หากจะรักอีกสักครั้ง / ภาคพิเศษของ คือความรักในใจ(เก็บไว้เพียงเธอ) ตอนที่ 5 จบ

    ตอนที่ 5

    “ฝุ่น….ไต้ฝุ่น….ยัยฝุ่น!!!!” คำสุดท้ายนั้นแหละถึงเรียกสติของอีกฝ่ายให้กลับเข้าร่างได้ เธอหันมามองก่อนจะยิ้มแหย ถามคนเป็นพี่สาวเบา ๆ ว่า

    “ไร พี่ฟาง” น้ำเสียงดูเหมือนจะเซ็ง ๆ ทำให้คนเป็นพี่สาวต่างแม่เชยคางเล็ก ๆนั้นขึ้นมามองก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

    “แกเป็นไรไปเจ้าฝุ่น อกหักหรือไงทำหน้าเหมือนใครจะตาย”

    “พี่ฟางอ่ะ” คนเป็นน้องสาวสะบัดหน้าหนีก่อนจะเหม่มองไปยังกล้างถ่ายรูปที่วางอยู่ข้าง ๆ

    “แกรักพี่คามิหรือเปล่าฝุ่น” คำถามตรงโดนใจนั้นทำให้คนเป็นน้องสาวหันมามองพี่สาวเต็มตาอย่างคาดไม่ถึง “รักเค้า ทำไมไม่บอกเค้าไป นี่เค้าจะไปวันนี้แล้วไม่ใช่เหรอจะปล่อยให้เค้าไปโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่เคลียร์ให้มันจบหรือไง …. ตัวแกเองก็แน่ใจไม่ใช่หรือว่าเค้าคือคนที่แกรอคอยอยู่ แล้วแกจะปล่อยเค้าไปงั้นหรือฝุ่น

    …ปกติแกเป็นคนกล้าหาญจะตายไป กับเรื่องความรักแค่นี้มานั่งคิดมากอยู่ทำไมเจ้าฝุ่น อย่างดีถ้าไปบอกเค้าแล้วเค้าไม่รักเรา เหมือนที่เรารักเค้าก็ไม่เห็นจะเป็นไร อย่างน้อยแกก็จะได้เรียนรู้ว่า ความรักเป็นอย่างไร เจ็บเป็นอย่างไร อีกอย่างถ้าแกกลัวว่าจะไม่มีใครรักแกอย่างน้อยชั้นก็ยังรักแกนะเจ้าฝุ่น…” คนเป็นพี่สาวเขย่าหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู

    ไต้ฝุ่นน้ำตาคลอก่อนจะกอดเอวคนเป็นพี่สาวไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยเสียเครือ ๆ ว่า

    “ฝุ่นไม่ได้กลัวที่จะบอกหรอกพี่ฟาง เพียงแต่ฝุ่นกลัววันเวลาต่างหากล่ะพี่ฟาง ขนาดภรรยาของคามิเค้ายังพ่ายแพ้เพราะวันเวลาและระยะทางเลย”

    “แกกลัว พี่คามิจะเปลี่ยนไปงั้นเหรอ ฝุ่น”

    “ไม่ใช่ ฝุ่นไม่กลัวพี่คามิจะเปลี่ยนไป ฝุ่นกลัวตัวเองต่างหากล่ะ พี่ฟางก็นิสัยฝุ่นดี ฝุ่นขาดความรัก พอมีคนมาคอยดูแลเอาใจใส่ เติมในส่วนที่ขาดไป ฝุ่นก็รู้ว่าจะขาดเค้าไปไม่ได้ แต่ถ้าเราห่างกันนาน ๆ เข้า ฝุ่นกลัวตัวเองจะเหมือนไม้เลื้อยพอมีใครหยิบยื่นความรักก็จะเลื้อยไป ตามนั้น ที่สำคัญฝุ่นไม่อยากให้พี่คามิเค้าเจ็บเพราะฝุ่น” ประโยคสุดท้ายเรียกน้ำตาที่คลออยู่ที่หน่วยตาให้ไหลออกมาช้า ๆ

    “ยัยบ้า คิดอะไรบ้า ๆ ยัยฝุ่น…แกนี่มันประหลาดมาตั้งแต่เกิดจริงๆ นะ มีอย่างที่ไหนไปกลัวเค้าเจ็บ นี่ ๆ ถ้าแกคิดอะไรไม่ออก ไอ้พี่โง่ ๆ คนนี้จะบอกให้นะ ถ้าแกกลัวอย่างที่แกว่า แกก็ตามเค้าไปที่อเมริกาเลยสิ…แกจะต้องห่วงอะไรทางนี้ ชั้นกับแม่ใหญ่อยู่กันได้อยู่แล้ว แกไม่ต้องห่วงหรอก ยัยเด็กบ้า” คนเป็นพี่สาวหยิกแก้มสีชมพูอย่างมั่นไส้น้องสาวตัวเองเต็มที

    “พี่ฟาง………”คนฟังนิ่งอึ้งยิ้มพร้อมน้ำตา

    “ไป๊ ไป ปัญหาง่ายๆ แค่นี้คิดไม่ออกทีเรื่องสาระพัดสาระเพทำมันได้ ไปมันได้ทุกที แค่เรื่องแค่นี้เองทำเป็น so sad ไปได้ ไป ไปบอกพี่คามิซะ”

    “ฝุ่นรักพี่ฟางจัง” แล้วคนเป็นน้องสาวก็กระโดดเข้ากอดพี่สาวแรง ๆ ก่อนจะหยิบกล้องตัวโปรดเข้าไปเก็บเพื่อเตรียมจะออกไป  ฟางยิ้มตามร่างเล็กจ้อยที่วิ่งหายไปอย่างมีความสุข

    สนามบินดอนเมืองวันนี้ก็ไม่ต่างจากทุกวันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเวลาจะผ่านไปเท่าไรผู้คนที่เดินผ่านเข้ามาและออกไปก็ไม่ต่างกันเท่าใด สิ่งที่ต่างกันนั้นคือจุดหมายปลายทางของแต่ละคน และเขาก็เป็นหนึ่งในผู้คนมากมายเหล่านั้น

    นิลกานต์ ชะเง้อมองประตูทางเข้าเป็นรอบที่สิบจนคนเป็นสามีต้องดุเบา ๆ ว่า

    “คอจะยาวแล้วจ๊ะ เดี๋ยวมันก็มาเองแหละ”

    “แต่มันก็ไม่น่าจะผิดเวลาขนาดนี้นี่พี่น้ำนี่คามิก็ได้เวลาจะขึ้นเครื่องอยู่แล้วนะ” คนเป็นภรรยาบ่นก่อนจะมองไปที่ตัวต้นเหตุที่ยืนหน้านิ่งหากในแววตาเท่านั้นที่ดูเศร้า

    “น่า ตัวอ่อน เด้วมันก็โผล่มาเองแหละ มีเหรอมันจะพลาดนะ เจ้าไต้ฝุ่นน่ะ”พี่นัฐช่วยสนับสนุกคำพูดของสามีเธออีกครั้ง หญิงสาวถอนหายใจยาว

    ….นี่คงต้องมีอะไรแน่ หากแต่คามิไม่ยอมพูดอะไรกับเธอสักคำ… นิลคิดในใจ

    เสียงประกาศเตือนเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องดังขึ้น นิลกานต์หันไปมองชายหนุ่มคนที่กำลังจะเดินทาง เธอเห็นเขาแอบเหลือบตามองไปยังประตูทางขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะตวัดสายตากลับมาเจอกับสายตาของเธอ รอยยิ้มเศร้า ๆ จึงจุดอยู่ที่มุมปาก

    “พี่ไปล่ะ” เค้าบอกเบา ๆ พรางหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นจากพื้น

    “โชคดีนะเฟ้ย” เสียงพี่นันท์บอกพรางตบบ่าคนเป็นเพื่อนสนิทเบา ๆ

    “กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อย ๆ หน่อยก็ดีนะ คามิ” พี่นนท์พูด

    “คามิ ของฝากคราวหน้าขอสาวฝรั่งสักคนแล้วกันนะ” คนสั่งสุดท้ายนี่กลายเป็นพี่นัฐพี่ชายคนสุดท้ายของนิลนั่นเอง

    “ไอ้คนที่เพิ่งกลับมาน่ะ จัดการให้รู้เรื่องเสียก่อนเถอะ” พี่นันท์พูดลอย ๆ แต่มีผลทำให้คนทีคะนองปากหันมาถามทันทีเช่นกัน

    “หมายถึงใครอ่ะพี่นันท์”

    “ไม่รู้โว้ย”

    “หยุดเลย ไม่ต้องมาทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆ” พี่นนท์ห้ามทัพก่อนที่จะทะเลาะกันมากไปกว่านี้

    “คามิ…..”

    “ไม่ต้องพูดแล้วนิล ไม่มีประโยชน์” ชายหนุ่มรู้ว่า หญิงสาวจะพูดอะไร

    “ไม่รอสักหน่อยเหรอ”

    “ไม่มีเวลาแล้ว ไปล่ะ มีข่าวดีเรื่องหลานเมื่อไรอย่างลืมโทรไปบอกนะคุณน้ำ ” คามิยิ้มกับคนที่เป็นสามีของหญิงสาว

    “ครับ ผมจะรีบโทรไปบอกเลย”  น้ำรับคำยิ้ม ๆ มีผลทำให้ได้รับค้อนวงโตจากคนเป็นภรรยา

    “มั่นไส้” เสียงพี่นันท์ลอยมาตามลมอีกจนได้ ก็เลยได้ค้อนวงโต ๆ แถมให้อีกคน

    คามิยิ้มกับภาพตรงหน้าก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป หากแต่เสียงที่ได้ยินแว่ว ๆ มานั้นทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปชะงักก่อนจะหันกลับมา

    “พี่คามิ เดี๋ยวก่อน เดี๋ยว……ววว” แล้วร่างเล็กบางในชุดยีนส์ตัวเก่งก็มาหยุดยืนหอบฮัก ๆ อยู่ตรงหน้าชายหนุ่มนั่นเอง

    “ไต้ฝุ่น” เขาพูดได้แค่นั้น

    “พี่คามิ โอ๊ย….ขอ 10 วิ …” แล้วเธอก็สูดหายใจยาวก่อนจะยิ้มอย่างที่เจ้าตัวคิดว่าสวยที่สุดให้คนตรงหน้า พร้อมกับบอกว่า “ฝุ่นรู้แล้วว่าฝุ่นรู้สึกไงกับพี่คามิ ที่มาเนี่ยะไม่ได้มาส่งนะ แต่จะมาบอกว่าให้มารับด้วยตอนที่ฝุ่นไปถึงทางโน้นแล้ว ที่สำคัญ ห้ามไปมีใครทางโน้นอีกนะ แล้วฝุ่นจะรีบตามไปเลยทันทีที่วีซ่าเสร็จ… ได้ยินไหมพี่คามิ” เจ้าตัวพูดเสร็จก็ทำตาแป๋วยืนรอคำตอบทันที

    คามิกำลังจับใจความของข้อความและเมื่อเรียบเรียงประโยคที่เธอพูดจนเสร็จเค้าก็ยิ้มออกมาจนเต็มที่แล้วคว้าตัวคนที่ยืนมากอดเบา ๆ

    “พี่จะรอ จะมารับ”

    “ไปได้แล้วพี่คามิ เครื่องใกล้จะออกแล้ว แล้วอย่าลืมมารับฝุ่นนะ” เธอสำทับ

    “ไม่ลืม” ก่อนที่เจ้าตัวจะผละจากไปนั้นก็ทิ้งรอยจุมพิตไว้ที่หน้าผากนวลเบา ๆ หญิงสาวเอามือลูบหน้าผากตัวเองเบา ๆ พร้อมกับยิ้มทันทีที่ชายหนุ่มคนนั้นเดินลับสายตาเธอไป

    …อีกไม่นานพบกันพี่คามิ…อีกไม่นาน… เธอรำพึงในใจอย่างมีความสุข

                                                            12/8/46
                                                            เปียร์รุส

    จากคุณ : เปียร์รุส - [ 11 ส.ค. 46 22:50:22 ]