แก้ไขชื่อเรื่องใหม่นะคะ " ใจฉัน......อยู่กับเธอ "
(ขอโทษค่ะ..มือไวไปนิด....ด)
ยายหนูเล็กหรือบราลี นักศึกษาครุทายาทชั้นปีที่สามสาขาวิทยาศ่าสตร์สถาบันราชภัฎแห่งหนึ่ง เธอกำลังจะเดินผ่านตึกคณะมนุษยศาสตร์เพื่อไปเรียนภาควิชาครูที่คณะครุศาสตร์อย่างรีบเร่ง
ขืนชักช้านอกจากจะเข้าเรียนไม่ทันเพื่อน ยังได้นั่งโต๊ะหลังๆได้ยินเสียงอาจารย์ไม่ค่อยชัดแล้วยังจะมองไม่เห็นแผ่นสไลด์อีกต่างหาก เพราะความเร่งรีบทำให้ไม่ได้เหลียวมองรอบข้างว่ามีสายตาอีกคู่คอยจ้องมองเธออยู่ทุกย่างก้าว
พอเดินเข้ามาใกล้ตึกแล้วนั่นละเสียงร้องทักทายไม่มีปี่มีขลุ่ยจากใครอีกคนก็ดังมาจากบนตึก บนตึกที่ว่านั้นคือ บนตึกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ชั้นที่สาม ด้วยเสียงร้องเรียกที่ดังลั่นของเขา ทำให้เธออายนักศึกษาคนอื่นๆที่จ้องมองมาที่เธอแทบเป็นตาเดียว บางคนมองมาแล้วก็อมยิ้มขบขันและเดินจากไป
เธอเขินจัดจนแทบอยากกลายร่างเป็นขอมดำดิน จะได้มุดพื้นดินตรงนั้นหนีไปให้ไกลๆ ก็นั่นมันชั้นสามของตึกนี้ ห้องอื่นๆเขาก็นั่งเรียนกันอยู่ แล้วนายคนนั้นก็ร้องเรียกชื่อเธอออกมาได้ยังไงกัน คิดๆแล้วก็อยากจะบ้าตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ทำไมเธอจะต้องมารู้จักนายคนนี้ด้วยนะ นายเก่ง เก่ง และกล้าดีเดือด สมชื่อเขานะละ
" คุณบราลีแฟนผม คนที่สะพายเป้สีแดงๆคนนั้นนะหยุดอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวนึงนะ ผมจะลงไปหาเดี๋ยวนี้ล่ะ
ไม่รอชักช้าให้เขาเดินลงมาพบ บราลีเดินแกมวิ่งเพื่อไปให้พ้นๆจากบริเวณตึกนี้ทันที คนข้างบนก็ไม่รอช้าไถลตัวลงมากับราวบันไดอย่างทันทีโดยมิได้นึกเกรงกลัวว่าตัวจะผลัดตกลงมาแต่อย่างใด เขากระโดดลงมาทันเธอที่บันใดชั้นที่หนึ่งพอดี๊ พอดี มันก็เนื่องมาจากขายาวๆและความคล่องตัวเป็นเลิศของเขานะล่ะ ไม่อย่างนั้นคงตามเธอไม่ทัน
" ว้าย
.ตาบ้านี่ จะบ้าเหรอ โดดลงมาได้ยังไง ชั้นนี้บันไดมันมีตั้งสิบห้าขั้นนะ อยากตายหรือยังไง
บราลีแผดเสียงร้องโวยวายอย่างตกใจ ท่าทางพิเรนๆนั้นของชายหนุ่ม
" ขนาดโดดลงมาเร็วขนาดนี้ ยังเกือบไม่ทันเธอเลยนะ อีกฝ่ายยังยืนทำท่าทะเล้นอยู่กับราวบันไดของตึก
" อ้อ
เธอไม่ทันฉันแน่ๆ ถ้าเธอยังทำแบบเมื่อสักครู่นี้อีกครั้ง ฉันจะไม่พูดกับเธออีกแล้วด้วย เธอบอกเสียงเข้ม ทำท่าจะผละจากไป
" แน่ละซิ ฉันทำอะไรเคยถูกใจคุณบราลีที่ไหนกัน คงมีนายจุลดิศคนเดียวเท่านั้นละมั้งที่ทำอะไรก็ถูกใจคุณบราลีไปหมดนะ
ชายหนุ่มยืนพิงผนังตึก เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงขายาวสีดำ พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจในตัวหญิงสาวนิดๆ และประโยคหลังนั้นเขาก็เอ่ยออกมาเพียงแพ่วเบาเหมือนพูดลำพึงกับตัวเอง
" ก็มาตะโกนแบบนั้น ใครที่ไหนจะชอบใจล่ะ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันก็เถอะนะ
บราลีพูดต่อว่าเขาเบาๆ เพราะยังนึกเขินอายกับถ้อยคำที่เขาตะโกนออกมาเมื่อสักครู่อยู่นะเอง แต่นั้นกลับยิ่งสร้างความหงุดหงิดใจให้แก่ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้น
" ต้องเป็นนายจุลดิศทำใช่มั้ย มันถึงจะถูกใจเธอไปหมดทุกอย่างนะ ใช่ซินะ ฉันมันไม่เคยอยู่ในสายตาของเธออยู่แล้วนี่
น้ำเสียงคนพูดฟังดูแปร่งๆ แต่เธอหาได้สนใจในน้ำเสียงนั้นไม่ และเธอก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมเขาจะต้องเอาจุลดิศมาเกี่ยวข้องกับการกระทำของเขาด้วย ทั้งที่ทำมาทั้งหมดนี่ไม่มีส่วนไหน ของจุลดิศเกี่ยวข้องเลยสักนิด
นี่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยใช่มั้ย งั้นก็
. ไม่ต้องพูดไปให้มากความหรอกเสียเวลาเปล่าตราบใดที่เธอไม่เคยเข้าใจอะไรเลยเหมือนกันนะกล้า
เธอพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะสาวเท้าเดินออกจากตึกคณะมนุษยศาสตร์มุ่งหน้าสู่ตึกคณะครุศาสตร์ที่เธอจะต้องเข้าเรียนอีกวิชาหนึ่งในภาคบ่ายของวันนี้ เก่งกล้ามองตามร่างโปร่งบางที่เดินออกไปจากตึกเขาอย่างว้าวุ่นใจ พูดกับตัวเองว่า
ใช่ว่าเขาไม่เคยเข้าใจอะไรอย่างที่เธอว่าซะหน่อย คนที่ไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของเขานะคือเธอต่างหากล่ะ
ขนาดจุลดิศเรียนไกลถึงอังกฤษ เธอก็ยังMailไปหาทุกวัน คุยโทรศัพท์กันเกือบทุกวันครั้งละนานๆ ทั้งที่เขาและเธอเรียนใกล้กันเพียงปลายก้อย ก็ดูราวกับว่าห่างไกลกันเป็นร้อยโยชน์ พันโยชน์
นายนั้นมันมีอะไรดีจึงได้ยึดครองใจเธอได้เหนียวแน่น เสียจนไม่เหลือเผื่อแผ่มาถึงเขาเลยสักน้อยนิด
ดูเอาเถอะเพียงแค่จะหยุดคุยกันดีๆให้สาสมกับที่ไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายเดือน เพราะต่างคนต่างออกไปเก็บประสบการณ์วิชาชีพครูบ้างแล้วนะเอง พอกลับมาเจอกันแทนที่จะคุยกันให้สาสมกับความคิดถึง กลับต้องมาทะเลาะกันซะนี่ปะไร ทำไมเธอไม่เข้าใจเขาอย่างที่เข้าใจจุลดิศบ้างนะ
จุลจ๋า
วันนี้เล็กมีเรื่องทะเลาะกับนายเก่งกล้ามาอีกแล้วนะ... ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจะต้องคอยทะเลาะกับเขาแบบนี้ แต่ว่าก็ว่าเถอะนะจ๊ะ นายนั้นชอบทำพิเรนๆให้เล็กได้อายนักศึกษาคนอื่นๆอยู่เรื่อยๆ ชอบทำอะไรไม่นึกถึงใจคนอื่นเลย
อย่างวันนี้ก็ตะโกนมาจากตึกคณะมนุษย์ ว่า คุณบราลีแฟนผม
. .ให้รออยู่ตรงนั้นเดี๋ยว คนบ้าตะโกนอย่างนั้นออกมาได้ยังไงกัน พอเล็กต่อว่าเค้าไป
ตาบ้านั้นก็ทำท่าหงุดหงิดไม่พอใจ มาว่า เขาไม่เคยทำอะไรถูกใจเล็กสักครั้ง มีแต่จุลเท่านั้นที่ทำอะไรก็ถูกใจเล็กไปหมด ก็ไม่เห็นแปลกนี่ ก็เล็กสนิทกับจุลก่อนนายกล้าเสียอีกนะ และก็ถ้าเขาไม่ใช่เพื่อนจุลเล็กจะไม่สนิทด้วยหรอกนะ พูดก็ไม่อยากจะพูดด้วยซ้ำ
คนอะไรนิสัยไม่ดี ชอบพาลพาโลโทษคนอื่น ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกคนอื่นๆเลย พูดไปได้ยังไงว่าเล็กเป็นแฟนเค้า เล็กเป็นผู้หญิงนะ พ่อแม่ส่งเสียให้มาเรียนหนังสือไม่ได้มาหาอย่างว่า และ คนอื่นๆเค้าจะคิดว่ายังไงจริงมั้ย วันนี้เท่านี้ก่อนนะ แล้วเล็กจะMailมาคุยด้วยใหม่
*******ปล. ถ้าว่างก็สั่งสอนนายเพื่อนปากมอมของจุลหน่อยก็ดีนะ
คิดถึงเสมอ บราลี
พอส่งMailเสร็จเธอก็ Disconnect และปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเดินไปหยิบหนังสือแปลที่โต๊ะมานอนอ่านบนเตียง
ยังไม่ทันจะเปิดอ่านด้วยซ้ำ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ส่งเสียงดังบอกว่ามี Message เข้ามา เธอรีบเปิดอ่านทันทีเช่นกัน เป็นMessage จากนายเก่งกล้า
ตาบ้านั้นส่งอะไรมาถึงเธออีกนะ เมื่อกลางวันนั้นก็ทะเลาะกันไปทีแล้ว คราวจะนอนยังส่ง Messageมากวนใจอะไรอีก
อยากรู้ไหมตอนนี้ผมกำลังคิดถึงใคร เธอหรือเปล่าคนดี ฝันดีครับ ฝันถึงผมด้วยนะ
.เก่งกล้า
เธออ่านข้อความจบแล้วก็รีบกดลบข้อความนั้นทันทีเช่นกัน แต่ยังไม่ทันจะวางโทรศัพท์ลงกับเตียงนอนเลย เสียง Message ก็ดังขึ้นมาอีกรอบทำให้เธอต้องเปิดอ่านอีก 1 ข้อความอย่างช่วยไม่ได้
" อ้อ
.ลืมบอกไปว่า ถ้าใครลบข้อความเมื่อสักครู่ แสดงคุณก็รู้สึกคิดถึงผมเหมือนกันใช่มั้ย 5555
. เก่งกล้า
อ่านข้อความจบเธอก็ร้องยี้ ก่อนกดลบข้อความนั้นตามข้อความเมื่อสักครู่ไปอีกหนึ่งข้อความ แล้วเปลี่ยนใจล้มตัวลงนอนแทนการอ่านหนังสืออย่างที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรกแล้วแท้ๆๆ....
(มีต่อค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 46 02:18:31
แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 46 00:50:37
จากคุณ :
พยาบาลเกเร
- [
15 ส.ค. 46 00:45:13
]