะ… นั่นแหละทำให้คามิยิ้มออกมาที่มุมปากเพราะไม่ต้องเสียเวลาในการที่จะรู้ว่าใครเป็นใครในทันที

    หากแต่เมื่อหญิงสาวผมยาวที่เดินควงมากับหญิงสาว ที่ดูจะไม่ใช่สาวมากนักเพราะออกจะเหมือนเด็กผู้ชายเสียมากกว่าหากแต่สายตาคู่คมก็ตวัดมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ที่มุมเทอเรซก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบอะไรกับเพื่อนสาวคนข้าง ๆ

    “อ้าวฟาง ไต้ฝุ่นมาแล้วเหรอ” เสียงนิลกานต์ทักขึ้นพร้อมกับเดินออกไปจูงมือเพื่อนสาวทั้งสองเข้ามา

    “นี่เพื่อน นิลค่ะ นี่ฟาง แล้วนี่ฝุ่นค่ะ” นิลแนะนำพร้อมกับหญิงสาวและหญิงที่ดูจะไม่ใช่หญิงสาวจะยกมือไหว้ ชายหนุ่มรับไหว้พร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก ก่อนที่ทั้งสองสาวจะถูกนิลกานต์ดึงเข้าไป เสียงเธอก็แว่วมาพอได้ยินว่า

    “ไต้ฝุ่นออกมาจากเกาะเมื่อไร”

    “เมื่อวานฮะ แล้วนี่พี่นิลทำไรทานบ้างล่ะ แล้วลุงน้ำล่ะ”  เสียงเล็ก ๆ นั่นถามแต่คำตอบจะเป็นอะไรคามิไม่รู้แล้ว เพราะถูกนนท์แนะนำสาวสวยของตัวเองยืนอยู่ข้าง ๆ นั่นเอง

    “แล้วไปไงมาไง ฝุ่นถึงมากับฟางได้ล่ะ”

    “ก็พี่ฟางโทรไปบอกว่าพี่นิลมีเลี้ยงนี่ฮะ เลยอยากมาฝากท้องไว้สักมื้อ กะว่าจะมาเจอลุงน้ำด้วย หุ…หุ.” คนตอบหัวเราะเจ้าเล่ย์

    “นี่ยัยฝุ่นเมื่อไรจะเรียกพี่น้ำเค้าว่าพี่น้ำเสียที ไปเรียกเค้าว่าลุงอยู่ได้ เดี๋ยวพี่นิลเค้าก็ไล่กลับเกาะเสียหรอก” ฟางซึ่งยืนฟังอยู่นานได้โอกาสแขวะคนเป็นน้องต่างแม่ทันที

    “อ้าว พี่ฟาง ก็ลุงน้ำน่ะ ชอบทำตัวเหมือนคนแก่นี่ฮะ ชวนไปเที่ยวกลางคืนก็ไม่ยอมไป สงสัยกลัวพี่นิลมั๊ง…”

    “นี่แน่!!!…” แล้วกำปั้นน้อยๆ ก็ถูกทุบลงบนหัวเล็ก ๆ ที่มีผมสั้นติดแค่คอ ก่อนที่คนโดนทุบจะโวยวายเหมือนเจ็บเสียเต็มประดาแล้วก็วิ่งไปรอบ  ๆ บ้านทันที

    “พี่นัฐ ช่วยด้วย พี่ฟางจะฆ่า ฝุ่นแล้ว พี่นนท์ พี่นันท์ ช่วยด้วย !!!!!” หญิงสาวนามไต้ฝุ่นนั้นวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังทุกคนที่เธอเรียกให้ช่วยนั่นแหละ และโดยไม่ทันได้สังเกตคนสุดท้ายที่เธอวิ่งไปคว้าแขนไว้ หลบอยู่ด้านหลังคนที่เธอเข้าใจว่าเป็นหนี่งในพี่ชายทั้งสามของบ้านนี้

    “พี่นันท์ ศักดิ์สิทธิ์ จริงแฮะ พี่ฟาง ไม่กล้าตีฝุ่นเลยอ่ะ” ไต้ฝุ่นหัวเราะกับอาการชะงักไปชั่วคราวของพี่สาวต่างมารดา โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าที่เธอชะงักการประทุษร้ายน้องสาวตัวเองนั้นเพราะเหตุใด

    “นี่ ๆ พี่นันท์ คราวหน้าคราวหลังถ้าฝุ่นโดนประทุษร้ายอีก ยืมชื่อหน่อยนะ ดูสิพี่ฟางตัวแข็งหน้าแดงเชียว หุหุ… เนอะพี่นันท์ เนอะ” หากเมื่อเงยหน้าขึ้นตาคู่สวยคมก็ถูกจ้องตอบด้วยตาคู่รีที่ภายในดวงตาตอนนี้เหมือนกำลังยิ้มให้เธอ ทั้ง ๆ ที่หน้าตาไม่ได้ยิ้มไปกับตาเขาด้วยเลย

    ไต้ฝุ่น รีบปล่อยมือที่ขยำแขนเสื้อคนที่เธอเข้าใจว่าเป็นพี่นันท์ก่อนจะทำใจดียิ้มสู้แล้วบอกเสียดังฟังชัดว่า

    “ขอโทษฮะ ฝุ่นคิดว่าเป็นพี่นันท์ ไต้ฝุ่นฮะไต้ฝุ่น พี่ชื่อไรฮะ”

    “คามิครับ” เสียงนุ่มตอบเรียบ ๆ

    “ไอ้ฝุ่นซนเป็นลิงอีกแล้วนะเราอายุจะ 25 อยู่แล้วเล่นไม่รู้เรื่อง สวัสดีครับคามิ สบายดีไหม” เสียงทุ้มที่ดังมาจากประตูหน้าบ้านคือชายหนุ่มผมยาวประบ่าหน้าตาที่คมเข้มและดวงตาดุนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไร ชายหนุ่มวางหมวกกันน็อคลงบนเคาเตอร์ก่อนจะเดินเข้ามาสมทบ

    “ลุงน้ำ” เสียงใสๆ เรียกก่อนจะกระโดดผลุงเข้าไปยืนอยู่ใกล้ ๆ

    “เฮ้ย…เฮ้ย ข้ายังไม่แก่ขนาดนั้น แล้วนี่แกล้งอะไรพี่ฟางอีกล่ะ ซนเป็นลิงเลยนะเราไม่เปลี่ยน ดีแล้วที่ส่งไปทำงานบนเกาะ” น้ำเขย่าหัวคนข้าง ๆ อย่างเอ็นดู

    “หวัดดีครับ คุณน้ำท่าทางสบายดีนี่ครับ งานเป็นไงบ้างครับ”

    “เรื่อย ๆ ครับ แล้วคราวนี้ คามิจะมาอยู่สักกี่ปีล่ะครับ นิลบ่นถึงอยู่บ่อย ๆ ว่าอยากให้กลับมาประจำบริษัทที่นี่เสียที”

    “เอ้า เผาอะไรนิลจ๊ะ พี่น้ำมาตั้งแต่เมื่อไรนิลไม่ได้ยินเสียงรถเลย” หญิงสาวคนที่ถูกพูดถึงยกจากกับข้าวจานสุดท้ายออกมาวาง ก่อนจะเดินไปยืนข้าง ๆ คนที่เป็นสามี

    “เปล่าจ๊ะ แล้วนี่ยัยแสบเค้าทำอะไรฟางอีกล่ะ”

    “ก็แหย่ฟางตามเคยล่ะค่ะ นี่ก็ไปให้คนช่วยผิดนึกว่าเป็นพี่นันท์ ไปคว้าเอาคามิเข้าน่ะจ๊ะ” นิลเล่าขณะที่เดินมายังโต๊ะอาหาร ปล่อยให้โจทย์ กับ จำเลย นั้นยืนคุยกันสองคน

    “ไต้ฝุ่นขอโทษนะฮะ ที่เข้าใจผิดว่าเป็นพี่นันท์”

    “ไม่เป็นไรครับ”

    “พี่คามิ มาทำงานอะไรที่นี่เหรอฮะ”

    “พี่มาทำงานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ครับ online กับดาวเทียม ไต้ฝุ่นรู้จักไหมครับ”  ดวงหน้าสวยหวานนั้นจ้องแป๋วแล้วพยักหน้ารับเหมือนจะเข้าใจก่อนคนตอบจะเอ่ยถามต่อไปว่า

    “แล้ว ไต้ฝุ่นล่ะ ทำงานอะไร”

    “ฝุ่นทำงานกับลุงน้ำฮะ เป็นช่างภาพให้ลุงน้ำ ฝุ่นจบมาคณะเดียวกันกับลุงเค้าเป็นรุ่นน้องลุง แล้วก็ดันเป็นน้องสาวเพื่อนสนิทพี่ฟางด้วยก็เลยได้ทำงานที่ฝุ่นอยากทำพอดีเลย นี่ฝุ่นก็เพิ่งกลับมาจากหมู่เกาะสุรินทร์เมื่อวานนี่เองฮะ ตัวเลยดำเป็นถ่านไปหน่อย” เจ้าตัวหัวเราะพร้อมกับโชว์ฟันขาวสวยเรียงกันได้ระเบียบ

    “ฝุ่นเก่งจัง”

    “พี่คามิสิเก่งกว่า ได้ยินพี่นิลเล่าให้ฟังว่าพี่คามิไปประจำตั้งหลายประเทศ สนุกไหมพี่”

    “เหนื่อยปนสนุกครับ” เสียงตอบเรียบ ๆ หากหญิงสาวคนข้าง ๆ จับความเหว่ว้าที่ปนอยู่ในน้ำเสียงได้ถนัด จนเผลอมองจนคนที่ถูกมองรู้สึกตัวทันที

    “มองอะไรครับ หน้าพี่มีอะไรแปลกเหรอ”

    “เปล่าฮะ เพียงแค่รู้สึกแปลก ๆ กับคำตอบของพี่คามิ เสียงพี่มันบอกว่าพี่กำลังเหงา” คนพูดตอบตรง ๆ ตามนิสัยหากแต่คนรับฟังนิ่งไปเพราะไม่นึกว่าเธอจะจับความรู้สึกที่เจ้าตัวกำลังพยายามเก็บไว้อย่างมิดชิดได้

    “หึ…หึ…เค้าว่าพวกช่างภาพเนี่ยะมักมีสายตาที่พิเศษ แต่ไต้ฝุ่นดูจะมีหูที่พิเศษด้วยนะ” คามิเอ่ยปากพูดทำให้คนข้าง ๆหัวเราะร่วนอย่างถูกใจ

    “ไม่ใช่หรอกฮะ ก็เสียงพี่กับสายตาพี่มันฟ้องออกมาเต็ม ๆ นี่ฮะไปฮะ ไปกินข้าวเถอะพี่นิลรอแล้ว” แล้วไต้ฝุ่นคนที่ง่าย ๆ กับชีวิตและทุกอย่างก็คว้าข้อมือคนที่เพิ่งจะรู้จักเดินไปโต๊ะทานข้าวที่มีทุกคนรออยู่

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑  *--* ^----^ *--*๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 46 09:55:43

    จากคุณ : เปียร์รุส - [ 30 ก.ค. 46 09:54:47 ]