วิกาล ดึกสงัด สายลมอันเย็นยะเยือกโหมซัดกระหน่ำเข้าใส่ร่างของคนทั้งสองอย่างไร้ความปรานี หนาวสะท้านจนถึงกระดูก
ฮั่นตงกัดฟันพยุงร่างหลี่ซังฮู้ เดินทางฝ่าสายลมหนาวอย่างเร่งร้อน ทว่าดูเหมือนทั้งสองจะเดินทางได้ช้ามาก เนื่องจากสภาพร่างกายของหลี่ซังฮู้ในเวลานี้ อ่อนแรงไปมาก อันเป็นผลมาจากพิษทะลวงไส้ที่นางได้รับนั่นเอง
แน่นอนว่าหลี่ซังฮู้เอง ย่อมรู้สภาพของตนเองดีที่สุด นางจึงตัดสินใจเอ่ยขึ้นว่า
"พี่ฮั่นท่านทิ้งข้าพเจ้าไว้ที่นี่แล้วไปเสีย หาไม่แล้ว คนของบู๊ตึ๊งอาจติดตามมาทันก็เป็นได้ อย่าให้ข้าพเจ้าต้องเป็นภาระถ่วงท่านไว้เลย"
ทว่าฮั่นตงกลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แฝงแววตำหนิเล็กน้อย
"เจ้าเห็นข้าเป็นคนเช่นไร ถ้าจะไป เราก็ต้องไปด้วยกัน ข้าไม่มีวันทิ้งเจ้าเด็ดขาด!"
หลี่ซังฮู้มองหน้าฮั่นตงด้วยความซาบซึ้ง ฮั่นตงเห็นเช่นนั้นรีบกล่าวเป็นเชิงแก้ตัว
"ไม่ว่าผู้ใด หากตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็คงมิสามารถทิ้งผู้หญิงตัวคนเดียวเช่นเจ้า ให้เผชิญชะตากรรมแต่เพียงลำพังได้เป็นแน่..."
หลังจากนั้น ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาใดขึ้นอีก ฮั่นตงประคองหลี่ซังฮู้เดินฝ่าความมืดและความหนาวเย็นต่อไปอย่างเงียบๆ
ทั้งสองหลบหนีอีกพักใหญ่ จนกระทั่งหลี่ซังฮู้สะดุดก้อนหินเซล้มลง เคราะห์ดีที่ฮั่นตงรวบตัวนางไว้ได้ทัน
ฮั่นตงมองดูหญิงสาวด้วยความสงสารจับใจ เขาย่อมทราบดีว่า นางได้อดทนมาจนถึงที่สุดแล้ว
นางไม่มีกำลังเหลือพอจะเดินทางต่อไปได้อีกแล้ว !!
"พวกเราคงต้องหาที่พักแล้วล่ะ" ฮั่นตงกล่าวเรียบ ๆ
"ใกล้กับที่นี่มีวัดร้างอยู่แห่งหนึ่ง ที่นั่นมีห้องลับสำหรับให้สายสืบของเรามาหลบซ่อนยามคับขัน มีอยู่ไม่กี่คนที่ล่วงรู้ ข้าคิดว่าเราสามารถไปหลบซ่อนที่นั่นชั่วคราว" หลี่ซังฮู้รวบรวมพละกำลังอันน้อยนิดเอ่ยขึ้น
"เช่นนี้ก็หมายความว่า ฉิกจับอิดคงจัดส่งสายสืบลอบสอดแนมการเคลื่อนไหวของบู๊ตึ๊ง และพรรคต่าง ๆ ในหอห้ากระบี่โดยตลอด" ฮั่นตงคิดในใจพลางนำพาหลี่ซังฮู้ไปยังวัดร้างดังกล่าว
เมื่อเข้าสู่วัดร้าง หลี่ซังฮู้ชี้มือไปที่แท่นบูชา ด้านหน้าของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ พลางบอกให้ฮั่นตงหมุนแจกันด้านซ้ายมือไปทางขวาสองรอบ แล้วจึงหมุนกระถางธูปไปทางซ้ายอีกสองรอบ
เมื่อฮั่นตงปฏิบัติตามที่หญิงสาวบอก พลันปรากฏเสียง ครืน ดังยาวนาน ปากทางเข้าสู่ห้องลับพลันปรากฏแก่สายตาของอดีตมือปราบหนุ่ม
ปากทางเข้าถึงกับอยู่ภายใต้ฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ของวัดร้างนั้น !!
ดูท่าผู้ออกแบบก่อสร้างห้องลับแห่งนี้มิใช่ชนชั้นธรรมดา ถึงกับสามารถสร้างกลไกอันสลับซับซ้อนเช่นนี้ขึ้นมาได้
อิทธิพลของฉิกจับอิดนับว่าน่าเกรงขามยิ่งนัก !!!
ฮั่นตงพยุงร่างแบบบางของหลี่ซังฮู้เข้าสู่ภายใน อาการของหลี่ซังฮู้ย่ำแย่ลงทุกขณะจิต ฮั่นตงซึ่งแบกร่างนางอยู่ หวั่นวิตกอย่างยิ่ง
เขาพยุงนางนอนลงบนเตียงที่ตั้งอยู่กลางห้อง จุดตะเกียงที่แขวนอยู่ด้านข้างเพื่อให้เกิดแสงสว่าง จากนั้นจึงดึงคันโยกเล็ก ๆ ที่หลี่ซังฮู้ชี้บอกลง พลันปรากฏเสียงครืนดังขึ้นอีกครั้ง เพียงชั่วไม่นาน ประตูห้องลับก็ปิดลงดังเดิม
จากนั้นฮั่นตงจึงพยุงร่างหลี่ซังฮู้ให้นั่งขึ้น ทำการถ่ายทอดลมปราณเข้าสู่ร่างของหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง ทว่านางกลับกล่าวว่า
ไม่
อย่าทำเช่นนี้เลย หามีประโยชน์อันใดไม่
พิษที่ข้าโดนคือ ยาพิษทะลวงไส้ เป็นพิษพิเศษเฉพาะของฉิกจับอิด ผู้ที่โดนยาพิษชนิดนี้ภายในสามวันหากมิทำการขจัดพิษให้หมดไป เมื่ออาการกำเริบ ร่างกายจะเน่าเปื่อย ทนทุกข์ทรมาณอยู่สี่สิบเก้าวันจึงจะขาดใจตาย หลี่ซังฮู้คราง
พรรคฉิกจับอิดช่างอำมหิตยิ่งนัก!!
ฮั่นตงคำราม แต่แล้วเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าหญิงสาวเบื้องหน้าก็เป็นคนของพรรคนี้เช่นกัน จึงได้แต่กล่าวปลอบโยนนาง
เมื่อพิษที่ได้รับ เป็นพิษของพรรคเจ้า เช่นนั้นพอจะล่วงรู้วิธีขจัดพิษนี้ออกจากร่างหรือไม่?
"หากได้ยาขจัดพิษ ก็สามารถแก้ไขได้โดยง่าย ... ทว่า ยาขจัดพิษชนิดนี้จะมีเก็บไว้ในที่แห่งเดียวเท่านั้น
ที่ใดกัน ?? ฮั่นตงถามอย่างร้อนใจ
ภายในสำนักใหญ่ของพรรคฉิกจับอิด ซึ่งห่างไกลจากที่นี่นับร้อยนับพันลี้ ไม่ว่าอย่างไร เราก็ไม่มีทางเดินทางไปถึงที่นั่นภายในสามวันได้อย่างแน่นอน
" ตอนท้ายคำพูดของนางคล้ายแผ่วเบาจนหายไปในคอ
คำตอบของหญิงสาว ทำเอาฮั่นตงถึงกับนิ่งงันไป .. เช่นนี้ใยมิใช่หมายความว่า หลี่ซังฮู้จะต้องตายอย่างทรมานหรอกหรือ ??
จากคุณ :
ทีมแต่งนิยาย
- [
9 ส.ค. 46 22:30:15
]