บทที่ 2
และแล้วเธอก็ประทับริมฝีปากของเธอลงบนริมฝีปากของเขา...
คาลรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกําลังจะจมนํ้าตาพร่ามัวไปชั่วขณะลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขา ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอิ่มเอมซาบซ่าน เขารู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าที่เขาไม่สามารถควบคุมมันได้ต่อผู้หญิงที่กําลังกอดเขาอยู่ในขณะนี้
รสสัมผัสจากริมฝีปากบางของเธอมันจู่โจมถึงกลางใจเขาอย่างรุนแรงมีอํานาจที่เขาไม่อาจต้านทานได้ รอยสัมผัสจากเธอกําลังไหลลินไปสู่ร่างกายเขาท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมากระทบเขาและเธออย่างไม่ขาดสายอยู่ในขณะนี้
เขารู้สึกเหมือนตัวเองตกอยู่ในภวังค์งงงันสับสนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อีกส่วนหนึ่งของเขาก็ยังรับรู้ถึงริมฝีปากบางที่ประทับอยู่บนริมฝีปากของเขาอยู่ตลอดเวลา เขารับรู้ถึงแขนทั้งสองข้างของเธอที่กอดรัดอยู่รอบคอเขาและยังรู้สึกได้ถึงร่างอันนุ่มนิ่มของเธอทุกสัดส่วนที่แนบชิดอยู่กับเขา ไฟปรารถนาในอารมณ์อันร้อนแรงที่มีต่อเธอมันกําลังซึมผ่านเข้าไปในร่างกายและจิตวิญญาณของเขา
และอารมณ์ปรารถนาของเขายิ่งกระเจิดกระเจิงไปไกลเมื่อเธอเริ่มเรียกร้องให้เขาตอบสนองริมฝีปากบางของเธอมากขึ้น และในขณะเดียวกันฟ้าร้องเสียงดังกังวานขึ้นอยู่เหนือศีรษะคนทั่งคู่
เสียงที่ดังกังวานที่เกิดขึ้นอยู่เหนือหัวทําให้เขารู้สึกตัวขึ้นมา สับสนวุ่นวายอยู่ในใจอย่างหาเหตุผลอะไรไม่ได้ไปชั่วขณะแต่ในอีกส่วนหนึ่งของใจเขากับรู้สึกคุ้นเคยกับรอยสัมผัสจากเธออย่างประหลาด
และในที่สุดเขาก็เลื่อนมือตัวเองขึ้นมาวางบนไหล่ของเธอ เขากําลังสับสนและไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองมันเหมือนกับว่าเขาอยากจะกอดเธอไว้อย่างนี้ตลอดไป แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะผลักไสเธอให้ไกลออกไป เขาตัดสินใจในฉับพลันถอยห่างออกมาจากเธอดันร่างเธอออกไปให้อยู่ไกลแค่มือเอื้อม
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในขณะนี้ช่างสวยงามนักและเขาก็รู้สึกได้ถึงไฟปรารถนาที่ถ่ายทอดจากตัวเธอมาสู่เขา จิตใต้สํานึกเตือนเขาว่าเธอเป็นคนแปลกหน้าและเขาก็ไม่รู้จักเธอมาก่อน เขาตัดสินใจว่าควรจะต้องรับมือกับเธอและเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์นี้ให้ได้
ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าประเทศนี้เขาจะต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองกันแบบนี้
เขาสังเกตเห็นว่าแววตาของเธอมันสว่างวาบขึ้นจากคําพูดของเขามันเจือความผิดหวังจากเธออย่างเห็นได้ชัดและดวงตาคู่นั้นของเธอกําลังตัดพ้อเขาอยู่ และเขาก็ไม่มีวันจะรู้ได้เลยว่าความผิดหวังของเธอมันมากมายขนาดไหนเสียดแทงเจ็บปวดไปถึงดวงใจของเธอทีเดียว
จริงซินะในที่สุดเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าในขณะนี้ เขากลับมาแล้ว และไม่มีสิ่งใดๆในโลกนี้ที่จะสําคัญมากไปกว่าการกลับมาของเขา มาหาเธอ
ใช่แล้วคะพวกเราต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองกันแบบนี้เอง หล่อนยิ้มให้เขาหลังจากพูดจบ นิ้วมือของเธอยังคงอ้อยอิ่งลูบผมข้างหลังของเขาอยู่จากนั้นเธอก็ปล่อยมือตัวเองให้ตกลงมาข้างตัว
ยินดีต้อนรับสู่ไอร์แลนด์ และปราสาทแห่งความลับ
สายตาของเขาละจากหน้าเธอแลเลยไปยังซากปรักหักผังของปราสาทนั้น
ปราสาทแห่งความลับเป็นชื่อของปราสาทแห่งนี้หรือ เขาถามเธอเสียงเบา
ใช่คะชื่อของมันในขณะนี้ก็คือปราสาทแห่งความลับ เธอพยายามอย่างมากที่จะข่มใจตัวเองไม่ให้เฝ้าดูเขาอย่างไม่คลาดสายตา เธอซึมซับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาไม่ว่า
จะเป็นอารมณ์หรือความรู้สึกของเขาในขณะนี้ เธอยื่นมือออกไปเพื่อเป็นการต้อนรับและเชื้อเชิญเขาเหมือนกับทีเธอจะทํากับนักท่องเที่ยวทุกๆคนที่ผ่านมาที่นี่
คุณเดินทางมาไกลคงจะเหนื่อยอยากจะเข้ามาผิงไฟแก้หนาวในบ้านฉันก่อนไหมคะเธอถามเขาและยิ้มออกมาต้อนรับเขา
ดิฉันอยากจะเชิญคุณเข้ามาดื่มนํ้าชาผสมกับวิสกี้แก้หนาวสักแก้ว
แต่คุณไม่รู้จักผมมาก่อน เขาถามออกไปแบบนั้นเพราะมันเป็นความจริงแทนที่เธอจะตอบเขาหญิงสาวกับแหงนหน้ามองท้องฟ้าเบื้องบน
แต่คุณเปียกไปหมดทั้งตัว หล่อนอธิบาย และพายุที่พัดมาอยู่นี้ก็หนาวซะด้วย และดิฉันคิดว่าแค่นี้ ก็เป็นเหตุผลที่ดีพอที่จะทําให้ดิฉันเชิญคุณเข้าไปในบ้านของดิฉัน
พูดจบเธอก็เดินจากเขาไปยืนอยู่บนระเบียงหน้าบ้าน เขาสังเกตเห็นแมวดําของเธอลุกยืนขึ้นอย่างเกียจคร้านเดินตรงเข้ามาคลอเคลียอยู่ตรงขาเธอนั่นเอง
คุณอุตส่าห์เดินทางมาไกลจนถึงที่นี่ เธอบอกเขาเสียงเบาหวิว สายตาของคนทั้งคู่ประสานกัน
ก็แล้วทําไมคุณจะเหยียบเข้ามาในบ้านของดิฉันไม่ได้ เคลิน ฟาเร็ลล์แค่เข้ามาผิงไฟให้อุ่นสบายขึ้นไม่ได้เชียวหรือ
เขาปัดผมที่ปรกลงมาบนใบหน้าและรู้สึกเหมือนกับว่าเนื้อตัวเขาสั่นสะท้านรู้สึกเย็นเยือกเข้าหัวใจไปถึงกระดูกข้างในเลยทีเดียว
คุณรู้จักชื่อผมได้ยังไง
ดิฉันก็รู้ได้เหมือนกับที่คุณรู้ทางมาจนถึงที่นี่ พูดจบเธอก็ก้มหน้าลงอุ้มเจ้าแมวตัวดําของเธอขึ้นมาอุ้มไว้แล้วลูบไล้ขนมันอย่างเอาใจ ทั้งคนและแมวยืนจ้องมองเขาด้วยความอดทน ดวงตาทั้งสองคู่ดูเหมือนจะไม่กระพริบเลยที
เดียวในขณะที่มองมายังเขา
ดิฉันเพิ่งจะอบขนมปังเมื่อเช้านี้เอง คุณน่าจะหิวขึ้นมาบ้างแล้ว เมื่อพูดจบเธอหันหลังและเดินเข้าบ้านทิ้งเขาไว้ให้ตัดสินใจจะเข้ามาหรือไปจากที่นี่ก็แล้วแต่ความสมัครใจของเขาเอง
ใจหนึ่งของเขามันอยากจะเดินหันหลังกลับออกไปที่รถและขับไปให้ไกลแสนไกลจากที่นี่และลืมเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เบื้องหลังเหมือนกับว่าเขาไม่เคยเห็นเธอหรือปราสาทแห่งนี้
แต่ขาของเขามันพาตัวเองเข้าไปยืนอยู่บนระเบียงได้อย่างไรเขาก็ไม่อาจจะรู้ได้ เอื้อมมือไปผลักประตูหน้าบ้านเข้าไป เขาคิดว่าเขาต้องการจะรู้คําตอบจากเธอและตัวเธออาจจะรู้ถึงคําตอบบางอย่างที่เขาต้องการจะถามก็ได้
ความอุ่นจากข้างในบ้านแผ่มากระทบร่างกายเขาทันทีที่เขาเหยียบย่างเข้ามาข้างใน บ้านเธอน่าอยู่นักมันเชิญชวนให้อยากเข้ามาและยังกลิ่นหอมของขนมปังที่เพิ่งอบใหม่ๆนั้นอีกลอยเข้ามากระทบจมูกเขารวมไปถึงความอบอุ่นที่แผ่กระจายไปทั่วห้องที่มาจากเตาผิง ดอกไม้หลากสีปักอยู่บนแจกันเธอคงเพิ่งจะตัดมันมา
ทําตัวตามสบายเลยนะคะคิดว่าเป็นบ้านของคุณเอง หล่อนวางเจ้าแมวดําลงกับพื้น
ฉันจะไปเตรียมนํ้าชาให้คุณ
คาลก้าวเข้าไปในห้องรับแขกและเดินเข้าไปใกล้เตาผิงเขาเหลือบไปมองดอกไม้ที่มีหยดนํ้าเกาะแพรวพราวอยู่บนเตาผิงและยังมีกระถางต้นไม้อีกต้นบนโต๊ะริมหน้าต่างเก้าอี้นั่งตั้งอยู่ข้างเตาผิงแต่เขาไม่ได้นั่งลง สายตาของเขาสํารวจตรวจตราไปทั่วห้องด้วยสายตาของนักถ่ายภาพมืออาชีพ เขาคิดว่าห้องนี้ทาสีได้อย่างลงตัวไม่จืดจางจนเกินไปแต่กลับทําให้มองดูแล้วสบายตามันเป็นสีชมพูเข้มและเขียว ผ้าเช็ดเท้าที่ทอด้วยมือวางอยู่บนพื้นไม้ที่ลงนํ้ามันเอาไว้สวยงามเป็นมันแวววาวด้วยฝีมือของเจ้าของบ้านอย่างไม่ต้องสงสัย เทียนหอมเต็มไปหมดหลายขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างวางอยู่บนจานแก้ว จานสีเงิน หรือแม้แต่จานที่ทํามาจากหิน
และที่สะดุดตาใกล้กับเตาผิงก็คือเครื่องทอผ้าด้วยมือที่เขาคิดว่ามันจะเป็นของเก่าแก่มีค่าที่ใช้กันมาหลายชั่วอายุคน เขารู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นมันตั้งอยู่ตรงนี้ก้าวเข้าไปใกล้มันเพื่อต้องการจะสํารวจมันซึ่งเป็นสีไม้ที่เข้ม และข้างๆก็มีตระกร้าหวายวางอยู่ข้างในมีด้ายดิบที่ย้อมสีอย่างสวยงาม
และเขาก็สังเกตเห็นโคมไฟฟ้าที่มีสีสันเหมือนกับเพชรพลอยวางตั้งอยู่ รวมทั้งสเตอริโอตั้งอยู่ใกล้ๆกับหนังสือที่ตั้งอยู่บนชั้น เขาเกือบจะคิดไปว่าตัวเองหลงยุคไปอยู่ในยุคหนึ่งเวลาหนึ่งอยู่จนกระทั่งสายตาไปกระทบกับสิ่งเหล่านี้
ยังมีต่อ
จากคุณ :
โรส สลาลินน์
- [
7 ส.ค. 46 13:21:10
A:12.108.141.238 X:
]