.................ณ ยามสายัณห์................ (เรื่องแรกที่ลองเขียนลงดู อ่านแล้วช่วยกันวิจารณ์หน่อยนะครับ) ^^

             ..................
             ท่ามกลางราตรีที่มืดมิด มีเพียงแสงดาวเล็กน้อยที่ส่องประกาย หญิงสาวผู้หนึ่งกำลังนั่งนิ่งแหงนหน้ามองไปยังเบื้องบน แววตาของเธอดูเศร้าอย่างชัดเจน แต่ภายในดวงตาคู่นั้น ก็ยังคงทอประกายแห่งความมุ่งมั่นอย่างเข้มแข็ง ราวกับพร้อมที่จะนับดาราทุกดวงบนท้องนภาแห่งนี้
              ..................

             ณ ยามสายัณห์
             รวงข้าวสีทองปลิวไหวไปตามแรงลม เป็นสัญญาณบอกถึงฤดูกาลของการเก็บเกี่ยว...

              เสียงกระเดื่องตำข้าวดังกราวไปทั่วบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง  วันนี้เป็นวันเก็บเกี่ยวของบ้านคณา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนในหมู่บ้านจะมาชุมนุมกัน ณ ที่แห่งนี้เพื่อช่วยกันลงแขก คณามองไปยังชาวบ้านที่กำลังช่วยกันตำข้าวพร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนานร่าเริง  จนเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว หัวใจของเธอพองโตไปตามจำหวะของเสียงกระเดื่องที่ตำลงไป
           
              ...ความสุขที่เกิดขึ้นอย่างง่ายๆ ด้วยน้ำใจที่มอบให้แก่กันและกัน...อย่างที่พี่แคนบอก...

              “เหม่ออะไรอยู่ คณา...ส่งกระด้งมาให้พี่เร็ว”

               คณารีบหันขวับไปยังต้นเสียงพร้อมทั้งรีบส่งกระด้งและยิ้มเขินๆให้  เจ้าของเสียงรีบรับกระด้งไป ....พี่แคนนั่นเอง แคนอายุแก่กว่าคณาสองปี พี่แคนเป็นคนใจดี และเป็นพี่ชายที่แสนดีของคณามาตลอด  เมื่อคณาถูกพวกเด็กผู้ชายแกล้ง พี่แคนคนนี้ก็จะโผล่เข้ามาและปกป้องคณาทุกครั้งไป ตอนที่คณามีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนสนิท ก็มีพี่แคนที่คอยช่วยให้คำปรึกษาปลอบใจ  และก็เป็นพี่แคนอีกนั่นเอง ที่บอกคณาว่าเมื่อเห็นดาวตกถ้าเราสามารถอธิษฐานสิ่งที่เราปรารถนาติดๆกันสามครั้งได้ สิ่งนั้นก็จะเป็นจริง  ตั้งแต่คราวนั้น ทุกครั้งที่คณาเห็นดาวตก คณาก็จะต้องรีบอธิษฐานเป็นทุกครั้งไป
              พี่แคนรักที่นี่มาก พี่เคยพูดให้คณาฟังบ่อยๆเกี่ยวกับพวกหนุ่มสาวของหมู่บ้านในปัจจุบันที่พากันออกไปทำงานที่เมืองกรุง พี่แคนบอกว่าพี่ไม่ชอบคนพวกนี้เลย คนพวกนี้เลือกที่จะหาความเจริญโดยละทิ้งบ้านเกิดของพวกเขา และส่วนใหญ่ เมื่อไปอยู่ในเมืองกรุงแล้ว ก็มักจะหลงไปในแสงสีของเมืองกรุงจนลืมแสงดาวแสงจันทร์ของบ้านเกิด  พี่แคนเคยบอกกับคณาว่า สิ่งที่พี่แคนต้องการมากที่สุดคือให้คนเหล่านี้เลิกคิดที่จะไปแสวงหาความเจริญในเมืองกรุง  แต่เลือกที่จะอยู่รับความสุขที่อยู่ใกล้ตัวของบ้านเกิดและคอยสืบสานประเพณีของผู้แก่ผู้เฒ่าต่อไป
           
               “แม้มันจะดูธรรมดาเหลือเกิน แต่นี่แหละ ความฝันของพี่”
              คณาเองก็ภูมิใจในความฝันนั้นของพี่เช่นกัน แม้บางคนอาจจะบอกว่ามันช่างเป็นความฝันที่ไม่เหมือนความฝันเอาเสียเลย  แต่เท่าที่คณาเห็นจำนวนหนุ่มสาวในชาวบ้านที่กำลังลดลงอย่างน่าใจหาย คณาก็อดที่จะกังวลใจไม่ได้ว่า ความฝันของพี่แคนจะไม่มีวันเป็นจริง





             ..................
              ดวงดาวบนท้องฟ้าในคืนเดือนนี่ดูสวยเหลือเกิน  ตอนนี้คณากำลังรอ.....รอดาวตกซักดวงอยู่.....
              ..................

              “พี่ตัดสินใจแล้ว ...พี่จะไปกรุงเทพฯ....”
              คณาหันขวับไปยังต้นเสียงอย่างไม่เชื่อหู  เธอมองตรงไปยังดวงตาคู่นั้นของพี่ชาย พลางจ้องพินิจดูว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นใช่พี่ของเธอแน่หรือ  ..... พี่แคนจะไปกรุงเทพฯ ..... ทั้งๆที่พี่บอกมาตลอด ว่าความฝันของพี่ คือการให้คนหนุ่มสาวทุกคนอยู่ที่บ้านเกิด ไม่ไปแสวงหาความเจริญที่กรุงเทพฯนี่
              ...คณาไม่เข้าใจ... ทำไม...
              ทั้งๆที่คนตรงหน้าพยักหน้ายืนยันคำพูดที่พึ่งจะพูดไป แต่คณากลับหันหลังมองไปยังพ่อและแม่เพื่อให้ทั้งคู่ช่วยยืนยัน ว่าคณาไม่ได้หูฝาด  แต่ก็ต้องได้รับคำตอบที่ไม่ต้องการกลับมา สิ่งที่พี่แคนพูดเป็นความจริง ความจริงที่โหดร้ายเหลือเกินสำหรับคณา
             ...ทำไมกันล่ะ?...ถ้าคณาไม่ได้หูฝาด...
             ...พี่แคน...กำลังจะไป...ไปกรุงเทพฯ...ที่ที่พี่แคนไม่อยากให้คนอื่นไปมากที่สุด...
             ..หรือคณากำลังฝันอยู่?...


              ..................
              ดวงดาวบนท้องฟ้ายังคงทอแสงระยิบระยับเป็นประกาย คณามองไปยังดาวดวงหนึ่ง ที่กำลังกระพริบ ไม่นานนักแสงของมันก็ค่อยๆดับไป.....
             ..................


             “พี่ไม่ได้อยากไป ไม่ได้อยากทำลายความฝันของพี่ แต่มันเป็นความจำเป็น”
             อะไรล่ะคือความจำเป็นของพี่ คณาไม่เข้าใจ  อะไรคือความจำเป็นที่ทำให้ความฝันของพี่นั้นถูกทำลาย เหมือนกับแสงของดาวดวงนี้ ที่กำลังเลือนหายไป
             
             ...แล้วแสงอันสดใสนั้นจะกลับคืนมาอีกไหม...



             ..................
             แสงแสงหนึ่งวูบผ่านอย่างรวดเร็วบนฟากฟ้า
    ...ใช่...นั่นคือสิ่งที่เธอกำลังรอคอย...ดาวตก...
             ..................
             ขอให้ฝันของพี่เป็นจริง.... ขอให้ฝันของพี่เป็นจริง...ขอให้ฝันของพี่....
             ..................



             ...น้ำอุ่นๆค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองของเด็กสาว...
             ดาวตกอาจจะปฏิเสธคำอธิษฐานนี้ แต่ไม่เป็นไร คณาจะทำให้ความฝันของพี่แคนเป็นจริงเอง



             “เพื่อให้ยามสายัณห์ ในวันเก่าๆคืนกลับมา”


             ..................
             ณ ยามสายัณห์ตะวันยิ่งย้อย  แน่ะเร่งเท้าหน่อยทะยอยเหยียบหนา
    ตะแล้กแต้กแต้กจะแหลกแล้วจ้า  กระด้งรีบมาเถอะรับข้าวไป
               คณาเนื้อนวลก็ครวญคลอขับ ระริกแคนรับสลับเสียงใส
    กระเดื่องตำข้าวก็กราวเสียงไกล  สนุกน้ำใจสมัยสายัณห์
               ตะแล้กแต้กแต้กตะแล้กแต้กแต้ก กระเดื่องดังแทรกสำรวลสรวลสันต์
    มินานนักข้าวก็เปลือกร้าวพลัน  บุรุษรีบดันกระด้งส่งมา
               ประเพณีไทยสมัยก่อนเก่า  ก็คงมีเค้าจะเนานานถ้า
    ดรุณลูกหลานสถานท้องนา   สมัครรักษาขนบธรรมเนียม
             ..................

    จากคุณ : กังหันน้อย - [ 31 ก.ค. 46 20:21:11 A:203.113.36.8 X: ]