บทที่๘
.
มหามโหรีค่อยๆชะลอคลายท่วงทำนองเร็วเร่ง..ทิ้งทอดจังหวะเนิบช้า นาฏกรผู้อยู่บนเวทีจึงพริ้วกายไหวตามเสียงดนตรีที่อ่อนละมุนลง.
....ขยับท่วงท่าให้ อ่อนช้อยประสานกับบทเพลงที่ดังกังวาลก้องทั่วโถงกว้าง
จากความเร็วเร่ง
คลี่คลายคืนสู่ความสงบเเช่มช้า
ศิลปะเเห่งนาฏการเป็นเช่นนี้
เสร็จสิ้นเสียที
.
นฤตยาคลายใจ ที่ภาระของนางกำลังจะสิ้นสุดในไม่ช้า ดวงหน้าละมุนประดับรอยเเย้มบนริมฝีปากระเรื่อด้วย
สีชาด กรายกรีดเเขนอ่อนกลมกลึง ไกวข้อมือสะบัดกำไลโปร่งให้กระทบกันเป็นเสียงใสได้จังหวะ
ร่างบางทอดลมหายใจยาว
พยายามควบคุมสมาธิให้จดจ่ออยู่กับเสียงดนตรี..มิให้ประหวั่นหวาดไปกับสายพระเนตรอันหมายมาดจากองค์ราชะ
ผู้ประหนึ่ง พญาราชสีห์ซึ่งกระหายที่จักลิ้มรสหวานเเห่งเนื้อมฤคี
.
องค์วาสุเทวะเทพ
ละสายพระเนตรโกรธกริ้วจากวงพักตร์ขรึมเครียดของราชโอรสเพียงในนามของพระองค์.. ทั้งๆที่ในพระทัยยังคงกรุ่นไปด้วยโทสะจริต
เสด็จพี่
สุเมธะอุปราชตรัสเรียกกระซิบ เมื่อเห็นสีพระพักตร์ขุ่นเคืองเเห่งองค์ราชะ
มันกล้าขัดใจข้า
.เจ้าก็เห็น
.มันมองข้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
บุรุษหนุ่มก็เช่นนี้
.เมื่อรักแรงก็ย่อมมีหึงหวงบ้างเป็นธรรมดา
พระอนุชาทูลอย่างพระทัยเย็น
เเต่ถ้าทรงปราถนาจักได้นฤตยามาชื่นชมจริงๆ
เรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้น่าจักทรงมองข้ามไปเสียเพียงขอให้เอาตัวนางมาได้ก็เป็นพอ
จักต้องใส่พระทัยกับผู้อื่นไปใยเล่า
ผู้อื่น
.ผู้กล่าวเน้นคำในที
สำหรับองค์มคธปติ
สุริยะราเชนทร์ผู้มิใช่เชื้อสายของพระองค์
ย่อมเสมือนผู้ที่มิมีความสำคัญใดเลยที่จักต้องสนพระทัย
เช่นชนกเเละบุตรจักควรเป็น
.
สุเมธะอุปราชยกน้ำจัณฑ์รสหวานเเหลมขึ้นจิบช้าๆ ประหนึ่งกำลังใช้ความคิดใคร่ครวญ
เจ้าจักช่วยข้าได้หรือไม่
องค์ผู้ประทับบนบัลลังก์ทองก้มพระพักตร์ลงมาตรัสถามอย่างร้อนรนจนมหาพิชัยมงกุฏมณีโน้มต่ำสะท้อนเเสงประทีประยับวาว
ได้สิ..พระเจ้าข้า
..
เเววเนตรเรียวปานนาคาซ่อนกระหยิ่มยินดีไว้อย่างเเนบเนียน ด้วยอีกไม่ช้าการที่วางไว้คงจักประสบผลสำเร็จเเม่นมั่น..
ประเดี๋ยวก็ทรงประทานเป็นทรัพย์สินเงินทอง เครื่องประดับอาภรณ์อันงดงาม เป็นรางวัลเเก่นางสักหน่อย
อันข้าวของเหล่านี้ จักทำให้ศูทระผู้ยากไร้เช่นนางนึกนิยมในตัวพระองค์เเละต่อไปข้าก็จักให้บุตรีของข้าไปเจรจากับนาง
ให้มาเป็นบาทบริจาริกาของพระองค์
ซึ่งนฤตยาก็คงจักโอนอ่อนยอมตามพระทัยโดยดี
จักมีนรีคนใด
ที่ไม่นิยมชมชอบความสวยความงาม
วาสุเทวะปติยกหัตถ์ลูบพระมัสสุย้อมดำอย่างตริตรอง ก่อนที่จักพยักพักตร์อย่างทรงเห็นชอบด้วยในดำริของพระอนุชา
ก็ดี เเล้วข้าจักไปสั่งการตามที่เจ้าว่า..
..
น้ำจัณฑ์สีทองถูกรินลงถ้วยสำริดใบย่อม..เติมเเล้วเติมเล่า..ก็ยังมิสามารถทำให้ผู้เสวยคลายความรู้สึกเคืองขุ่นในหทัยได้ดังที่ปราถนา..เเต่หากยิ่งเสวย
กลับยิ่งทวีความกริ้วให้คุกกรุ่นยิ่งขึ้น
เสด็จพี่
.พอเถิด
จนองค์อนุชาใช้ฝ่าพระหัตถ์ปิดปากถ้วย
ด้วยเกรงพระเชษฐาจักทรงมึนเมาไปมากกว่านี้
องค์ราชะ พระองค์มีเหล่านารีอันงดงามคอยปรนนิบัติมากมายอยู่เเล้ว..ใยจึงทรงมิรู้จักพอ
.
ผู้ตรัสยกถ้วยขึ้นเสวยอีก
คล้ายกับทรงปราถนาให้น้ำโสมดับความกลัดกลุ้มในพระทัย
ถ้าเจ้าเป็นข้าบ้างจักรู้สึกอย่างไร
จันทรคุปต์
เมื่อนางอันเป็นที่รักของเจ้ากำลังจักถูกพรากไปเช่นนี้
.
วรองค์สูงทรงอาภรณ์สีครามเข้ม ยังประทับองค์นิ่งมิมีโอนเอน พระเนตรทอดไปยังสตรีที่ทรงสิเน่หาไม่อย่างมิละสายเนตร
..มคธบดี
ข้าชิงชังพระองค์ยิ่งนัก
หึ
ข้าบอกให้ทรงตัดพระทัยเเล้วก็ทรงมิเชื่อ
จักทรงเเข็งขืนกับเสด็จลุงรึก็เสียเเรงเปล่า..ปล่อยนางไปเถิดเพคะ..
เสียงหวานเอ่ยเอื้อนขณะที่เจ้าตัวขยับกายเข้ามาใกล้เเนบชิดพาหาเเห่งองค์สุริยะราเชนทร์ โดยมุ่งหวังจักให้นางนาฏยกรที่อยู่กลางโถงมองผ่านมาเห็น
ว่าศูทระเช่นนางมิควรคู่กับสุริยะราเชนทร์เเม้สักน้อยนิด
ชาลินี
ผู้ใดเห็นเข้าจักมิดี
คันธาระปติใช้พระหัตถ์เรียวผลักร่างระหงให้ออกห่างวรกายเบาๆ ด้วยทรงมิโปรดให้นางมาวุ่นวายรบกวนพระองค์
ทรงเกรงนฤตยา..จักเห็นเข้าหรือ บุตรีองค์อุปราชทูลยั่วเย้า..
เห็นก็ดีสิเพคะ
จักได้รู้ว่า..กษัตริยะเช่นพระองค์เเละธิดาเเห่งอุปราช
เหมาะสมกันเพียงไร
รอยยิ้มจากริมฝีปากสีชาดจัดคลี่เเย้มยวน..พลางเกาะข้อพระกรเรียวไว้เเน่น
ออกไปห่างๆข้า..ชาลินี
คำตรัสกราดกริ้ว ตวัดหางเนตรครามอย่างทรงฉุนเฉียว พลางสะบัดข้อพระกรโดยเเรงให้พ้นจากการเกาะกุม
จันทรคุปต์
.ข้าอยากออกไปข้างนอกสักครู่..ในท้องพระโรงนี้เสียงยิ่งนัก..
ประเดี๋ยวเพคะ
อย่าตาม
เสด็จพี่กริ้วเเล้ว
องค์อนุชารั้งชายผ้าสีชาดของธิดาอุปราชไว้เเน่น..
ร่างระหงจึงต้องทรุดนั่งลงอย่างจำใจ
องค์สุริยะราเชนทร์ยันองค์ลุกขึ้นจากอาสนะนุ่ม
ประทับยืนเด่นอยู่กลางโถงท้องพระโรงท่ามกลางความประหลาดใจของเหล่าขัตติยะราชผู้ชมนาฏยการ
เสด็จออกไปยังนอกบานพระทวารอย่างมิเกรงพระทัยองค์ราชะผู้ประทับเป็นประมุขโดยมิได้ก้มเศียรทูลลา
พลางทอดสายพระเนตรปรายมายังร่างบางที่อยู่บนเวทีลาดพรม
.อย่างทรงเเสนสิเน่หาเเละหวงเเหนยิ่งนัก
เพียงชั่วขณะเดียว
.ก่อนที่จะเสด็จก้าวพ้นท้อง
พระโรงออกไปประหนึ่งมิใยดีกับสิ่งใด ณ นั้นเเล้วทั้งสิ้น..
เเม้กระทั่งพระเกียรติเเห่งองค์ราชะ
หรือนวลอนงค์นาฏยกรผู้เลอลักษณ์..
จงดู
.มันทำเหมือนมิเห็นหัวข้าเลยสักนิด มคธปตีตรัสอย่างพิโรธ..ด้วยมิเคยถูกท้าทายเช่นนี้
อย่าได้ใส่พระทัยเลย
.เสด็จพี่..มันไปเสียก็ดีเเล้ว สุเมธะอุปราชทูลปรามเบาๆเพื่อให้พระองค์ระงับโทสะจริตที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในพระทัย
ทรงอดใจรอประเดี๋ยวเถิด
เมื่อนาฏการจบลง..อย่าทรงลืมที่ข้าเเนะนำเสียเล่า
องค์อนุชาค่อยๆเเย้มโอษฐ์อย่างพระทัยเย็น
ลอบทอดสายเนตรคมยังวงพักตร์แห่งเชษฐากษัตริย์
ซึ่งปรากฎรอยสรวลสราญพระทัยเมื่อทรงคลายจากความกราดกริ้วเมื่อครู่
เสด็จพี่
ข้าได้ถวายสิ่งที่ทรงปราถนาเเล้ว อีกไม่ช้า.พระองค์จักต้องประทานในสิ่งที่ข้าควรครองด้วยเช่นกัน
.
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
วิจิตรวีณาลดเสียงดังกังวาลเป็นเบานุ่ม
คลอขลุ่ยอ้อทุ้มต่ำ กลองหนังเเละฉิ่งทองทอดจังหวะช้าเนิบนาบ ..ก่อนที่จะทิ้งทำนองหยุดลงยาวนาน
ทว่าเสียงปรบหัตถ์ฉาดฉานอย่างพอพระทัยจากองค์ราชะเเละเหล่าขัตติยะราชกลับดังก้องทั่วโถงกว้างเเทนเสียงดนตรีที่เงียบหายไป
ร่างบางหมอบกรานอยู่บนเวทีที่เกลื่อนไปด้วยกลีบมาลา
เกศเกล้ามวยสูงก้มต่ำ ทำให้นวลนลาภเเนบจรดหลังมือเรียวซึ่งจรดลงชิดพรมเเดง เป็นการเเสดงอภิวันทาต่อองค์วาสุเทวะอย่างเคารพยิ่ง
ท่านทั้งหลาย
.
มคธปตีเอ่ยโอษฐ์ต่อผู้ชมการเเสดง ณ ท้องพระโรง
การประชันในราตรีนี้ ระหว่างบาทบริจาริกาเเห่งวัชชีราช เเละ นฤตยานาฏกร..ได้เสร็จสิ้นเเล้ว
โถงกว้างพลันสงัด
องค์ราชะหยุดตรัสชั่วครู่ ทอดพระเนตรกวาดไปรอบๆท้องพระโรง
ข้าตัดสินว่า
.ทั้งสองฝ่ายมีความสามารถในนาฏการงดงามเสมอกัน
เสียงตรัสเอ่ยชมอย่างพึงหทัยจากบรรดาขัตติยะราช..ต่อพระปรีชาชาญในการตัดสินของพระองค์ดังอื้ออึง..
ด้วยต่างเห็นพ้องต้องกันกับองค์วาสุเทวะเทพผู้เป็นใหญ่เเห่งนครราชคฤห์
ราชะ
.ทรงปรีชายิ่งเเล้ว..
วรองค์ในอาภรณ์ทรงสีขาวปักลายเส้นทองปราณีตค่อยๆผุดประทับยืนขึ้นจากรัตนบัลลังก์โบกหัตถ์ช้าๆเป็นสัญญาณให้ทั่วทั้งโถงกว้างเงียบสนิท..
นี่คือรางวัลของเจ้า
.นฤตยานาฏกร
ทรงชี้หัตถาไปยังนางกำนัลสองนางที่ทยอยคลานเข่าเข้ามายังเบื้องพระพักตร์ ในมือของนางคนซ้ายประคองถาดอาภรณ์เเพรพรรณหลากชนิดพร้อมด้วยเครื่องประดับมณีอันงดงามยิ่ง
ส่วนของอีกนางคือถาดเหรียญทองที่วางพูนอยู่บนผืนไหม
เปล่งประกายระยับตา
นฤตยาเงยดวงหน้าขึ้นจากพื้นพรม..ทันที่ที่สายตาของนางเห็นราชรางวัลที่ทรงประทาน..จึงรีบทูลปฏิเสธละล่ำละลัก..
ทรงประทานอภัยให้ข้าเถิด ฝ่าพระบาท
ราชรางวัลของพระองค์นั้นล้ำค่าเกินกว่าที่..ข้าจักรับได้เพคะ
เมื่อข้าให้..เจ้าก็ควรรับไป ทรงคลี่ รอยสรวลเเย้มอย่างพึงหทัย
สำหรับผู้ที่ให้ความบันเทิงใจเเก่ข้าได้
สิ่งของเหล่านี้มิมากไปหรอก
ขอบพระทัย..เพคะ ดรุณีร่างบางเอ่ยทูล..พลางก้มเกศกราบอีกคำรบหนึ่ง
ราตรีนี้เจ้าคงเหนื่อยมากเเล้วจงกลับคืนเรือนไปเถิด..
มคธปตีทรุดองค์ลงประทัยนั่งบนราชบัลลังก์เช่นเดิม..อังสากว้างขยับเอนทำให้สายมุกดาวลีบนภูษาพาดอังสะพลอยกวัดไกว
ใต้ฝ่าพระบาท
ข้าขอทูลลาเพคะ
สตรีในอาภรณ์สีกุหลาบงามรับราชบัญชา
กระถดกายคลานถอยไปยังนอกบานพระทวารพร้อมด้วยนางกำนัลทั้งสองนางที่เดินเข่าตามมา
ครั้นเมื่อจวนจักสุดลาดพรม..นฤตยาพยายามกวาดสายตาเเลหา ..วรองค์สูงในอาภรณ์สีครามตามเเถวอาสนะเรียงรายรอบเวที
เเต่หากมิพบ
เสด็จไปที่ใดเเล้ว
.เมื่อครู่ยังเห็นอยู่
ริมเสากลมกลึง มีเพียงอาสน์ว่างระหว่าง ขัตติยะราชจันทรคุปต์ เเละ สตรีร่างระหงอีกนางหนึ่ง..ซึ่งมองมาทางนางด้วยสายตาเฉยชา
.ประหนึ่งดูถูกเหยียดหยัน..หมิ่นเเคลน
.ระคนกันในความเยียบเย็น
เมื่อม่านบางกั้นพระทวารถูกรวบปิด
ราชมโหรีจึงเริ่มบรรเลงดนตรีขับกล่อมองค์ราชะเเละราชบริพารมิให้ท้องพระโรงกว้างเงียบเหงา..สำรับอาหารอีกชุดหนึ่งในถาดสำริดถูกทยอยยกมาตั้งเทียบอาสนะเเห่งเหล่าขัตติยะวงศ์จนถ้วนทุกองค์
เครื่องเสวยอันโอชะ วางถวายอยู่บนตั่งงาช้างเคียงบัลลังก์ ..
หากเเต่องค์มคธราชหาได้ใส่พระทัยกับเครื่องคาวหวานอันปรุงวิจิตร ด้วยเพราะทรงเอาหทัยจดจ่ออยู่กับอนงค์นาฏยกร ซึ่งพระอนุชาธิราชรับคำมั่นว่าจักนำนางมาถวายเป็นบาทบริจาริกาเเห่งพระองค์ให้จงได้
วรองค์บนบัลลังก์กระสับส่าย
ด้วยต้องมนต์เเห่งกามะเร่งเร้า
ไหนเจ้าว่าจักช่วยข้า
.
ผู้เป็นเจ้าของเนตรเรียวปานนาคา ค้อมเศียรลงน้อยๆประหนึ่งน้อมรับราชประสงค์
รอประเดี๋ยวเถิด
ข้าจักสั่งให้ชาลินีไปเจรจากับนางเอง
องค์สุเมธะราชอุปราช ทอดสายเนตรไปยังบุตรี
ร่างระหงเมื่อเห็นบิดามองมาจึงคลี่เเย้มยิ้มรับ ด้วยทราบว่าทรงเเสดงสัญญาณนั้นด้วยเหตุอันใด
..การที่คบคิดมา
จักสำเร็จหรือไม่
ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้..
บุตรีเเห่งอุปราชค่อยๆยันกายลุกขึ้น..ขยับอาภรณ์สีชาดจัดให้เรียบร้อย
จะไปที่ใด
จันทรคุปต์ราชโอรสตรัสถาม ด้วยเกรงจักตามไปกวนหทัยพระเชษฐา
ธิดาองค์สุเมธะชะงักเท้าเรียว หันวงพักตร์ยังมาณวกะ
ขัตติยะราช ก่อนที่จักทูลตอบชัดเจน
วางพระทัย
ข้ามิได้ตามไปกวนเสด็จพี่ของพระองค์เเน่
โอษฐ์เรียวสวยเเย้มเยียบเย็น
ก่อนที่จะสาวเท้าออกไปยังนอกท้องพระโรง
๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓
จากคุณ :
อชันฏา
- [
11 ส.ค. 46 23:21:18
]