จดหมาย
ฉันไม่เคยอ่านหนังสือมากมายเท่าช่วงนั้นมาก่อนเลย
นักเขียนคนโปรดของฉันคือ อาลี อัชราฟ ธาร์วิเชียน เปรียบได้กับชาร์ล ดิกเก้นในประเทศของฉัน
'ห้ายเพื่อนฉาน คูโรช'
'ทำไมเขาพูดเสียงอย่างนั้นคะ" ฉันถามคุณแม่ เมื่อไปรับแจกลายเซ็น ของเขา
"มันเป็นสำเนียงชาวเคิรด น่ะ"
เขาเขียนเล่าเรื่องจริงแต่เศร้า เช่น เรซาเป็นกุลีตั้งแต่อายุสิบขวบ
ไลลาทอพรมตั้งแต่อายุห้า
ฮัสซัน ผู้แก่กว่าสามขวบ เช็ดกระจกรถ
ไม่วายถูกขับไล่ไสส่ง". . . ลงไป ไอ้งั่ง . . ."
ในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าทำไมถึงขายหน้าที่นั่งรถคาดิลแลคของพ่อ
" เหตุที่ฉันอับอายก็เหมือนกันกับการปฎิวัติ ความแตกต่างทางชนชั้น"
ฉันเขียบลงในสมุด
. . . เมื่อมาคิดดูเราก็มีสาวใช้ที่บ้าน!!!
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
เธอคนนี้คือเมห์รี
เธออายุได้แปดขวบเมื่อต้องจากบ้านจากพ่อแม่มาทำงานกับเรา เหมือนเช่นเรซา ไลลาและฮัสซัน
'เรามีลูกเยอะ ตั้งสิบสี่สิบห้าคนขะรับรวมทั้งนังหนูด้วย' พ่อของเมห์รีบอกเมื่อนำเมเธอมาส่งให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งน้ำตานองหน้า
'แกจะได้กินอิ่มที่บ้านท่านน่ะคะ' แม่ของเมห์รีเปี่ยมไปด้วยความหวัง
'เราจะดูแลเธอเอง' คุณแม่ให้คำมั่นสัญยาแก่คนทั้งสอง
เธออายุสิบขวบเองขณะเมื่อฉันเพิ่งเกิด เธอคอยดูแลฉัน เล่นกับฉัน
และช่วยเก็บ(กวาด)สำรับของฉัน(เสียเกลี้ยง)
เธอมักเล่าเรื่องสุนัขจิ้งจอกที่ฉันกลัว
'แล้วมันก็ใกล้เข้ามา ๆ . . ."
พูดอีกอย่างคือ เราเข้ากันได้ดี
ในช่วงแรกของการปฎิวัติในปีค.ศ. 1978 เธอหลงรักลูกชายเพื่อนบ้าน
ตอนนั้นเธออายุได้สิบหกปี
'พี่ช่วยหนูผูกเชือกรองเท้าหน่อยเด่'
' ลา ลา ลา ลา ลา ลา' เธอช่างอารมณ์ดีจนฮัมเพลงได้ตลอดเวลา
ทุกคืนทั้งคู่มองกันจากทางหน้าต่างห้องของฉัน
จนกระทั่งวันที่เขาส่งจดหมายมาให้เธอ
ก็เหมือนชาวนาโดยทั่วไป เธออ่านไม่ออกเขียนก็ไม่ได้
"อ่านจดหมายฉันให้ฟังหน่อยสิคะคุณหนู'
เธอเข้ามาออดอ้อนฉันให้ช่วยในวันหนึ่งเมื่อกำลังขีด ๆ เขียน ๆ อะไรอยู่
' แล้วพี่จะเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับหนู' ฉันถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
คุณแม่ฉันเคยพยายามสั่งสอนเธอหัดอ่านหัดเขียน
แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่ใคร่มีพรสวรรค์
'ไหนลองสะกดซ้ำสิ เอ็มเหมือนตัว . . . ' คุณแม่ถาม
'แครรอท' เธอตอบซื่อ ๆ
ดังนั้น ฉันจึงช่วยเธอเขียนจดหมาย
สัปดาห์ละฉบับเป็นเวลานานหกสัปดาห์
'ฮุสเซ็นที่รัก
เมคิดถึงเธอ มาก ๆ
ตั้งสามอาทิตย์แล้วนะคะที่เมเจอเธอตรงหน้าต่าง
เมคุยเรื่องเธอกับน้องสาวบ่อย ๆ'
'น้องสาวไหน?'
'คุณหนูไง'
ฉันช่างเสียสละโดยแท้
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
เมฆ์รีมีน้องสาวแท้ ๆ อายุอ่อนกว่าปีหนึ่ง ทำงานอยู่ที่บ้านคุณลุงฉะน
"รู้ไหม พี่มีคู่หมั้นแล้ว" เธออวดน้องสาว
"อ๋อ เหรอ ใครกันอะ"
"คนนั้นไงที่อยู่หน้าทีวี เขาหล่อเนอะ"
เธอชี้ ให้ห้องสาวเธอดูไปยังหน้าต่างบ้านตรงข้าม
"ไม่เลว"
หลังจากมาเยี่ยมมาเยือนไม่กี่ครั้ง น้องสาวเมห์รีเธอก็หลงรักเขาเข้าให้อีกคน
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
เธอหึงหวงมากจนทนไม่ไหวเลยเล่าเรื่องให้คุณลุงฟัง คุณลุงก็มาเล่าให้คุณยายฟัง แล้วคุณยายก็มาเล่าให้คุณแม่ฟัง นั่นคือสาเหตุที่เรื่องเข้าถึงหูคุณพ่อ
. . . ท่านตัดสินใจไปพูดให้เข้าใจแจ่มชัด
"ใครน่ะ"
"ผมเป็นเพื่อนบ้านคุณ ผมอยากพูดอะไรกับลูกชายคุณหน่อย"
"เอาล่ะ ผมขอพูดตรง ๆ ให้เข้าประเด็นเลยนะ ผมรู้ว่า เมห์รี แกล้งทำเป็นลูกสาวผม จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนรับใช้ของผม"
"จริงหรือ?" พ่อหนุ่มนั่นตอบ
"แล้วเธอยังจะคบกับเขาอีกหรือเปล่า"
"เอ่อ"
ฮุสเซนไม่ลังเลที่จะคืนจดหมายทั้งหมดที่ได้รับคืนคุณพ่อมา
"แต่นี่มันลายมือมาร์จีนี่'
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
"บอกมาซินี่อะไรกัน"
"จดหมายค่ะ" ฉันตอบอย่างงง ๆ
"ทำไมลูกไม่ปริปากบอกอะไรเราเลย"
คุณพ่อนั่งลงบนเตียงแล้วพูดกับฉันว่า
"ลูกก็น่าจะรู้ว่าความรักของทั้งสองคนเป็นไปไม่ได้"
"ทำไมล่ะคะ" ฉันย้อมถาม หน้านิ่วคิ้วขมวด
"ก็เพราะในประเทศนี้ลูกต้องอยู่กับสังคมชั้นเดียวกัน"
"เธอผิดหรือคะที่เกิดมาอย่างที่เธอเป็น" ฉันร้องลั่น" พ่อขาพ่อเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับชนชั้นคะ"
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
แต่เมื่อฉันกลับไปที่ห้องเธอ
เธอกำลังร้องไห้
ถึงเราไม่ได้อยู่ในสังคมระดับชั้นเดียวกัน แต่ท้ายที่สุดเราก็ได้อยู่บนเตียงเดียวกัน
ในที่สุด เมื่อฉันเข้าใจเหตุผลของการปฏิวัติ ฉันจึงได้ตัดสินใจ
"พรุ่งนี้เราจะไปเดินขบวนกัน" ฉันบอกพี่เมห์รี
"เราไม่ได้รับอนุญาตนะ"
"อย่าห่วงไปเลย เราจะไปไหนมาไหนก็ได้"
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
"แปลกนะ เธอไม่ได้ร้องจะมากับเราด้วยนะคะ" คุณแม่บอกคุณพ่อ
แต่เราไปเดินขบวนด้วยแม้อากาศจะหนาวเย็นขนาดใส่เสื้อโค้ท
"นั่นพวกเดินขบวน" ฉันชี้ให้พี่เมห์รีดูที่ฝูงชน
เราร้องตะโกนจากเช้าจรดเย็น
"ดึกแล้วเราต้องกลับบ้านแล้วล่ะ" พี่เมห์รีบอก
"ค่ะ" ฉันบอกเสียงเนือย
แล้วพี่เมห์รีก็ร้องขึ้นว่า
"สาธารณรัฐจงเจริญ"
"ล้มล้างพระเจ้าชาห์" ฉันร้องบ้างอย่าฮีกเหิม
"ต๊าย ตาย พระเจ้าช่วย เธอสองคนทำไมร้ายกาจอย่างนี้" เสียงใครคนหนึ่งที่คุ้นเคยอุทานขึ้น แล้วปราดเข้ามาตบหน้าพี่เมห์รีกับฉันคนละที
เผี๊ยะ !
เผี๊ยะ !
เราไปประท้วงในวันที่ไม่ควรไปเลย
วันศุกร์มหากาฬ(Black Friday) วันที่คนมากมายตายลงแถวละแวกบ้าน
มีข่าวลือสะพัดไปว่าทหารอิสราเอลมีส่วนในการสังหารครั้งนั้น
แต่จริง ๆ แล้วเราต่างหากที่ถูกโจมตี
แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 46 19:07:12
แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 46 19:03:22
แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 46 18:58:33
จากคุณ :
ส.ค.ศ. ๔๙๑๔
- [
13 ส.ค. 46 18:46:12
]