นิยายรัก...อย่าให้เขารู้(15)

    15.จะจบแบบไหน

    “ปิ่น ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” คทาพูดขึ้นอย่างอึดอัด ขณะที่เรานั่งรับประทานของว่างตอนเย็นตามปกติเหมือนทุกวัน ดูเหมือนเขาจะรอเวลาอยู่นาน ช่างใจเป็นร้อยหน ถอนหายใจ เป็นสิบๆ ครั้ง ความรู้สึกเขาตอนนี้ เท่าที่ถ่ายทอดออกมาทางกิริยา มันบ่งบอกถึงความสับสน ว้าวุ่นใจมากๆ ก่อนจะพูดประโยคนี้ได้
    “คะ ว่าไงคะ” ฉันตอบด้วยท่าทางปกติ ฉันตัดสินใจได้แล้ว อะไรจะเกิดมันต้องเกิด ความจริงก็คือความจริง ฉันจะไม่หนีไปไหนอีกแล้ว ฉันต้องยอมรับในสิ่งที่ฉันกระทำ เมื่อคนเราค้นหาคำตอบของตัวเองได้แล้ว หาจุดสิ้นสุดได้แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลต่อไป นี่คงเป็นความสุขที่แท้จริงครั้งแรกหลังจากฉันเริ่มมีความลับ
    “ผม….เอ่อ…ผม” เขาพูดตะกุกตะกักครั้งแรก เท่าที่ฉันเคยเห็นมา เหมือน
    “พูดมาเถอะค่ะคทา ปิ่นพร้อมจะตอบทุกคำถามนั่นแหล่ะค่ะ” ฉันพูดด้วยความมั่นใจ
    “คุณรู้เหรอครับว่าผมจะถามอะไร” คทาทำเสียงประหลาดใจ ฉันส่ายหน้าช้าๆ

    “เฮ่อ..” เขาถอนหายใจ พร้อมพ่นลมออกจากปากยาว เหมือนรวบรวมกำลังทั้งหมด
    “คุณรู้จักปีนเกลียวใช่ไหม” คทาถามในที่สุด
    “ค่ะ ปิ่นรู้จักปีนเกลียวค่ะ” ฉันตอบอย่างชัดเจน
    “เออ..คุณสนิทกับเขามากใช่ไหม” เขาถามอีกครั้ง หลังจากเงียบไปนาน
    “ค่ะ สนิทกันมาก คุณทราบได้ยังไงคะ“ ฉันตอบอีกครั้ง ใจเต้นระทึก
    “ก็ผมเจอชื่อต้นฉบับที่ ปีนเกลียว เขาเขียนให้ผม ในเครื่อง” ฉันแทบจะสลบตรงนั้น ตายล่ะ ฉันนี่แย่จริงๆ ทิ้งร่องรอยไว้จนได้ ความแตกก็จะโทษใครได้ล่ะเนี่ย
    “ค่ะ คือ….ความจริงคือว่า…..” ฉันพยายามนึกคำอธิบายดีๆ
    “ปิ่น ผมไม่ได้จะมาคาดคั้นเอาความจริงอะไรกับคุณ ผมไม่ได้โกรธคุณที่คุณปิดบังเรื่องที่รู้จักสนิทสนมกับปีเกลียว เพียงแต่ผมอยากให้คุณคุยกับเขาหน่อยในฐานะเพื่อนสนิท ยอดขายของ โพสท์ โมเดิร์นดีมาก แถมจดหมายก็มีเข้ามามากมายเหลือเกิน ผมอยากคุยกับเขาว่า จะมีทางที่เขาจะเขียนเรื่องส่งให้ โพสท์ โมเดิร์น ได้ไหม” คทาทำหน้าขัดเขิน ฉันอ้าปากค้าง สับสนไปหมด มารู้สึกตัวอีกที ตอนคทายื่นมือมาจับมือฉันไว้
    “คะ ค่ะ ค่ะ แต่ว่า ไม่ทราบว่าสามีเขาจะว่าอะไรไหมนะคะ เพราะปีนเกลียวเขาแอบสามีเขียน ถ้าจะต้องส่งให้ อรด้วย ส่งให้คุณด้วย เขาจะมีเวลาดูแลสามีหรือคะ” ฉันหยั่งเชิง ยิ้มกริ่ม กรุ่นสุขอย่างบอกไม่ถูก
    “ผมก็ไม่ได้ให้เขาเขียนประจำนะครับ ผมแค่อยากให้เขาเขียนซัก 3-4 เดือนครั้งน่ะครับ แบบเป็นนิยายแนวที่เขาถนัดก็ได้ หรือชีวิตประจำวันของเขา ผมว่าเรื่องเขาน่าสนใจ คนเขียนมาถามกันเยอะเลย ว่า สามีเขารู้เรื่องหรือยัง รู้แล้วทำยังไง หรือ เขามีวิธีอะไรบ้างที่ทำให้สามีไม่รู้ “ คทาพูดด้วยเสียงตื่นเต้น เหมือนเขาเองก็สนุกเพลิดเพลินกับเรื่องนี้ไม่ใช่น้อย
    “เออ..คทาคะ” ฉันกระเถิบเข้าไปใกล้สามี ทำตาออดอ้อนสุดชีวิต
    “ว่างไงครับ” เขาหันมาหอมหน้าผากของฉันเบาๆ
    “ในฐานะที่คุณเป็นผู้ชายคนนึง คุณว่า สามีของปีนเกลียวเขาจะว่าไหมคะ ถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้า” ฉันเรียบเคียงถาม
    “อือ พูดอยากนะครับ จากที่ผมอ่านเรื่องของเขา สามีเขาชอบผู้หญิงเรียบร้อย เป็นแม่บ้าน เขาก็อาจจะไม่ค่อยยินดีนักเมื่อรู้ว่า ภรรยาแสนน่ารักของเขาออกไปทำอะไรมากมายขนาดนั้น แต่ถ้าสามีเขาเป็นคนใจกว้างบอกก็จะต้องยินดีในความสำเร็จของภรรยา “ คทาหันมาลูบแก้มฉันเบาๆ
    “เหรอคะ ดีจัง” ฉันโดด หอมแก้สามีอย่างลืมตัว


    คำถามที่ 3 เมื่อไหร่จะมีผลงานต่อไป และจะออกมาแนวไหน

    แหมคำถามนี้ เป็นคำถามที่ ฉันคงฉันต้องยอมรับว่าตอบได้ยากที่สุด เท่าที่มีคนถามมา แต่ก็เป็นคำถามที่ฉันเองก็เคย เอ่ยปากถามตัวเองเสมอๆ เหมือนกัน

    หลังจากที่ฉันเขียนหนังสือไปได้ 3 เล่ม และทุกเล่มได้รับการต้อนรับอย่างดีจากแฟนๆ หนังสือ ทั้งขาประจำ และจำนวนแฟนหนังสือใหม่ๆ ก็เพิ่มมากขึ้นทุกที อรก็โทร.สายด่วนมานัดให้ฉันไปเจอที่ ร้านประจำ


    “นี่เธอ เมื่อไหร่จะคลอดยะ งานของเธอน่ะ แฟนๆ เขียนจดหมายมาถามกันจ้าละหวั่นแล้วนะ” อร เข้ามาถามฉันในวันหนึ่ง หลังจากงานชิ้นที่ 3 ของฉันติดลมบนตามความคาดหมาย และจำนวนยอดพิมพ์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งยอดเงินในบัญชีของฉันด้วย ซึ่งปีนี้ฉันคงมีเงินมากพอที่จะซื้อของพิเศษให้สามี ไม่ใช่เพราะสามีของฉันเป็นคนตระหนี่ แต่เพราะฉันไม่อยากให้เขารู้ว่า ฉันจะซื้ออะไรให้เขาเป็นพิเศษ
    “โอ๊ย ไม่ได้หรอกนะอร ตอนนี้ เขากลับบ้านเร็วทุกวัน และก็ดูเหมือนเขาเริ่มระแคะระคายบ้างแล้ว งานเขาก็เริ่มวนเวียนเข้าใกล้ตัวฉันมากขึ้นทุกทีแล้วนะ” ฉันตอบอย่างกังวลใจ
    “เหรอ ตายๆๆ งั้นเอาไว้ก่อนๆ รอให้เรื่องต่างๆ สะดวกกว่านี้ก่อนดีกว่าเน๊อะ” เพื่อนรักรีบสนับสนุน เห็นผลจากเหตุการณ์จริงของฉัน
    “แต่จริงๆ ฉันคิดไว้แล้วนะว่าจะเขียนเรื่องอะไร รับรอง งานนี้สะใจวัยรุ่น หอมหกรุ่นกลิ่นรัก หักมุมสุดๆ” ฉันแย้มแนวเรื่องต่อไปให้เพื่อนฟังอย่างสนุกสนาน เวลาคิดถึงการเขียนหนังสือทีไร ฉันมักมีความสุขมากๆ และรู้สึกสนุกทุกครั้ง
    “แล้วถ้าเขาจับได้ซะก่อนล่ะ” อร ทักขึ้นมา เหมือนความฝันทุกอย่างพังทลายลงทันที
    “นั่นสิ เฮ่อ…” ฉันถอนใจเสียงดังที่สุดเท่าที่ทำได้
    “เอาเถอะๆๆ ฉันจะช่วยสวดมนต์ ให้เธอได้ทำงานที่ชอบไปเรื่อยๆ นะ” อร พูดล้อเล่น อย่างจริงใจ ซึ่งฉันสามารถ สัมผัสได้ถึงความจริงใจนั้น
    “นั่นสินะ เฮ่อ…..หรือเล่มหน้าฉันจะต้องเขียนเรื่องเศร้าก็ไม่รู้สินะ” ฉันกับเพื่อนถอนหายใจพร้อมกัน

    จากคุณ : วรา - [ 31 ก.ค. 46 12:48:07 A:202.133.164.149 X: ]