เกริ่นไว้ในตอนที่แล้ว ว่าจะลงเรื่องเกี่ยวกับคดีในตอนใหม่นี้ แต่เห็นว่าช่วงนี้มีพยาบาลยกขบวนมาตั้งร้านอยู่ริมถนนนี้ และกำลังขายดีเสียด้วย บวกกับท่านผู้มีพระคุณ เอ้ย! มีท่านผู้อ่านสนใจในเรื่องของโรคติดต่อในคุก ก็เลยตัดภาพมาที่แดนพยาบาลกันก่อน ให้เข้ากับบรรยากาศ
เริ่มเลยนะครับ แดนพยาบาลที่นี่นั้น สร้างเป็นอาคารแยกต่างหากออกจากแดนอื่น มีรั้วโปร่งกั้นรอบ ในอาคารนั้น ครึ่งหนึ่งเป็นห้องกรงเหมือนห้องในเรือนนอน มีที่ว่างตรงกลางและอีกด้านเป็นห้องทำงานของหมอ
ห้องกรงนั้นไว้เป็นที่นอนของผู้ต้องขังป่วย ที่เดินเหิร(หรือจะเดินเหิน หว่า) ไปขึ้นเรือนนอนได้ลำบาก ส่วนผู้ต้องขังป่วนอื่นที่ยังมีแรงเดินได้ดี ก็จะไปนอนในห้องคนป่วยที่กั้นต่างหากในเรือนนอน
มีหมอ 1 คน ดูแลผู้ต้องขังป่วยทั้งหมด แต่ความจริงหมอแกไม่ได้จบแพทย์หรอกนะครับ แต่เรียกกันว่าหมอ เป็นเด็กหนุ่มอายุน่าจะราวๆ 25 ปีเอง ที่กรมราชทัณฑ์ส่งไปเรียนพยาบาล แล้วกลับมาทำงานใช้ทุน แต่มีพยาบาลเทคนิค(เอ้ย ไม่สิตอนนี้แกเป็นพยาบาลวิชาชีพแล้ว) ก็ดีถมไปแล้ว เพราะมีแพทย์ที่ไหนเขาอยากมาอยู่คุกกันเล่า จริงไหมละครับ อีกอย่างก็ไม่รู้จะเอาแพทย์มาทำไม เพราะในคุกนั้นฉีดยาเก่งๆ กันเยอะแยะ < พูดเล่นครับ เยอะแยะที่ว่าน่ะ เป็นแต่ฉีดผง >
มารู้จักหมอแกสักนิด ฉายาแกคือ หมอพารา เพราะจ่ายแต่พาราเซตามอน ทั้งปี แต่แกเรียกตัวเองว่า หมอ100ศพ เมื่อราวสองปีที่แล้วแกยังฉลองนักโทษตายครบ 100 ศพกันเลย (แต่ดูท่าแกจะฉลองด้วยความเศร้าเสียมากกว่า เพราะเมื่อ สองปีที่แล้วนั้นอายุงานของแกยังไม่ 5 ปีเลย ก็คิดดูเองนะครับ ในนี้อยู่กัน 700 คนโดยเฉลี่ย และตายกันปีละ 20 คน ก็ไม่รู้เป็นไงนะครับ ในนี้เมื่อมีคนหนึ่งตาย จะต้องมีอีกคนตายตามเป็น 2 คน 4 คน ประเภทตายเดี่ยวนั้นไม่มี และเมื่อมีการตายแล้ว มีช่วงเว้นวรรค สักนิด แล้วคู่ใหม่ก็จะตายตามกันมาอีก โดยที่ช่วงเว้นวรรคนั้น ไม่เกิน 3 เดือน < 5 ปีกว่าที่ผมอยู่นั้นมีเว้นวรรคเกิน 3 เดือนแค่ครั้งเดียว และตอนนั้นหมอแกก็ฉลอง >
)
แกมีลูกมือเป็นผู้ต้องขังอยู่ 4 5 คน ไว้ช่วยจ่ายยากับเย็บแผล (ก็แผลหกล้ม เพราะติดหนี้แล้วไม่จ่ายนั่นไง แค่คิ้วแตกคางแตกนั้น ลูกน้องแกจัดการได้ ไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล )
หน้าที่ของหมอแกคือดูแลผู้ที่ป่วยเล็กๆน้อยๆ ในนี้ กับพาคนป่วยออกไปรับการตรวจรักษาจากแพทย์ที่โรงพยาบาลนอก (ถึงบอกว่า ในนี้ไม่ต้องมีแพทย์ก็ไม่เป็นไรไง ให้แพทย์เขาอยู่โรงพยาบาล น่าจะมีประโยชน์กว่า) แต่แกก็ไม่ค่อยจะพาคนป่วยออกไปโรงพยาบาลบ่อยหรอกนะครับ เพราะออกไปแล้ว หากทางโรงพยาบาลรับตัวไว้ ก็ต้องจัดเจ้าหน้าที่ออกไปเฝ้าคนป่วยที่โรงพยาบาลอีก และอีกอย่างที่แกจะเฝ้าแดนพยาบาลของแกตลอด เพราะแกเผลอไม่ได้ เผลอแล้ว D5 ของแกหาย กว่าจะจับได้ก็ถูกจำหน่ายเป็นยาเมาเกือบหมดกระป๋องแล้ว อย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ เอาเป็นว่ากุญแจผีนั้นทำได้ไม่ยากเย็นเลยสำหรับโจรในนี้ (กุญแจเรือนนอนก็ทำกันได้ครับ แต่ที่ไม่มีการไขนั้น เพราะไขจากในห้องไม่ได้ ประตูห้องกับฝาใกล้ประตูนั้นจะเป็นเหล็กทึบ ไม่สามารถยื่นมือมาถึงแม่กุญแจได้)
โรคร้ายแรง ที่เป็นๆกันในคุกนั้น ก็คือโรคติดเชื้อในกระแสเลือด กับ TB (อันนี้ภาษาหมอแกนะครับ ภาษาชาวบ้านก็คือเอดส์กับวัณโรค) และอีกโรคที่เป็นกันวันละ 40-50 คน ก็คือเป็นไข้ หมอพาราแกมีคนไข้มารับยาวันละ 50 คน และยาที่แกจ่ายไปก็คือพาราเซตามอล ก็เลยได้ฉายาหมอพารา
ไอ้ที่มารับยานั้น ก็ไม่แน่หรอกครับว่าไข้จริงหรือเปล่าเพราะหมอก็ไม่ได้วัดปรอทกันครบทุกคน แต่ผมเชื่อว่าถ้าคุณติดคุกมา คุณก็ต้องเป็นไข้ เพราะจะได้อู้งาน การมาเข้าคิวรับยานั้นอู้งานได้เป็นครึ่งวันนะครับ < พูดถึง " คุณติดคุกมา
ทำให้นึกได้ว่าเดิมนั้นผมสมมติว่าคุณติดคุกมา แต่บัดนี้ลืมไปแล้ว ว่าผมปล่อย ข.ช.คนใหม่ไว้ตรงไหน >
มาที่แดนพยาบาลกันต่อ โรคติดต่อในคุกนั้น แม้ว่าจะอยู่กันแออัด แต่ก็ไม่ระบาดหรอกครับ หากลำดับเรื่องในตอนก่อนๆ จะเห็นว่าในคุกนี้อยู่กันอย่างสะอาดสะอ้าน คนป่วยวัณโรคก็มีห้องแยกขังต่างหาก ส่วนคนป่วยโรคผิวหนัง หรือตาแดง ก็แยกไปอยู่ห้องต่างหากก่อน รักษาหายแล้ว ค่อยไปขังรวมกับเพื่อน
คนป่วยอีกประเภทหนึ่งที่สำคัญคือพวก ปจ. (ย่อมาจากป่วยทางจิตหรือไงนี่ละ) ที่นี่เขาจัดเสื้อให้ใส่ โดยกลุ่มนี้จะใส่เสื้อที่สกรีนหลังว่า ปจ. เพื่อให้รู้กันว่าเห็นปุ๊ป ก็ระวังไว้ แต่อย่าไปยุ่งมากนัก กลุ่มนี้สามารถเดินเข้าออกได้ทุกแดน และมีผู้ดูแลที่ตั้งจากผู้ต้องขังด้วยกันคอยพาไปอาบน้ำ กินข้าว ไม่ใช่ง่ายนะครับดูแลคนบ้านี่ 5 ปีมานี่ ผมเห็นแค่ 3 คนเท่านั้น ที่คุมคนบ้าอยู่หมัด
คนบ้าที่นี่แปลกนะครับ มีที่บ้าแบบสกปรก แค่คนเดียว นอกนั้นสุขภาพอนามัยดีกันทุกคน อาจดูไม่เหมือนคนบ้าจนบางคนอาจมองว่าแกล้งบ้า เพราะแต่ละคนนั้นนับเลขเก่ง บางคนพูดจาดูมีหลักการ บางคนร้องเพลงทั้งวัน และมีบางคนชอบตีหัวชาวบ้านเล่น หมอแกก็ให้ยากินทุกวันแต่ไม่หาย แต่เชื่อไหมครับ เวลาเชิญนักจิตวิทยามาคุยด้วยแล้วอาการดีขึ้นกันทุกคน ยิ่งรู้ว่าวันไหนมานี่ กลุ่ม ปจ. ก็จะอาบน้ำแต่งตัวไปคอยแต่เช้า เห็นว่าเพราะหมอสวย เลยทำให้หายบ้าได้
คนป่วย ถ้าอาการหนัก ก็จะพาไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล นอกเรือนจำ ซึ่งผู้ต้องขังเห็นว่าดีกว่ารักษาอยู่ในคุก จึงมักเห็นมารยาร้อยแปด เพื่อที่จะได้ออกไปโรงพยาบาล นักโทษบางคนนั้นเจ็บแค่เล็กน้อยแต่อาการที่แสดงออกมาทางร่างกายนั้นรุนแรง อย่างกับว่าหากไม่ได้ออกไปโรงพยาบาลนอกแล้วตัวเองต้องตายแน่ หรือบางคนเป็นผู้หญิง ไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตนแต่ขอออกไปตรวจครรภ์อะไรอย่างนี้ โอ้ย . . .สารพัดวิธีการ แต่หากป่วยแล้วรักษาในคุกไม่ได้ แต่จะไปโรงพยาบาลนี่ผมไม่รู้สึกอะไรครับ อย่างน้อยเขาก็ได้มีลูกเมียมาเยี่ยมใกล้ชิด แต่บางคนนะสิ ตั้งใจจะทำชั่วอยู่แล้ว เช่นว่าพวกคดียาเสพติด นัดแนะกับญาติมาเสพยาอะไรอย่างนี้ เพราะโรงพยาบาลเขาคงไม่จับตา 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ขนาดผู้คุมที่ผลัดเวรมาดูแล ยังเผลอปล่อยให้ผู้ต้องขังหนีโรงพยาบาลเลย
แต่คนป่วยจริงมักไม่หนีครับ เพราะติดคุกก็รักษาฟรี ที่มีหนีก็มักเป็นผู้ต้องขังหญิง เป็นความผิดของผู้คุมนั่นแหละ รู้อยู่ว่าผู้หญิงเขาห้ามใส่กุญแจ แล้วยังปล่อยให้คลาดสายตาอีก เป็นโจรนะครับถึงได้ถูกจับกุม และผมเชื่อว่าโจรที่แก้ไขได้นะ มันมีไม่ถึงร้อยละ 20 ที่เหลือนั้น:-) เชื่อเถอะว่าที่ถูกจับมานั้น ส่วนใหญ่ทำชั่วจนเพื่อนบ้านระอา ถึงได้แจ้งจับ ลำพังให้ตำรวจตามหาเองนั้นไม่เจอหรอก
บางคนที่คิดว่าตัวเองใหญ่ ก็ให้ญาติล็อบบี้เจ้าหน้าที่ หรือบางคนถึงกับเข้าหา ผบ. หรือกระทั่งไปหานักการเมืองเช่นว่า ส.ส. มาจัดการให้ เพียงเพื่อให้ได้ออกไปโรงพยาบาลนอก ( พวก ส.ส.นี่ละ ที่ผมเกลียด ไม่เคยมาสัมผัส พอมาทีทำเอาคุกป่วนไปทุกที ขี้คุกที่ฝากฝังมาทางสาย ส.ส.นี่ ส่วนใหญ่แล้วเลวครับ ไม่รู้จักเจียมตัว เที่ยวท้ารบไปทั่ว แต่ช่างเถอะ เพราะพวกนี้อยู่กันไม่นาน ตำรวจเองก็คงไม่ชอบสักเท่าไร อุตส่าห์จับมาเพราะทำผิดจริง แต่อย่าทำผิดครั้งใหม่ก็แล้วกัน โดนข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานเมื่อไร ก็เปรตหัวเน่าดีๆ นี่เอง
# คุยเรื่องหมอพารา มาจบที่ ส.ส. ได้ไงไม่รู้ จบตอนดีกว่านะครับ สั้นๆแค่นี้แหละ -สวัสดี
-----------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ผ่านมา : 6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2406776/W2406776.html
แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 46 08:11:14
จากคุณ :
Old Man Jailer
- [
16 ส.ค. 46 08:06:11
]