หากจะรักอีกสักครั้ง / ภาคพิเศษของ คือความรักในใจ(เก็บไว้เพียงเธอ) ตอนที่ 3

    ตอนที่ 3

    หลังจากวันที่เลี้ยงต้อนรับคามิไม่นาน เจ้าไต้ฝุ่นที่เคยติดเป็นเงาตามตัวของ น้ำ ก็เป็นอันสลายตัวไปเกาะติดอยู่กับคามิแทน ซึ่งเจ้าตัวดูจะมีความสุขดีเพราะมีคนคอยมาหงุงหงิง หงุงหงิง ข้าง ๆ โดยนิสัยของคามิแล้วนั้นไม่ค่อยจะมีอะไรกับใครเขานัก เจ้าตัวเป็นคนเงียบ ๆ เฉย ๆ ไม่ค่อยพูดจาหากไม่จำเป็น และจะพูดมาขึ้นมาหน่อยกับคนที่คุ้นเคย แต่ก็แปลกสำหรับหญิงสาวที่ชื่อไต้ฝุ่นคามิกลับมีเรื่องพูดกับเธอมากมาย อาจเพราไต้ฝุ่นเองเป็นคนช่างซักช่างถามก็เป็นได้ และอุปนิสัยก็ตรงกับชื่อเจ้าตัวโดยแท้

    “พี่คามิ พี่คามิ” หญิงสาวผมสั้นตัดติดต้นคอวิ่งกระหืดกระหอมเข้ามาหาถึงในห้องทำงานของบริษัท และก็มาหยุดยืนหอบอยู่ตรงหน้าจนชายหนุ่มยืนแก้วน้ำให้เธอคว้าไปดื่มรวดเดียวหมดก่อนจะถอนหายใจยาว

    “มีไร ไต้ฝุ่น ทำไมเหนื่อยอย่างนี้ล่ะ”

    “ก็ลิฟท์มันเสีย ฝุ่นก็เลยวิ่งขึ้นมากลัวพี่หนีกลับไปก่อนนะฮะ” ชายหนุ่มหรี่ตามองลอดแว่นสายตาก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ ๆ ว่า

    “เมื่อไรจะเลิกใช้คำว่า ฮะ เสียที ไต้ฝุ่น ฟังแล้วมันไม่รื่นหูเอาเสียเลย”

    “แหม พี่คามิ ก็ก็มันติดนี่ฮะ” พอหลุดคำสุดท้ายออกมาก็ยิ้มแห้ง ๆ เขิน ๆ จนคนฟังส่ายหัว

    “ไหนลองพูดจ๊ะ จ๋า ค่ะ ขา หน่อยสิ”

    “ไม่เอาอ่ะ อายปาก ฝุ่นไม่เคยนี่พี่” คนพูดวางกระเป๋ากล้องถ่ายรูปลงบนโต๊ะทำงานชายหนุ่ม คามิมองก่อนจะถามว่า

    “ไปทำงานที่ไหนมาวันนี้”

    “สะพานลอย แถว มาบุญครองพี่ ลุงน้ำแกอยากได้วิถีชีวิตผู้คน ก็เลยสัญจรไปถ่ายมาให้แกเสียหน่อย เผื่อจะได้ไปกลับไปเกาะอีก” คราวนี้ตาคนพูดมีรอยฝัน ๆ จนคนฟังรู้สึกใจหายชอบกล

    “เกาะ…???”  ดวงตายาวรีฉายแววคำถามจนอีกฝ่ายรีบตอบทันที

    “ฮะ เกาะด้ามขวาน ที่กระบี่ฮะ นี่ลุงน้ำกำลังวางโปรเจคจะไปถ่ายภาพใต้น้ำที่นั่น ฝุ่นอยากไปด้วยแต่ไม่รู้ว่าลุงน้ำจะให้ไปด้วยอ่ะเปล่า เพราะงานนี้มีแต่พวกมือโปรไปกัน” คนพูดหยิบโน่นหยิบนี่บนโต๊ะคามิเล่นตามประสาคนมือไม่อยู่สุข

    “อยากไปขนาดนั้นเชียว” คนฟังเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงานถามสบาย ๆ ดวงตาส่งประกายวะวิบวับจนคนฟังต้องหลบสายตาเมื่อหันไปเจอเข้า

    “ก็อยากฮะ อยากไปดำน้ำดูปลา เห็นลุงน้ำบอกว่า ใต้น้ำที่กระบี่ก็สวยไม่แพ้หมู่เกาะสุรินทร์ หรือ สิมิลัน  เลยอยากไปดูสักทีแล้วที่ว่า ๆ มา ก็ไปมาหมดแล้วด้วยฮะ”

    “คงได้ไปหรอก   เราเองก็ฝีมือไม่เบานี่น่า ไต้ฝุ่นอีกอย่างเราก็น่ารักจะตายน้ำคงไม่ใจดำไม่ให้ไปด้วยหรอก ” พอได้ยินคำชมจากปากชายหนุ่ม หญิงสาวที่ดูจะไม่ใช่หญิงสาวเท่าใดนักก็เกิดอาการอายม้วนเพราะเจ้าตัวเล่นเดินออกไปห้องน้ำเสียเฉย ๆ

    คามิรู้เพราะสังเกตเธอมาหลายอาทิตย์แล้วก็ว่าได้ ชายหนุ่มรู้สึกแปลก ๆ ทุกครั้งในวันที่ไม่มีเธอมาคอยป้วนเปี้ยนใกล้ ๆ และไม่ได้ยินเสียงหัวเราะและรอยยิ้มใส ๆ ปากแดง ๆ นั้น หรือว่าเขาจะติดใจแม่สาวคนนี้เข้าให้แล้ว คามิหัวเราะกับตัวเองเบา ๆ

    …คนบ้า มาชมกันต่อหน้า เราก็เขินหมดจิ… ไต้ฝุ่นพึมพำอยู่กับกระจกในห้องน้ำคนเดียว หญิงสาวมองตาคู่สวย ของตนในกระจก และก็เพิ่งรู้สึกว่า หน้ามันร้อนผ่าว ๆ อย่างแปลก ๆ อีกอย่างรอยตาระยิบระยิบในดวงตาของพี่คามิเองก็มีผลทำให้หน้าเธอร้อนผ่าว ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใคร

    “จะบ้าหรือฟ่ะยัยฝุ่น เป็นเอามานะเนี่ยะ แค่เค้าชมว่าน่ารักหน่อยเดียวเอง” เธอดุตัวเองอีกรอบก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้กระจกแล้วถอนหายใจอีกเฮือกแล้วเดินออกไป

    “พี่คามิ ฝุ่นหิวแล้วอ่ะ พี่เสร็จงานยังฮะ ไปหาไรกินกันฝุ่นเลี้ยงเอง” หญิงสาวทำเสียงดังกลบเกลื่อนร่องรอยขัดเขินที่ประทับอยู่เต็มหน้าไปหมด

    “ไปสิ พี่เสร็จแล้ว online ข้อมูลให้ทาง เมกา เรียบร้อยพอดี” คนตอบลุกจากเก้าอี้พร้อมกับหยิบเอกสารสองสามแผ่นทับไว้ด้วยที่ทับกระดาษคริสตันรูปเทพีเสรีภาพก่อนคว้าเสื้อนอกเดินตามหญิงสาวร่างบางออกไป

    ตลาดโต้รุ่งคืนนี้ผู้คนมากมายจริง ๆ อาจเพราะเป็นวันสิ้นเดือนและต่างคนต่างกำลังอยากจะใช้เงินของตนกันทั้งนั้น  ร้านอาหารที่คนทั้งสองหมายมั่นว่าจะไปกินจึงเต็มไปด้วยผู้คนจน หญิงสาวเริ่มหน้างอเพราะเสียอารมณ์บวกกับหิวด้วยนั่นเอง

    “ไปกินที่ร้านที่พี่รู้จักแถว ๆ นี้ดีกว่าจะได้ไม่ต้องรอ ดูท่าจะอีกนานกว่าจะได้กิน เราก็หิวมากแล้วไม่ใช่เหรอ” คนถามก้มหน้าถามเพราะหญิงสาวนั้นตัวเล็กแค่บ่าเค้าเท่านั้นเอง ดวงตาคู่สวยจึงเงยขึ้นมาสบตาพอดี ก่อนพยักหน้าหงึกงักตอบไป

    คามิคว้ามือเล็ก มากระชับไว้ในอุ้มมือโดยไม่รู้ตัว อาจเพราะความเคยชินก็เป็นได้ แต่คนที่รู้ตัวก็ไม่ได้ชักมือออกไป เพราะความรู้สึกแปลก ๆ มันแทรกเข้ามาเสียก่อนจนความรู้สึกหิวมันจางไป หญิงสาวเดินตามคนจูงที่พาเดินผ่าฝูงชนออกมาจนในที่สุดก็มาถึงลานจอดรถจนได้ เสื้อเชิ๊ตสีเหลืองอ่อน ด้านหลังเปียกไปด้วยเหงื่อ เค้ายังอุตส่าห์หันมายิ้มกับเธออีกจนได้

    “ไง หิวมากยัง”

    “หิวจนแทบกินช้างได้แล้วพี่คามิ” เธอแกล้งตอบกลบเกลื่อนร่อยรอยเขินที่กำลังจะเกิดขึ้นในหัวใจ

    “ไป ไป เดี๋ยวได้จะได้กินแล้วล่ะ” ชายหนุ่มก็จัดการพาเธอยัดเข้าไปในรถตัวเองก่อนจะพารถออกไปยังร้านอาหารใกล้ ๆ ที่ตอนขาเข้ามายังตลาดเขาเห็นว่ามันน่านั่งดี

    ร้านอาหารที่ใกล้ที่สุดของชายหนุ่มก็ใกล้จริง ๆ เพียงแค่เลี้ยวรถออกมาจากที่จอดรถของตลาดโต้รุ่ง ก็เจอกับร้านเล็ก ๆ ที่ตกแต่งร้านด้วยสไตล์สบาย ๆ เหมือนนั่งอยู่ในบ้านตัวเอง ทันทีที่กระดิ่งหน้าประตูกระจกที่ถูกผลักดังขั้น พนักงานในร้านก็ยิ้มทักทายคนที่เดินเข้ามาอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเลือกนั่งโต๊ะที่ติดกับสวนหย่อมเล็ก ๆ ที่จัดประดับประดาไว้ด้วยน้ำตกเล็ก ๆ และกอเฟรินสีเขียวสดซึ่งตอนนี้ทางร้านได้ใช้ไฟดวงเล็ก ๆ เปิดส่องจากด้านล่างน้ำตกขึ้นมา

    “ชอบไหม” อยู่ ๆ ชายหนุ่มก็หันมาถามหลังจากสั่งรายการอาหร สองสามอย่างไปเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวหันมาฉีกยิ้มเต็มที่ก่อนพยักหน้าหงึกงัก

    “เวลาผู้ใหญ่พูดด้วยนะ ต้องตอบรับ รู้ไหมไม่ใช่พยักหน้า” แถมสั่งสอนให้เสียอีก หญิงสาวเลยหุบยิ้มก่อนตอบเสียงดังฟังชัด

    “ชอบฮะ”

    “ฮะ ก็ไม่สุภาพ เปลี่ยนได้แล้ว พี่ขอซื้อได้ไหมคำนี้นะ”

    “พี่คามิก็ ฝุ่นติดปากแล้วนะ ฮ…..ะ” คำสุดท้ายคล้ายนึกได้เสียงจึงลงไปอยู่ที่ลำคอเป็นส่วนใหญ่ทำให้คนฟังแอบยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก

    “ดีแล้ว ต่อไปพี่ปรับคำละ 5 บาทนะ ฝุ่น” คนจะโดนปรับทำตาโตก่อนจะโวยวายตามประสา

    “อะไรพี่คามิขี้โกงนี่น่า ฝุ่นยังไม่ได้บอกว่าจะขายสักกะหน่อย มาปรับได้ไงอ่ะ”

    “นั่นแหละพี่เหมารวมเลย เอางี้มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง แต่จะขอซื้อด้วยคำว่า ฮะ ของฝุ่นแล้วกันนะ” คนพูดยิ้มและรอยตาคู่นั้นที่เคยหม่นหมองก็ยิ้มตามด้วย ทำให้คนตรงหน้าไม่สามารถตอบอะไรได้เพราะมัวแต่มองตาคู่นั้นที่ตอนนี้ยิ้มได้อีกครั้ง

    “ตกลงแล้วนะ” คราวนี้รวบรัดเอาเลยเพราะอีกคนมัวแต่มองเพลิน

    “อะไรนะพี่คามิ”

    “ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ หลุดมาคำล่ะ 5 บาท” คนพูดหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี

    ไต้ฝุ่นมองผู้ชายตรงหน้าอย่างทึ่ง ๆ นี่อาจเป็นครั้งแรกกระมั่งที่ได้เห็นดวงตาคู่ที่เคยหม่น ๆ ยิ้มได้พร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนฝีปากนั่น และเป็นครั้งแรกที่เธอเริ่มรู้สึกแปลก ๆ กับรอยยิ้มที่ดวงตาคู่นั้น จนต้องหลบสายตามองเมินไปยังสวนหย่อมข้าง ๆ

    เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของหญิงสาวดังขึ้น เจ้าตัวคว้ามากดรับสายโดยไม่ได้ดูเสียด้วยซ้ำว่าเป็นใคร ชายหนุ่มเห็นเธอหัวเราะทันทีที่อีกฝ่ายพูดใส่หูโทรศัพท์ และก็ได้ยินเธอตอบรับในทันที

    “ไปซิลุง ให้ไปแน่นะ อย่าเบี้ยวกันนะ ฮะ เมื่อไร ….โห ลุงน้ำอีกสองวันเนี่ยะให้เวลากันหน่อยสิ….ไป ไป…สองก็สอง  ฮะ….แล้วจะไปหาคืนนี้ที่บ้านแล้วกันฮะ….หวัดีฮะ…” แล้วสายก็กดวางไปพร้อมกับรอยยิ้มเต็มหน้าจนชายหนุ่มที่นั่งยิ้มตามไปด้วย

    “ลุงน้ำโทรมาบอกเรื่อง เกาะด้ามขวาน ลุงให้ ฝุ่นไปด้วย ฮ……” คำสุดท้ายเหมือนนึกได้จึงเบาไปจนอีกพูดต้องเหลือบตามองคนที่ฟังอยู่

    “เอามา เลย ไต้ฝุ่นค่าปรับ 20 บาท เมื่อกี้ 4 ฮะ” คนทวงลอบมองหน้าคนที่ทำตาโตอย่างขำ ๆ

    “อะไร กัน เราตกลงแค่เราไม่ใช่เหรอพี่คามิ เมื่อกี้ไม่นับสิ”

    “ไม่ได้ ห้ามพูดเลย มาเลย 20 เสียดี ๆ ฝุ่น” คามิกระดิกนิ้ว รอรับตังค์ ส่วนอีกคนเริ่มทำหน้างอเป็นม้าหมากรุกก่อนจะหยิบแบงค์ยี่สิบส่งให้แถมมีพำพึมตามหลังด้วย

    “งก..จัง พี่คามิน่ะ”

    “ไม่งกได้ไง เดี๋ยว พอเราจะแต่งงานจะเอาเงินนี้แหละไปซื้อของขวัญให้” คนพูดรับตังค์มาเก็บใส่กระเป๋าเสื้อก่อนจะลงมือทานข้าวอย่างสบายอารมณ์

    “ใครจะไปแต่งกันแน่ะ” อีกคนพูดแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวของตนเองไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน…

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑  *--* ^----^ *--*๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    จากคุณ : เปียร์รุส - [ 1 ส.ค. 46 00:27:32 ]