ความคิดเห็นที่ 1 ร้อนนิวรณ์อ่อนล้า                 ใจกาย นั่งสงบเพ่งฌาณหมาย            สุดฟ้า แมลงวันหวี่ยุงราย                  มดตะขาบ ข่มนิวรณ์เงยหน้า                   หยิบมุ้งมากาง ฯ แหะ ๆ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 7 ส.ค. 46 11:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืมมม แวะมาอ่าน เหอๆๆๆๆๆ                       จากคุณ : เชอร์เบต จี๊ดด ด - [ 7 ส.ค. 46 12:12:28 A:203.148.240.94 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 Howdy! ชะแว๊ป!... แปลงร่างเป็นเจดีย์... เอ๊ย!... ดีเจแล้วค่ะ... เอาเพลงเก่าๆ นี่แหละ... เพราะดี... [ยิ้ม] เห็นคำว่า "นิวรณ์"... นึกถึงเพลงของคุณสุเทพ วงศ์กำแหง... "ชั่วนิจนิรันดร" ค่ะ... "ฉันรักเธอ แม้เทียบเสมอ กับดวงชีวิต รักเธอ ชั่วนิจนิรันดร แม้ เธอห่างไกล ใจก็หวงห่วง นิวรณ์ ถึงแม้ม้วยมรณ์ ไม่ถอน รักที่มี รักฉันมั่น เหมือนดังตะวัน มั่นรักฟากฟ้า รักดัง หมู่ปลารักวารีเหมือน ดังกับแหวน แสนจะรัก แก้วมณี เหมือน ขุนคีรี สวาทพื้น ดินเดียวกัน มากมาย ราวกับห้วง มหรรณพ มิรู้จบ ดังกับมี ทำนบกั้น แต่มั่นคง เหมือน ดั่งสิงขร ซ้อนแผ่นดินนั้น ทั้งความซื่อสัตย์ มัดใจคงมั่น ดั่ง ตะวันซื่อต่อฟ้า ฉันรักเธอ แท้จริงเสมอ ไม่ลวงให้หลง รักฉัน มั่นคง ดังวาจา เห็นใจเถิดหนอ ขอมอบไว้ให้ สัญญา ฉันจะบูชา ชั่วนิจนิรันดร ชั่วนิจนิรันดร ชั่วนิจนิรันดร" จากคุณ : ไกลถิ่น - [ 7 ส.ค. 46 12:38:57 A:67.162.190.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 โอ้โฮ...มหามิตรจากอาศรมฯ...แวะมาเยี่ยม... สวัสดีครับคุณพิราบเงิน... ผมไปคลุกคลีในกระทู้...ท่านคัมภีร์โบราณ...จนเริ่มชอบโคลงขึ้นมามากกว่าเดิมแล้วล่ะครับ...รวมทั้งไปโขมยฟังแลคเชอร์ท่านนิรนามฯ...จนได้ความรู้มาบ้าง....แต่ยังจับจังหวะเสียงโคลงไม่ได้ดอกครับ...ตอนนี้พยายามอ่าน... เตลงพ่าย...อยู่ครับ.... ผมว่าสมเด็จกรมพระปรมานุชิต ชิโนรส...เขียนโคลงได้มีพลังจริงๆ....โดยเฉพาะโคลงสอง...สั้นๆแต่บรรยายการเคลื่อนทัพได้อลังการยิ่ง...โคลงสาม/สี่ก็เยี่ยม....ยังฉันท์ในสมุทรโฆษ/กฤษณาสอนน้องคำฉันท์อีก.... สองฉันทลักษณ์นี้...ต้องยอมรับล่ะครับว่าอยู่ในระดับ....ทอปทรี...จากอดีตจนปัจจุบันทีเดียว... ยังร่ายอีก...เป็นต้นว่า....ธวัชปลิวปัดปลาย...จากปกติไม่เคยอ่านเลย....ข้ามไปอ่านโคลงอย่างเดียว...เจอร่ายใน..เตลงพ่าย...นี่ได้ลีลาและศัพท์แสงเยอะเทียว...คุณพิราบเงินมีความเห็นอย่างไรครับ สาวน้อยเชอร์เบต....เสียงภูตคร่ำวิญญาณครวญ...นี่ขอซื้อได้ไหม...อิๆๆๆ....บรื๊ออออออ น้องไกลถิ่น...ชอบเพลงรุ่นลุงสุเทพ...เจียวหรือ...ไม่ธรรมดาเลยนะนี่....เก่าได้ที่เลยล่ะ...ฮะๆๆๆ ส่วนพี่นี้ชอบสุดก็เพลง...หัวใจเถื่อน...แต่จำเนื้อร้องได้ไม่หมด....คุณชาลี อินทรวิจิตรแต่งเนื้อร้อง....คุณสง่า อรัมภีร์ แต่งทำนอง...ถ้าจำไม่ผิดนะ....ความว่า หัวใจเถื่อน... ใจร้ายเหมือนคนป่า ความเฉยเมยเฉื่อยชา ถ้อยวาจาเหมือนมีดกรีดเฉือน เขาคือใคร.... ไม่คบใครเป็นเพื่อน ใจเหมือนใจคนเถื่อน ไม่เคยยิ้มเยือนกับใคร หัวใจเถื่อน... ความรักเลือนหมองไหม้ ความรักจางห่างไกล สุดอาลัยหัวใจใฝ่ถึง เขาคือใคร... ทำเหมือนใจเคียดขึ้ง ทำเหมือนใครคนหนึ่ง เสียดซึ้งไปถึงจิตใจ อกใจอาวรณ์.... ร้าวรอนอาวรณ์ไฉน ใจร้างลาอาลัย ห่างกันไกลแสนไกล หัวใจไม่เคยผูกพันธ์ ฯ... ใครมีเนื้อช่วยบอกหน่อยเถิด...จักขอบคุณอย่างสูง... พี่ฟังเวอร์ชันที่ ฮอทเปเปอร์ซิงเกอร์...เขาร้อง..เสียงหวานมากสองสาวใหญ่นี้ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 46 13:55:43 จากคุณ : สดายุ... - [ 7 ส.ค. 46 13:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ขาย จะเอาไว้หลอกหลอน ชาวบ้าน  เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ^v^             จากคุณ : เชอร์เบต จี๊ดด ด - [ 7 ส.ค. 46 13:55:18 A:203.148.240.94 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ร้อนค่ะ  ตอนนี้ฟ้าฝนครึ้ม ๆ   มีเพลงเก่า ๆ มาฟังอีก  โอ้! เย็นกายเย็นใจ ^^ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 7 ส.ค. 46 13:55:31 A:202.129.2.5 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 สาวเชอร์... รู้หรือเปล่าเวลาค่ำคืนแล้วอยู่คนเดียวน่ะ....ถ้าเราอยู่ๆแล้วลองเหลียวไปข้างหลังดูจะเห็นอะไรแวบๆ....ตรงหางตาแล้วอย่าเอ็ดไปนะ....บางคนเขาเรียกแม่ซื้อ...คอยคุ้มครอง....ลองสังเกตดูนะ...ใต้ไฟสว่างจะมองไม่เห็น....ต้องมืดๆ...แล้วมาเล่าให้ฟังมั่งนะ สวัสดีครับคุณซอมพอแดง....ที่แปลว่านกยูง เดิมทีผมเข้าใจว่า....สดายุ...คือนกยูง...จริงๆแล้ว...เป็นนกลูกพญาครุฑในวรรณคดี.... เพียงแต่ตอนเกิดจำไม่ได้ว่า...ท่านพ่อนี้ฉุดน้องกากีแล้วหรือยัง....อิๆๆ....แต่พอดีมีขนกายสีเขียว...คงไปพ้องกับลักษณะขนนกยูงเข้าพอดี.... คุณพนมเทียนเลยจับ....มาแสดงเป็นท่ายชายสดายุ...ในละคอนแกหลายเรื่อง....ภายใต้ราชนิกุลสมมติว่า....มยุรฤทธิ์...คืออำนาจของนกยูง....ซึ่งไปพ้องกับ...โกว้เล้งอีกที่เขียน...เดชขนนกยูง...ซึ่งเป็นอาวุธลับที่หนึ่งในแผ่นดิน....ภายใต้อาวุธลับนี้...โอกาสหลบพ้นมีค่าเป็นศูนย์....ฝรั่งใช้คำว่า...zero tolerance... อิๆๆ...ชักเลอะไปใหญ่... ยังไงก็แล้วแต่จะเอากลอนสมัยวัยรุ่นไปแจมในกระทู้ด้วยครับ....เห็นหวานซะ...อิๆๆ จากคุณ : สดายุ... - [ 7 ส.ค. 46 14:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มากระทู้นี้ได้ฟังเพลงด้วย อิอิ อืมม์ ส่วนผมอ่านแล้วทำไมนึกถึงเพลง หนึ่งหญิง สองชาย ก็ไม่รู้ (ไม่เห็นเข้ากับบรรยากาศกระทู้เลย แฮ่ะๆๆ) จากคุณ : GTW - [ 7 ส.ค. 46 17:02:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีครับคุณสดายุ ลงชื่อต๊ะไว้ก่อนนาครับ เพิ่งหยอดจารบีเข็นฉันท์ออกมาได้ สำนวนหนึ่ง-คืนนี้แทบแย่ จากคุณ : ราม ลิขิต - [ 8 ส.ค. 46 04:02:28 A:203.113.81.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะ... ท่านพี่ยุ... ^__^ งงอยู่เป็นนาน... เพิ่งเข้าใจเรื่องราว... ดีกันเถอะค่ะ... คนเขียนร้อยกรองมีอยู่ไม่กี่คนเองนะคะ... นะๆๆ... เอาเพลงมาฝากอีกเพลงนึงค่ะ... ใจประสานใจ (ดิอิมพอสซิเบิ้ล) ..มองแววตาทุกคน เปี่ยมสุขล้นระคนสุขสันต์ ยิ้มแย้มเข้าใจกันตาสบประสาน ไมตรีฉายมา ดวงฤทัยทุกดวง ถ่วงด้วยรักและแรงศรัทธา ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน ..ความคลางแคลงหายไป โลกสดใสคืนมาอีกครา ฟ้า หลังฝนงามตา ความมืดโรยรา มลายหายพลัน มีแต่ความเข้าใจ อุ่นไอรักไมตรีต่อกัน ผ่าน มา นั้น ลืมมันลบไป ..ร้องเถิดร้องเพลงกัน ประสานรอยรักในใจ ลบรอยร้าวภายใน อุรา ร้องเถิดร้องเพลงกัน จับมือกันไว้ดีกว่า หัน หน้ามา เข้าใจกัน ..อันคนเราทุกคน ต่างเกิดมาควรพาพึ่งกัน มีไมตรีสำพันธ์ โลกนั้นสดใส จงมารวมพลัง ร่วมสร้างสรรจรรโลงฤทัย จับมือกันเดินก้าวไป มุ่งสู่จุดหมาย อนาคตเรา มองแววตาทุกคน เปี่ยมสุขล้นระคนสุขสันต์ ยิ้มแย้มเข้าใจกันตาสบประสาน ไมตรีฉายมา ดวงฤทัยทุกดวง ถ่วงด้วยรักและแรงศรัทธา ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน ..ความคลางแคลงหายไป โลกสดใสคืนมาอีกครา ฟ้า หลังฝนงามตา ความมืดโรยรา มลายหายพลัน มีแต่ความเข้าใจ อุ่นไอรักไมตรีต่อกัน ผ่าน มา นั้น ลืมมัน ลบไป.... . จากคุณ : ไกลถิ่น - [ 8 ส.ค. 46 09:37:02 A:67.162.190.132 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีจ้ะหลานไกลถิ่น ไม่ได้ใส่แว่น ประโยค (วลี) ช่วงที่สามใช้ "ด.เด็ก" หรือ "ต.เต่า" น่ะ มองไม่ค่อยชัด พิมพ์ผิดล่ะยุ่งตายชัก เลย (ฮา) จากคุณ : ราม ลิขิต - [ 8 ส.ค. 46 10:12:31 A:203.113.81.138 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไกลถิ่น... เราคนรุ่นใหม่....มีปัญหาก็คุยกัน....อย่างมีสติ...แล้วก็จับมือ...ขอโทษขอโพย...เป็นเพื่อนกันไป... กับคนอีกรุ่น...เขาจะมีมานะ-ถือตัว..ในทุกคำพูดคอยแต่จะสั่งสอน/เหน็บแนมชาวบ้าน...ปานว่าพจนะจักหลั่งไหลมิยอมหมดสิ้น...ต้องการการเชื่อฟังโดยดุษณี...ปราศจากข้อโต้แย้ง.... หากโกรธแล้วต้องโทร.ไปด่าให้ชาวบ้านซึ่งเป็นบุคคลที่สามฟัง....ให้เลือกฝักเลือกฝ่าย....จนเหล่าอันหูเบาบ้างก็คล้อยตามอย่าน่าสมเภทเวทนา....โอพระเจ้า...จิตใจเช่นนี้...คับแคบยิ่งนัก...ประดุจอิสตรีผู้มากระแวง.. มันลำบากที่จะปรับให้ลงตัวกันได้....เราไปฝืนธรรมชาติของทวิลักษณ์อันแตกต่างกันไม่ได้หรอก....ไกลถิ่น....เพราะเรายังเป็นปุถุชนที่มีบางสิ่งเหมือนๆกันทุกคน....โลภ/โกรธ/หลง....ตัวตนอันแรงบ้าง-เบาบ้างแตกต่างกันไป.... สวัสดีครับคุณราม... เห็นร่องรอยนางพญากาลี....ซึ่งเป็นอีกด้านของพระอุมาเทวี...ของผมชัดขึ้นนะครับ....สดายุ-โทโส....อิๆๆๆ จากคุณ : สดายุ - [ 8 ส.ค. 46 11:45:31 A:213.68.98.21 X:unknown, unknown ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่ะ เรื่อง แม่ซื้อ เรารู้นานแล้ว ผู้เฒ่าผู้แก่ ทางเหนือ บอกกันมานานเน  มีทั้งแม่ซื้อ (ไม่ขาย)       และ  แม่เลี้ยง (ถ้าแม่ไม่เลี้ยง แล้วใครจะเลี้ยง หว่า...)  ทางเหนือ มีเรื่องเล่าเยอะแยะ         กลางคืนเราไม่กลัวหรอก เพราะตัวเราเองนั้น  น่ากลัวกว่าสิ่งลึกลับ ใดใด  เหอๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : เชอร์เบต จี๊ดด ด - [ 8 ส.ค. 46 11:50:52 A:203.148.240.94 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับคุณสดายุ สารภาพว่า..คุ้นตากับลีลามากครับ แต่ไม่ได้นึก ผมเองนั้นจะดูอยู่ตรงหน้าเสียเป็นส่วนใหญ่ขอรับ เรื่อง อื่นแม้ทราบก็ไม่ค่อยได้เอามาพัวพัน กลัวมันไม่สนุก สนาน ไว้เอามั่งดีก่า มีนาย "โมโห" ขึ้นมาอีกสักคน แต่ขอเป็น นรสิงหาวตารคะรับ..ฮิฮิ (แตไม่เอาจริงหรอก-เย้าเล่น) จากคุณ : ราม ลิขิต - [ 8 ส.ค. 46 12:12:27 A:203.113.81.138 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 แม่ซื้อ เป็น ผี หรือว่า นางฟ้า ..? จากคุณ : จังงัง - [ 8 ส.ค. 46 12:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สาวเชอร์... ไม่กลัวจริงอะ...อืมม์...น่าสนใจ... อ้อรู้แล้ว....กลับจากเทค..ตี2ตี3...เป็นประจำสิท่า....จึงไม่กลัวความมืดดึกดื่น....อิๆๆ คุณรามครับ.... อมิตรพุทธ...นั่นเป็นภาวะของยักษ์มารในจิตใจครับ...อิๆๆๆ จังงัง... ท่านทั้งหลายโปรดทราบ....จังงังนี่แหละเป็นคนเล่าเรื่องแม่ซื้อให้ฟัง....ผมไม่เคยมีความคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย....ฮาๆๆๆ....ยังแกล้งมาถามอีก จากคุณ : สดายุ... - [ 8 ส.ค. 46 14:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อะไรกันเนี่ย ยิ่งอ่านยิ่งงุน ยิ่งโพสต์ยิ่งงง งุนงงสงสัย สงสัยลืมเอาสมองมาอ่านด้วย (หัวหมุนคุมคอลัมน์ตั้ง 8 คอลัมน์) จากคุณ : แรมรอน - [ 8 ส.ค. 46 19:05:25 A:203.170.159.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ป่าวกลับจาก เธค หรอก แบบว่า นอนดึกเอง เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ                     จากคุณ : เชอร์เบต จี๊ดด ด - [ 9 ส.ค. 46 12:49:44 A:202.133.187.160 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับคุณแรมรอน.... สรรพเพเหระครับ....คุยเล่นกับน้องๆ....ใครคุม8คอลัมน์ครับ....คุณแรมรอนทำงานหนังสือเหรอครับ เช่อร์...ดึกๆนี่...สร้างสมาธิได้ดีนะ....เวลาอ่านหนังสือ-วาดรูป-เขียนอะไรเล่น....ไม่ร้อนด้วย จากคุณ : สดายุ... - [ 11 ส.ค. 46 10:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับ คุณสดายุ (ขออภัยมาช้า เพิ่งได้มา ครับ) "คุณพิราบเงินมีความเห็นอย่างไรครับ" ลิลิตตะเลงพ่าย ยอดเยี่ยม ไร้ที่ติ (ในความรู้สึกของพิราบเงิน) เป็นวรรณคดีที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง สำหรับผู้นิยมในโคลงและร่าย ดีใจที่คุณสดายุ สนใจศึกษาลีลาโคลงในตะเลงพ่าย ครับ สวัสดีครับ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 11 ส.ค. 46 16:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณพิราบเงินครับ.... ผมคงหลงไหลกับศัพท์แสงอันตระการ....แก้ไม่หายครับ....ได้โคลงนิราศสุพรรณมาอีกเล่มก็เปิดอ่านๆดู....ก็เห็นถึงความแตกต่างกับ...เตลงพ่าย...อยู่พอสมควร เป็นความแตกต่างที่อาจลงตัวกับหลายๆทัศนะอันเป็นธรรมดาที่จะชอบไม่เหมือนกัน.... คำที่ออกจะสามัญ/สัมผัสสระในวรรค....ที่ท่านสุนทรภู่รจนา...ในนิราศสุพรรณ คำที่อลังการ/สัมผัสอักษร....ที่สมเด็จพระมหาสมณะเจ้าฯทรงนิพนธ์....ในเตลงพ่าย นับเป็นความรู้แก่ผมผู้เพิ่งเริ่มศึกษาโคลงครับ.... ผมกำลังหานิราศนรินทร์อีกเรื่องครับ...โทร.เช็คแล้วศึกษาภัณฑ์มีครับ...เล่มละ55บาทเอง....ถามหาในสวนจตุจักรแม่ค้าโค๊ดมา500-1000...จะเป็นลม....สงสัยขายความเก่าของหนังสือ... จากคุณ : สดายุ... - [ 13 ส.ค. 46 07:53:53 ]