ต่อจากความตอนที่แล้ว
เธอจ้องมองคลื่นที่โหมเข้ามากระทบแนวฝั่งและหน้าผาสูงแห่งนี้อยู่ชั่วครู่ก่อนจะเล่าให้เขาฟังต่อไป
ว่า
เขาและเธอรักกันมากและให้สัญญาว่าจะรักกันเช่นนี้ตลอดไป แต่เขาเป็นนักรบ เขาจําเป็นต้องออกไปต่อสู้เพื่อรักษาแผ่นดินที่เขารัก เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาจะจากเธอไปเพื่อสู้รบ เธอจะคอยเฝ้าคอยดูเขาจากดวงไฟที่เธอเนรมิตขึ้นมา เธอจะเห็นเขายอดดวงใจของเธอบนหลังม้าท่ามกลางไฟสงครามและความตาย ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และเมื่อมันเสร็จสิ้นเขาจะกลับมาหาเธอ ขี่ม้าตัวสวยงามข้ามหุบเขากลับมาหาเธอเสมอ หล่อนทอเสื้อคลุมให้เขาจากด้ายดิบสีเทาเข้มสีเดียวกับดวงตาของเขาและใช้เวทมนตร์ที่มีอยู่ของเธอปลุกเสกลงบนเสื้อคลุมตัวนั้นเพื่อเป็นยันต์คุ้มครองเขาจากสงครามและการสู้รบ
คุณกําลังจะบอกผมว่า เธอเป็นแม่มดอย่างงั้นหรือ
ใช่คะ เธอเป็นแม่มดที่มีอํานาจและเวทมนตร์ที่สืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษของเธอ มันอยู่ในสายเลือดของเธอ และเธอจะต้องให้คําสัตย์ปฏิญาณต่ออํานาจที่เธอมีอยู่และคําสัตย์นี้จะต้องมาจากส่วนลึกจากหัวใจเธอเท่านั้นที่จะยอมรับกับโชคชะตาของเธอและมันก็เท่าเทียมกับสัญญารักที่เธอมอบให้แก่เขาที่มันมาจากหัวใจเธออย่างแท้จริง เธอจะต้องซื่อตรงต่อคําปฏิญาณของเธอว่าจะไม่ทําร้ายผู้ใดทั้งสิ้นด้วยเวทมนตร์คาถาที่เธอมีอยู่ อํานาจที่เธอมีอยู่
เธอต้องใช้มันเพื่อช่วยเหลือและรักษาผู้อื่นเท่านั้น แต่ก็ไม่ทุกคนที่รักษาคําสัตย์ปฏิญาณของตน และมีผู้ได้รับอํานาจอยู่คนหนึ่งที่ไม่รักษาสัตย์ที่ตนให้ไว้ เขาใช้มันเพื่อเพิ่มพูนอํานาจที่เขามีอยู่และเขามีความสุขที่ได้ใช้มันเหมือนกับใช้ดาบที่หิวกระหายต่อเลือดและการทําลายร้างเท่านั้น
หล่อนสั่นระริกด้วยความกลัวในหัวใจ จากนั้นก็เล่าต่อ
ผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า อลัวแดร์ เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในตัวผู้หญิงคนหนึ่ง ปรารถในร่างกาย ในหัวใจ และจิตวิญญาณของเธอ และเขาต้องการอํานาจของเธอด้วยเช่นกันเพราะเธอมีพลังอํานาจที่แข็งแกร่ง เธอผู้นี้ที่เขาต้องการก็คือ บริอาน่าผู้รอบรู้เขาลักขโมยเข้ามาในความฝันของเธอ พยายามที่จะขโมยอะไรบางอย่างที่เธอมอบให้ผู้อื่นไปแล้ว พยายามที่จะครอบครองในสิ่งที่เธอไม่ต้องการจะให้
เขาเข้ามาหาเธอ ณ ที่แห่งนี้แต่เธอไม่ต้องการเขา อลัวแดร์มีรูปร่างหน้าตาที่ค่อนข้างดีสีผมของเขาเป็นสีทองแต่ดวงตาของเขาดําสนิทเหมือนกับมนตร์ดําที่เขาฝึกฝน เขาคิดปรารถนาที่จะได้เธอมาครอบครองหวังว่าเมื่อเธอเห็นหน้าเขามันอาจจะทําให้เธอต้องการเขา แต่เธอปฎิเสธเขาอย่างไม่ใยดี
หล่อนกําราวหินไว้แน่นและหัวใจของเธอมันสั่นสะท้าน
ความโกรธเคืองจากการปฎิเสธของเธอมันมหาศาล ความโอหังของมันอยู่ในจิตวิญญานมันวางแผนที่จะฆ่าชายคนที่เธอรัก ท่องมนตร์ดําของมันพยายามจะสะกดชายอันเป็นที่รักของเธอด้วยเวทมนตร์คาถาแต่เสื้อคลุมที่เธอทักทอให้เขาและความรักที่เธอมอบให้เขาป้องกันเขาจากมนตร์ดําอันชั่วร้ายจาก อลัวแดร์
แต่มันยังมีอีกหนทางหนึ่งที่จะล่อหลอกและทําลายร้าง และ อลัวแดร์ใช้มันเพื่อทําลายร้างความรักของเขาและเธอ มันเข้ามาในความฝันของเคลิน ทําให้เคลินเห็นการทรยศของบริอาน่ากับชายอื่นที่ไม่ใช่เขา ทําให้เคลินเห็น บริอาน่าพลอดรักกับชู้รักของเธอ และภาพที่เขาเห็นมันทรมานจิตใจของเขา เคลินขี่ม้าสีดําสง่างามข้ามหุุบเขามาที่ปราสาทแห่งนี้เพื่อเผชิญหน้ากับเธอ เขากล่าวหาเธอทันที
เธอยังมีศักดิ์ศรีและทิฐิมานะอันแรงกล้า
บริอาน่าเล่าต่อหลังจากที่หยุดไปชั่วขณะ
หล่อนไม่ปฎิเสธคํากล่าวหาที่ไม่เป็นจริงของเขา เขาและเธอทะเลาะกันอย่างรุนแรงเจ็บปวดและเสียดแทงใจ ความโกรธมีอํานาจเหนือหัวใจรักที่มีต่อกันเสียแล้ว และ อลัวแดร์รอคอยที่จะมีโอกาสได้จู่โจม เฝ้าคอยอยู่ในความมืดหัวเราะเยาะเมื่อเห็นเขาและเธอใช้วาจาทําร้ายซึ่งกันและกัน เมื่อ เคลินฉีกกระชากเสื้อคลุมของเขาออกจากตัวขว้างมันลงตรงหน้าของเธอ อลัวแดร์ฉวยโอกาสเข้าปะทะเขาทันที เลือดของเขาไหลลินซึมเข้าไปในหินผาผ่านเข้าไปสู่พื้นแผ่นดิน
นํ้าตาคลอเบ้าเมื่อเธอเล่าจบ แต่เธอไม่ได้ปล่อยให้มันไหลหยดลงมาเมื่อหันกลับมาเผชิญหน้าเขา
ความเสียใจทําให้เธอไม่ระวังตัวเธอรีบร้อนท่องมนตร์คาถาปล่อยออกมาเป็นรัศมีวงกลมเพื่อป้องกันเขาจากอันตรายแต่บาดแผลของเขามันสาหัสนักและเขาไม่ขยับเขยื้อนตอบรับใดๆ เขากําลังจะตาย หล่อนรับรู้ได้แต่เธอไม่อยากจะยอมรับมัน เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับ อลัวแดร์
เสียงของหล่อนกึกก้องแข่งกับเสียงคลื่นที่โหมกระหนํ่ามาจากท้องทะเลเหมือนกับว่าเธอคือผู้หญิงที่อยู่ในเรื่องราวที่เธอเล่าให้เขาฟังอยู่ในขณะนี้
จากนั้นผนังของปราสาทแห่งนี้สั่นสะเทือนเหมือนกับมันกําลังโกรธขึ้นมา ด้วยพลังอํานาจแห่งเธอที่มันแผ่กระจายออกมา หล่อนยืนอยู่ข้างหน้ายอดดวงใจของเธอเพื่อป้องกันเขาจากอันตรายใดๆและจู่โจมหํ่าหั่นกับศัตรูของเธออย่างไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดอีกแล้ว ทันใดนั้นท้องฟ้าเริ่มปั่นป่วนเสียงฟ้าร้องคํารามก้อง เมฆดําลอยมาบดบังพระจันทร์สีขาวที่ขึ้นเต็มดวงและดวงดาวทั้งหลายที่กระจายอยู่บนท้องฟ้าเบื้องบนจนมืดมิด ท้องทะเลโหมกระหนํ่ากระทบเข้า
หาฝั่งอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับนักรบที่วิ่งเข้าหาข้าศึกอย่างไม่กลัวตาย พื้นดินใต้ฝ่าเท้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ในรัศมีวงกลม เคลินอ่อนแอและรู้ตัวดีว่าเขากําลังจะตายเอื้อมมือไปที่ดาบของเขา แต่ดาบของเขาป้องกันอะไรไม่ได้เมื่อต่อสู้กับเวทมนตร์คาถา มันอ่อนแอและช่างมืดมนนักนอกจากมันจะต่อสู้ด้วยพละกําลังเท่านั้น ในหัวใจและจิตวิญญานของเขา เขาเรียกหาเธอ เพิ่งจะเข้าใจถึงความไม่เชื่อมันในตัวเธอกระจ่างแจ้งในความโง่ของเขาเอง รวมทั้งความมีทิฐิมานะและศักดิ์ศรีของเขาทําให้เขาตาบอดมองไม่เห็นความจริง แต่มันสายไปแล้ว เขาเรียกชื่อเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะสิ้นใจจากเธอไป และเมื่อเขาตายจากเธอ หัวใจของเธอมันแตกสลายทุรนทุรายทรมานกับการจากไปกับเขา เธอไม่ได้คิดว่าชีวิตตัวเองมีค่าอะไรอีก
ต่อไปแล้วเมื่อไม่มีเขา
หล่อนถอนหายใจ หลับตาลงไปชั่วขณะก่อนจะเล่าต่อไป
เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้วถ้าไม่มีเขา พลังอํานาจของ อลัวแดร์แผ่ออกมาเหมือนกับนกอีแร้งกางปีกรอคอย มันกําลังจะได้เธอมาครอบครองไม่ว่าเธอจะเต็มใจหรือไม่ แต่ด้วยกําลังที่เธอมีเหลืออยู่ เธอพยุงตัวเองซัดเซกลับเข้าไปในรัศมีวงกลมที่เลือดของชายคนที่รักเธอไหลลินลงบนพื้นดินแห่งนั้น ณ ที่แห่งนี้ที่ที่คําสัญญาที่เธอให้ไว้และด้วยเวทมนตร์คาถาที่เธอยังมีอยู่ ในขณะที่ผนังปราสาทกําลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง คบไฟกําลังเผาไหม้ลงมา หล่อนให้คําสัญญาสาบานว่าจะรักและรอคอยเคลินแต่เพียงผู้เดียว ถ้าเธอต้องรอถึงหนึ่งพันปีเธอก็จะรอเขาคนเดียว เธอจะคอยเขาคนเดียว เธอใช้มนตร์คาถาของเธอก่อกําเนิดไฟเพื่อเผาผลาญปราสาทของเธอเพีื่อที่ อลัวแดร์จะไม่มีวัน
ได้ครอบครองมัน และเวทมนตร์คาถาคําสาปที่เธอใช้ครั้งสุดท้ายก็คือ
หล่อนหายใจเข้ายาวลึกประสานสายตากับเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
หนึ่งพันปีจากนี้ไปจนคืนหนึ่ง เขาและเธอจะกลับมารวมกันเป็นหนึ่งเพื่อเผชิญหน้ากับ อลัวแดร์อีกครั้งหนึ่ง ถ้าหัวใจรักที่มีต่อกันยังแข็งแกร่ง เขาและเธอจะเอาชนะมันได้ ณ
ที่แห่งนี้ แต่เวทมนตร์คาถาคําสาปครั้งสุดท้ายของเธอมีราคาเพราะมันจะแลกกับคําสาบานที่ว่าถ้าเคลิน ไม่มีความเชื่อถือ ไม่ยืนเคียงข้างเธอในคืนนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พลังอํานาจที่เธอมีอยู่จะสูญสลายไป เธอจะตกเป็นทาสของ อลัวแดร์ไปชั่วกาลนาน หลังจากที่เธอให้คําสาบาน เธอคุกเข่าลงข้างๆยอดดวงใจของเธอเอื้อมมือเข้าไปกอดเขาเอาไว้อย่างรักใคร่ ก่อนที่เขาและเธอจะหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
เขายืนน่ิงอยู่ชั่วครู่ แปลกใจที่ตัวเขาเองยืนฟังเรื่องราวที่เธอเล่าให้เขาฟังเหมือนกับว่าตัวเองถูกสะกดจิต เขายืนพิจารณาเธออยู่ตรงนั้น เขาก้าวถอยหลังห่างจากเธอไปหนึ่งก้าว
เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจไม่น้อย บริอาน่า
ทําไมคุณยังมองไม่เห็นความจริงอีกคะ หล่อนส่ายหัวให้กับเขา สายตาของเธออ้อนวอนขอร้องให้เขาเชื่อเธอ
เมื่อคุณมองมาที่ฉัน ฟังที่ฉันเล่าให้คุณฟัง คุณยังจําอะไร
ไม่ได้อีกหรือคะ
คุณจะให้ผมเชื่อว่า ผมกลับชาติมาเกิดใหม่และตัวผมเคยเป็นนักรบสมัย เคลติกและคุณเองก็กลับชาติมาเกิดใหม่และเคยเป็นแม่มดมาก่อนยังนั้นหรือ
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ
จากคุณ :
โรส สลาลินน์
- [
12 ส.ค. 46 03:19:53
A:12.108.141.155 X:
]