คําสาปรัก บทที่ 3

    บทที่ 3


    บริอาน่าเดินก้าวออกมาจากทางเดินใต้ประตูรูปโค้งครึ่งวงกลมของซากปราสาทแห่งความลับ และเฝ้าดูคาลที่กําลังถ่ายรูปอยู่ในขณะนี้ซึ่งดูเหมือนว่าเขามีชีวิตชีวามากขึ้นและลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขายกเว้นส่ิงที่เขารักที่สุดก็คือการถ่ายภาพ

    หล่อนอดยิ้มออกมาไม่ได้ เขามีความสุขกับการทํางานของเขา  มีความสุขกับการถ่ายภาพ  หล่อนคิดว่าเขาต้องการเวลาแบบนี้เป็นที่สุดเวลาที่ไม่ต้องกังวลถึงสิ่งใดนอกจากสิ่งที่เขารักจะทําเหมือนกับที่เขาต้องการเวลาพักผ่อนนอนหลับและไม่มีความฝันมารบกวนเขา

    เธอรู้ในไม่ช้าเขาจะต้องถามคําถามเธออีกครั้งและเธอก็รู้ว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงที่จะตอบคําถามเขาได้อีกต่อไปได้แล้ว หล่อนถอยหลังกลับเข้าไปในซากปราสาทแห่งความลับ ไม่ต้องการจะรบกวนเขาในตอนนี้ เขาต้องการเวลาเป็นส่วนตัวในขณะนี้  

    เธอครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียวตามลําพังจากนั้นก็เดินไปหยุดอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของปราสาทซึ่งเป็นจุดที่ดอกไม้เบ่งบานออกมาจากพื้นดินเป็นรูปวงกลม เธอแหงนหน้าขึ้นกระทบกับแสงสว่างที่สาดส่องลงมาตรงจุดนั้น ยกแขนของเธอขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน เธอเริ่มที่จะท่องมนตร์คาถาของเธอที่ฟังดูเหมือนเพลงสวด

    เธอรับรู้ถึงพลังงานบางอย่างที่ปลายนิ้วมือของเธอแต่มันอ่อนแรงนัก มันอ่อนเหลือเกินทําให้เธออยากจะร้องไห้ออกมาด้วยความผิดหวัง ครั้งหนึ่งเธอเคยใช้อํานาจของเธอได้อย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เธอแสนจะเจ็บปวดที่รู้ว่าตัวเองไม่สามารถทําเช่นนั้นได้อีก


    “นี่คือคําสั่งจากข้า ขอได้รับรู้ ณ ที่แห่งนี้ที่มีดอกไม้บาน
    ข้าขอเรียกกระแสลม ข้าขอเรียกดวงตะวัน
    อะไรที่มันเสร็จสิ้นไปแล้วข้าขอแก้ไขคืนมา
    อันตรายใดจากเขาให้มันผ่านเลยไปจากข้า
    ด้วยคําปณิธานแห่งข้า ทําให้มันเป็นไปด้วยเถิด”

    หลังจากที่เธอท่องมนตร์คาถาจบ กระแสลมพัดแรงมาลูบไล้เส้นผมของเธออย่างอ่อนโยน แสงตะวันสาดส่องลงมากระทบใบหน้าที่แหงนขึ้นฟ้าของเธอ เธอเริ่มท่องมนตร์
    คาถาของเธอต่อไป

    “ ข้าขอเรียกเหล่าเทพธิดานางฟ้า
    ข้าขอเรียกผู้รอบรู้ทั้งหลาย
    ใช้พลังอํานาจใดใดที่ท่านมีอยู่ช่วยเหลือข้าด้วย
    ได้โปรดฟังคําข้าขอร้อง
    แม้ว่าเวทมนตร์ของข้าจะอ่อนกําลังลง
    ได้โปรดร่ายมนตร์ของท่านเพื่อป้องกันยอดดวงใจของข้า
    ป้องกันเขาผู้เป็นดวงใจแห่งข้าจากเบื้องบนจนถึงเบื้องล่าง
    อย่าให้เขามีอันตรายใดใดมาแผ้วพาน
    ข้าขอสัญญาจะทําสิ่งใดๆที่ท่านปรารถนาเพื่อทดแทน
    ด้วยคําปณิธานแห่งข้า ทําให้มันเป็นไปด้วยเถิด”

    เมื่อเธอร่ายมนตร์จบกระแสพลังงานส่องแสงวูบวาบ เจิดจ้าขึ้นทําให้อบอุ่นขึ้นกว่าเดิม  เธอต่อสู้เพื่อที่จะควบคุมมันเอาไว้  เพื่อดูดซับพลังแห่งอํานาจที่เธอได้รับเป็นของกํานัล
    เธอยกมือสูงขึ้นไปบนฟ้าแหวนสีเงินที่เธอสวมอยู่เกิดกระแสพลังงานระเบิดออกมาเป็นลําแสงสายเดี่ยวพุ่งตรงขึ้นไปบนชั้นเมฆที่ลอยเหมือนหมอกควันอยู่เบื้องบน

    และทันใดนั้นมันก็ผ่าลงมาสู่เบื้องล่าง กระแสพลังความร้อนของมันไหลลงมาสู่แขนของเธอกระแสพลังงานที่เธอได้รับทําให้เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ด้วยความปีติยินดี

    ยัง…เธอยังมีพลังอํานาจเหลืออยู่เพื่อต่อสู้กับมัน


    คาลหมุนเลนซ์ของเขาเสียงดังกริ๊กๆเพื่อถ่ายรูปของเธอนับครั้งไม่ถ้วน เขาถ่ายรูปของเธอหมดไปเกือบจะสิบสองภาพ หล่อนยืนนิ่งเหมือนกับรูปปั้นอยู่บนดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าเหมือนกับว่าดอกไม้เหล่านั้นขึ้นมาเป็นเส้นวงกลมอยู่แค่ตรงนั้นเอง

    มันเหมือนกับว่ามีมายากลอะไรบางอย่างทําให้กระแสลมพัดเส้นผมของเธอกระจัดกระจายห่างออกไปจากใบหน้าที่เปล่งปลั่งของเธอ และไอ้มายากลที่ว่าทําให้ดูเหมือนกับว่ามีลําแสงสว่างพุ่งตรงลงมาที่ร่างเธอเป็นจุดเดียวเหมือนกับคันศรที่พุ่งลงมาเป็นเส้นทแยงมุมตกลงที่ร่างเธออย่างสมบรูณ์แบบ

    หล่อนช่างสวยงามนักในความรู้สึกของเขา เหมือนกับนางฟ้าที่ลงมาเกิดบนพื้นโลกแห่งนี้ ถึงแม้ว่าหัวใจเขาจะสะดุดไปชั่วขณะเมื่อเขามองเห็นนิ้วมือของเธอส่องลําแสงออกมาสว่างวาบแต่เขาก็ยังคงถ่ายรูปเธอเอาไว้ไม่หยุดหยั้ง เก็บภาพเธอไว้ในฟิล์มของเขา  จากนั้นเธอเริ่มจะเคลื่อนไหวส่ายไปมาเป็นจังหวะจะโคน ส่งกระแสกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างขึ้น กระแสลมพัดเสื้อผ้าอันบางเบาของเธอให้แนบไปกับรูปร่างที่สมส่วนของเธอ

    ภาษาที่เธอใช้อยู่ในขณะนี้เขาเคยได้ยินมันมาก่อนในความฝันของเขา มือของเขาสั่นน้อยๆเมื่อ เขาลดกล้องเขาลงมา เขากําลังว้าวุ่นใจอย่างหนักที่เขาเองไม่เข้าใจว่าตัวเองเข้าใจภาษาโบราณเหล่านี้ได้อย่างไร และที่สําคัญเขาสามารถมองเห็นอะไรลึกซึ้งลงไปมากกว่าแค่ความหมายของคําโบราณเหล่านั้น เขาสามารถมองเห็นความนึกคิดของเธอเหมือนกับว่าเขากําลังอ่านความนึกคิดของเธอลงบนกระดาษแผ่นหนึ่ง

    “การป้องกัน การต่อสู้ การสู้รบกําลังใกล้เข้ามาแล้ว ได้โปรดช่วยข้าด้วย ช่วยเขาด้วยได้โปรด”

    มันมีความสิ้นหวังเจือปนอยู่ในความคิดของเธอที่สื่อมาถึงเขาอยู่ในขณะนี้ และความกลัว ความกลัวที่เกิดขึ้นในจิตเธอนี่เองที่ทําให้เขาต้องการจะช่วยเหลือเธอ ปลอบขวัญเธอ ปกป้องเธอ เขาก้าวเดินเข้าไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว เข้าไปในเส้นวงกลมดอกไม้นั้น

    วินาทีที่เท้าเขาเหยียบเข้าไปในเส้นวงกลมดอกไม้อันนั้น ร่างของเธอกระตุก ดวงตาของเธอลืมขึ้นจ้องมองเขา หล่อนรีบยื่นมือออกมาห้ามเขาก่อนที่เขาจะเข้ามาสัมผัสแตะต้องเธอ

    “ ไม่ใช่ที่นี่” เธอบอกเขาเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย

    “ ไม่ใช่เดี๋ยวนี้ ต้องคอยจนกระทั่งพระจันทร์เต็มดวง”

    ดอกไม้ลู่ไปสัมผัสเข่าเธอในขณะที่เธอเดินออกไปจากเส้นวงกลมของดอกไม้ตรงนั้น กระแสลมที่พัดกระทบเส้นผมอ่อนนุ่มของเธอค่อยๆอ่อนตัวลงและหยุดลงในที่สุด

    ยังมีต่อ...

    จากคุณ : โรส สลาลินน์ - [ 11 ส.ค. 46 02:05:54 A:12.108.141.229 X: ]